เธอไม่ต้องมายิ้มให้ฉันแบบนั้นเลย เธอนั้นแหละ คือเธอนั้นแหละ
เธอกังวลเรื่องวันนั้นใช่ไหม วันที่เธอเดินจากฉันไป แต่ก็นะ
ฉันจะโกรธเธอลงได้ยังไง ขอเพียงเธอยังมีฉันในหัวใจ ฉันให้อภัย ฉันยอมให้อภัย
“ว้าว! แกเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ”
เสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆและเป็นเสียงที่คุ้นหูจนไม่ต้องเงยหน้าไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร ฉันขยับตัวเล็กน้อยเพราะเมื่อครู่จมดิ่งไปกับเสียงเพียงที่ดังเคล้าคลอได้อารมณ์ไปหน่อย
“งั้นหรอ ได้ข่าวว่าพึ่งเจอกันเมื่อเดือนที่แล้ว”วาน่าตอบกลับเพื่อนสาว พร้อมกับยกยิ้มขึ้นเบาๆ ทำให้หนุ่มๆที่อยู่ในคลับต่างมองมายังโต๊ะของสองสาว ด้วยความสนใจ
“ฉันไม่คิดว่าแกจะกล้ามาเหยียบที่นี้แล้ว ขอโทษนะวาน่า”สีหน้าบวกกับน้ำเสียงเศร้าสรอยของเพื่อนทำให้คนที่นั่งจิบไวน์อยู่ต้องหัวเราะออกมาน้อย
“ฮ่าๆ แกขอโทษฉันทำไม แกผิดรึไง”
“ใช่สิ ฉันไม่สามารถปกป้องแกได้เลย และไม่สามารถช่วยแกได้สักอย่าง”
วาน่าลุกขึ้นก่อนจะเดินอ้อมไปกอดเพื่อนสาวที่น้ำหูน้ำตาเริ่มมา สองสาวกอดกันกลมท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมายังเธอทั้งสอง
“ยินดีต้อนรับกลับมาค่ะพี่สะใภ้”
ฉันระบายยิ้มออกมาเบาๆ กลับมาสถานที่เดิมมันก็ไม่ได้แย่เหมือนเดิมไปซะหมดหรอก
“กลับมาแล้ว พร้อมแล้ว”
อิงอิงเงยหน้ามองเพื่อนสาวก่อนจะผลักเธอให้ไปนั่งที่เดิม พร้อมกับรินไวน์ใส่แก้วทั้งน้ำตา
“ดีเหมือนกัน ยังกับผู้ต้องหาห้ามเข้าประเทศ ดูแกทำตัวเข้า”
ฉันได้ส่งยิ้มไปให้แทนคำตอบ คำว่าชนะที่จะให้ได้ผลดี ก็คือชนะใจตัวเองนี้แหละ ฉันคิดแบบนั้น ทำไมจะต้องกลัวอะไรที่มันยังมาไม่ถึงด้วย ถ้าเขาจำเธอไม่ได้เธอก็แค่นับหนึ่งใหม่อย่างที่เธอเคยนับมันมาหลายครั้งแล้ว ถึงมันจะมีทั้งเจ็บปวด และสำเร็จ แต่ประสบการณ์ทั้งหมดก็ทำให้ฉันแกร่งเป็นผู้เป็นคนขึ้น ฉะนั้นการเริ่มต้นใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่เท่าไหร่หรอก
“โอ้ยย พ้นทุกข์ พ้นเศร้านะที่รักของฉัน”
“สาธุ”ฉันพูดพร้อมกับประนมมือเป็นดอกบัวตูมใส่หัวนั้นทำให้เพื่อนสาวชาวจีนถึงขั้นงง
“ภาษาไทยงั้นสิ”
“ใช่ มาๆฉลองให้ฉันหน่อยสิ”ฉันยกแก้วไวน์ขึ้นก่อนจะเอียงคอให้เพื่อนสาว
“เฉียวจิ้งยังไม่มาหรอ”
“เดี่ยวคงมา เธอบอกว่าให้ฉลองก่อนที่บริษัทมีเรื่องให้จัดการนิดหน่อย”
อิงอิงทำหน้ารับรู้เพราะสองวันข้างหน้านี้จะมีการเปิดตัวประท่านของบริษัทยักใหญ่อย่าง WN GROP บริษัทส่งออกอาหารแปรรูปที่กำลังมาแรงในตลาดหลักทรัพย์ในหนึ่งปีมานี้ อย่างที่เธอบอก เพื่อนเธอคนนี้เก่งจริงๆ เก่งจนเธอไม่อยากมองหน้าพี่ชายทำไมเขาถึงใจร้ายลืมคนที่รักตัวเองได้ลงคอ
อีกมุมหนึ่งของคลับสาวสวยไม่ต่ำกว่าห้าคนกำลังกอดคอผู้ชายหุ่นแซ่บเต้นกันอย่างเมามันส์ โดยเฉพาะหญิงสาวที่พึ่งเป็นข่าวใหญ่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่เธอพึ่งสละโสดได้แต่งงงานกับประธานใหญ่ในเครือ ของกลุ่ม ตระกูลดังบาร์สิน็อคส์นั้นเอง เจ้าบ่าวที่สาวๆทั่วทั้งยุโรปเอเชียต่างอยากเห็นหน้า อยากอยู่ใกล้ หรือขอแค่ได้เดตกับเขาแค่หนึ่งมื้อก็เป็นพระคุณท่วมหัวแล้วจริงๆ แต่เขาก็ถูกลูกสาวมหาเศรษฐีคว้าไปครองเรียบร้อย เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เอง
“แกพอได้แล้วแกแต่งงานแล้วนะ”
“อื้อ! พออะไร ฉันจะไปกับผู้ชายคนนี้แกออกไปอย่ามาห้าม”เจ้าตัวที่ฤทธิแอลกอฮอร์บวกกับความอดอยากปากแห้งทำให้เธอเลือกที่จะไปกับผู้ชายคนอื่น
เพราะสามีที่แต่งงานมาร่วมสัปดาห์ไม่เห็นจะอยากเข้าหอกับเธอด้วยซ้ำ เธอก็ต้องออกมาหาความสุขนอกบ้านสิ
“ปล่อยเธอไปเถอะ ผู้ชายเป็นของที่ยัยนั้นขาดไม่ได้เธอก็รู้”เพื่อนสาวกลุ่มเดียวกันรั้งแขนอีกคนเมื่อเห็นท่าจะตามยัยคุณหนูนั้นไป
“เห้อ เราสนุกต่อกันเถอะ”
เพื่อนที่เหลือไม่ได้สนใจคนที่ลากผู้ชายออกไปแม้แต่น้อย พวกเธอหันกับไปสนุกสนานกับเพลงที่ชวนโยกสะบัดต่อ เพราะมันเป็นแบบนี้ประจำอยู่แล้ว
“อื้ออ”
สองร่างที่นัวเนียกันไม่อายใคร มือทั้งสองคนเริ่มสะเป้ะสะปะจับนั้นจับนี้เพื่อคลึงอารมณ์ที่ทวีขึ้นมาอย่างรุนแรง ทั้งที่ตรงนี้เป็นทางเข้าของผับไม่ใช่ห้องที่ไร้ซึ้งผู้คน
“ฉันจะเรียกนายว่ารัสเตร อ๊าส์ช่วยฉันที”หญิงสาวบิดเร้าเมื่อความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจาการโดนปลุกเร้าจากชายหนุ่มข้างตัว
มือหนาบีบสะโพกงอนพร้อมกับคลึงไปมาแรงๆ พร้อมกับเกี่ยวนิ้วรูดซิบกระโปรงตัวสั้นลง ก่อนจะก้มไปซุกเข้าที่ลำคอระหงพร้อมกับขบเม้มมันเบาๆ
“อ๊าส์ ไปต่อในรถเถอะรัสเตรขา”
“อีกนิดครับคนเก่ง”
แชะ! แชะ!
“อ้ะ!”
แอนนาผลักผู้ชายที่กำลังปรนเปรอตัวเองออกเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าแสงแฟลชเมื่อครู่นั้นเหมือนกำลังถ่ายเธอ ตาสองข้างเบิกโพรงเมื่อเห็นผู้หญิงตรงหน้าที่มองเธอด้วยสายตาสมเพช
“มะ..ไม่ใช่แบบนั้นน้องรัก เขา..เอ่อ”
“คงไม่ได้บอกว่า ไอ้นั้นข่มขืนเธอหรอกใช่ไหม”
อิงอิงพูดจบพร้อมกับมองต่ำนั้นทำให้ทั้งสองคนตรงหน้ารีบรูปซิบกางเกงรูดซิบกระโปรงเป็นพันละวัน แอนนาหน้าซีดเซียวไม่คิดว่าจะเจอคนสนิทของสามี เธอตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูก ภาพตรงหน้าไม่ต้องบอกก็รุ้ว่าเธอกำลังนอกกายพี่ชายผู้หญิงตรงหน้า
“ฟังพี่ก่อนนะ”แอนนารีบจัดเผ้าจัดผม ก่อนจะผลักผู้ชายคนนั้นให้รีบออกห่าง แล้วไสหัวไปก่อนที่เธอจะไม่รอด
อิงอิงเหยียดยิ้มก่อนจะขยับนิดหน่อยเพื่อที่จะให้คนตรงหน้าได้เห็นคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ
สองสายตาจ้องกันแน่นไม่หลบไปไหน ต่างแต่เพียงอีกคนจ้องผู้หญิงผมยาวดำขลับด้วยสายตาตกใจปนคาดไม่ถึง แต่อีกคนกับจ้องหน้าไม่หลบตาแถมยังไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาสักนิด นั้นทำให้แอนนาถึงกับถอยหลังกรูด เบื้องลึกเบื้องหลังที่เธอส่งให้คนไปจัดการ ผู้หญิงคนนี้ไม่น่าจะมายืนตรงหน้าเธอตอนนี้ด้วยซ้ำ แล้วมันหมายความว่าไง
“ตกใจหรอ?”อิงอิงก้มหน้ายิ้มอย่างขบขัน เป็นธรรมดาที่คนตรงหน้าจะตกใจเมื่อเจอหน้าเพื่อนรักของเธอ มังคงบังเอิญจริงๆ
“แกกลับมาทำไม!!”แอนนาตวาดลั่นจนคนแถวนั้นเริ่มหันมามอง ถึงแม้สียงเพลงจะดังกึกก้องไปทั่วคลับ แต่โซนทางออกที่ผู้คนออกมานัวเนียกันก็ได้ยินเสียงตวาดนั้นอยู่ดี
วาน่าค่อยๆเดินตรงไปหาคนด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่คนตรงหน้าเธอกำลังกำหมัดแน่น
“แกอย่ามายิ้มแบบนั้นให้ฉันนะ!”
เพี้ยะ!!
“แก!”
เพี้ยะ!!
“หึ! ตบแรกที่เธอกล้านอกกายเขา ส่วนตบเมื่อกี้ฉันหมั่นไส้เฉยๆ”
คนดนตบถึงกับนิ่งอึ้งในแววตาเฉียบขาดของคนตรงหน้า แอนนาถอยหลังไปจนชนผนังพร้อมกับผู้หญิงที่เธอเกลียดเดินเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ
“ไปฟ้องสิ! ไปฟ้องเจ้าสัวว่าเป็นฉัน รับรองว่าเธอได้ชูคอเป็นเมียเขาได้ไม่ถึงเดือนแน้”
“กะ..แก แกหนีไปแล้วกลับมาทำไม หมดเงินหรอ!!”
แววตาสมเพชที่อีกคนมอบให้ ทำให้วาน่าก้มหน้าเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงตรงหน้าพร้อมกับยกยิ้มร้าย จนอีกคนนิ่งไปอีกรอบ!
“จะมาทวงผัวคืน!”