ฟินซ์เดินเข้าไปเอาอะไหล่ที่ต้องการจะเปลี่ยนและเคลื่อนย้ายอุปกรณ์บางอย่างจากนั้นก็จัดการซ่อมด้วยตัวเอง มุดเข้าไปใต้ท้องรถจนตัวเริ่มเลอะเปรอะเปื้อนน้ำมันเครื่องไปหมด เขาจับนั่นทำนี่คล่องแคล่วไปหมด โดยมีนทีคอยจับตามองอยู่ห่างๆ ฟินซ์ นายมนไม่ธรรมดา นทีเอ่ยขึ้นกับตัวเองพร้อมกระตุกดยิ้มอย่างพอใจในผลงานของตัวเองที่ทดสอบ ฟินซ์ลูกน้องคนใหม่ของเขา
"ฝีมือดี แก้ไขสถานการณ์ได้เร็ว"
อีกด้าน...
นี่บริษัทรถอะไร ทำไมอะไหล่แต่ละชิ้นถึงคุณภาพแค่70%เอง ปกติบริษัทนี้ต้องใช้ของดีมีคุณภาพกว่านี้ไม่ใช่หรือไง ฟินซ์เดินสังเกตุอะไหล่ในคลังต่างๆหลังจากที่จัดการซ่อมรถเองร่วม5ชม.จนเสร็จพร้อมเขียนรายงานปัญหาการเปลี่ยนการซ่อมทุกชิ้นอย่างละเอียดไว้บนโต๊ะทำงานให้เจ้านายที่คิดว่าน่าจะเลิกงานกลับบ้านไปแล้ว
"คุณคชา ทำไมตำแหน่งรองประธานก็ว่าง ทำไมคุณถึงไม่คิดจะเลื่อนตำแหน่งล่ะ"หนุ่มสูงวัยกล่าวถามคชาด้วยความสงสัย "ถ้าคุณจะเลื่อนขั้นพวกเราโหวตให้ได้นะแล้วผมจะไปเสนอกับท่านประทาน ผมว่าความสามารถแบบคุณน่าจะได้ทำงานที่สบายขึ้นนะ"
"ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้อยากได้ยศสูงๆหรอก แค่มาช่วยบริษัทน้องให้ไปต่อ ผมต้องการแต่นี้"เสียงสุขุมนุ่มลึกนั่นกล่าวขึ้นกับผู้บริหารอีกคน
ฟินซ์มองไปยังหน้าห้อง ที่เขียนว่า 'คชา กิตติวริชกุล(ผู้บริหาร)'
"แหม คุณคชานี่มักน้อยจังเลยครับ"
เสียงนั้นยังคงดังคุยกันเรื่อยๆ นี่เย็นขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่กลับกันอีก ว่าแล้วเขาก็เดินถอยหลังออกไปจากบริเวรนั้นก่อนที่คนในห้องจะเปิดประตูออกมา บริษัทของพ่อเขามีผู้บริหารหลายคน เพราะเป็นบริษัทที่ใหญ่มากๆ การทำงานการตัดสินใจเลยมีหลายคน ส่วนหน้าที่ประธานบริษัทนั้นคอยอนุมัติเอกสารสำคัญ ไม่ต้องทำงานหนักอะไร หรือพูดง่ายๆก็คือเป็นเจ้าของบริษัทแต่ให้ผู้บริหาร บริหารงานกันนั่นแหละผู้บริหารจึงมีตำแหน่งที่ต่ำกว่าประธานบริษัท
ฟินซ์ขับรถเตรียมกลับคอนโดหลังจากที่เคลียร์ทุกอย่างจนเสร็จสิ้น นี่มันวันอะไรเจ้านายถึงจ้องแต่จะแกล้ง ไม่รู้พรุ่งนี้จะโยนงานอะไรมาให้เขาอีก เห้อเบื่อชะมัดเลย
ครืด ครืด ครืด!
"อะไรกันเนี้ย แล้วนี่รถเป็นอะไรเนี้ย มืดก็มืด คนก็น่าจะกลับกันหมดแล้ว"ยาหยีที่พยายามที่จะสตาร์ทรถแต่ก็สตาร์ทไม่ติด แล้วเธอแทบจะไม่รู้เรื่องรถเลยด้วยซ้ำ มองไปนอกหน้าต่างก็เริ่มที่จะมืดแล้ว หากจะไปตามทีมงานช่างให้มาดูรถให้ก็น่าจะกลับกันหมดแล้วด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะกระจกดังขึ้นฝั่งคนขับ หญิงสาวจึงรีบหันไปมองตามเสียงก็พบว่าเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีนามว่าฟินซ์นี่เอง เธอจึงลดกระจกลง
"คุณฟินซ์ ทำไมยังไม่กลับคะ"ยาหยีถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ยิ้มอีกแล้วฟินซ์คิด นี่กะจะยิ้มให้ทุกเรื่องไม่ได้นะ
"แบตเสื่อมหรอ"เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ มันสตาร์ทไม่ติด"
"ฟังจากเสียงเครื่อง ก็คงจะเสื่อม เปลี่ยนแบตครั้งล่าสุดเมื่อไหร่"
"โห วันนี้คุณฟินซ์พูดประโยคยาวๆด้วย นี่ถ้าอยากให้พูดยาวๆต้องรถเสียบ่อยๆแล้วนะคะ"เธอส่งยิ้มพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงทะเล้น
"ตอนนี้ทีมช่างกลับกันหมดแล้ว ถ้าจะเอาของในคลังออกมาเลยก็คงจะไม่ได้ต้องทำการเบิกก่อน งั้น...ไปรถฉันก็ได้"เอาน่าถือซะว่าตีสนิทเพื่อสืบหาความจริง เขาคิด ทั้งที่ก็ไม่อยากไปวุ่นวายกับเธอเท่าไหร่
"เอ่อ...จะดีหรอคะ...จริงๆหยีเรียกแท็กซี่เอาก็ได้"เธอกล่าวด้วยความเกรงใจ
"ไปรถฉัน เดี๋ยวฉันไปส่ง"ว่าแล้วก็เปิดประตูรถให้เธอแล้วลากแขนเธอออกมา จากนั้นก็ดึงกุญแจรถออก กดรีโมทล็อกแล้วดึงเธอไปยังรถยนต์ของเขาที่อยู่ไม่ไกลนั้นแทน
"นี่รถคุณฟินซ์หรอคะ รุ่นใหม่ล่าสุดด้วย ว๊าวววว"เธอมองด้วยแววตาเป็นประกาย ฟินซ์เหลือบมองใบหน้าซุกซนนั้นชั่วครู่ระหว่างที่คราดเข็มขัดนิรภัย จากนั้นก็ขับเคลื่อนรถออกมา
"บ้านเธอก็รวยออก ทำไมถึงไม่ซื้อล่ะ"เขาเอ่ยถามขึ้น
"พ่อบอกว่าถ้าใช้ของยี่ห้ออื่น จะดูไม่น่าเชื่อถือ หยีเลยมีแต่รถทุกรุ่นของบริษัทค่ะ แต่รุ่นนี้มันคงเก่าไปแล้ว เลยมีปัญหา"เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
"เกี่ยวหรอ?"
"ไม่รู้สิ อืมเดี๋ยวคุณฟินซ์ขับไปที่ร้านyyก็ได้ค่ะ ถัดไปอีก5ซอย แล้วเลี้ยวซ้าย วันนี้เดี๋ยวหยีกลับไปนอนร้าน"
"ร้าน?"
"เอ่อค่ะ ร้านเสื้อผ้าหยีเอง จริงๆหยีเป็นดีไซเนอร์"
"แล้วทำไมถึงได้มาทำงานบริษัทล่ะ"เขาเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
"ก็...ไม่ได้อยากทำเท่าไหร่หรอก"น้ำเสียงครั้งนี้ดูเศร้าลงขัดจากบุคลิกของเธอเลย จนฟินซ์เผลอหันไปมอง
"ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำสิ"
"ไม่ได้หรอก พ่อขอร้องให้เข้ามาช่วยบริษัทก่อน1ปี เห็นว่าช่วงนี้ขาดนักออกแบบ แล้วอยากจะผลิตรถรุ่นใหม่ จริงๆแล้วหยีไม่รู้องค์ประกอบรถเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้จะทำออกมาได้ดีหรือเปล่า แต่หยีวาดรูปเก่งนะ ฮ่าๆๆๆ"เธอเอ่ยใบหน้าสดใส เหมือนกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่าง บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสที่จะทำให้เขารู้บางอย่าง ค่อยๆถามก็คงจะไม่เลว หาทางมาหลอกถามบ่อยๆยัยนี่ก็น่าจะหลุดบอกอะไรบ้าง ดูท่าทางแล้วเหมือนหาที่ระบายมากกว่า
"อืม...ปรึกษาฉันได้นะฉันพอจะรู้เรื่องรถยนต์"เขาเอ่ยบอกหญิงสาวข้างๆ ถ้าได้ใกล้ชิดกันบ่อยก็ต้องได้ข้อมูลอะไรเพิ่มบ้าง
"จริงหรอคะ?"ด้วยความตื่นเต้นทำให้เธอส่งแววตาเป็นประกายไปให้ฟินซ์พร้อมกับเผลอจับแขนเขาอย่างลืมตัว ทำเอาฟินซ์เกือบจะตกลงไปในห้วงภวังค์ แต่ไม่ได้จะมาถูกสะกดตอนนี้รถคว่ำกันพอดี เขาสะบัดความคิดจากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ แต่หางตาก็ยังคงมองเป็นระยะๆ ไม่รู้ทำไม รู้สึกว่าหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขาดูมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขาไม่น้อย มันเหมือนมีแรงดึงดูดแปลกๆทำให้ละสายตาไปแทบไม่ได้
"อื้ม...ถ้าเธออยากให้ฉันช่วยก็ไปหาฉันตอนเย็น...จะช่วยสอนให้"
"โอเค ต้องกราบขอบพระคุณคุณฟินซ์ด้วยนะคะที่เมตตากรุณายาหยีคนนี้ ยาหยีสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณฟินซ์ต้องลำบากใจเลยค่ะ"ว่าแล้วเธอก็ยื่นนิ้วก้อยขึ้นมาชูไว้รอเกี่ยวกับเขา แต่เมื่อเห็นว่าเขาอึ้งๆไม่ยอมมาเกี่ยวก้อยด้วยเสียที เธอจึงคว้ามือเขามาแทนเเล้วเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเขาพร้อมกับส่ายไปมา "สัญญาใจกันแล้วน้า อ้อถึงพอดีเลย คุณฟินซ์จอดข้างหน้าร้านเลยค่ะ" ฟินซ์หักพวงมาลัยรถเทียบจอดที่หน้าร้าน เขามองร้านเสื้อผ้าที่เป็นตึก3ชั้น แถมร้านก็ใหญ่โตพอสมควร
"คุณฟินซ์จะเข้าไปข้างในไหมคะ"แต่เปิดประตูลงไปไม่นานเธอก็หมุนตัวกลับมาก่อนจะก้มลงถามฟินซ์เพื่อเขิญชวนให้เขาลงมา ถ้าหากเป็นคนอื่นเขาก็จะคิดว่ายัยนี่หลอกให้เขาลงไปคั่วเหมือนสาวคนอื่นๆแล้ว แต่มันไม่ใช่เพราะยัยนี่ดูอ่อนต่อโลกเหลือเกิน ดูทรงไม่น่าจะเป็นผู้หญิงแซ่บๆอย่างที่เขาเจอมา "หยีไม่ทำอะไรคุณฟินซ์หรอก เชื่อใจหยีน้า"เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมลงมาเธอก็เอ่ยดักขึ้นเพราะกลัวว่าเขาจะคิดไปไกล
จนแล้วจนรอด เขาก็ยอมลงจากรถเจ้ามาอยู่ที่ห้องโถงกลางร้านจนได้
"นังยาหยี!"
"อ๊าย สมชาย!"ยาหยีโผลเข้ากอดเพื่อนสาวสองของเธออย่างตื่นเต้น
"ชายนี่ย่ะ นังนี่ ฉันตบปากแกนะ"ชายนี่จีบปากจีบคอดุคนตัวเล็กอย่างยาหยี พร้อมกับเหลือบมามองชายร่างสูงสุดหล่อที่มากับเธอ "เดี๋ยวก่อนสาว นี่ใครยะหล่อน"ชายนี่ปรายตาไปมองก่อนที่จะกระซิบถาม โอ้ยหล่อมาก แต่ เหมือนเคยเจอที่ไหนสักที่แต่นางชายนี่นึกไม่ออก
"เพื่อนที่ทำงาน รถฉันเสียเขาเลยมาส่ง"ยาหยีตอบ
"แกมีเพื่อนหล่อขนาดนี้ ทำไมไม่แนะนำฉันบ้าง โอ้ยพ่อเทพบุตร แต่ฉันว่าฉันเคยเจอเขานะหยี"ชายนี่กล่าว
"เลิกได้แล้วนะเห็นคนหล่อแล้วบอกคุ้นๆเนี้ย มุขนี้เลิกใช้จ่ะแม่"ยาหยีกล่าวอย่างจิกกัดเพื่อนบ้าง
"ฉันไม่มุข ฉันคุ้นจริงๆ"ชายนี่ทำท่านึกแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
"เอ่อ...คุณฟินซ์ เดี๋ยวรอหยีสักครู่นะคะเดี๋ยวหยีเอาของว่างกับกาแฟมาให้"ฟินซ์พยักหน้าตอบรับเบาๆ จากนั้นเธอก็เดินหายเข้าไปอีกห้องหนึ่ง