ตอนที่ 13

1742 Words
ดอกกุหลาบที่เหี่ยวลงบ้างเล็กน้อยวางบนโต๊ะทำงาน ไม่รู้จริงๆว่าจะเอาไว้ตรงไหน ถ้าจะทิ้งเพราะคนให้แต่ดอกไม้ก็ไม่ผิดอะไร แต่จะเก็บไว้ก็คิดถึงคนให้อีกนั่นแหละ เธอเลยตัดใจแกะช่อออกแล้วใส่ดอกไม้ในแก้วน้ำไว้จนเป็นพุ่มที่สวย วันนี้เธอเหนื่อยมากทั้งกายทั้งใจ เธอจำเป็นต้องเข้มแข็งเพื่อให้คริสไม่ต้องเป็นห่วงกัน เธอยังกอดเก็บความเจ็บปวดนี้ไว้เพราะยังไม่สามารถจะปล่อยไปได้ เคยได้ยินว่าต้องมีคนใหม่ถึงจะลืมคนเก่าได้ แต่เธอกลับไม่คิดอย่างนั้น บางทีการอยู่กับตัวเองโดยไม่ต้องไขว้คว้าหาความรักจากใครมันดีกว่า เธอไม่พร้อมให้ใครมาทำให้เจ็บอีก เธอแค่อยากจะสนใจงาน สนใจครอบครัวและรักตัวเองมากขึ้น การรักตัวเองมันไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าไม่ติดว่ารักคนอื่นมากกว่า มีนนั่งกินสุกี้เงียบๆแล้วเปิดหนังดูให้สมองได้ผ่อนคลายบ้าง เธอมีแพลนว่าจะไปเที่ยวกับครอบครัวแต่คงต้องรอให้ร้านเข้าที่เข้าทางเสียก่อน แล้วเธอคงต้องเตรียมคำถามไว้เยอะแน่ถ้าพ่อแม่และพี่สาวรู้ว่าเลิกกับคริสแล้ว ที่ผ่านมาเธอไม่ได้อยากจะปิดบังเรื่องนี้กับใคร เธอแค่อยากจะเข้มแข็งพอจะรับคำถามแล้วตอบไปได้โดยไม่ร้องไห้ออกมา ที่ผ่านมาก็ร้องไห้มากเกินไปจนน่าสมเพช ความรักนี่โหดร้ายมาก เวลา 07.00 น. เสียงนาฬิกาปลุกโคตรน่ารำคาญ แม่งส่งเสียงดังไม่หยุดเลย คริสขยับตัวบิดไปบิดมาแล้วกอดหมอนใบเดิมที่มีนเคยนอนก่อนเธอจะทิ้งเขาไป การตื่นเช้าให้รอบหลายปีไม่ได้สดชื่นเลยสักนิดเดียวแต่เหมือนจะตายมากกว่า “โอ๊ย…ง่วงฉิบหาย!!” เขาตื่นมาทำอะไรตอนนี้วะเนี่ย ตื่นมาก็ปรับตัวแต่ไม่ไหว ตาก็แทบจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้ว ก่อนนอนว่าหลับยากแต่เช้ามาลุกจากที่นอนแม่งยากกว่า ช่วงนี้ชีวิตเขาเจอแต่อะไรยากๆนะ ง้อเมียให้คืนดีกับลืมตาตื่นนอนเนี่ยโคตรยาก เมื่อคืนนอนไม่ได้ดึกมากแค่เที่ยงคืนนิดๆเอง เหล้าไม่ได้กิน สูบแต่บุหรี่อย่างเดียวเพราะทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่เหมือนจะดีกว่าแต่ถ้าเลิกทุกอย่างได้ แต่เอาเถอะค่อยๆเลิกไปที่ละนิดน่าจะเข้าท่า เพราะถ้าหักดิบมันก็เกินความสามารถไปแล้ว คริสยืนงัวเงียในห้องน้ำแต่อย่างน้อยก็อาบน้ำจนเสร็จแล้วถึงได้แต่งตัวไปหาข้าวเช้ากิน วันนี้เขาจะวิ่งออกกำลังกายที่สวนใกล้คอนโด มีนชอบมาวิ่งประจำหลังเตรียมข้าวเช้าให้เขาเรียบร้อย แค่นึกถึงก็ยิ้มออกมาได้เลย ก่อนจะไปทำงานมีนจะมาหอมแก้มเขาทุกวัน ถึงแม้ว่าเขาจะรำคาญจนปัดเธอออกก็ตาม แต่ก็ตื่นมากินข้าวที่เธอทำให้ทุกวันอยู่ดี น่าตลกเนอะ! ตอนมีไม่รักษาพอหายไปแล้วแม่งโหยหา บางทีเขาอาจจะไม่เหมาะแก่การกินเหล้าอีกต่อไป หญ้าเท่านั้นที่คู่ควร! “คิดถึงเธอจังเลยมีน” ยังไงในความรู้สึกของเขามีนก็ยังเป็นเมียเสมอ แล้วน่าจะเป็นแค่คนเดียวในชีวิตด้วย เขากลับขึ้นมาคอนโดพร้อมกับข้าวต้มไข่ลวกตามที่ชอบ ถึงรสชาติจะไม่ถูกปากเท่าไรแต่เติมซอสสักนิดแล้วก็มีพริกไทยเพิ่มอีกหน่อยคงจะดีขึ้น แต่ต่อให้เป็นข้าวต้มจากฝีมือเซฟระดับห้าดาวก็ไม่ชอบ ฝีมือเดียวที่เขาอยากกินอีกคือมีนทำให้ เขาหวังว่าการเปลี่ยนตัวเองขนาดนี้เมียคงจะรู้สึกบ้างนะว่าเพราะอะไร เขาตั้งความหวังเอาไว้สูงมากด้วยสิ วันนี้นัดกับเพื่อนที่ไอ้ชินที่อู่รถป่านนี้มันจะไปรึยังก็ไม่รู้ ปรกติเขาตื่นก็เที่ยงนั่นแหละ แล้วก็ไปทำงานบ้างเที่ยวบ้าง ส่วนใหญ่จะกลับมานอนอีกทีก็เกือบเช้าหรือไม่ก็ตีสองประมาณนี้ “ไอ้ส้นตีนนี้มึงดีดเหี้ยไรมาแต่เช้า” ชินเดินมาทักเพื่อนอย่างหัวเสียเล็กน้อยที่ลูกน้องที่ถูกโทรตามไม่หยุด “มึงนัดกูเองนะ” เขาผิดด้วยเหรอที่มาก่อนนัดแล้วเหงา “กูรู้ว่ามึงเหงาแต่กูมีธุระอื่นด้วย เมื่อคืนมึงก็เบี้ยวนัดอีก นี่มึงเป็นเหี้ยไรห่ะ?” ชินมองเพื่อนที่สภาพยังกับหมาป่วย ก็แน่ละเจ้าของมันไม่อยู่แล้วคงจะเหงาหง่อยมาก “กูไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย” “แล้วมีนละไม่ได้คุยกันเลยเหรอ?” “คุยเมื่อวานมีนไม่พร้อมกลับมาอยู่กับกู มึงรู้ไหมกูฝันถึงเมียทุกวันเลย กูแม่งโคตรคิดถึงเขาเลยวะ” เขาบอกอย่างหมดแรงไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อดีแล้ว “ถ้าคู่กันเดี๋ยวสักวันก็กลับอยู่ด้วยกันเองแหละ” ชินตบบ่าเพื่อนเบาๆไม่รู้เหมือนกันว่าจะปลอบใจยังไง กว่าไอ้คริสมันจะสำนึกได้มีนก็ทิ้งไปเป็นเดือนแล้ว เขาไม่รู้ว่ามันความรู้สึกช้าหรือว่าครั้งนี้มันไม่มีสัญญาณว่ามีนจะไป คริสเสียใจมากแต่นาวก็บอกว่ามีนเสียใจมากเหมือนกัน ตอนนี้เลยได้แค่ให้กำลังใจในบางครั้งแต่สมน้ำหน้าบ่อยๆเลยละ ทางด้านมีนนั้นมาแวะกลับมาที่บ้านพ่อแม่เพื่อมาตรวจสอบส่วนที่ต่อเติมของบ้านนิดหน่อย เธอไม่ค่อยวางกลับมาเท่าไรเพราะพ่อแม่อยู่ชาญเมืองค่อนข้างไกลมากพอตัว แต่ที่นี่พี่สาวอยู่เลยไม่ค่อยกังวลเท่าไร “อ้าวยัยมีนมาไม่บอกกล่าวเลย” มายรดน้ำต้นไม้อยู่เห็นรถน้องสาวก็จำได้ “พี่มายพ่อแม่ละ?” เธอไม่เห็นรถของพ่อจอดอยู่เลยถามถึง “ไปซื้อต้นไม้เดี๋ยวสายๆก็มาแล้ว คริสมาด้วยเหรอ?” มายมองภายในรถก็ติดฟิล์มซะดำเกินจนมองไม่เห็น “คือว่าเราเลิกกันแล้ว” “เลิกกัน! คบกันนานแล้วทำไมถึงเลิก ไปคุยกันในบ้าน” มายเดินนำเข้าบ้านค่อนข้างแปลกใจกับข่าวที่ได้รู้ คบกันตั้งเจ็ดปีก็ไม่น่าจะเลิกกันได้ง่ายๆ งั้นที่คริสโทรมาหาแล้วถามถึงตลอดแสดงว่ายังไม่สามารถง้อขอคืนดีได้ถึงขอให้เธอช่วยอีกทาง มีนเดินมานั่งภายในบ้านที่ร่มรื่นกินอาหารเช้ากับพี่สาวเพราะพ่อแม่น่าจะกินข้างนอก เรื่องนี้เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี “ยังไงห่ะเล่ามาให้หมดเลยนะ พ่อยังบอกว่าคริสหอบดอกไม้ช่อเบ่อเร่อมาให้ในวันเปิดร้านอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?” มายจำได้ที่พ่อเล่าให้ฟัง ซึ่งพ่อก็ไม่ได้บอกอะไรมากมาย “คริสมาแสดงความยินดีน่ะพี่มาย” มันจริงที่พี่สาวพูด “ทำไมเลิกกัน? คริสมันก็ดีนะเอาการเอางานไม่ขี้เกียจเลย” “ก็ไปกันไม่รอดเองแหละ คริสก็ดีเหมือนที่มายว่านั่นแหละ แต่ว่ามันสุดทางแล้วเหลือแค่เรื่องดีๆของเขาที่มีนยังจำได้ อื้ม...แล้วพ่อต่อเติมบ้านเป็นไงไม่เห็นมีช่างสักคนเลย” เธอไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากพี่สาวคนเดียว บ้านกำลังต่อเติมทำสระว่ายน้ำกับสวนเพิ่มน่าจะมีเสียงคนอื่นบ้างสิ “วันอาทิตย์เขาหยุดกัน นี่พ่อแม่ก็ว่างเลยไปหาต้นไม้มาปลูก” มายเล่าต่อไปไม่ได้ซักถามอะไรมากถึงจะอยากรู้ แค่เห็นแววตาน้องสาวที่ยังเศร้าตอนพูดชื่อคนรักก็น่าสงสารแล้ว “วันมะรือไปนอนด้วยนะ พอดีต้องไปทำธุระแถวนั้น” “โอเค มายไปถึงโทรบอกนะ” เธอดีใจนะที่พี่สาวเข้าใจแล้วไม่ซักถามอะไรมากเกินไปกว่านี้ แค่นี้ก็น้ำตาซึมจนต้องแอบมาเช็ดออกแทบไม่ทัน แล้วแกล้งทำเนียนเป็นเดินดูสวนผักของพ่อที่ปลูกไว้ คนแก่นี่ดื้อจริงๆเลยนะ เธอไม่อยากให้พ่อแม่ทำงานหนักแต่ก็เหมือนเดิม เดี๋ยวปลูกต้นไม้บ้างแหละ ปลูกผักบ้างแหละ หาอะไรทำนู้นนิดนี่หน่อยแล้วมาบ่นที่หลังปวดเมื่อย เธอก็ไม่รู้จะขัดใจยังไงในเมื่อนี้คือความสุขของท่าน เมื่อก่อนคริสก็มาที่นี่พร้อมเธอบ่อยๆนะ “อันนี้คริสเป็นคนทำ” เธอจำได้ว่าเขามาที่บ้านแล้วสนิทกับพ่อจนช่วยกันทำโต๊ะนั่งเล็กๆเอาไว้ ตอนนั้นเธอยังเรียนมหาลัยอยู่เลยเขาเลยแวะมาที่บ้านค่อนข้างบ่อยมาก ภาพงานวันเกิดที่เคยจัดที่นี่ยังชัดอยู่เลย คืนนั้นมายเล่าให้ฟังว่าคริสเป็นคนจัดสถานที่เอง ทั้งติดไฟกะพริบ จัดโต๊ะอาหาร แล้วยังสั่งเค้กมาให้เธอ ของขวัญที่ให้ยังอยู่เลยตอนนี้แล้วเธอใช้มันทุกวัน กระเป๋าเงินสีเหลืองอ่อนแบรนด์เนมในตอนนั้นไม่มีเงินซื้อ แม้ตอนนี้มีพอจะซื้อหลายใบแต่ก็ไม่คิดจะซื้อมาเปลี่ยน แค่มองก็เห็นภาพผู้ชายในชุดธรรมดากับผู้หญิงในชุดนักศึกษาร้องเพลงอวยพรวันเกิดด้วยความสุข เทียนที่ปักถูกเป่าแล้วไฟก็เปิดสว่าง เธอกอดเขาเมื่อเห็นของขวัญที่อยากได้มานานมาก เขาก็หอมแก้มซะเต็มฟอดก่อนจะนั่งกินอาหารกพร้อมกันกับครอบครัวของเธอ “จะเอาทิ้งก็ได้นะถ้าทนมองไม่ได้” “ไว้นี่แหละ มายจะทำงานเหรอ? งั้นมีนนอนที่เปลนะง่วงมากเลย” เนื่องจากว่าเธออกมาแต่เช้ามืดเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในช่วงเช้า ตอนนี้ตาเลยลืมแทบไม่ขึ้นแล้ว “นอนเลยเดี๋ยวปลุกหาอะไรกินพร้อมกันตอนเที่ยง” “สั่งก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมมานะ มีนเลี้ยงเอง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD