หลักฐาน

1553 Words
เหตุการณ์ในห้องหนังสือ ล้วนถูกถ่ายทอดให้กับนายหญิงของจวน หลังจากได้รับฟังก็ทำให้เกาฮูหยินหัวเราะเยาะด้วยน้ำเสียงเบิกบาน “ฮ่า ฮ่า ..คำกล่าวที่ว่า คนโง่ที่ย่อมไม่รู้ว่าตนเองโง่..นั่นมีจริง ๆ ไม่ประเมินตนเอง หากใครก็สามารถเข้าไปเรียนที่สำนักศึกษาได้อย่างเชิดหน้าชูตา ตระกูลต่าง ๆ จะเลือกให้บุตรหลานของตนเองร่ำเรียนในเรือนหรือ” ได้ยินเช่นนั้น หลัวมามาก็พลันตกใจเอ่ยขึ้น “แย่แล้ว! เช่นนี้ นางจะไม่ทำให้จวนเสนาบดีเสื่อมเสียหรือเจ้าคะ” “เสื่อมเสียก็ช่างปะไร อย่างไรบุตรชายและบุตรสาวของข้าก็ไม่ขายหน้า ดีเสียอีกใช้จังหวะนี้ เหยียบนางให้จม” นายเป็นเช่นไรบ่าวย่อมเป็นเช่นนั้น หลัวมามาก็เบ้ปากดูแคลนอีกฝ่ายเช่นกัน “บ่าวสงสารแต่คุณหนูกับคุณชาย ที่ต้องมาด่างพร้อยเพราะนางเจ้าค่ะ” หลัวมามา เอ่ยพร้อมเสียงถอนหายใจ “ดีเสียอีก ท่านพี่จะได้รู้ว่ากากับหงส์ต่างกันอย่างไร พรุ่งนี้เจ้าพานางไปจัดการให้นางสมัครเล่าเรียนให้เรียบร้อยอย่าให้ขาดตกบกพร่อง” หลัวมามา พยักหน้ารับคำสั่งแล้วกล่าวขึ้นต่อ “แม้นางจะไม่ให้เกียรติ ฮูหยินก็ไม่ถือสาหาความ ยังจัดการให้นางอย่างดี ในเมืองหลวงจะจุดตะเกียงหาฮูหยินเอกมีเมตตากับลูกอนุผู้หนึ่งยากยิ่งนัก ความดีของฮูหยินไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจมองข้ามเจ้าค่ะ” เกาฮูหยิบละเมียดจิบน้ำชาในมือดวงตาเป็นประกายด้วยความรู้สึกเหนือกว่า “ข่าวลือเช่นนี้ทำให้เหล่าคุณหนูตระกูลใหญ่สนใจไม่น้อย แม่สามีที่จิตใจงดงามย่อมเป็นที่หมายปองเช่นกัน” “บ่าวทราบแล้ว จะจัดการให้เรียบร้อยเจ้าค่ะ” ยามค่ำคืนบรรยากาศแสนสงบและอ่อนโยนดั่งสระน้ำนิ่งไร้ระลอกคลื่น ผู้คนเริ่มเข้านอนเตรียมความพร้อมสำหรับวันพรุ่งอย่างมีความหวัง ทว่าเฉิงยังไม่อาจจะข่มตาลงนอนได้ เขายืนอยู่ตรงระเบียงพร้อมทอดสายตาเหม่อมองเบื้องบนท้องฟ้าแสงดาวระยิบระยับ “ไปสืบมาว่า ผู้ใดกันแน่เป็นผู้วาดภาพเหล่านี้” เมื่อได้เห็นภาพวาดจิตใจของเขาฟุ้งซ่านจนเกือบควบคุ้มไม่อยู่ เรื่องที่ผุดขึ้นมา มันร้อนรุ่นในอกไม่อาจจะสลัดออกจากความคิดไปได้ จงถังรีบกล่าวรายงานทันที “เรียนท่านอ๋อง ตั้งแต่วันแรกที่ท่านอ๋องจ้องมองนางจากระเบียงหอซูซู ข้าน้อยได้ส่งคนติดตามนางตั้งแต่วันนั้นแล้วขอรับ” กระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน หันมามองคนสนิทแล้วเอ่ยขึ้น “เช่นนั้น สายของเจ้าก็สืบได้ว่า นางเป็นผู้วาดรูปเองทั้งหมดและฝีมือพัฒนาขึ้นจริงภายในเวลาเพียง 1 วันอย่างนั้นรึ” “เป็นเช่นนั้นขอรับ” จงถังยืนยันคำกล่าวของเฉิงอ๋อง สายสืบของเขานั่งมองนางวาดภาพทุกภาพทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ใช่ฝีมือผู้อื่นแน่นอน เฉิงอ๋องไม่กล่าววาจา เขาดึงใบหน้ากลับแล้วแหงนกลับขึ้นไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง ใบหน้าของหญิงสาวซูอินผุดขึ้นมา นัยน์ตาสุกใสดุจดวงตะวันเปล่งประกายวาวเขารู้สึกถูกชะตายิ่งนัก เวลาประสานสายตาดวงตาของนางสว่างวาบทั้งตกใจและเศร้าใจ ทว่ามิอาจจะคิดต่อความคิดนี้ประหลาดจนเกินไป จงถังเห็นนายมีสีหน้ากลัดกลุ้มจึงไม่อาจจะนิ่งเฉย จึงรวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องขอข้าน้อยพูดสักประโยคเถิด” เฉิงอ๋องปรายสายมองมาเป็นเชิงอนุญาต จงถังจึงรีบพูด “ไยต้องกังวลเรื่องราวที่ผูกพันในอดีตขอรับ คุณหนูซูซูย่อมต้องการเห็นท่านมีความสุขเช่นเดียวกัน” นัตน์ตาของเฉิงอ๋องพลันหลุบต่ำลง โชคดีที่จงถังไม่รู้ถึงความคิดของเขา เรื่องนี้หาใช่จัดการได้ยาก หากแม้สงสัยก็หาหลักฐานทุกอย่างย่อมชัดเจนขึ้นมาเอง ชายหนุ่มจึงเอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไปรวบงานงานภาพวาดและลายพู่กันของจางซูอินเมื่ออดีตมาทั้งหมด” เมื่อสั่งการออกไปแล้วเฉิงอ๋องก็รู้สึกมีความหวัง มุมปากประดับรอยยิ้มจาง ๆ จงถังเห็นเฉิงอ๋องมีชีวิตชีวาขึ้นมาก็รับคำสั่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแฝงโล่งอก ยามเช้า เสิ่นอินตื่นตั้งแต่เช้ามือ หลังจากล้างหน้าม้วนปากก็ออกมานั่งรับแสงแดดที่ระเบียง ยามพระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นแสงตะวันยามอรุณสาดส่องแสงทำให้นางรู้สึกมีพลังขึ้นมา ทว่าเมื่อทอดสายตามองไปยังทางเดินก็เห็นกลุ่มสาวใช้ เดินนำด้วยหลัวมามา กำลังปรี่ตรงเข้ามา ทำให้เสิ่นอินรู้สึกหวาดหวั่นหรือเกาฮูหยินจะส่งคนมาห้ามนางไม่ให้ไปสำนักศึกษา ใบหน้าวิตกของเสิ่นอินทำให้หลัวมามารู้สึกดูแคลน ไร้ซึ่งความสุขุมเหลือเกิน “เรียนคุณหนูเจ็ด วันนี้บ่าวได้รับคำสั่งจากฮูหยิน” หลัวมามาตั้งใจหยุดเอ่ย เพื่อดูสีหน้าอีกฝ่ายอย่างรู้สึกสนุก “เรื่องอะไร เจ้ารีบเอ่ยมาเดี๋ยวนี้” เสิ่นอินถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน อย่างไรนางก็เป็นเพียงเด็กสาวชาวบ้านทั้งในครอบครัวและสำนักศึกษาล้วนไม่เคยต้องเผชิญกับการกลั้นแกล้งเช่นนี้มาก่อน ท่าทีของเสิ่นอินยิ่งทำให้หลัวมามาพอใจ ยกมือขึ้นทาบอกจีบปากจีบคอเอ่ย “คุณหนูเจ็ด ไยท่านต้องถามบ่าวด้วยน้ำเสียงเช่นนี้เล่า บ่าวตกอกตกใจหมด เรื่องที่จะเอ่ยพลันลืมไปสิ้น” วาจานี้ของหลัวมามาทำให้เสิ่นอินเริ่มรู้สึกว่าตนเองโดนหยอกล้อยุแหย่ให้ขุนเคืองใจ จึงดึงสติให้ตนเองสงบลง แล้วค่อยเอ่ยขึ้น “หากหลัวมามาไม่เอ่ยก็ไม่เป็นไร ทว่าตอนนี้ข้าไม่อาจจะรั้งอยู่ฟัง” พูดเสร็จเสิ่นอินก็ลุกขึ้น เตรียมตัวไปสำนักศึกษาอย่างไรนางก็เป็นคุณหนูของจวนมารยาทที่พึ่งกระทำนางก็ทำไปแล้ว เมื่อก่อนที่นางยังนอบน้อมอ่อนหวานเพราะคิดว่าพวกเขาจะละเว้นนาง คนต่างอยู่ ทว่าท่าทีในวันนี้ดูท่าแล้วอย่างไรพวกเขาก็มองเป็นศัตรูอยู่ดี เช่นนั้นก็ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำแล้ว หลัวมามาเห็นอีกฝ่ายเดินหนีไปก็รีบเดินไปขวาง “คุณหนูช่างใจร้อยเสียจริง บ่าวมาในวันนี้เพราะ ฮูหยินมีเมตตาในเมื่อท่านอยากไปจะเรียนที่สำนักศึกษาจึงได้ส่งบ่าวมาดูแลและจัดแจงเจ้าค่ะ” คำพูดล้วนอ่อนหวานแต่ความจริงใจไม่ได้ เสิ่นอินใคร่ครวญในใจหากปฏิเสธก็ไม่แคล้วกลายเป็นเด็กแข็งกร้าวไร้มารยาทต่อความหวังดีของผู้อาวุโส หากตอบรับเกาฮูหยินก็ได้รับคำชมว่าใจกว้างมีเมตตาต่อลูกอนุ หึ! ตอนนี้ข้าจะยอมพวกนางไปก่อน “หลัวมามา ปกติท่านชอบพูดวาวกวนไปเช่นนี้หรือ หากท่านยังไม่เอ่ยออกมา ชักช้ามิทำให้ความตั้งใจของท่านแม่เสียเปล่าหรือไร แล้วยังจะทำให้ข้าเกือบกลายเป็นบุตรอกตัญญูเสียอีก” วาจาเฉียบคมของเสิ่นอินทำให้หลัวมามารู้สึกตกตะลึง ความคิดอ่านสะดุดรีบเอ่ยทันที “เป็นบ่าวที่ผิดเองเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็รีบไปกันเถอะ หากท่านยังชักช้าอีกจะทำการสิ่งใดจะสำเร็จไหมวันนี้” เสิ่นอินเดินนำออกไปโดยมีสายตาหลัวมามาจ้องมองด้วยความเครียดแค้นไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะโต้ตอบตนเองได้ หลัวมามาได้สั่งให้จัดเตรียมรถม้าไว้เรียบร้อย เมื่อมาถึงขณะที่นางกำลังจะเดินขึ้นตามเสิ่นอิน หญิงสาวกลับหันมาเอ่ย “เอ้ะ!! หลัวมามา ข้าอยากจะนั่งรถม้าคนเดียวท่านลงไปเดินได้หรือไม่” สีหน้าของหลัวมามา เข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแต่ไหนแต่ไรมา นางล้วนได้รีบเกียรติจากเหล่าคุณหนูไม่เคยได้เดินตามรถม้าแม้แต่ครั้งเดียว หนึ่งในสาวใช้ที่มากับหลัวมามาก็เอ่ยขึ้น “คุณหนูเจ็ดท่านจะทำเช่นนี้ไม่ได้” เสิ่นอินปรายตามองดูสาวใช้คนนั้นอย่างไม่ยี่หร่า “ข้านั่งรถม้าคนเดียวมาโดยตลอด ชิงชิงก็ไม่เคยบอกว่าข้าทำไม่ได้ หรือว่าที่ผ่านมาข้าทำผิดหรือนี่” แขนเสื้อของเสิ่นโดนชิงชิงกระตุกอยู่เบา ๆ ห้ามปรามนาง ความจริงนางไม่เคยให้ชิงชิงเดินสักครั้ง ทว่าครั้งนี้นางแค่อยากเตือนสติว่านางเป็นคุณหนูของจวนเช่นเดียวกัน หากนางให้หลัวมามาเดินเท้าย่อมได้คำครหา เป็นสตรีโหดเหี้ยมอำมหิต เพราะหลัวมามาอายุมากแล้วแถมยังนับได้ว่าเป็นผู้อาวุโสของจวนการกระทำเช่นนั้นย่อมมีแต่ผลเสียกับชื่อเสียงของตนเอง จะแค่เอาคืนบางแค่นั้นเอง “ในเมื่อเจ้าบอกว่าข้าทำเช่นนั้นไม่ได้ เช่นนั้นหลัวมามาก็ขึ้นมาเถอะ” หลัวมามากล่าวขอบคุณแล้วหันไปขึงตาให้สาวใช้ที่มากับตนเอง คุณหนูเจ็ดในวันนี้ทำให้นางต้องมองใหม่อย่างลึกซึ้งกว่านี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD