“จะเลิกสำรวจห้องฉันได้ยัง” คนตัวเล็กกอดอกมองอีกคนผ่านแว่นตาใส จนตอนนี้ฟลินต์ยังไม่หยุดเดินสำรวจห้องเธอ ไม่รู้ว่าเขาหาอะไรกันแน่ วุ่นวายชะมัด
"การตกแต่งห้องดูไม่ใช่เธอเลย"
"แล้วแบบไหนถึงจะดูเป็นฉันเหรอคะ"
"ต่อปากต่อคำเก่ง" ฟลินต์เดินไปเดินมาราวกับว่านี้เป็นห้องตัวเอง เขาไม่สนเสียงพูดหรือสายตาที่หญิงสาวกำลังส่งมาให้ เขาเดินสำรวจไปเรื่อย ๆ ก่อนจะมาหยุดที่กรอบรูป
"นี่เธอ?" พร้อมกับไล่สายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ใช่คนในรูปจริง ๆ เหรอวะ
"อ๊ะ อย่ามองนะ!" เฟย์รีบวิ่งเข้าไปกระชากกรอบรูปมาซ่อนไว้ด้านหลังตัวเอง เธอชักจะหงุดหงิดแล้วนะที่เขารุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว มันเกินไปแล้ว
"หึ" กระตุกยิ้มอ่อน
"ออกไปสักที"
"ตั้งแต่มาเธอไล่ฉันกี่รอบแล้ว"
"คุณก็รีบออกไปสักทีสิ"
"ขอเข้าห้องน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวจะไป" เฟย์หรี่ตามองอย่างจับผิด เขาจะเล่นแง่อะไรกับเธออีกหรือเปล่า เพราะคนตรงหน้าหาความน่าเชื่อถือไม่ได้เลย
"เชิญค่ะ" เมื่อได้รับอนุญาตฟลินต์ก็ตรงไปทางห้องน้ำเพื่อทำธุระตัวเองทันที
ในระหว่างที่ฟลินต์กำลังเข้าห้องน้ำอยู่ เฟย์เหลือบมองไปยังบานประตูก่อนจะรีบไปจัดการเก็บข้าวของบางอย่างซ่อนเอาไว้ เธอจะให้เขาเห็นไม่ได้เป็นอันขาด
“....” ร่างสูงยืนนิ่งอยู่กลางห้องน้ำ เขากวาดสายตาไล่มองข้าวของที่วางอยู่ ความคิดของเขายากจะคาดเดาว่ากำลังคิดอะไรอยู่ หางตาเหลือบไปเห็นแก้วหนึ่งใบที่วางอยู่ตรงอ่างล้างหน้า อยู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา แววตาของเสือร้ายเริ่มทำงานทันที เท้าหนักก้าวไปหยุดตรงอ่างล้างหน้าก่อนจะตัดสินใจทำบางอย่าง
เพล้ง!!
ขวับ! ใบหน้าสวยหันขวับไปมองยังที่มาของเสียง เธอทิ้งทุกอย่างในมือแล้ววิ่งไปดูทันที
ปัง ปัง (เสียงทุบประตู)
“นี่คุณ เกิดอะไรขึ้น”
“อ๊ะ” เสียงที่เล็ดลอดออกมาทำเอาหญิงสาวอยู่ไม่เป็นสุข เฟย์วิ่งกลับไปยังห้องนอนเพื่อไปเอากุญแจมาไขประตู เธอไม่ถามอะไรทั้งสิ้น กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอีกคนมากกว่า หากช้าจะแย่เอาได้
แกร๊ก!
“คุณ!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเห็นคนตัวโตนั่งนิ่งอยู่ที่พื้น โดยที่มือของเขามีเลือดไหลออกมา หญิงสาวพุ่งเข้าอีกคนหาทันที
“ฉันขอโทษ” เขาเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิดที่ไปทำข้าวของเธอพัง
“ช่างมันเถอะ” เธอไม่ใช่คนใจร้ายใจดำที่ว่าจะห่วงของมากกว่าคน เฟย์พยุงตัวฟลินต์ขึ้นโดยที่เขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หากเธอสังเกตจะเห็นแววตาเสือร้ายที่มันกำลังฉายแววเจ้าเล่ห์ เธอกำลังติดกับเขาเสียแล้วแม่สายน้อย
“นั่งรอตรงนี้ก่อนค่ะ” หญิงสาวบอกเมื่อพยุงคนตัวโตมาถึงห้องนั่งเล่น เธอให้เขานั่งรอที่โซฟาก่อน ส่วนตัวเองก็รีบไปเอากล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้ จากที่ดูแผลไม่น่าจะใหญ่มากสักเท่าไหล แค่เลือดมันไหลเยอะเท่านั้น
“ครับ” ตอบเสียงเบา ใบหน้าของฟลินต์แสดงอาการเจ็บออกอย่างปิดไม่มิด เฟย์มองแล้วได้แต่คิดสงสารอยู่ในใจ คงจะเจ็บน่าดูเลยสินะ
“ไหนขอฉันดูหน่อยค่ะ” คนตัวเล็กจับมืออีกคนมาดู ถือว่าแผลไม่ใหญ่มาก เธอหยิบเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์ขึ้นมาเพื่อเช็ดทำความสะอาดรอบรอยแผล
“ดะ เดี๋ยว” ฟลินต์ชักมือกลับอย่างไว้ แค่เห็นแอลกอฮอล์เขาก็พร้อมวิ่งหนี เอาผ้ามาพันเลยไม่ได้เหรอ ทำไมต้องทาแอลกอฮอล์ด้วย
“กลัว?”
“ไม่”
“งั้นก็ส่งมือมาค่ะ”
“เช็ดเลือดออกแล้วพันแผลเลยได้ไหม”
“เป็นผู้ชายใจเสาะสินะ”
“ว่าไงนะ?”
“เอามือมาค่ะ” มัวแต่นั่งถกเถียงกันอยู่แบบนี้เมื่อไหร่จะได้ทำแผลสักที กลัวว่าเลือดจะไหลหมดตัวก่อนน่ะสิไม่ว่า เฟย์เอื้อมมือไปดึงมืออีกคนมา ฟลินต์กำลังจะชักกลับอีกรอบเป็นต้องหยุดนิ่งเมื่อเจอสายตาดุ นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันเขายังยอมเธอขนาดนี้ ไม่อยากนึกภาพหากสองเราได้เป็นแฟนกันจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่คิดจริงจังอะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้คือทำให้หญิงสาวยอมรับเขาเป็นแฟนให้ได้ จากนั้นก็ถือว่าจบเกม เขาคือฝ่ายชนะ ยังไงเขาก็ต้องเอาชนะไอ้เพลิงกัลป์ให้ได้
“อ๊ะ” ปากหยักได้รูปร้องเสียงดังตอนที่สำลีไปโดนแผล นี่เธอกะจะฆ่าเขาให้ตายเลยหรือไงวะ!
“อดทนหน่อยสิ” ไม่รู้ว่าเขาไปทำอีท่าไหนถึงได้แผลมา ทั้งที่แก้วใบนั้นเธอจำได้ว่าวางมันไว้ด้านในสุด ทำไมมันถึงตกลงมาแตกได้ง่ายจัง แม้ในหัวจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เธอก็ไม่อยากไปปรักปรำว่าเขาทำโดยตั้งใจ เธอไม่มีหลักฐานจะไปกล่าวหาเขาได้ ยังไงก็แล้วแต่ ทำแผลเสร็จคงต้องให้เขากลับไปได้แล้ว เพราะเธอต้องการพักผ่อน
“ลองมาเป็นฉันสิ”
“ฉันไม่โง่ให้ตัวเองมีแผล”
“....” เธอด่าเขาสินะ ใช่แหละ เขาถูกด่าว่าโง่..
“เสร็จแล้วค่ะ”
“เจ็บจัง” พลางจับที่มือตัวเอง บอกเป็นนัยว่าไม่สามารถใช้มือข้างนี้ได้สะดวก
“ทีนี้คุณจะกลับได้ยัง”
“เธอไม่เห็นหรือไงว่าฉันเจ็บอยู่”
“เห็นค่ะ”
“แล้วจะรีบไล่ทำไม” คนเจ็บอยู่แท้ ๆ ยังจะไล่อีก ไม่มีน้ำใจเอาเสียเลยผู้หญิงคนนี้ ใจร้ายชะมัด
“แต่นี่มันห้องฉัน ฉันต้องการพักผ่อน”
“เธอก็นอนไปสิ”
“คุณจะบ้าหรือไง ใครมันจะนอนหลับลง” มีคนแปลกหน้าอยู่ในห้องกับตัวเอง ใครจะมีกะจิตกะใจนอนหลับได้อย่างสบายใจล่ะ
"แล้วเธอจะกลัวอะไร" ก็กลัวเขายังไงล่ะ ยังมีหน้ามาพูดอีก
"คุณไง" หญิงสาวตอบไปตามตรง นอกจากเขาตอนนี้เธอก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ฟลินต์เป็นผู้ชายคนแรกที่ได้เข้ามาอยู่ในห้องเธอ พ่อเลี้ยงหรือน้องชายเธอยังไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายเลยสักครั้ง แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน เขาตีมึนไม่สนเสียงด่าห้ามของเธอเลยสักนิดเดียว
"งั้นก่อนกลับฉันขอถามเธอคำหนึ่ง" เฟย์สบตาเพื่อรอฟัง
"อะไรคะ"
"เธอจะยอมให้ฉันจีบไหม" เขาเป็นผู้ชายที่แปลกอยู่เหมือนกัน ถ้าเราจะจีบใครสักคนเราต้องเดินไปบอกเขาด้วยเหรอว่าต้องการจีบ หรือเป็นเพราะเธอไม่เคยมีแฟนเลยดูว่ามันแปลกไป
"นี่คือเหตุผลที่ทำให้คุณมาอยู่ตรงนี้"
"จะว่าแบบนั้นก็ได้"
"แต่ฉันก็เคยบอกคุณแล้วนี่"
"เธอยังไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้จีบเลย"
"ฉันไม่รู้นะว่าการที่คุณเข้าหาเป็นเพราะสนใจฉันจริง ๆ หรือแค่มาหลอก ถ้าเป็นอย่างหลัง.. ช่วยล้มเลิกทุกอย่างแล้วกลับไปเถอะ"
"แล้วทำไมถึงคิดว่าฉันมาหลอก"
"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่คุณต้องการหรอก กลับไปเถอะ" เธอไม่อยากให้เขามาเสียเวลากับผู้หญิงแบบเธอ จากที่ฟังประวัติฟลินต์จากฟีสมา มันทำให้เธอคิดว่าเขาเองก็แค่ต้องการคู่นอนชั่วคราวเท่านั้น แม้ภายนอกเธอจะเป็นผู้หญิงเฉิ่มไม่ทันคน แต่ก็ใช่ว่าเธอจะโง่ให้กับทุกเรื่อง อย่างที่เคยบอกไป เธอรู้สึกดีกับเขาตั้งแต่แรกเจอ แต่จะไม่มีวันเอาตัวเองเข้าไปเจ็บปวดกับความรักเด็ดขาด เธอเห็นทุกคนมีรักแต่ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยความทุกข์ เธอเป็นคนไม่ศรัทธากับความรักมาตั้งแต่ในแต่ไร แปลกใช่ไหมล่ะ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่เคยมีรักแต่กลับกลัวความรักมันดูย้อนแย้งไปไหม เธอเห็นฟีสคบกับรุ่นพี่ที่เรียนมาด้วยกัน มีช่วงหนึ่งที่ทั้งคู่รักกันมากจนเธอคิดว่าพวกเขาคงแต่งงานมีลูกและสร้างครอบครัวด้วยกันอย่างมีความสุขในสักวัน สุดท้ายมันกลับไม่ใช่อย่างที่คิดเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาเพื่อเล่นสนุกกับความรู้สึกของเพื่อนเธอเท่านั้น ตั้งแต่นั้นมาฟีสปิดกั้นและไม่เปิดใจคบใครอีกเลย แล้วไม่ใช่แค่เพื่อนเธอแต่เป็นตัวเธอเองก็ด้วย เฟย์เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว โลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่คนเดียวมากกว่าหลายคน แค่คิดเรื่องที่จะมีแฟนเธอก็รู้สึกขนลุกและกลัวอยากบอกไม่ถูก แต่ถ้าหากว่ามันจะมีจริง ๆ ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ตอนนี้ เวลานี้ เธอยังไม่พร้อม ฉะนั้นเธอขออยู่เป็นโสดดีกว่า
"แล้วถ้าฉันบอกว่าชอบเธอที่เป็นเธอล่ะ"
"...." สิ้นประโยคคำพูดของฟลินต์ ทั้งคู่ต่างก็สบตากันนิ่งอยู่นาน ในขณะที่กำลังจ้องตากัน มันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างทำให้ใบหน้าดูดีโน้มลงไปใกล้กับใบหน้าของหญิงสาวมากขึ้น มากขึ้น จนในที่สุด..
จ๊วบ~ จ๊วบ~