น่าแปลกใจที่เขาจูบเธอเป็นรอบที่สอง แต่สุดท้ายแล้วก็ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ราวกับเขาเผลอใจให้กับหญิงสาวไปแล้ว ถึงจะฉุดรั้งสติตัวเองขึ้นมาได้ว่าไม่ควรทำอะไรเช่นนั้น แต่ทุกครั้งก็ห้ามใจได้ยากถึงได้เผลอตามใจตัวเองจนเคยตัว
“โทษทีคือฉัน..” สิงหราชที่ผละริมฝีปากออกได้แต่พร่ำคำขอโทษในลำคอ ก่อนจะสบตาหญิงสาวที่แก้มแดงฉานได้น่าเอ็นดู จนต้องเป็นฝ่ายหลบตาก่อน
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ลืมมันไปเถอะ คิดซะว่า.. เป็นวิธีปราบเด็กดื้อที่ไม่ยอมฟังเหตุผลคนอื่นก็แล้วกัน” เขาบอกปัดแล้วเบี่ยงเบนความสนใจเธอด้วยการบีบแก้ม ให้อีกฝ่ายเลิกทำหน้าอ้อนสักที
มันจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว..
“เฮียจูบหนูอีกแล้วนะ เราทำ.. ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอคะ”
“ฉันขอโทษ..”
ปลายฟ้าขบริมฝีปากล่างพร้อมกับภาพของริมฝีปากที่เขาบรรจงจูบลงมา ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“แล้วทำแบบนี้กับคนอื่นด้วยหรือเปล่า” เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงติดน้อยใจ
“อะไรนะ” สิงหราชขมวดคิ้วมุ่น ฉับพลันอัตราการเต้นของหัวใจก็เพิ่มขึ้นจนควบคุมเอาไว้ไม่อยู่
ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจว่าปลายฟ้าเป็นเหมือนน้องสาวอีกคน จะต้องไม่มีทางมองเป็นอย่างอื่น
ไม่อย่างนั้นเขาแย่แน่..
“มีคนมาดื้อกับเฮีย แล้วเฮียก็จูบเขา.. ทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่าคะ” ปลายฟ้าถามออกไปอย่างตรงไปตรงมา
“คิดอะไรของเธอ” สิงหราชขลึงตาดุ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดคำว่าจูบออกมาแบบนั้น
“หนูอยากรู้นี่ สิ่งที่เราทำด้วยกันเฮียได้ไปทำกับคนอื่นหรือเปล่า”
สิงหราชถอนหายใจก่อนจะตอบกลับด้วยแววตาจริงจัง
“ไม่”
“คะ”
“ไม่เคย”
สิ้นประโยคนั้นหญิงสาวก็คลี่รอยยิ้มหวานออกมาด้วยทีท่าเคอะเขิน ก่อนจะหันหน้ามองไปยังถนนแล้วคาดเข็มขัดกับใบหน้าที่เห่อร้อนไม่หยุด
“ถ้างั้นก็ห้ามไปทำกับคนอื่นนะ”
“หืม”
“ถ้าหนูดื้อก็ดุแค่หนูคนเดียว ดุแบบเมื่อกี้ด้วย.. ทำแค่กับหนูก็พอ ห้ามไปทำแบบนี้กับคนอื่นนะคะ”
เสียงคำสั่งคล้ายว่ากำชับความเป็นเจ้าของทำให้สิงหราชแอบยิ้มมุมปาก ก่อนทำหน้านิ่งใส่หญิงสาวที่ชักสีหน้าแง่งอนเพราะเห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรกลับมา
“เด็กน้อย”
“เลิกมองหนูเป็นเด็กได้แล้ว หนูโตพอที่จะ.. เป็นผู้หญิงของใครสักคนได้แล้วค่ะ”
“ยัยเด็กแก่แดด”
ปลายฟ้าย่นจมูกใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างเมื่อเขาเอื้อมมือมายีหัวเธอด้วยความมันเขี้ยว
น่าแปลกที่ปลายฟ้าไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือไม่ชอบจูบรสหวานที่เขามอบให้ แต่กลับกันเธอดันรู้สึกดีจนถลำลึกลงไปมากกว่าเก่า แต่ก็ไม่กล้าดื้อกับเขาอยู่ดีทั้งที่รู้ว่าบทลงโทษนั้นจะแสนหวานเท่าไหร่ก็ตาม
“ฉันจะพาเธอไปส่งที่บ้าน ตกลงมั้ย” สิงหราชเอ่ยขึ้น
“แล้วเฮียจะไปไหนต่อคะ” ปลายฟ้าเลิกคิ้วถามกลับ
“ฉันมีงานที่ต้องทำต่อ”
“ที่บริษัทเหรอ”
“คอนโด”
“ถ้างั้นหนูขออยู่ด้วยได้มั้ย”
แววตาสุกใสลุกวาวอย่างมีหวัง ต่อให้เจ้าป่าอย่างสิงหราชหวงพื้นที่ส่วนตัว แต่เธอจะขอเป็นคนแรกที่ทลายลังสิงห์ให้ได้เอง
“ไม่ได้” เจ้าของดวงตาคู่คมตอบกลับแบบตัดความหวังเธอทันที
“ทำไม” ปลายฟ้ากอดอกอย่างแง่งอน
“อยู่กับผู้ชายสองต่อสองได้ที่ไหน มันดูไม่งาม”
“เราไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีสักหน่อย”
ชายหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อย เพราะเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาทำกับเธอ มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าหลังจากนี้เขาอาจจะควบคุมตัวเองได้ยากขึ้น
การมีเธออยู่ใกล้มันไม่ดีทั้งต่อตัวเธอแล้วก็เขาเลยสักนิดเดียว
“อีกอย่างวันเสาร์หนูไม่มีเรียนด้วยค่ะ วันศุกร์ก็สบายมากค่ะ เฮียจะเช็คก็ได้นะคะ หนูไม่มีอะไรต้องปิดบังเลยค่ะ”
“แล้วจะไม่อ่านหนังสือ หรือไม่มีงานค้างให้เคลียร์เลยเหรอ”
“ฟรีเดย์ค่ะ ไม่ต้องทำอะไร แค่วันเดียว..” ใช่ แค่วันเดียวเท่านั้น
ภายในคืนวันศุกร์ก่อนข้ามไปคืนวันเสาร์ เธอจะเฝ้าเขาให้อยู่ในสายตา หากสิงหราชมั่นใจแล้วว่าเคลียร์กับธีระลงตัว เธอก็ไม่คิดว่าคนที่รักพี่น้องอย่างธีระจะสติขาดถึงคั่นฆ่าแกงกันได้ลงคอ
“นะคะเฮียสิงห์ สัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของเฮียแล้วไง”
“แล้วทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า”
“คะ”
“เธอตามฉันมาที่ราพณา เธอทำให้ฉันเป็นห่วง เธอบอกให้ฉันดูแลตัวเองให้ดี แต่ทำไมเธอไม่ดูแลตัวเองเลย”
ใบหน้าสวยหงุดลงเล็กน้อยเพราะถูกดุ ทั้งที่สิงหราชพยายามจะอธิบายให้เธอเข้าใจว่าเขาเป็นห่วงเธอแค่ไหน ที่จู่ๆ ก็โผล่มาบริษัทแถมยังมีท่าทางแปลกไปจนเขาอดห่วงไม่ได้
“เวลาโดนดุก็หาว่าฉันรังแกเด็ก แต่ไม่คิดว่าฉันเองก็เป็นห่วงเธอบ้างหรือไงปลายฟ้า”
“.....”
“เพราะเป็นห่วงถึงได้ดุ จำไว้ด้วย”
ปลายฟ้าเงยหน้าขึ้นแล้วช้อนสายตามองอีกฝ่ายด้วยแววตาอ้อนวอนเขา จนสิงหราชที่ได้เห็นก็ถึงกับลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพยักหน้ารับกับสิ่งที่เธอร้องขอไว้ก่อนหน้านี้
“ตกลงจะให้หนูไปคอนโดเฮียใช่มั้ย” ปลายฟ้ากะพริบตาปริบๆ รีบฉีกยิ้มกว้างทันที
“เสื้อผ้าล่ะ” สิงหราชโยนคำถามกลับไป
“กลับไปเอาที่บ้านได้มั้ยคะ”
“เฮ้อ”
“อย่าถอนหายใจใส่หนูนะเฮีย”
คนตัวเล็กเอนศีรษะเข้าซบบ่ากว้าง ใช้หน้าผากถูไถบนแขนเขาอย่างออดอ้อน ก่อนจะส่งเสียงในลำคอให้สิงหราชเลิกทำหน้ายักษ์เหมือนวันแรกที่ได้เจอกันสักที
“ดื้อ..” สิงหราชลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนสุดท้ายก็ยอมผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียวอยู่ดี
เขาจัดการออกรถออกจากตัวของบริษัท มุ่งตรงสู่คอนโดของเจ้าตัวโดยที่มีเสียงฮัมเพลงดังมาจากปลายฟ้าอย่างอารมณ์ดี
ไม่ได้อยากทำให้เด็กน้อยนั้นเคยตัว แต่จะให้ปฏิเสธเธอลงได้ยังไงในเมื่อใครบางคนไม่ชอบเห็นเธอต้องร้องไห้เอาเสียเลย
“จู่ๆ ก็อารมณ์ดีขึ้นมาเลยสินะ” สิงหราชพูดขึ้นหลังเห็นปลายฟ้าโยกหัวอย่างอารมณ์ดี
“เพราะมีเฮียไงคะ แค่มีเฮียหนูก็มีความสุขแล้ว” ปลายฟ้าตอบกลับแล้วยิ้มรับจนดวงตาหยีลงเป็นสระอิ
เจ้าของใบหน้าคมคายแค่นหัวเราะในลำคอให้คนปากหวาน แต่หัวใจกลับต่อต้านดาเมจความน่ารักของอีกฝ่ายไม่ไหว จนต้องเป็นฝ่ายเงียบก่อนทุกที
ดวงตาคู่สวยเหลือบมองกระจกด้านข้าง พลางกวาดสายตามองไปอีกฝั่งของถนน ก่อนจะพบว่ามีรถมอเตอร์ไซค์ที่มีชายหมวกกันน็อกดำขับจี้ท้ายรถของสิงหราชอยู่
พลันใบหน้าสวยที่เปื้อนยิ้มก็เลือนรางหายไปทันที ปลายฟ้ามองรถมอเตอร์ไซค์คันนั้น สลับกับมองสิงหราชที่เหมือนจะรู้ตัวแล้วว่ามีรถพยายามจะจี้เขาอยู่
“อะไรของมันวะ” เสียงทุ้มต่ำสบถออกมาเบาๆ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรรถมอเตอร์ไซค์ก็พยายามจะแซงรถเขา โดยที่คู่กรณีหันมามองรถสิงหราชครู่หนึ่ง
“เฮีย!” ปลายฟ้าตะโกนลั่นรถ หลังรถของสิงหราชเกือบเสียหลักเพราะมีรถมอเตอร์ไซค์ขับเข้าใกล้แล้วปาดหน้าไปเมื่อครู่
ภาพของอุบัติเหตุในครั้งนั้นโจมตีปลายฟ้าให้เธอนั่งตัวสั่นเกร็ง แววตาส่ายไปมาด้วยความหวาดกลัว วินาทีที่รถเสียเสียหลักมันเหมือนมีบางอย่างฉุดดึงปลายฟ้าให้ย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุ
จนกระทั่งสิงหราชประคองตัวรถเอาไว้ได้ก็เลยไม่เกิดการเสียหายแค่เสียหลักเพียงเท่านั้น เจ้าของรถออกจะหัวเสียไม่น้อย แต่ก็เลือกที่จะหันมาสนใจเธอก่อนคู่กรณีที่ตั้งใจปาดกันก่อนหน้านี้
“แม่ง..” สิงหราชเกือบสบถหยาบเพราะเห็นคนตัวเล็กขวัญเสีย หลังเหลือบสายตามองปลายฟ้าที่นั่งตัวสั่นจนควบคุมสีหน้าและมือเล็กๆ บนหน้าตักไม่ได้
เขาหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันข้างหน้าทันที ก่อนจะรีบคว้ามือเล็กมากุมเอาไว้
“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย” เสียงนุ่มทุ้มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่กลับเหมือนว่าอีกคนตกลงในภวังค์บางอย่างจนคล้ายว่าสติหลุดลอยไป
“เหมือนวันนั้นเลย..”
“เหมือนอะไร”
“เหตุการณ์มัน.. เหมือนวันนั้นเลย”
ดวงหน้าหมดจดเงยขึ้นช้าๆ ใต้ตาแดงก่ำจนกระบอกตาปวดร้าวไปหมด ปลายฟ้าหายใจแรงเพราะอาการตื่นกลัวที่ทำให้เธอเกือบควบคุมสติไม่อยู่
แต่ทว่าเมื่อมือหนาที่ทั้งอบอุ่นและใบหน้าของสิงหราชที่แสดงออกว่าเป็นห่วง มันก็ทำให้ปลายฟ้าเริ่มฉุดดึงสติตัวเองขึ้นมา ถึงได้พบว่าพวกเขาปลอดภัยดีทุกอย่าง
“เฮียสิงห์”
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
ปลายฟ้าจดจ้องมองเขาแล้วส่ายหน้าอย่างเชื่องช้า พลางยกมือขึ้นลูบคมหน้าของอีกฝ่ายให้ความแน่ใจว่าเขายังอยู่ตรงนี้
“เธอโอเคมั้ยปลายฟ้า”
สิ้นประโยคนั้นคนที่ขวัญเสียก็พยักหน้ารับสองสามที ก่อนที่สิงหราชจะตัดสินใจดึงเธอเข้าไปสวมกอดเพื่อปลอบประโลม
“ไม่ต้องกลัว ไม่เป็นอะไรแล้ว..”
“เฮีย..”
“ฉันอยู่ตรงนี้แล้วปลายฟ้า”
เสียงปลอบประโลมนั้นฟังดูรื่นหู ทำให้คนที่กำลังตื่นกลัวเริ่มสงบลง จนเหลือเพียงแค่เธอซบอกเขาด้วยท่าทางคุดคู้ เพราะเวลาอยู่ในอ้อมแขนสิงหราช ปลายฟ้ารู้สึกปลอดภัยทุกครั้งอย่างบอกไม่ถูก
“ผู้ชายคนนั้นพยายามจะปาดหน้ารถเฮียแน่ๆ เขาอยากให้เฮียเสียหลักแล้วก็..” ปลายฟ้าที่ผละออกเริ่มพูดเรื่องราวที่ตนเผชิญให้เขาฟัง
สิงหราชส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “มันเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนนแค่นั้นเอง”
“ใช่เหรอคะ เฮียแน่ใจแล้วเหรอว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ เขาจงใจนี่คะ..”
“ฉันแน่ใจสิ ฉันเห็นแล้วว่าเขาพยายามแซง แต่แซงไม่ได้ คงจะใจร้อนก็เลยทำนิสัยไม่ดีบนท้องถนน หืม เธอเชื่อใจฉันสิ”
หลังได้ฟังสิงหราชอธิบายปลายฟ้าก็เริ่มใจเย็นลง แต่ก็ยังไม่วางใจกับทุกอย่างรอบตัวอยู่ดี มันเหมือนกับว่าความตายพร้อมจะพรากสิงหราชจากเธอไปทุกเมื่อเลย
“หนูเชื่อเฮียค่ะ”
“เด็กดี”
เรียวคิ้วเข้มของสิงหราชที่ขมวดเข้าหากัน พลันคลายออกหลังได้เห็นว่าปลายฟ้ายอมเชื่อฟังเขาแต่โดยดี
ดวงตากลมกลอกไปมาอย่างใช้ความคิด หรือนี่จะเป็นจุดสิ้นสุดของลูปนี้ เพราะสิงหราชจะเสียชีวิตจากอุบัติโดยรอบแรกเป็นเพราะโรคหัวใจกำเริบที่อาจจะเกิดตอนเขาโดนปาดหน้า แต่พอมาครั้งที่สองปลายฟ้ารอดมาได้ เธอถึงได้รู้ว่ามีคนจงใจให้รถเขาเสียหลัก
แต่ทำไมมันเกิดหลังจากเขาไปหาธีระ เหตุการณ์เมื่อกี้มันควรเป็นอุบัติเหตุ แต่เพราะเปิดใจกับธีระงั้นเหรอสิงหราชถึงได้ยังอยู่ตรงนี้
ปลายฟ้าคิดหนักชนิดที่ไม่วอกแวกกับสิ่งที่รอบข้าง คิดจนขมับขวาปวดหน่วงไปหมด
“เลิกคิดมากได้แล้วปลายฟ้า”
“คะ”
“ไม่ว่าจะคิดเรื่องอะไร ฉันไม่อยากให้เธอต้องกังวลอะไร..”
ปลายฟ้าเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง หลังถูกมือหนาเชยปลายคางให้เงยขึ้นมอง
“คิดถึงแค่เรื่องฉันก็พอ เข้าใจมั้ย.. เด็กดี”