แผนรักสลักแค้น

รับน้อง

1 สัปดาห์ ผ่านไป

ฟินซ์เริ่มที่จะปรับตัวได้ แต่ยังเลือกที่จะไม่สุงสิงกับใคร ไม่ทำตัวเองให้เป็นจุดเด่น เขาอยากที่จะทำงานเองเงียบๆไร้ผู้คนสนใจ เพื่อให้ไม่น่าสงสัยแต่นอกเหนือจากลูกสาวท่านประทานที่มาทำหน้าที่ออกแบบ ก็มีอีกอย่างที่เขาสงสัย

นั่นก็คือ ลุงของเขาเป็นผู้บริหาร ทั้งที่ตำแหน่งรองประธานก็ยังว่าง ทำไมถึงยังว่าง? คำถามนี้แล่นเข้ามาในหัว ที่นี่มีอะไรให้น่าสงสัยเยอะแยะเต็มไปหมด

"อ้าวคุณฟินซ์ ยืนเหม่ออะไรอยู่คะ หรือคุณฟินซ์ชงกาแฟไม่เป็น มาค่ะเดี๋ยวหยีชงให้"ยาหยีที่เดินเข้ามาในห้องแพนทรีรูม เห็นฟินซ์ยืนจ้องแก้วที่กำลังถือก็เอ่ยถามขึ้นก่อนจะแย่งแก้วนั่นมาถือไว้

"..."ยังไม่ทันที่ฟินซ์จะได้พูดอะไร เธอก็จัดการขงใส่จนเสร็จสรรพ

ปึ้ง!

"Have a good dayนะคะ"ยาหยีวางแก้วกาแฟที่ชงเสร็จเเล้วลงตรงหน้าฟินซ์ จากนั้นก็ส่งยิ้มให้เขาก่อนที่จะเดินออกไป นี่กะจะทำเองโดยพละการทุกอย่างแบบนี้เลยหรือไง ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ

"ต้องโตมาแบบไหนกัน ถึงได้พูดคุยกับคนอื่นไปทั่วแบบนี้ และรอยยิ้มโง่ๆนั่นอีก!"ว่าแล้วก็คว้าแก้วกาแฟขึ้นมายกซดอย่างลืมตัว ลิ้นสัมผัสถึงความกลมกล่อมแบบที่เขาชอบรสชาติหวานน้อยๆกำลังดีแบบนี้ เธอทำได้ยังไงเนี้ยขนาดเขาชวเองยัวไม่อร่อยเท่านี้เลยแถมแต่ละรอบก็ไม่เหมือนเดิมเลยด้วยซ้ำ เขารีบหันไปมองร่างบางที่เดินลับหายไปอย่างงงงวย

"คุณฟินซ์ เดี๋ยวมาช่วยผมดูเครื่องยนต์ที่ห้องปฏิบัติการหน่อยนะครับ"นทีหัวหน้าแผนกเอ่ยบอกเขาจากนั้นก็เดินนำไปที่ห้องปฏิบัติการ สำหรับการประกอบเครื่องยนต์ต่างๆและอะไหล่ต่างๆก่อนจะทำส่งลูกค้า

"ครับ"ฟินซ์ลุกขึ้นแล้วเดินตามเจ้านายเข้าไปในห้องปฏิบัติการทันที

"คุณเช็คช่วงล่างเป็นไหม"นทีถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ

"พอได้ครับหัวหน้า"

"งั้นคุณลองหาข้อบกพร่องของรถคันนี้ให้ผมหน่อยได้ไหม"แน่นอนว่าเขาต้องดูความสามารถของฟินซ์ และนี่คือการลองเชิงทั้งที่เขาก็รู้ปัญหาที่มันเกิดขึ้นอยู่แล้ว

ฟินซ์เปิดประตูพร้อมกับนั่งลงที่เบาะคนขับ พร้อมกับสตาร์ทเครื่องยนต์ ก่อนที่จะขับเคลื่อนตัวออกไป แน่นอนห้องปฏิบัติการห้องนี้เป็นห้องที่เป็นลานขนาดใหญ่สามารถใช้ขับและทดลองรถได้ และไม่ช้าฟินซ์ก็ขับมาจอดที่เดิมพร้อมกับบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์คันนี้ได้อย่างฉะฉาน

"เวลาขับ พวงมาลัยมีเสียงแปลกๆ นั่นหมายความว่าจานเบรกมีปัญหา ไม่เรียบ ต้องเปลี่ยนจานเบรก เวลาแตะเบรกมีเสียง ผ้าเบรกมีระดับที่ต่ำมากควรเปลี่ยนผ้าเบรก จุดศูนย์ถ่วงรถคันนี้ไม่ดี เพราะรถส่ายไปมาแถมท้ายปัด ต้องตั้งศูนย์ถ่วงใหม่ หรือไม่ก็เสริมเหล็กกันโคลงที่มีคุณภาพสูงเพื่อรักษาสมดุลและกันการแหกโค้งขณะที่ขับเร็ว อ้อผมแถมให้อีกอย่างผมว่าถ้าจะให้ดีควรเลิกใช้ระบบ2จังหวะได้แล้วนะครับ มันล้าหลังเพราะบริษัทอื่นๆที่เขาก้าวนำเราเขาหันมาใช้ระบบแบบ4จังหวะกันหมดแล้ว"จากนั้นฟินซ์ก็โค้งตัวให้หัวหน้าและเดินออกไป ทั้งหมดที่พูดมาบางอย่างเจ้านายของเขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ เขากำลังอ้าปากค้างกับผลวิจัยรถของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างประหลาดใจที่ฉะฉานสรุปออกมาได้แม่นยำในระยะเวลาแค่ไม่กี่นาที ที่เขาบอกว่าพอได้คงไม่ใช่แล้วมั้ง ระดับนี้นี่มันขั้นเทพชัดๆ ไอ้เด็กนี่ต้องไม่ธรรมดา นทีคิด

"คิดจะทดสอบอะไรอีกคุณนที หึ!"ฟินซ์หัวเราะเบาๆในลำคอ

ผ่านไปไม่นานนทีก็เดินเข้ามาพร้อมเอกสารปึกหนึ่ง จากนั้นเขาก็ยื่นให้ฟินซ์

"พรุ่งนี้ตอนเที่ยง ลูกค้าจะเข้ามารับรถ รบกวนเช็ครถให้ก่อนที่จะส่งมอบลูกค้าให้ด้วยนะครับ หากมีข้อบกพร่องใด ให้รายงานผมก่อนบ่าย3วันนี้ ผมจะรีบนำทีมแก้ไขนั้นทันที อ้อ อย่าลืมเขียนรายงานการตรวจเช็คสภาพรถให้ผมอย่างละเอียดด้วยนะครับ" กล่าวจบเขาก็เดินไปนั่งประจำที่ ดูสิว่าถ้าเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นจริงๆในเวลากระชั้นชิดเขาจะแก้ไขปัญหาอย่างไรให้ทันส่งมอบลูกค้า เขาไม่ได้แกล้ง เขาแค่ทดสอบพนักงานใหม่ที่โปรไฟล์ดีเกินกว่าที่จะมาเป็นแค่รองหัวหน้าแผนก ถือซะว่าเป็นการรับน้องจากเขาก็แล้วกันนะฟินซ์ ไรเดอร์

"นี่แกล้งกันหรือไงเนี้ย!"ฟินซ์อุทานออกมาเมื่อได้ตรวจเช็คเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างที่ค่อนข้างที่จะสาหัด ต่อด้วยระบบไฟที่ไม่ได้ยากอะไร ช่วงล่างหากต้องเปลี่ยนอะไหล่มันค่อนข้างที่จะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ไม่เป็นไรถึงอย่างนั้น ฟินซ์ก็เริ่มเขียนรายงานปัญหาของรถยนต์คันนี้เพื่อไปรายงานให้หัวหน้าได้ทันอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่นานมากนักเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับเล่มรายงานก่อนที่จะยื่นส่งให้หัวหน้าเขา

"อืม...รถใหม่ทำไมถึงมีปัญหายิบย่อยกับช่วงล่างเยอะแบบนี้นะ"เขาแกล้งเอ่ยลอยๆ ก่อนที่จะปรายตามองร่างสูงที่ยืนหน้านิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง "เดี๋ยวผมประสานช่าวก่อนนะ"ฟินซ์พยักหน้าตอบรับก่อนที่จะเดินไปยังโต๊ะทำงานของตนที่อยู่ไม่ไกลนัก แต่สักพักหัวหน้าก็เรียกตัวเขาอีกครั้ง

"คุณฟินซ์!"

"ครับ?"

"เห้อ...ผมไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้หรอกนะ แต่ทีมช่างติดงานต้องออกไปแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าด้านนอกพอดีเลย คุณพอจะซ่อมเองได้ไหม"เมื่อได้ยินดังนั้นฟินซ์ก็ถึงกับขมวดคิ้วแน่น นี่เล่นตลกกับเขาหรอ เขาไม่ได้มีหน้าที่มาซ่อมเสียหน่อย แล้วนี่มาโยนงานให้กันได้อย่างไร แต่เอาเถอะ ถ้าคิดจะแกล้งกันก็ต้องบอกเอาไว้เลยว่านทีนายคิดผิดซะแล้ว เขาโตมากับเครื่องยนต์ทำไมเขาจะทำไม่ได้ แค่หลับตาฟังเสียงก็รู้แล้วว่าตรงไหนพัง