ภาพตึกสูงด้านหน้าทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงทางเข้ากำมือตัวเองแน่น ความกลัว ความไม่มั่นใจถาโถมเข้ามาใส่จนใจล้าถอย ใจหนึ่งอย่างก้าวผ่านมันไป แต่อีกใจหนึ่งกลับกลัวว่าทุกอย่างมันจะไม่เหมือนเดิมแล้ว
“หลบหน่อยครับๆ อ้ะ! ขอโทษครับคุณช่วยหลบหน่อย”
ใบหน้าคมค่อยๆหันไปมองคนที่วิ่งมาชนเธอพร้อมกับกันให้เธอออกจากทางเข้า ฉันดันแว่นตาขึ้นนิดหน่อยพร้อมกับจับหมวกใบใหญ่ไว้แน่น คนใหญ่คนโตมาหรือไง ฉันได้แต่คิดในใจ ฉันถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนจะหมุนตัวกลับ พร้อมที่จะก้าวขาไปเข้าอีกทางหนึ่ง
“เจ้าสัว! เจ้าสัวจริงๆด้วย”
กึก!!
ขาเรียวหยุดชะงักก้าวต่อไม่ออกทันทีเมื่อได้ยินพนักงานสาวพูดขึ้น ตัวฉันเย็นวาบขนลุกไปทั้งตัวทั้งที่ไม่มีลมพัดผ่านสักนิด ขอบตาร้อนฉ่าขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ขอทางหน่อยครับ ขอโทษนะครับ”
เสียงบอดี้การ์ดเริ่มดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เหมือนกับหัวใจฉันที่มันแทบจะทะลุออกมาแล้ว ทำไมเอาเข้าจริงฉันไม่กล้าแม้แต่หันกลับไปหาเขาเสียด้วยซ้ำ
กล้าหน่อยสิ เธอกลัวอะไรวาน่า นั้นคือเป้าหมายที่เธอมาที่นี้ไง
แต่ฉันยังไม่ได้เตรียมใจที่จะมาเจอเขาและไม่คิดว่าจะเจอเขาในอังกฤษด้วย ฉันเลี่ยงที่จะไปลาสเวสกัสเพื่อหาที่ให้ตัวเองผ่อนคลายสักหน่อย แต่ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี้!
“ทำไมเขาหยุดเดิน กรี้ดเขามองมาทางฉันด้วย”ฉันปรายตามองพนักงานสาวที่ยืนกรี้ดกันใหญ่อยู่ตรงหน้า เขาหยุดเดินงั้นหรอ ได้ยินดังนั้นใจฉันยิ่งเต้นเร็วขึ้น ฉันกลัวจะมีคนได้ยินเสียงหัวใจฉันจัง
“มะ..มาแล้ว เขาเดินมาทางนี้”
พรึ่บ!
“…..”
ปลายผมยาวปลิวไปตามการสะบัดหน้าทันที ดวงตากลมที่แดงก่ำนิ่งค้างเมื่อผู้ชายที่เธอถวิลหาตลอดอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว มือฉันสั่นจนฉันสามารถรับรู้ได้ ฉันมองคนที่เดินตรงมาทางนี้ด้วยหัวใจที่เต้นเร็วกว่าปกติ ในใจก็แอบภาวนาให้เขาจำเธอได้ สักนิด สักนิดก็ยังดี….
“ขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม”
ฉันนิ่งค้างกำมือแน่นก่อนจะข่มตาลงพร้อมน้ำตาที่มันไหลลงมาเป็นสาย เขาจำฉันไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ
หมับ!!
จู่ๆก็มีแรงมหาศาลจับหมับเข้าที่แขนฉันจนฉันเซไปตามแรงด้วยความตกใจ ก่อนจะรู้สึกว่าศีรษะตัวเองไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างจนดึง ปึก!
ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!
“กรี้ดดดดด!!”
ผู้คนที่มุงอยู่แถวนั้นต่างวิ่งหนีกันกระเจิง ต่างกับฉันที่กำมือตัวเองแน่นเมื่อรับรู้ว่าอยู่ในอ้อมกอดใครบางคนที่ทำให้ฉันสามารถหลับตาลงโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใดอีกแล้ว
“คุ้มกันเจ้าสัวไปในที่ปลอดภัย”เสียงมือขวาตะโกนลั่น เมื่อโดนตะหลบหลังเข้าให้แล้ว
ฉันหลบตาแน่นไม่ยอมเคลื่นกายไปไหน จนรู้สึกอีกทีก็มีแรงมหาศาลฉุดฉันขึ้นพร้อมกับออกตัววิ่ง จนฉันที่ยู่บนส้นสูงแทบจะหน้าคะม่ำ โชคดีที่มีวงแขนกว้างคว้าเอวฉันไว้ทัน
“เคลียพื้นที่ใกล้เคียง”
ใบหน้าเหนื่อยหอบเดินเข้ามาใกล้เจ้านายเมื่อจัดการกับพวกหมาบ้าด้านนอกเสร็จ แต่ยังไม่ได้สังเกตุข้างกายเจ้านายตัวเองสักนิดว่ามีใครอยู่
“ครับหัวหน้า”
บอดี้การ์ดที่คุ้มกันเจ้านายต่างแยกออกไปทำหน้าที่ มือขวาหนุ่มลูบหน้าตัวเองเบาๆ เมื่อผ่านเหตุการณ์ลอบยิงมาได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะเงยหน้าเพื่อถามอาการเจ้านาย แต่พอเงยหน้าขึ้นเท่านั้น ทำให้คนอย่างเขาถึงกับถอยหลังไปหลายก้าว ดวงตาคมสั่นไหวอย่างปิดไม่มิด
“วาน่า”
คนที่พึ่งถอดแว่นตาออกจ้องมองวงแขนกว้างที่โอบรัดเอวเล็กเธอไว้ด้วยความรู้สึกหลายอย่าง แต่มันก็แค่แปปเดียว ที่เขามอบสัมผัสอบอุ่นนั้นให้เธอ ก่อนที่เขาจะก้าวออกไปยืนอยู่ห่างเธอแถมยังไม่พูดอะไรออกมา ฉันยกมือปัดน้ำตาที่ล่วงหล่นออกมาก่อนที่เขาจะเห็นมัน
“ใคร คนรู้จักนายหรอ”ฉันก้มหน้านิ่งไม่ได้หันไปสบตาเขาตรงๆแต่อย่างใด อัลล์จำเธอได้
“…”
รัสเตรทำหน้าสงสัยทันที เมื่อคนไว้ใจได้แต่ก้มกน้าไม่ตอบคำถามเขาอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งมันไม่เคยเป็นมาก่อน เขาหันไปมองคนที่ทำให้มือขวาเขาเป็นแบบนี้ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าไปอีกเมื่อหล่อนก็ก้มหน้าอยู่เหมือนกัน
“เอาตัวขึ้นไป”
ใจฉันกระตุกวูบก่อนจะมีบอดี้การ์ดมาล็อกแขนสองข้างให้ฉันเดินเข้าไปในลิฟต์ ฉันหันไปมองเขาด้วยน้ำตาจึงเห็นดวงตาคู่คมนั้นที่จ้องมองเข้าไปลึกๆเขากำลังสบสนอะไรบางอย่างอยู่
“อย่าทำร้ายเธอครับ”อัลล์ที่นิ่งมาสักพัก เงยหน้าบอกเจ้านาย
“แน่นอนว่าฉันไม่ทำร้ายคนที่นายรัก ฉันแค่มีบางอย่างอยากถามหล่อน”
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ”
“เป็นมือขวาฉันไม่ใช่ว่านายจะมีคนอยู่เคียงข้างไม่ได้นิ”เขาพูดจบก็หมุนตัวเข้าลิฟต์ไปทันที ทิ้งไว้แต่คนที่ยังนิ่งอึ้งกับการปรากฎตัวของคนที่เขาตามหามาตั้งเกือบสองปี เธอไปอยู่ที่ไหนมา เขานึกว่าเธอยอมแพ้ตรอมใขจตายไปแล้วซะอีก
ฉันมองห้องใหญ่โตในโรงแรมหรูที่ฉันก็พักที่นี้ เพราะฉันเป็นเจ้าของห้องตรงข้ามนั้นไง แปลกนะที่ตอนนั้นรัสเตรไม่ได้เป็นเจ้าของที่นี้ แต่เธอก็พอรู้มาบ้างว่าเขากวาดซิออุตสาหกรรมแถวนี้ไปเกือบหมดแล้ว รวมถึงตึกสองตึกนี้ด้วย
“เธอเป็นใคร!”
ฉันหมุนควับไปมองเจ้าของคำถามทันที ก่อนจะยกมือถอดหมวกใบใหญ่ออก นั้นมันทำให้คนที่พึ่งเดินเข้ามาหัวใจกระตุกแรงจนเขาต้องชะงัก
“เป็นอะไรหรือป่าว”ฉันรีบปรี่เข้าไปอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆเขาก็วูบทำท่าเหมือนจะล้มลง
“เธอออกไป!”บอดี้การ์ดรีบกันผู้หญิงแปลกหน้าให้ออกไป เมื่อเจ้านายตัวเองมีอาการผิดปกติ ทำให้วาน่าถึงกับงุนงงไปชั่วขณะ
“ให้เธออยู่ต่อ”
น้ำเสียงทรงพลังถึงกับทำให้บอดี้การ์ดที่กำลังขวางผู้หญิงเเปลกหน้าต่างหยุดชะงัก เเต่ก็เพียงชั่วครู่ยังไงเขาก็ต้องทำตามคำสั่งหัวหน้า
ฉันมองคนที่ถูกบอดี้การ์ดพยุงเเขนไปนั่งที่โซฟา พร้อมกับเอายาอะไรสักอย่างให้เขากิน น้ำตาที่กักกั้นไว้ไหลพังทลายลงมาทันทีเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ฉันหันหลังยกมือปิดหน้าตัวเองร้องไห้อย่างหนัก หัวใจฉันมันบีบรัดจนเริ่มหายใจไม่ออก ตอนนี้ฉันอยากถามตัวเองเหลือเกิน ว่าฉันไปไหนมา..ฉันไม่ทำอะไรมา!!