ตอนที่ 16

3808 Words
เทียนเทพแปลกใจเมื่อเห็นมารดาอยู่กับธูปหอม ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งเขากับกอหวายกำลังมารับประทานอาหารหลังจากเพิ่งดูภาพยนตร์ นาราเหลือบไปเห็นลูกชายกับกอหวายถึงกับยิ้มกว้างทันที กอหวายพนมมือไหว้นาราและธูปหอม เทียนเทพยิ้มรู้สึกดีใจที่เห็นมารดามีโอกาสได้ใช้เวลากับธูปหอม “ไม่ยักรู้ว่า นัดน้าธูปไว้” เทียนเทพพูแหย่มารดาที่ยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร ธูปหอมเองก็เช่นกัน “แม่ต้องรายงานเราด้วยหรือ ไปพากันไปได้แล้วไปหาอะไรทานเสีย เลยเวลามื้อเที่ยงมาสองชั่วโมงกว่าแล้ว” นาราบอกกับ ลูกชาย กอหวายยิ้มน้อยๆ ให้ธูปหอมที่ไม่ได้พูดหรือปฏิเสธอะไรเรื่องการนัดเจอกับนารา นารามองตามลูกชายกับกอหวายที่เดินไปยังร้านอาหารที่อยู่เยื้องกับร้านกาแฟที่ตัวเองอยู่กับธูปหอม ซึ่งไม่มีท่าทางสนใจ อะไรกอหวายสักเท่าไรนัก “เทียน จริงจังกับกอหวายมากเลยทีเดียว เราน่าจะได้ลูกสะใภ้คนนี้ล่ะ” นาราเอ่ยชวนพูดคุย ธูปหอมเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ “บังเอิญดีแท้” ธามพูดขึ้น เมื่อเห็นนารานั่งอยู่กับธูปหอม “ธุระเรียบร้อยแล้วหรือคะ” ธูปหอมถามธาม “จ้ะ ไปหรือยัง” ธามรู้เรื่องของธูปหอมกับนาราอย่างละเอียดไม่คิดว่าจะได้เจออีก แต่ข่าวที่ว่าหย่าร้างแล้วท่าจะเป็นจริง เพราะ ได้ยินธูปหอมบอกอยู่เหมือนกันว่าไปที่ห้องสมุดหลายครั้งแล้ว “เราไปก่อนนะ” ธูปหอมบอกและเดินออกไปก่อน “อย่าหวังจะได้คืน ผมได้มาแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เอาไปปู้ยี่ปู้ยำทำให้เสียใจอีกไม่ได้ อ้อแล้วอย่าวุ่นวายกับคนของผมนะ ครับ ไม่อย่างนั้นจะหาว่าไม่เตือน ผมไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเสียงอะไร แต่อาจารย์หมอน่าเป็นห่วงมากกว่านะครับ” ธามพูดจบรีบเดินตาม ธูปหอมออกไป “ชอบผู้หญิง อย่างไรเสียผู้หญิงอย่างฉันน่าจะมีภาษีกว่า” นารายิ้มมองตามธามที่โอบไหล่ของธูปหอมระหว่างเดินไปด้วยกัน กอหวายนั่งฟังเรื่องของนารากับธูปหอม ซึ่งเทียนเทพกำลังเล่าทำให้หวนนึกถึงเรื่องที่ธูปหอมเคยบอกว่า เสียใจมาหลายครั้งเหมือนมีภูมิคุ้ม กันความเจ็บปวด แต่กอหวายยังไม่เคยเจอความเสียใจจากความรักเลย สักครั้งและธูปหอมอยากเปิดโอกาสให้กอ หวายได้ใช้ชีวิตของตัวเอง ซึ่งก็ คือ การได้คบหาดูใจกับชายหนุ่มที่ดูดี และทางครอบครัวค่อนข้างเห็นด้วย หากจะคบหากันจนถึงขั้น แต่งงาน “หมอเทียนไม่แปลกใจหรือคะ ตอนแม่บอกว่ารักน้าธูป” กอหวายถามเทียนเทพที่เพียงแค่ยิ้มให้ “พ่อผมกับแม่พูดดีกันนับครั้งได้ ไม่รู้ทำไมถึงแต่งงานแล้วอยู่กันจนแก่ แต่แม่บอกกับผมนะว่า พยายามปรับตัวเพราะอยากให้ ลูกมีพร้อมไม่ว่าจะเรื่องหน้าที่การงานหรือครอบครัว จนกระทั่งไม่ไหวท่านมาปรึกษา ซึ่งผมเห็นด้วยเรื่องการหย่าร้าง หวายคิดว่าการ ตั้งชื่อลูกว่า เทียน ไม่เกี่ยวอะไรกับอดีตคนรักที่ชื่อ ธูป เลยหรือ” เทียนเทพถามกอหวาย “แม่ของหมอคงรักน้าธูปมาก” กอหวายบอก “ครับ แต่น้าธูปท่าทางจะใจแข็ง แม่บอกว่า แม่ทำผิดกับน้าธูปเอา ไว้มาก แค่ขอโทษคงไม่พอเลยอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับ น้าธูปอยากทำให้น้าธูปมีความสุข การมาดื่มกาแฟกัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ว่าไหม” “คงอย่างนั้นค่ะ” กอหวายถอนใจเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นธูปหอมเดินอยู่กับธามที่โอบไหล่อยู่ จึงรีบชวนเทียนเทพหันมาสนใจ อาหารที่วางอยู่ตรงหน้า ถ้าเทียนเทพเห็นเข้าไม่รู้จะคิดอย่างไร เพราะเพิ่งแสดงท่าทางดีใจที่เห็นธูปหอมอยู่กับนารา กอหวายยิ้มๆ กับการได้พบเจอธูปหอม โดยบังเอิญค่อนข้างบ่อย หากจะว่าเป็นพรหมลิขิตคงคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียว แต่รอยยิ้มแรกที่ได้เห็นคืนนั้นยังติดตาตรึงใจอยู่จนถึง ณ เวลานี้ ยิ่งนึกถึงยามได้ใกล้ชิด โดยไม่มีอาภรณ์ติดกายยิ่งทำให้กอหวายออกอาการเขิน อายได้ทุกครั้ง “แก้มแดงเลย เผ็ดหรือครับ” เทียนเทพถามกอหวายที่ส่ายหน้า “เปล่าค่ะ ทานเถอะค่ะ” กอหวายอมยิ้ม เมื่อได้นึกถึงธูปหอมที่ แม้การพบเจอกันเมื่อสักครู่จะรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร แต่การ ได้เห็นธามเดินผ่านไปกับธูปหอมทำให้กอหวายสบายใจขึ้น ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน “ยายกอหวายถอยทัพเลยหรือ หลังจาก หมอนา คอตั้งกลับมา” “ธามก็ช่างว่านะ” ธูปหอมพูดต่อว่าธาม “นอกจากแม่จะมาเล่นงาน ตามมาด้วยแฟนเก่าที่เริ่มเทียวไปเทียวมาถึงกับถอยทัพ ไม่มีใครมั่นคงเท่าธามแล้วเนอะ” ธามพูด เข้าข้างตัวเอง ธูปหอมถึงกับส่ายหน้า แต่หวนนึกถึงท่าทางเงียบๆ ของกอหวายจากการได้พบเจอกันโดยบังเอิญทำให้อยากต่อว่า ความกลมของโลกใบนี้ที่ทำให้ต้องพบเจอกับกอหวาย ขณะเดียวกับที่พบกับนารา “ถึงได้รักธามมากกว่าใครไงล่ะ” ธูปหอมหัวเราะ “นึกว่ากอหวายจะตีกับแม่ กลายเป็นว่ายอมแพ้เสียงั้น ถ้าเป็นธาม คงหอบผ้ามาอยู่ด้วย” ธามบอกสิ่งที่ตัวเองคิด “ถ้าหวายรู้เรื่องเหมือนที่ธามรู้ ธามว่าหวายจะหอบผ้ามาหรือ” “ปากร้ายเหลือเกินรายนั้น ถ้าเจอตอนอยู่กับธูปมีหวังได้ลงไม้ลงมือกันบ้าง” ธามพูดต่อว่าเกื้อกูล “จะบ้าหรือไง เขาว่าอะไร ถ้าธูปไม่ได้เป็นอย่างที่เขาว่าไม่เห็นต้องเก็บเอามาคิดเลย แม่เขารักลูกเขาอยากให้ได้คนดีมาเป็นคู่ ชีวิตถือเป็นเรื่องธรรมดา ธูปดีไม่พอเขามาพูดกันท่าไว้ก่อนน่ะถูกแล้ว” ธูปหอมบอก “อายุ 30 แล้ว ปล่อยให้คิดเองเผชิญโลกเจอความรักด้วยตัวเองดีกว่า ถ้าบอกคนนั้นดีคนนี้ใช่พอแต่งงานไปเลวกลายเป็นคนไม่ ดีขึ้นมาเสียผู้ใหญ่กันพอดี ปล่อยให้เด็กมันเลือกเองไม่ดีกว่าหรือ หน้าที่ของผู้ใหญ่ คือ คอยประคับประคองให้ดี ไม่ใช่มาคอยห้ามคน อื่นไม่ให้ไปยุ่งกับลูกตัวเอง” ธามยิ้มๆ ให้ธูปหอม “มีคนธามคนเดียว ก็ดีแล้วล่ะ” ธูปหอมหยิกแก้มธามเป็นการหยอกเอินเจ้าตัวยิ้มน้อยๆ ให้ “แน่สิ ถึงได้อยู่ด้วยกันมาตั้งสิบกว่าปีนี่ไง” ธามมองดูรอยยิ้มจางๆ ของธูปหอมและท่าทางที่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “ถ้าเราเจอกันโดยบังเอิญเกิน 10 ครั้ง น่าจะเป็นพรหมลิขิตไม่ใช่ความบังเอิญที่ทำให้เราได้เจอกัน” ธูปหอมยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึง สิ่งที่ตัวเองคิดหลังจากที่เพิ่งได้เจอกอหวายโดยบังเอิญ ครั้งแรกที่งานเลี้ยงรุ่น ครั้งที่สองที่บ้านหลังเก่าของลุงบุญและวันนี้ที่เพิ่งได้ พบกัน กอหวายได้รับการติดต่องานจากภัทรา เรื่องการถ่ายแบบโฆษณาเสื้อผ้า ซึ่งมีการเพิ่มชุดเข้าไปในเซ็ตเดียวกับที่ถ่ายคราวก่อน และสถานที่ ก็คือห้องสมุดของธูปหอม เจ้าตัวยิ้มกว้างทันทีและตกปากรับคำง่ายดายต่างจากที่อีกสามสาวคิดว่าน่าจะอิดออด หลังจากการติดต่องานกลับมาอยู่ที่ตัวเองทำให้คนที่รู้เรื่องของกอหวายกับธูปหอมคิดว่า คงมีปัญหากันมากพอสมควร โดยเฉพาะใบพลูกับสู่ขวัญที่รู้เรื่องมารดาของกอหวายไปหาธูปหอมที่ห้องสมุดจากปากของภัทรา เสียงกดชัตเตอร์ดังระรัว ขณะที่กอหวายค่อยๆ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ เพื่อให้เข้าจังหวะกับช่างภาพ ซึ่งก็คือ ใบพลูที่ชื่น ชมความเป็นมืออาชีพของกอหวายที่ไม่ได้พะวักพะวงสนใจอะไรนอกจากงาน “ตอนขวัญมีปัญหากับพลูยังยิ้มแห้งกว่านี้เลย” สู่ขวัญพูดขณะมายืนอยู่ข้างใบพลูและภัทรา “คิดว่าแม่เสือจะลงมาหาลูกแกะไหม” ภัทราเหลือบมองไปที่ห้องทำงานของธูปหอมที่มาทักทายตอนมาถึง ก่อนจะขอตัวไปทำ งาน “ลูกแกะทำเป็นไม่สนใจ หรือแผนเราอาจไม่ได้ผล” สู่ขวัญพูดขึ้น “เท่าที่คุยกับธูป เขาคิดดีนะ ห่วงหวาย ห่วงความรู้สึกครอบครัวของหวายด้วย หวายได้คุยแล้วด้วย บางทีอาจต้องรอเวลาที่ เหมาะสม” “รอนาน หมอขอแต่งงานก่อนพอดี” สู่ขวัญพูดขึ้น ใบพลูยิ้มๆ เมื่อได้ยินการสนทนาของภัทรากับสู่ขวัญ “เราอาจห่วงมากเกินไปก็ได้ค่ะ เหมือนไม่ได้โกรธอะไรกัน แค่กลัวว่าถ้าเจอกันจะทนแรงดึงดูดของกันและกันไม่ไหวมากกว่า แต่ทำไมพี่ธูป ถึงไม่ลองคบแบบเงียบๆ ไปหาที่คอนโดก็ได้ วัยของสองคนนั้นไม่มีคนคิดหรอกค่ะว่าเป็นแฟนกัน น่าจะคิดว่าเป็นแม่นะ พลูว่า” ใบพลูบอก “แม่หวายเขาเป็นเพื่อนกับธูป” ภัทราบอกใบพลูกับสู่ขวัญ “บางทีอาจมีเรื่องอะไรกันมาก่อนก็ได้นะคะ จู่ๆ จะเดินมาบอกไม่ ให้ยุ่งกับลูกตัวเองซะเฉยๆ พี่ธูปไม่รู้ไปคุยกับหวายท่าไหน ถึง เงียบเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้แบบนี้” สู่ขวัญหันไปมองดูกอหวายก่อนจะเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเองด้วยการถ่ายภาพคู่ กอหวายซื้อขนมกับของอื่นๆ มา จึงค่อยๆ ทยอยขนเอาเข้ามาไว้ที่ห้องอาหารด้านหลังห้องสมุด หลังจากทีมถ่ายโฆษณาแยก ย้ายกันกลับไปแล้ว ธูปหอมลงมาส่งภัทรา ใบพลูกับสู่ขวัญและทีมงาน แต่ไม่เห็นกอหวายเลยแปลกใจที่ไม่ได้มาร่ำลาและไม่ได้ ทักทายตอนที่มาถึง เพราะพอมาถึงถูกพาตัวไปแต่งหน้าทำผมเตรียมตัวถ่ายแบบทันที กอหวายมองดูทุกอย่าง ซึ่งถูกวางและจัดเก็บเข้าที่เพราะเคยมาช่วยเจ้าหน้าที่จัดของทำให้รู้ว่า ต้องจัดวางอะไรไว้ตรง ไหนอย่างไร ขณะรินน้ำร้อนใส่แก้วมองหาช้อนสำหรับชงกาแฟที่ไม่ได้วางอยู่ที่เดิมมองหาจากโต๊ะที่เคยมีอยู่ไม่เห็น จนกระทั่งมีคนมา ยืนอยู่ด้านหลังเอื้อมมือมาช่วยคนกาแฟในแก้วให้ การมายืนด้านหลังและเอื้อมมือมาทำให้เหมือนการโอบกอดกอหวายเอาไว้จาก ทางด้านหลัง “ภัทไม่จ่ายสตางค์ให้หรือ ถึงต้องมากินกาแฟห้องสมุด” ธูปหอมถามโดยเอาคางเกยไปที่ไหล่ของกอหวาย “ไม่รู้ว่าหวง ไม่ทานก็ได้ค่ะ” กอหวายพูดขึ้น แต่กระดุกกระดิกไม่ ได้หรือเพราะไม่อยากเคลื่อนไหวไปจากตรงนั้นกันแน่ กอ หวายคิดและหยุดยืนนิ่งหวังว่า ธูปหอมจะขยับถอยห่างออกไป แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด “ตัวยังไม่หวงเลย จะมาหวงอะไรกับของกิน” ธูปหอมพูดขึ้นและรวบเอวกอหวายเอาไว้กระชับให้แน่นขึ้นเล็กน้อย “หวายอุตส่าห์แอบเอาของมาเก็บและจะรีบออกไป แล้วดูที่น้าธูปทำกับหวายสิ” กอหวายพูดต่อว่าธูปหอมที่กระชับอ้อมกอด ให้แน่นขึ้นอีก “มีความสุขดี ใช่ไหม” ธูปหอมกระซิบถาม “ตอนนี้ หรือตอนไม่เจอกันล่ะ” กอหวายถามกลับ “ถ้าวันไหนรู้สึกว่าไม่มีความสุข น้าอยู่ที่นี่เสมอกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ ถึงมีความสุขก็มาได้เหมือนกัน” ธูปหอมพูดจบรีบคลายอ้อม กอดออกทันที แต่แรกเมื่อเห็นกอหวายตั้งใจว่า จะเดินหนีไปไม่เข้ามาหา แต่กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ก็เข้ามากอดเอาไว้แล้ว หรือเพราะ ความรู้สึกครั้งนี้ต่างจากความรักครั้งที่ผ่านมาซึ่งผ่านมานานนับ 10 ปี ธูปหอมยิ้มจางๆ เมื่อคิดทบททวนแล้วจึงรีบเดินหนีออกมา แม้กอ หวายจะรีบหันมาก็ไม่ทันเสียแล้ว กอหวายยิ้มน้อยๆ มองตามธูปหอมที่เดินกลับเข้าไปในห้องสมุดคำพูดที่เพิ่งได้ยินทำให้กอหวายรู้ว่า ธูปหอมพูดออกมาจากใจ ทำให้อุ่นใจมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น กอหวายเชื่อว่ายังมีธูปหอมที่จะอยู่เคียงข้างไม่ว่าในสถานะใดก็ตาม “ยิ่งอยู่ห่าง ยิ่งรู้เลยว่ารักมากขนาดไหน” กอหวายบ่นพึมพำ กอหวายกลับบ้านพร้อมรอยยิ้มสดใส จอมทัพเห็นเข้าเลยยิ้มตามเพราะได้เห็นความสุขจากประกายตาวิบวับของลูกสาว “หนุ่มขอแต่งงานแล้วหรืออย่างไร” จอมทัพถามกอหวาย “ไปทำงานมาค่ะ พ่อ งานของห้องเสื้อภัทราถ่ายเพิ่มสองสามชุด” “ถ่ายที่ห้องสมุด หรือ” จอมทัพถามลูกสาว “ทำไมรู้ล่ะคะ” กอหวายถามเสียงอ่อยๆ เพราะไม่อยากให้มารดาได้ยินการพูดคุยเรื่องสถานที่ที่เพิ่งไปทำงานมา “หวายยิ้มสวย เวลากลับจากห้องสมุด สวยต่างจากปกติที่เคยเห็น ความสุขฉายแววออกมาจากดวงตาเลยล่ะ” จอมทัพบอก “ได้เจอน้าธูป แป๊บนึงค่ะ” กอหวายยิ้มสดใส เมื่อได้พูดถึงธูปหอม “ใครเจอธูปยิ้มได้ทั้งนั้น พ่อเวลานึกถึงยังยิ้มเลย” “แม่ได้ยินเข้ามีหวัง โดนเล่นงานทั้งพ่อทั้งลูกแน่ค่ะ” กอหวายไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่องระหว่างมารดากับธูปหอม ถึงแม้ผ่านมานานมากกว่าอายุของตัวเอง แต่การแสดงออกของมารดาค่อนข้างชัดเจนว่าเคืองธูปหอมอยู่ค่อนข้างมาก ถึงไม่อยากให้กอหวายไปมาหาสู่ด้วย “พ่อโดนเอ็ดมาทั้งชีวิต ถ้าญาติดีกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หวายคงไม่ลำบากใจขนาดนี้” จอมทัพนึกสงสารลูกสาว “ไม่ลำบากหรอกค่ะ พ่อ หวายเข้าใจความห่วงใยที่แม่มีให้ ถ้าจะให้มาเข้าใจทุกเรื่องในชีวิตหวาย แม่คงลำบากใจเหมือนกัน” กอหวายบอกเพราะไม่อยากให้บิดากังวลใจไปด้วยอีกคน เกื้อกูลสบายใจที่ลูกสาวไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง โดยเฉพาะช่วงหลังไม่ค่อยไปที่คอนโดมีเนียมตามคำขอร้องกึ่งบังคับ ขนม กับเครื่องดื่มเย็นๆ ถูกนำมาวางให้สองพ่อลูกที่ยิ้มกว้างทันที “งานเสร็จเร็วเชียว ไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง” เกื้อกูลถามกอหวาย “ค่ะ ถ่ายซ่อมงานเก่า เราออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทานนอกบ้านกันดีกว่าไหมคะ” กอหวายเสนอความคิดเห็น เกื้อกูลกับจอมทัพ มองสบตากันก่อนจะพยักหน้าและยิ้มให้กับลูกสาว “ดีเหมือนกันนะ คุณ” จอมทัพบอกกับเกื้อกูล “ไปค่ะ แต่งตัวสวยๆ เลยนะคะ คุณเกื้อ” กอหวายพูดแหย่มารดาหากเป็นเมื่อก่อนจะเรียกว่า อาจารย์เกื้อ เพราะสอนหนังสือในมหาวิทยาลัย แต่ช่วงหลังท่านไม่อยากให้เรียกอย่างนั้น เพราะลาออกมาแล้ว “ไปคุณ ไปแต่งตัวกัน ลูกจะได้ไม่รอนาน ว่าแต่ไม่ลองโทรศัพท์ไปชวนหมอเทียน เผื่อว่างได้ขับรถตามไปสมทบ” จอมทัพหัน ไปมองสบตากับลูกสาวที่พยักหน้าเล็กน้อยและยิ้มเจื่อนๆ ให้บิดา ร้านอาหารริมแม่น้ำมีผู้คนบางตา เพราะเป็นวันธรรมดา ถึงแม้มีแดดค่อนข้างแรง แต่ลมที่พัดมาทำให้คลายร้อนไปได้มาก เกื้อกูลเลือกที่นั่งติดริมแม่น้ำ ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่จำนวนมากช่วยให้ร่มเงาและไม่ร้อนมากนัก ชายหนุ่มที่ตามมาสมทบทำให้เกื้อกูลยิ้ม เพราะลืมถามลูกสาวไปเลยว่า เทียนเทพจะมาร่วมรับประทานอาหารด้วยหรือไม่ “เชิญค่ะ หมอเทียน” เกื้อกูลเอ่ยเชื้อเชิญ เมื่อเห็นชายหนุ่มพนมมือไหว้ตัวเองและจอมทัพ เทียนเทพเดินไปนั่งข้างกอหวาย “ทานอะไรดีคะ” กอหวายถามเทียนเทพ “สั่งอะไรไปบ้างครับ” เทียนเทพถามกลับ จอมทัพหันไปมองเกื้อกูล ที่รอยยิ้มสดใสยิ่งกว่าเดิม เมื่อเห็นกอหวายกับเทียนเทพ พูดคุย โดยลูกสาวถามไถ่และช่วยดูแลเทียนเทพ “ท่าจะมีเรื่อง” ธามพูดขึ้น ขณะเดินเข้ามาเพื่อหาที่นั่งริมแม่น้ำ “เรื่องอะไร ชวนมากินข้าวไม่ใช่หรือคะ คุณธาม” ธูปหอมบอก “เปลี่ยนร้านดีกว่าไหม” ธามพูดขึ้น แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะรอยยิ้มของจอมทัพที่กำลังมองมาและธูปหอมหันไปเห็นเข้าพอดี “ไปเถอะ แค่ทักทายนิดหน่อยเอง ถ้าเราเดินหนีจะดูไม่ดี” ธูปหอมยิ้มให้ทั้งจอมทัพและเกื้อกูลที่ยิ้มน้อยๆ ให้ “สวัสดีค่ะ พี่จอม” ธูปหอมพนมมือไหว้ทักทายจอมทัพ เทียนเทพรีบหันมาทักทาย กอหวายก็เช่นกัน “นั่งด้วยกันสิครับ น้าธูป” เทียนเทพลุกขึ้นเดินไปเลื่อนเก้าอี้ท้ายโต๊ะใกล้กอหวายให้ธูปหอมที่หันไปมองสบตาธาม ซึ่งกำลัง เดินไปนั่งด้านที่เป็นหัวโต๊ะใกล้กับจอมทัพและเทียนเทพ เกื้อกูลจ้องมองลูกสาวด้วยแววตาดุๆ ธูปหอมทำเป็นไม่สนใจอะไร พูดคุยถามทุกข์สุขกับจอมทัพ โดยธามแนะนำตัวและพูดคุย กับจอมทัพเรื่องเกี่ยวกับตลาดหุ้น ซึ่งจอมทัพรู้จักธามเป็นอย่างดีว่าเป็นนักลงทุนมือดีที่ใครๆ ต่างรู้จัก กอหวายยิ้มน้อยๆ ให้ธูปหอม “บังเอิญ หรือนัดกัน” เกื้อกูลพูดลอยๆ จอมทัพเอื้อมมือไปจับมือภรรยาเอาไว้เป็นการห้ามปราม “ถ้าแม่ผมมาด้วยคงดีใจที่ได้เจอน้าธูป” เทียนเทพพูดขึ้น “แม่หมอเทียนรู้จักด้วยหรือ” เกื้อกูลถามด้วยความแปลกใจ “รู้จักกันดีครับ” เทียนเทพบอกเพียงแค่นั้น เพราะเรื่องราวที่มารดาเล่าให้ฟังไม่แน่ใจนักว่า คนอื่นๆ จะเข้าใจเหมือนที่ตัวเองเข้า ใจหรือไม่ เพราะบางทีความรักของคนเพศเดียวกัน บางคนไม่เข้าใจก็มี กอหวายตักกับข้าวใส่ให้ในจานของธูปหอมที่รีบบอกขอบคุณและเริ่มรับประทานอาหารท่าทางดูเป็นปกติมีพูดคุยกับคนอื่นๆ ที่ ร่วมโต๊ะบ้างยกเว้นเกื้อกูลที่นั่งหลังตรงคอยจ้องดูลูกสาวของตัวเอง “ถ้าคุณจอมสนใจเรื่องหุ้นล่ะก็ หากไปที่ห้องสมุดแล้วไม่เจอผมคุยกับธูปก็ได้ครับ คนนั้นน่ะเก่งแต่ไม่ค่อยอวด” ธามพูดยิ้มๆ จอมทัพได้ยินเข้าถึงกับแปลกใจ เพราะไม่เคยรู้มาก่อน “อย่างนั้นหรือ นึกว่าอ่านแต่หนังสือ” จอมทัพยิ้มให้ธูปหอมที่ยิ้มให้เช่นกัน “รวยจะตาย เก็งกำไรเก่งกว่าผมอีกครับพักหลัง” กอหวายหันมามองสบตากับธูปหอมที่ทำเป็นเฉยไม่ได้สนใจคำชมของธาม “ผัดเปรี้ยวหวานอร่อยดีนะ” เทียนเทพตักกับข้าวใส่จานกอหวาย ที่มองสบตากับธูปหอมและยิ้มจางๆ ให้ ธูปหอมมองดูกับข้าวตรงหน้าและตักใส่จานให้เกื้อกูล “กับข้าวของชอบของเกื้อทั้งนั้นเลย” ธูปหอมบอก เกื้อกูลถอนใจเพราะอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า คือ ยำส้มโอซึ่งหาทานค่อน ข้างยากและเป็นของชอบของตัวเองที่ไม่คิดว่า ธูปหอมจะยังจำได้ “ธูปจำแม่นนะ คุณ” จอมทัพพูดเสริม “แสดงว่า สนิทกันสิคะ” กอหวายถามแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “กินๆ เข้าไปจะมาถามอะไรเยอะแยะ” เกื้อกูลพูดดุลูกสาว “แม่กับน้าธูปเป็นเพื่อนกันหรือครับ” เทียนเทพถาม “เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน” เกื้อกูลบอก “โลกกลมมากเลยนะครับ น้าธูป” เทียนเทพยิ้มให้ธูปหอมที่เพียงแค่อมยิ้ม โดยไม่ได้หันไปมองดูเกื้อกูลที่รู้สึกอึดอัดกับการได้ พบเจอธูปหอมกับธาม โดยรายหลังถึงกับต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้ กอหวายนั่งยิ้มชำเลืองมองธูปหอมเป็นบางครั้ง การแสดงออกว่าไม่ได้อึดอัดอะไรกับการได้เจอเกื้อกูลและจอมทัพทำให้สบายใจมากขึ้น แม้เกื้อกูลจะแสดงให้เห็นว่า ไม่ค่อยชอบธูปหอมสักเท่าไร เพราะตักอาหารใส่ในจานให้ยังไม่ยอมรับประทานแถมเขี่ยเอาไว้ข้างจานด้วย ธูปหอมยิ้มน้อยๆ และพูดคุยเรื่องเก่าๆ กับจอมทัพที่ท่าทางดูจะมีความสุขที่ได้พบเจอเพื่อนรุ่นน้องที่ไม่ได้พบเจอกันมา 30 กว่า ปีเห็นจะได้ หากเทียบจากอายุของลูกสาว เพราะตอนแต่งงานเกื้อกูลห้ามไม่ให้เชิญ ธูปหอมมาร่วมงานด้วย กอหวายไม่อยากเพิ่มความไม่สบายใจให้มารดาเลยไม่ได้พูดคุย อะไรกับธูปหอม โดยทำเพียงแค่ดูแลช่วยหยิบจับและตัก อาหารให้เท่านั้น ภาพถ่ายของเทียนเทพกับกอหวายพร้อมครอบครัวฝ่ายหญิงถูกถ่ายโดยคนอื่นที่มารับประทานอาหาร และ กำลังถูกนำเสนอผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนต ซึ่งทำให้ถูกแพร่หลายออกไปอย่างรวดเร็ว โดยกอหวายและเทียนเทพไม่รู้ตัว แต่คนที่เห็นข่าว คือ นารา มารดาของเทียนเทพที่ยิ้มๆ เมื่อเห็นธูปหอมอยู่ในภาพนั้นด้วย “น่าแปลก ลูกสาวไม่รู้เลยหรืออย่างไรกันนะ” นารารำพึงออกมาเบาๆ มองดูภาพของเกื้อกูลที่หน้าตาดูไม่ค่อยดีสักเท่าไรนัก “ผมเคยจีบธูปเขา สมัยเรียนมหาวิทยาลัย” คำพูดของบิดาทำเอากอหวายเกือบทำช้อนหลุดจากมือ ธามหัวเราะเมื่อได้ยินดังนั้น “คุณจอมโชคดีแล้วล่ะครับ ผมว่านะ” ธามหัวเราะ ธูปหอมยิ้มๆ ส่ายหน้าเล็กน้อยกับบทสนทนาของผู้ชายสองคน จอมทัพยิ้มให้ ธูปหอม “ไม่เห็นพ่อเคยบอกเลย” กอหวายถามเสียงหลง ธูปหอมนั่งเงียบ “เรื่องน่าอาย พ่อจีบไม่ติด จะไปเล่าให้เราฟังทำไมกัน” คำพูดของจอมทัพทำเอาเกื้อกูลรวบช้อนทันที ซึ่งนั่นทำให้เรื่องของ จอมทัพกับธูปหอมจบลงโดยปริยาย แม้แต่เทียนเทพยังสังเกตเห็นท่าทางไม่ค่อยพอใจของเกื้อกูล “ทานของหวานหรือผลไม้ดีคะ” ธูปหอมหันไปถามเกื้อกูลที่ไม่ยอมพูดอะไรอีก กอหวายยิ้มจางๆ ให้ธูปหอมที่พยักหน้าให้เล็ก น้อย ธามเปลี่ยนบรรยากาศโดยหันไปชวนเทียนเทพพูดคุยร่วมกับจอมทัพ เพื่อบรรยากาศจะได้ไม่น่าอึดอัดมากนัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD