พระสนมคนใหม่ 1

1167 Words
พิธีแต่งตั้งพระสนมคนใหม่ถูกจัดขึ้นภายในลานพิธีส่วนกลาง จิวฮองเฮามาถึงพิธีในงานไล่หลังไทเฮาหลีฮัวหลานไม่นานนัก ส่วนเหล่าพระสนมจะมีเพียงพระสนมมู่เซียนเท่านั้นที่มา เป็นเพราะพระสนมมู่เซียนมีตำแหน่งพระสนมเอกเท่ากับพระสนมเสี่ยวชุ่ย ทว่าพระสนมเสี่ยวชุ่ยไม่ชอบออกสังคม จึงไม่ได้ร่วมงานนี้ ซึ่งมียศสูงกว่าพระสนมคนอื่น นางจึงเป็นพระสนมเพียงคนเดียวที่ได้รับเกียรติร่วมในพิธีสำคัญ ฮ่องเต้จูหมิงมาถึงลานพิธีก่อนงานเริ่มเล็กน้อย การแต่งตั้งพระสนมวันนี้ ฮ่องเต้รู้ล่วงหน้าไม่กี่วัน อาจเป็นเพราะตามกฎของราชสำนัก ฮ่องเต้ไม่มีสิทธิ์เลือกพระสนมหรือแต่งตั้งพระสนม ทุกอย่างเป็นสิทธิ์ของฮองเฮา แต่ถ้าหากฮ่องเต้พอใจสาวใด หญิงสาวคนนั้นจะเป็นแค่นางในรับใช้ จะขึ้นเป็นพระสนมได้ต้องผ่านความเห็นชอบจากฮองเฮา หรือมีทายาทให้กับฮ่องเต้ เป็นที่รู้กันว่า การแต่งตั้งจางม่านอวี้เป็นพระสนมในวันนี้ ไม่ใช่ฮ่องเต้พอใจ และนางไม่ได้มีทายาทให้ฮ่องเต้ จิวฮองเฮาจึงใช้เหตุผลที่แต่งตั้งจางม่านอวี้ว่า เจ้าเมืองจางเฟยที่ปกครองเมืองหลานหยู หนึ่งในสี่เมืองใหญ่ของแคว้นจ้าน ได้ส่งลูกสาวคนสุดท้องมาเป็นเครื่องบรรณาการ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เมืองต่างๆ จะส่งลูกผู้หญิงเข้าวัง ทุกคนจึงเข้าใจว่า จางเฟยส่งบุตรสาวมาเป็นพระสนม เพื่อให้ตำแหน่งของตนเองมั่นคง จึงไม่มีใครสงสัยเรื่องที่อยู่ๆ ฮองเฮาก็มีคำสั่งนี้ สตรีในชุดสีแดงปักเลื่อมสีทอง สวมหมวกยศพระสนมชั้นสามเดินเข้ามาในลานพิธีที่กำลังมีการแสดงดนตรี ก่อนที่นางจะเดินเข้ามานั่งบนเก้าอี้ที่มีพิณวางอยู่บนโต๊ะ ความที่ระยะห่างจากแท่นที่ฮ่องเต้ ฮองเฮา ไทเฮาและพระสนมนั่งกับลานการแสดงมีความห่างพอสมควร ส่งผลให้พวกเขามองไม่เห็นหน้าจางม่านอวี้ชัดเจนมากนัก ว่าที่พระสนมจางม่านอวี้ลงมือเล่นพิณและทันทีที่เสียงพิณดังขึ้น มือของฮ่องเต้ที่กำลังหยิบจอกน้ำจัณฑ์ขึ้นดื่มถึงกับชะงัก มองนิ่งไปยังหญิงสาวที่กำลังบรรเลงเสียงพิณ ที่เขาจำเสียงพิณและท่วงทำนองได้ดีว่า ได้ยินมาจากตำหนักชิวเป่า เดิมทีเขาคิดว่าเป็นเสียงพิณจากนางกำนัลรับใช้คนใดคนหนึ่งที่ดีดพิณให้คนในตำหนักฟัง วันนี้เขาเพิ่งรู้ว่า เจ้าของเสียงพิณที่แท้เป็นว่าที่พระสนมของตน ฮ่องเต้จูหมิงยิ้มพอใจ ยกจอกสุราขึ้นจิบดื่มอย่างคนอารมณ์ดี และด้วยเสียงพิณนี้เอง ทำให้เขาอยากเห็นหน้าพระสนมคนใหม่ในระยะใกล้ อยากยลโฉมความงามว่า จะเทียบเท่าพระสนมคนอื่นหรือไม่ เสียงพิณของจางม่านอวี้สะกดคนฟังได้อยู่หมัด ฮ่องเต้จูหมิงแทบไม่มองนางระบำเลย สายตาจับจ้องไปที่คนดีดพิณตลอดเวลา สายตาของฮ่องเต้เต็มไปด้วยความชื่นชมในความเก่งของว่าที่พระสนม และด้วยเสียงพิณบาดอารมณ์นี้เอง ทำให้ฮ่องเต้คิดว่า หากมีเสียงดนตรีของนางขับกล่อมก่อนนอน เขาคงมีความสุข นอนหลับฝันดีแน่นอน เมื่อการแสดงเสร็จสิ้นก็ถึงขั้นตอนสำคัญ จางม่านอวี้ลุกขึ้นยืนก้าวเดินมาหยุดตรงตีนบันได หลิวกงกงนำแท่นป้ายสีดำที่มีตัวอักษรเขียนชื่อพระสนมจางม่านอวี้ไว้ นางจะต้องนำแท่นป้ายนี้ขึ้นไปให้ฮ่องเต้ เมื่อฮ่องเต้รับป้ายนี้นั่นถือว่า จางม่านอวี้จะเป็นพระสนมทันที นางก้าวเดินขึ้นไปบนบันไดราวสามสิบขั้น ความอภิรมย์ของฮ่องเต้ดูเหมือนถูกตัดด้วยคมมีด เมื่อเขาเห็นใบหน้าจางม่านอวี้ในระยะสายตา แล้วยิ่งนางเดินเข้ามากใกล้ ใบหน้าฮ่องเต้ตึง เขาแทบไม่มองว่าที่พระสนมคนนี้เลย เป็นเพราะความงามไม่มีความโดดเด่น ใบหน้านางราบเรียบไม่แสดงออกถึงความดีใจที่ได้รับตำแหน่งนี้ ยิ่งทำให้ใบหน้าจางม่านอวี้ไม่ชวนมอง แม้ว่าจะไม่พอใจกับความงดงาม ฮ่องเต้ก็จำเป็นต้องรับแท่นป้ายที่จางม่านอวี้ส่งให้ หลังจากนั้นพระสนมจางม่านอวี้ทำความเคารพฮ่องเต้ จิวฮองเฮา ไทเฮาหลีฮัวหยาน ก่อนจะเดินไปทำความเคารพพระสนมมู่เซียน ที่มองพระสนมคนใหม่ของฮ่องเต้ ตาค้าง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นจางม่านอวี้ และนั่นทำให้นางย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์วันนั้น น้ำเสียงรวมถึงใบหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยความเศร้าโศก ยามเมื่อเอ่ยถึงวันมะรืนที่จะต้องตกเป็นของชายที่ตัวเองไม่ได้รัก แล้วไม่มีใครช่วยนางได้ ตอนนี้พระสนมมู่เซียนรู้แล้วว่า วันนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ ความสงสารและเห็นใจเกิดขึ้นในความรู้สึกของมู่เซียน เพราะนางมั่นใจว่า ด้วยหน้าตาของจางม่านอวี้ ฮ่องเต้ไม่มีวันเหลียวมองแน่นอน มีพระสนมและนางในถวายตัวหลายคนที่สวยกว่านี้หลายเท่า ฮ่องเต้ยังไม่ชายตาแล อนาคตของจางม่านอวี้ในวังหลวง คงหนีไม่พ้นความเดียวดาย ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดที่สุดของคนเป็นพระสนม จางม่านอวี้ทำสีหน้าตกใจเมื่อเห็นพระสนมมู่เซียน นางต้องทำให้มู่เซียนรู้สึกว่า เป็นเรื่องน่าตกใจที่เห็นมู่เซียน ซึ่งจางม่านอวี้ก็ทำได้ดี ทั้งสีหน้าและแววตา บอกให้มู่เซียนรู้ว่า อีกฝ่ายตกใจจริงๆ พระสนมจางม่านอวี้ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับการสายตาและท่าทางของฮ่องเต้จูหมิงที่แสดงออกมาชัดเจนว่า ไม่พอใจ เป็นการดีเสียอีกที่ฮ่องเต้ไม่สนพระทัย นางจะใช้ข้อนี้ตีสนิทกับมู่เซียน นางเชื่อว่ามันคือใบเบิกทางที่จะนำพาความสำเร็จมาให้ และเมื่อถึงวันนั้น นางจะได้เป็นอิสระ หลุดพ้นตำแหน่งที่ไม่สมปรารถนา ทว่าจางม่านอวี้ไม่รู้เลยว่า วันนี้คือวันเริ่มต้นของสงครามความรัก สงครามของการชิงดีชิงเด่น และสงครามของอำนาจ สงครามหลังคงหนักสุด เพราะนางต้องต่อสู้กับคนกระหายอำนาจที่ซ่อนเร้นอยู่ในคราบของคนดี ในขณะที่พิธีแต่งตั้งพระสนมจางม่านอวี้กำลังดำเนินอยู่นั้น ตรงประตูทางตอนใต้ของลานพิธี บุรุษร่างสูงใหญ่ในชุดขุนนาง ยืนมองพระสนมจางม่านอวี้ด้วยสายตาเจ็บปวด มือเขาถือผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยที่ปักชื่อหญิงสาวที่ตนรักสุดหัวใจไว้ เฉินต้าเหว่ยก้มมองดูผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น ก่อนจะเงยหน้ามองพระสนมจางม่านอวี้ ที่นับจากนี้ นางจะอยู่ไกลเกินมือเขาเอื้อม แต่ไม่ว่าจะห่างไกลเพียงใด เขาก็มีหน้าที่ปกป้องดูแลนาง และคอยช่วยเหลือให้นางทำตามแผนได้สำเร็จ แม้ว่าจะปวดร้าวหัวใจเพียงใด เขาทนได้ ขอเพียงได้อยู่ดูแลพระสนมจางม่านอวี้เป็นพอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD