"นี่ค่ะคุณฟินซ์"ญาตาลดา รีบเดินออกมาพร้อมกับวางแก้วกาแฟและขนมน่าตาน่ารักน่าทานมาให้ฟินซ์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"กินกาแฟตอนนี้ แล้วจะได้นอนตอนไหน?"ฟินซ์เลิกคิ้วถามร่างบางตรงหน้า
"เอ่อ...นั่นสิ ฉันลืมไปเลย งั้นคุณฟินซ์กินแค่ขนมก็ได้ ถือซะว่าเป็นค่ามาส่งหยีก็ได้ค่ะ"ฟินซ์มองหน้ามาตาลดาเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมไปหยิบ มัฟฟินเบอรี่มากัด
"อร่อยไหมคะ"ความเปรี้ยวหวาน กลมกล่อมกำลังพอดี ความอร่อยกระจายไปทั่วปาก เขายกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ มันละมุนจนเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว
"อื้ม ทำเองหรอ"เขาถามเพราะคิดว่าคนน่ารักๆแบบเธอก็คงจะทำเองหรือเปล่า
"ซื้อค่ะ หยีทำเองไม่เป็นหรอกค่ะ หึหึ"เธอหัวเราะที่ฟินซ์เข้าใจผิด
"แล้วจะลุ้นทำไม"
"ชอบเห็นคนกิน ชอบความรู้สึกเวลาคนกินอร่อย เห็นแล้วมันมีความสุข"ยัยนี่ทำตัวพิลึกคน ฟินซ์คิด
"งั้น ฉันกลับก่อนดีกว่าดึกแล้ว"ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับหยิบขนมในจานมาถือไว้ ก่อนจะเดินไปยังรถของตัวเอง อย่างอารมณ์ดี นี่เขาอารมณ์ดีกับลูกศัตรูหรอ?
"หึ"เมื่อขับรถมาถึงคอนโด เขาก็ถือขนมขึ้นมองก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆอย่าลืมตัว ภาพความสดใสของหญิงสาวร่างบางนั้นมันโผล่เข้ามาในหัวของเขา รอยยิ้มที่ไม่รู้จะยิ้มทำไมนักหนา เหมือนชีวิตไม่เคยผ่านเรื่องแย่ๆในชีวิตเลยแม้แต่นิด ดีเพราะหลังจากนี้ไปจะต้องมีเรื่องแย่ๆเข้ามาป่วน ดูสิจะยังยิ้มได้อยู่ไหม เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็กำขนมนั้นแน่นจากนั้นก็ปาออกไปนอกรถอย่างหงุดหงิด
อีกด้าน...
"อะไรยังไงเพื่อนสาว"ชายนี่นั่งลงพร้อมกับจ้องหน้าเพื่อนรักตาเขม็งอย่างจับผิด
"เพื่อนที่ทำงาน"
"อะไรไปทำงานแค่ไม่กี่วันก็มีผู้มาส่งซะแล้ว แกเขาหล่อมาก"
"ก็หล่อ แต่ฉันว่าเขาดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวา"เธอครุ่นคิด
"เลยจะไปสร้างสีสันให้เขาว่างั้น?"ชายนี่ทำตัวรู้ทันเพื่อน เพราะถึงแม้ว่ายัยเพื่อนคนนี้จะชอบพูดชอบคุยแต่ไม่ค่อยจะเห็นเข้าหาคนก่อนซะหน่อย งานนี้ต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ๆ ชายนี่คอนเฟิร์ม
"ไม่ใช่ ก็ไหนๆก็ต้องทำงานด้วยกัน เขาจะสอนงานให้ฉัน...ก็ต้องทำความรู้จักเอาไว้..."แต่สายตาของเพื่อนรักเธอนี่จับผิดเต็มๆ พูดไปก็คงไม่เขื่อ ทำหน้ากรุ่มกริ่มใส่เธออยู่ได้ นี่เขินนะยะ "ไม่คุยด้วยแล้วจะขึ้นไปอาบน้ำและ" เมื่อพูดไปก็ไรผลเธอจึงหนียัยเพื่อนขี้เผือกนี่ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมนอน
"ยาหยี!"
"อะไรแก เรียกซะเสียงดังลั่นเลย"ญาตาลดาตกใจเสียงเพื่อนที่ตะโกนเรียกเธออยู่หน้าห้องขณะที่เธอกำลังมาร์คหน้าน้ำนมแพะน้ำนมแกะอยู่อย่างผ่อนคลาย
"แกจะไม่กินข้าวเย็นหรอ นี่ลุกเลย ลุกออกมาเลยพาไปกินข้าวก่อน"ชายนี่ตรงเข้ามาลากเพื่อนให้ลุกตามเขาไป
"แก ฉันไม่หิว แกไปคนเดียวไป"เธอขืนตัวไว้ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
"ลุก! ไม่งั้นฉันจะ..."
"จะอะไร?"
"ฉันจะไม่กันท่าแกกับพี่นนท์ให้แล้ว"เพื่อนสาวของเธองัดไม้ตายมาขู่ ก็รัชชานนท์หรือนนท์นั้นตามจีบเธอตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม จนตอนนี้เข้ามาทำงานในบริษัทก็ยังตามจีบเธอจนน่ารำคาญ แต่ดีที่ชายนี่เพื่อนของเธอคอยกันท่าให้ตลอด
รัชชานนท์เป็นลูกชายคนเดียวของผู้บริหารซึ่งก็คือพี่ชายของเจ้าของบริษัทคนก่อนเมื่อ15ปีที่แล้วนั่นแหละ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้พิศวาสเธอนักตามขีบตามตื้ออยู่ตลอด แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยเจอสงสัยน่าจะไปดูงานต่างประเทศ แต่ก็โล่งหูเธอแล้วล่ะ เพราะเธอพยายามหนีเขาตลอด
"เออ...ก็ได้"สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอม "แล้วจะกินอะไร"
"บะหมี่เป็ดไหม"
"เอาอะไรก็เอาเถอะ ฉันไปเป็นเพื่อน ไม่กินนะ"เธอกล่าว
@ร้านบะหมี่เป็ด
"ลื้อเอาอาราย"เจ้าของร้านถามขึ้นเมื่อทั้งคู่มานั่ง
"เฮีย ฉันเอาบะหมี่เป็ดพิเศษน้ำไม่ผัก ไม่กระเทียม"ชายนี่เริ่มสั่ง ส่วนญาตาลดานั่งมองซ้ายมองขวาไปรอบๆ บวกกับกลิ่นน้ำซุปหอมๆจนเผลอกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่
"ลื้อล่ะ ไม่เอาหรอนังหนู"แหมเฮียจ้องกันแบบนี้เอาก็ได้ ญาตาลดาคิด
"หนูเอาบะหมี่แห้ง ขอน้ำซุปด้วยค่ะ"
"แล้วทำไมไม่เอาบะหมี่น้ำล่ะ"เฮียเจ้าของร้านงงกับการสั่งของเธอ นี่กวนประสาทหรือเปล่า
"เอ้าเฮีย ก็หนูอยากกินแห้ง แต่กลัวมันติดคอเลยอยากซดน้ำซุปด้วย ไม่ได้หรอเฮียสุดหล่อ"ญาตาลดาชมเจ้าของร้านไปหนึ่งที ทำเอาเขินตัวบิดจนไม่กล้าเอ่ยปากบ่นต่อ นอกจากจะรีบเดินไปทำตามเมนู
"ไหนบอกไม่กิน?"ชายนี่เอ่ยขึ้น
"มันหอม นี่แกอย่าพูดมากได้ไหม เดี๋ยวเลิกคบนะ"
"แหม เลิกคบฉันแล้วแกจะไปคบใคร มีเพื่อนเยอะว่างั้น?"
"ไม่มีน่ะสิเลยต้องทนคบเเกเนี้ย"จากนั้นทั้งคู่ก็หลุดหัวเราะออกมา ทำเอาคนรอบข้างหันมามอง จนเธอและเพื่อนต้องหันไปโค้งตัวเป็นการขอโทษที่ทำตัวเสียมารยาท
"เออแก ทำไมแกไม่จีบคุณเพื่อนใหม่แกอ่า เอามากันท่าพี่นนท์จะได้เลิกยุ่งกับแก" ชายนี่แสดงความคิดเห็นขณะที่กำลังดูดเส้นบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อย
"เขาไม่เอาฉันหรอก แกดูเขานิ่งจะตาย ดูไม่สนใจผู้หญิงอย่างฉันเลย ขนาดพี่ริตาฝ่ายบุคคลตามเต๊าะเขายังเย็นชาใส่เลย สวยแซ่บอกตุ้มเขายังเมิน แล้วแกดูฉันจะเอาอะไรไปสู้"แน่นอนว่าเขาเห็นตลอด เพราะยัยนั่นดูอยากจะง้าบคุณฟินซ์ของเธอออกจะตายไป อุ้ยตายเเล้วคุณฟินซ์ของเธอ ตบปากเดี๋ยวนี้เขินนะ
"ลอง ไม่ลองจะรู้หรอ ผู้ชายบางคนอาจจะชอบความสดใส โก๊ะๆ กะโหลกกะลาแบบเธอก็ได้ ดูอย่างพี่นนท์สิ ติดแกอย่างกับเงา"ชายนี่ออกรสออกชาติเชียร์เพื่อน เพราะเธอต้องอยู่ร้านเสื้อผ้าที่ลงทุนร่วมกัน คงไม่มีเวลาไปกันท่าให้ที่บริษัทแน่ๆ เลยต้องหาคนมาช่วยกันท่าให้เพื่อนแทน
"นี่แกชมฉันอยู่ใช่ป้ะชายนี่"เพราะฟังยังไงก็รู้สึกเหมือนเพื่อนด่า
"ชม ฉันจะบอกว่าแกน่ารักตะมุตะมิ เหมือนหมาน้อยชิวาวาตาแป๋วๆอ่า"
"ชมเนาะ"เธอยังคงย้ำอีกรอบ
"ชมสิ แกก็"จากนั้นชายนี่ก็แอบยิ้มที่หลอกด่ายัยนี่ได้สำเร็จ
วันต่อมา...
"ทำไมเมื่อวานไม่กลับบ้านครับลูกสาว"เมื่อชายนี่เพื่อนรักเพียงคนเดียวของเธอมาส่งเธอที่บริษัท เศรษฐาผู้เป็นพ่อก็ถึงกับจับผิดเพราะกลัวลูกสาวไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์เมาจนไปสร้างเรื่อง
"เอ่อ...รถหยีเสียค่ะ...เลยต้องกลับไปนอนร้าน"เธอยิ้มแหยๆให้ผู้เป็นพ่อ
"ใครไปส่งเมื่อวาน"
"คุณพ่อรู้ด้วยหรอคะ"
"เมื่อวานถึงพ่อจะกลับก่อน แต่ลุงคชาเห็นว่าลูกกลับกับคนอื่น พี่นนท์ไม่อยู่เถลไถลใหญ่เลยนะเรา"
"ก็คุณฟินซ์เขามีน้ำใจไปส่งหยี แล้วเรื่องพี่นนท์พ่อเลิกแซวเถอะค่ะหยีไม่ได้ชอบพี่นนท์"ว่าแล้วเธอก็เดินหนีผู้เป็นพ่อที่จ้องจะจับผิดลูกสาว
"ฟินซ์งั้นหรอ ใครกัน?"เศรษฐาเอ่ยกับตัวเอง สงสัยจะพนักงานใหม่ละมั้งถึงไม่เคยได้ยินชื่อนี้ เพราะปกติ เขาจะรู้จักพนักงานแทบทุกคน เพราะเขาใส่ใจพนักงานทุกระดับเท่ากันหมด ตลอดเวลาที่บริหารมาเพราะเหตุนี้พนักงานจึงเคารพและรักเขานั่นเอง