"กลับมาสักทีนะไอ้ลูกชาย เป็นยังไงไปดูงานที่สวีเดน ราบรื่นดีไหม"เสียงสุขุมนุ่มลึกของคชาเอ่ยถามลูกชายที่เพิ่งจะกลับจากการดูงานหลังจากหายไปเป็นอาทิตย์
"ครับ ผมคิดถึงน้องยาหยีจะแย่แล้ว"
"คนนี้จริงจังหรือจิงโจ้ครับคุณนนท์"ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามทีเล่นทีจริง
"จริงจังครับพ่อ ว่าแต่พ่อเถอะเมื่อไหร่จะไปสู่ขอกับคุณอาเศรษฐาให้ผมสักที"รัชาชานนท์กล่าวทักท้วงเรื่องที่บอกเอาไว้กับผู้เป็นพ่อ แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวเสียที ไม่รู้ว่าติดอะไร
"ใจเย็นไอ้ลูกชาย ฝั่งน้องเขาพร้อมแล้วหรอ เมื่อวานพ่อยังเห็นกลับบ้านกับคนอื่นอยู่เลย อย่าเพิ่งปรบมือข้างเดียวสิ"ผู้เป็นพ่อเอ่ยตักเตือนลูกชาย ไม่อยากให้คิดเองเออเองเพราะกลัวลูกจะเสียใจ
ญาตาลดาก้าวเท้าเดินไปที่ห้องแพนทรีรูมเพื่อจะหาคาเฟอีนเข้าปากแก้ง่วง แต่สายตาเฉี่ยวๆนั่นก็เหลือบไปเห็นผู้ชายที่เธอหนีมาตลอดกำลังเดินมา
"แย่แล้ว...กลับมาแล้วหรอเนี้ย ไม่นะ ชีวิตฉันต้องไม่สงบสุขแน่นอนเลย"เธอรีบยืนหันหลังและแอบอยู่ข้างกำแพง แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเดินตรงมายังจุดที่เธออยู่ เอาไงทีนี้
"ช่วยลูกด้วย"
"ช่วยอะไร?"แต่อยู่ๆฟินซ์ที่ไม่รู้ว่าเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ถามด้วยน้ำเสียงไม่เข้าใจ แถมท่าทางยัยเปี๊ยกนี่จะดูรุกรี้รุกรนผิดปกติ
"อ๊ะ คุณฟินซ์"พ่อพระมาโปรด พระเอกของยาหยี เธอเอ่ยในใจ ญาตาลดาหันซ้ายแลขวา เอาไงเอากัน เอาวะแค่แปบเดียวก็ยังดี ขืนมาเห็นเธอตอนนี้ต้องหาเรื่องมาพล่ามกับเธอยาวแน่ๆ
ขวับ ฟุ่บ!
ญาตาลดาตัดสินใจคว้าร่างของฟินซ์เข้ามากอดทันที ด้วยร่างของเขาที่สูงกว่าทำให้บังเธอได้มิด และเพียงไม่นานรัชชานนท์ และคชาก็เดินผ่านไปทันทีโดยที่ไม่ทันสังเกตุเห็นว่าเธอถูกร่างสูงๆโปร่งอย่างฟินซ์บังอยู่
ญาตาลดาแอบมองร่างของทั้งคู่ที่เดินจากออกไปโดยที่ไม่เห็นเธอก็รู้สึกโล่งใจ กลิ่นหอมเย็นๆ กลิ่นกายสะอาดสะอ้านที่มันโชยเข้าจมูกอย่างสดชื่นทำให้เธอเผลอสูดดมจนเต็มปอด ร่างสูงที่ถูกเธอดึงเขาไปจ้องมองร่างเล็กที่อยู่ในเกราะกำบังของเขาอย่างสงสัย ว่าเธอคิดจะทำอะไร แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็พอจะเดาได้ว่าเธออาจจะหลบหน้าใครบางคนอยู่ แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ทำให้สายตาของทั้งคู่ประสานเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว ราวๆ10นาทีดั่งถูกต้องมนต์เอาไว้ ฟินซ์จ้องมองไปที่ดวงตาเป็นประกายของเธอเหมือนมีแรงดึงดูดให้เขาโค้งตัวลงไปใกล้ๆจนจมูกโด่งๆนั้นแตะเข้ากับจมูกของเธอ ร่างบางเมื่อสัมผัสได้ถึงจมูกโด่งเป็นสันของเขาก็ตาโตทันที ก่อนจะรีบดึงสติของตัวเองแล้วผละเขาออก แต่ก็ไร้ประโยชน์เพราะร่างสูงขืนจัวเอาไว้ไม่ยอมห่างออกไปในทันที แต่กลับกระตุกยิ้มร้าย และก้มลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงชวนสยิวข้างๆใบหู
"ฉันช่วยเธอ งั้นขอรางวัลหน่อยนะ"
ฟ่อด!
การกระทำของฟินซ์ทำเอาสาวน้อยอย่างเธอตาโตเข้าไปอีก แก้มนวลบัดนี้ได้แดงระเรื่ออย่างกับคนโดนพิษไข้ นี่คุณฟินซ์หอมแก้มเธอหรอเนี้ย
"คุณฟินซ์"เธอเอ่ยน้ำเสียงราวกับคนละเมอ แต่เมื่อเรียกสติได้เขาก็หายไปไหนแล้วไม่รู้ ทิ้งให้เธอยืนเหม่ออยู่คนเดียว แต่เมื่อตั้งสติได้เธอก็รีบวิ่งเข้าแผนกตัวเองทันที แต่ก็ไม่วายจับแก้มด้านที่ถูกหอมเอาไว้ นี่ฉันฝันหรือละเมออยู่เนี้ย บ้า เกิดมายังไม่เคยโดนผู้ชายหอมแก้มแบบนี้เลย นอกจากคุณพ่อ มันเขินนะรู้ไหม เธอเขินจนตัวบิดแถมตอนนี้ความคิดของเธอก็กำลังตีกันจนรวนไปหมดแล้ว หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนมันจะหลุดออกมาจากขั้ว บ้าน่าจะมาใจเต้นแรงทำไม เขาแคาขอรางวัลที่ช่วยเธอเองยาหยี อย่ามโน!
พักกลางวัน...
การทำงานของฟินซ์วันนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ส่งมอบรถของลูกค้าได้ทันเวลา แถมการรายงานสภาพรถที่เขาเขียนรายงานก็ถูกประเมินผ่านจากหัวหน้า แต่ดูเหมือนตลอดทำงานวันนี้จะมีใบหน้าของเด็กสาวคนนั้นเข้ามาปั่นป่วนในหัวจนต้องสะบัดให้หลุดไปหลายที ยัยเด็กบ้านั่นตามหลอกหลอนเขาอยู่ได้ เขาพึมพำกับตัวเอง
"คุณฟินซ์ ขอบคุณสำหรับการแก้ปัญหานะครับ คุณเป็นคนมีฝีมือมาก อ้อ...อีกเรื่องผมจะเสนอกับผู้บริหารนะครับเรื่องเปลี่ยนจากรถ2จังหวะเป็น4จังหวะ...คุณช่วยเขียนรายงานนำเสนอให้เห็นข้อดีข้อเสียให้ผมหน่อยนะ...ผมจะได้นำไปเสนอผู้บริหารให้... เห็นว่ามีแพลนจะผลิตรถรุ่นใหม่ ถ้ารุ่นใหม่เป็นแบบใหม่เลยก็น่าจะดึงยอดขายได้สูงขึ้น"
"ครับหัวหน้า"ฟินซ์รับคำจากนั้นก็รีบไปจัดการงานที่ได้รับมอบหมาย รีบทำทุกงานนี่ให้เสร็จจะได้มีเวลาเหลือไปสืบต่อ เขาคิดดังนั้นก็รีบระเรงนิ้วเรียวลงคีย์บอร์ดทันที
ปึ่ง!
"กาแฟค่ะคุณฟินซ์ ริตาซื้อมาฝาก เห็นว่าพักกลางวันแล้วคุณฟินซ์ยังไม่ได้ไปทานข้าวเลย ส่วนนี่แซนวิชค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ"ริตาสาวสวยสุดแซ่บฝ่ายบุคคลวางกาแฟและแซนวิชลงตรงโต๊ะทำงานของฟินซ์ พร้อมกับก้มๆเงยๆจนนมแทบจะหกลงไปใส่กาแฟที่ตนซื้อมาให้เขา วันนี้เธอแต่งตัวเซ็กซี่กว่าปกติ ก็แหงล่ะ พนักงานใหม่อย่าง ฟินซ์ ไรเดอร์หน้าหม่ำออกขนาดนี้ ก็ขออ่อยหน่อยแล้วกันเผื่อเหยื่อติดเบล็ด นี่หนุ่มไปในออฟฟิศต่างจ้องจะง้าบเธอทั้งนั้น เขาก็ต้องคิดเหมือนกันบ้างล่ะ ริตายกยิ้มขึ้นกับความคิดของเธอ
"ผมไม่หิว แล้วผมก็ไม่ชอบกินแซนด์วิชที่ใส่แตงกวาดอง"เขาพูดเพียงเรียบๆเท่านั้น จนเธอหน้าแทบหงาย นี่จะหักหน้าไปถึงเมื่อไหร่ กล้ามากที่เย็นชากับเธอ แต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ยังส่งยิ้มเจื่อนๆให้เขาพร้อมกับคว้าแก้วและแซนวิชมาถือไว้และเดินกระทืบส้นสูงออกไปอย่างเสียหน้า
ฟิ้ว ตุ้บ!
"คนบ้า แข็งทื่ออะไรปานนั้น ฉันออกจะเซ็กซี่ขนาดนี้เมินได้ไง"เธอโยนทุกอย่างลงในถังขยะอย่าหัวเสีย ก่อนที่จะบ่นออกมาด้วยความโกรธที่เขาหักหน้าเธอ ดีนะกลางวันไม่มีใครเห็น ไม่งั้นคงได้เป็นขี้ปากคนอื่นชัวร์ที่เธอดันตกเหยื่อไม่ติดแบบนี้