“เธอกับฉันมีเรื่องต้องคุยกัน”
ไวเท่าความคิดเอกชยินทร์ก็คว้าข้อมืออิงจันทร์ให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของคุณหญิงญานีที่สะกิดสามีให้ช่วยห้ามปราม
“ตาเอกอย่าทำน้องนะลูก”
“ถ้าแกทำหนูอิงเป็นรอยแม้แต่เล็บข่วน ฉันคงจะให้หุ้นที่แกขอไว้ไม่ได้”
สุ้มเสียงทุ้มต่ำดูแหบพร่าตามอายุที่มากขึ้นเรียกรั้งไว้ ทำให้เอกชยินทร์นิ่งชะงัก ก่อนจะขยับสายตามองผู้เป็นพ่อด้วยความไม่เข้าใจ
หุ้นของเคย์ยูกรุ๊ปที่จะทำให้เอกชยินทร์ได้เป็นเจ้าของบริษัทอยู่แค่เอื้อม หลังจากนี้มันก็อยู่ที่ว่าเขาคู่ควรแค่ไหนกับการรับหน้าที่สานต่องานบริหาร
แต่แบบนี้มันไม่ถูกต้อง..
หากเขาเป็นลูกในไส้แต่ทำไมถึงเห็นคนอื่นดีกว่ามาโดยตลอด ถึงจะรู้ตัวว่าที่ผ่านมาทำผลงานได้ไม่ดีเท่าพี่ชายอย่างนพเก้า แต่ก็ควรให้เขาได้เลือกว่าที่เจ้าสาวเองไม่ใช่หรอกเหรอ
“แกรู้ใช่มั้ยว่าฉันหมายถึงอะไร” ท่านไตรภูมิพูดพลางเปรยสายตามองลูกชายหัวรั้นของตัวเอง
เอกชยินทร์หัวเราะหึในลำคอ พลางเลิกคิ้วเชิงว่าเขาไม่บุ่มบ่ามทำเรื่องโง่เง่า ให้ตัวเองต้องหลุดออกจากเก้าอี้ประธานบริษัทแน่นอน
แค่อยากจะสั่งสอนอิงจันทร์ให้รู้ก็เท่านั้น ว่าการเล่นแง่กับเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ ผมจะพยายามเอ็นดูเธอให้ได้สักเสี้ยวหนึ่งของพ่อแน่นอน” พูดจบประโยคมือหนาก็คว้ากระเป๋าอิงจันทร์โยนให้เธอถือไว้
คนที่รับกระเป๋ามาถูกกระชากแขนให้เดินตาม ส่งผลให้อิงจันทร์ถูกฉุดกระชากจนข้อมือเกิดรอยแดง
เรียวขาสวยที่เดินบนส้นสูงก้าวกันพัลวันเมื่อส่วนสูงไม่เอื้ออำนวย เธอเลยต้องก้าวขาสั้นๆ ตามให้ทันเอกชยินทร์ที่แทบไม่หันหลังกลับมามอง
กระทั่งเอกชยินทร์ลากเธอมายังลานจอดรถด้านล่าง เขาก็ผลักร่างหญิงสาวให้พิงกับรถหรู ย่างก้าวฝ่าเท้าเข้าใกล้ท่ามกลางลมหายใจเพลิงที่ร้อนผ่าว
“เสียมารยาทเกินไปมั้ยคะ ฉันยังไม่ได้ลาคุณลุงกับคุณป้าเลย” อิงจันทร์พูดพลางสบสายตาคนตรงหน้าแน่น
“อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านฉันขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงทำดีออกนอกหน้าขนาดนั้น” เอกชยินทร์กล่าวเหน็บแนม
“มันเป็นเรื่องของมารยาทต่างหากค่ะ”
“แต่อยู่กับฉันไม่ต้องเล่นละครก็ได้ พูดสิ่งที่เธอต้องการมาดีกว่า”
“ทำไมคะ”
“ต้องการอะไรกันแน่ถึงกล้าที่จะบอกว่าเราจะแต่งงานกัน.. อย่าบอกนะว่าเงิน”
สิ้นประโยคนั้นอิงจันทร์ก็ตวัดสายตามองเอกชยินทร์ เขาเหยียดยิ้มบนมุมปากที่เห็นแววตาหญิงสาวสั่นไหว ไร้ซึ่งข้อแก้ตัวจากปากอีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง
ร่างสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร สาวเท้าเข้าใกล้หญิงสาวที่สูงระดับอก จนกระทั่ง ระยะห่างระหว่างกันไม่ถึงคืบ
ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ..
เจ้าของใบหน้าคมคายโน้มตัวกระซิบข้างใบหูอิงจันทร์ น้ำเสียงและถ้อยคำเต็มไปด้วยการดูถูกไม่ถนอมน้ำใจคนฟังแม้แต่น้อย
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าควินซีกรุ๊ปกำลังจะเจ๊ง แล้วที่เธอดิ้นรนอยากจะแต่งงานก็เพราะเงิน”
“ถ้ารู้ขนาดนั้นก็อย่าทำให้เรื่องมันยากกว่านี้เลยดีกว่า แค่แต่งงานกับฉันก็พอ”
“ผู้หญิงอย่างเธอนี่มันยังไงกัน เหอะ เอาตัวมาแลกเงินเหรอ”
อิงจันทร์กำมือแน่น เนื้อตัวสั่นเทาเพราะลมหายใจร้อนผ่าวที่สัมผัสต้นคอ ก่อนจะผลักอกเขาให้ออกห่างแล้วเบี่ยงตัวหนี
“ผู้หญิงที่ทั้งเก่งแล้วก็มากความสามารถ กำลังขายตัวเองเข้าบ้านตระกูลใหญ่งั้นเหรอ ฉันเข้าใจผิดตรงไหนมั้ยอิงจันทร์” เสียงทุ้มต่ำกล่าวอย่างดูแคลน แววตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธจัด
“ถ้าพี่ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดดีกว่า”
“ก็สิ่งที่เธอทำไม่เรียกว่าเอาตัวมาเร่ขายเหรอไง..”
ฟางเส้นสุดท้ายในใจอิงจันทร์ขาดผึ่ง เธอยกมือขึ้นฟาดใบหน้าที่ดูล้ำค่านั่นเต็มแรง หากทว่าเอกชยินทร์กลับไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
เขาใช้ปลายลิ้นดุนดันมุมปากจนได้กลิ่นคาวเลือด ใบหน้าชาวาบปรากฏรอยแดงจางๆ ที่แก้มซ้าย
“อยากเข้าใจแบบไหนก็ตามใจพี่แล้วกัน แต่เตรียมใจไว้ให้ดีนะคะ..”
“.....”
“เพราะพี่กำลังจะได้ผู้หญิงที่ขายตัวเองเข้าตระกูลใหญ่เพราะเงิน.. เป็นภรรยา”
เมื่อเขาเป็นไฟเธอก็พร้อมจะเป็นน้ำมันให้โดยไม่ขัด..
หากอยากปะทะกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน อิงจันทร์ก็จะไม่หลบหน้าเขาอีกต่อไป ในเมื่อเลือกแล้วเธอก็พร้อมจะก้มหน้ายอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
“เธอจะแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักได้เหรออิงจันทร์”
“ฉันไม่ได้แต่งงานเพราะหวังให้พี่มารักตั้งแต่แรกอยู่แล้ว..”
อิงจันทร์เชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี ท่ามกลางเสียงหัวใจที่สั่นระรัวอยู่ในอก เมื่อสายตาคมปราบสบมองมาคล้ายว่ารังเกียจกันเต็มประดา
“ยังชอบฉันอยู่เหรอ..”
เอกชยินทร์แสยะยิ้มมุมปากชวนให้หมันไส้ แต่ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าเบื้องลึกในใจของอิงจันทร์ยังคงเป็นเขาตลอดมา
“ที่เห็นว่าทำเป็นอวดดีก็แค่ร้อนเงินสินะ”
“มีใครบ้างคะที่ไม่ชอบเงิน ผู้หญิงของพี่เองก็ชอบเงินมากเหมือนกัน”
“อิงจันทร์ระวังปาก.. เธอรับผิดชอบไหวเหรอสิ่งที่พูดออกมา”
มือหนาบีบต้นแขนคนตรงหน้าแน่น เพียงเพราะเธอกล้าสาดคำพูดเสียหายใส่แฟนสาวที่คบมาหลายปี ทว่าอิงจันทร์กลับแยกยิ้มอย่างมั่นใจว่าจะไม่มีการรับผิดชอบคำพูดเกิดขึ้น
เพราะสิ่งที่พูดมันคือความจริง..
“การได้เห็นพี่ทำตัวงี่เง่าเพราะความรักก็สนุกดีเหมือนกัน เอาเป็นว่าฉันจะไม่พูดในสิ่งที่ฉันรู้มา แล้วรอให้พี่ได้เห็นกับตาตัวเองดีกว่า” อิงจันทร์คลี่รอยยิ้มทว่านัยน์ตากลับแข็งกร้าวอย่างถือดี
“หมายความว่ายังไง” คนตัวสูงมุ่นคิ้วฉุกคิดในสิ่งที่เธอพูด
“ปล่อยฉันได้แล้ว”
“ฉันถามว่าเธอหมายความว่ายังไงอิง”
“นี่ฉันพูดยังไม่ชัดพออีกเหรอ”
เจ้าของใบหน้าสวยสง่าเหยียดสายตามองชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะสะบัดมือเขาให้หลุดออกจากพันธนาการแล้วเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เขาแทน
“ผู้หญิงคนนั้น.. กำลังนอกใจพี่”