สองชั่วโมงผ่านไป
รุ่งทิวาจ้องมองตัวเองในกระจก อย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น มองคนที่ยกมือขึ้นปาดเหงื่ออย่างชื่นชม คนถูกชมทางสายตายิ้มรับ มองใบหน้าสวยในกระจก เอื้อมมือไปจับเส้นผมที่ดัดเป็นลอนใหญ่ขึ้นม้วนเล่นเบาๆ
“สวยมากเลย อยากให้พี่สายลมได้เห็นจัง”
เห็นของสวยๆงามๆแล้วนึกถึงพี่ชายคนโตของบ้าน ที่ยังครองตัวเป็นโสดของตัวเองขึ้นมา ไม่รู้จะหวงความโสดไว้ทำไม เพื่อนรุ่นเดียวกันกับเขา แต่งงานจนลูกโตหมดแล้ว เธออยากอุ้มหลานอะ อยากมีหลานของตัวเองบ้าง เพราะตัวเองไม่สามารถมีได้ สามีของเธอเป็นหมัน
“คุณเก่งมากเลยค่ะ”
“แน่นอน ว่าแต่เธอชื่ออะไร?”
ดูยังไงก็อายุน้อยกว่าตัวเอง ธารธาราลองคำนวณจากใบหน้าอยู่ในใจ น่าจะเพิ่งเรียนจบหรือเปล่า หน้ายังเด็กอยู่เลย ผิวหน้าเนียนนุ่มสุดๆ ตอนที่แต่งหน้าให้ รู้สึกอยากดึงแก้มบ่อยครั้ง ไม่อ้วนแต่มีแก้ม เป็นผู้หญิงที่น่ารักน่าหยิกมาก
“ชื่อรุ้งค่ะ รุ่งทิวา”
“ว้าย! ชื่อใกล้เคียงกันเลย พี่ชื่อธารธารา เรียกพี่สายน้ำก็ได้ ปีนี้อายุ 29 แล้ว เป็นเจ้าของร้านนี้”
ธารธาราวี๊ดว้ายอย่างถูกใจ ชอบใจเด็กสาวคนนี้มากถึงมากที่สุด ท่าทางขี้อาย ท่าทีเกรงอกเกรงใจก็ด้วย กิริยามารยาทก็ดูน่ารัก น่ารักจนอยากให้พี่สายลมมาเห็น พี่สายลมจะต้องชอบเหมือนที่เธอชอบแน่ๆ
“ปีนี้รุ้ง 25 ค่ะ”
“ว่าแต่ น้องรุ้งสนใจมาเป็นนางแบบให้ร้านพี่ไหม ไม่ใช่งานประจำนะ แค่มาเป็นนางแบบให้พี่ถ่ายรูปลงเพจ เวลามีงานใหม่ๆออกมาแค่นั้น งานไม่ยุ่งยาก แค่โพสต์ท่าสวยๆให้พี่ถ่ายรูปก็พอ เงินดีนะขอบอก”
“รุ้งมีงานประจำแล้วค่ะ แต่ถ้าพี่สายน้ำไม่มีใคร รุ้งมาถ่ายให้ก็ได้ค่ะ ขอบคุณที่พี่ช่วยแปรงโฉมให้รุ้งนะคะ รุ้งไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสวยได้ขนาดนี้”
รุ่งทิวากล่าวขอบคุณ รู้สึกถูกชะตากับพี่สาวใจดีคนนี้เหมือนกัน คนอะไรทั้งสวยทั้งใจดี ต่างจากที่เห็นตอนแรกมาก อยากตอบแทนที่พี่เขาช่วยแปลกโฉมให้ จนเธอรู้สึกว่าตัวเองก็สวยได้เหมือนคนอื่นๆเขา และตอบแทนที่พี่เขาลดราคาเสื้อผ้าลงจนเหมือนว่าให้ฟรี
“งั้นเรามาแลกไลน์กัน ถ้าพี่ออกงานใหม่พี่จะติดต่อไป วันนี้ถ่ายแค่รูปเดียวพอ พี่เหมือนจะมีธุระ”
อยู่กับคนสวยอายุน้อยกว่า เพลินจนลืมดูเวลา วันนี้ต้องปิดร้านเร็วกว่าปกติ เพราะมีนัดกินข้าวกับครอบครัวในห้างเดียวกัน แม้จะไปสายได้ แต่ไปสายบ่อยแล้ว ขี้เกียจฟังพี่สายลมบ่น อีกเหตุผลที่รีบ คืออยากเอารูปนางแบบแสนสวยไปอวดพี่ชายของตัวเอง
“ค่ะ”
รุ่งทิวาล้วงเอามือถือที่ตกรุ่นไปนานหลายปีออกมาจากกระเป๋า ธารธารามองโทรศัพท์เครื่องนั้นอย่างชื่นชม ยังมีคนทนใช้โทรศัพท์ที่อยู่ในสภาพนี้อยู่แฮะ นึกว่าคนในโลกนี้หมุนไปตามความต้องการหมดแล้ว ยังมีเหลืออยู่สินะ คนที่ไม่หมุนไปตามความต้องการ แต่หมุนไปตามกำลังของตัวเอง
“มือถือเก่ามาก ไม่คิดจะเปลี่ยนเหรอ?”
“ก็คิดค่ะ เพราะมันใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ยังไม่พร้อมค่ะ”
“พี่คงต้องรีบไปตัดชุดแล้วล่ะ เราจะได้มีเงินไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ แลกไลน์กันเรียบร้อย มายืนตรงนี้ให้พี่ถ่ายรูปหน่อยนะ รูปเดียวก็พอ พี่ถ่ายรูปเก่ง”
ธารธาราจับมือและออกแรงลากคนที่สูงพอๆกับตัวเอง ไปยืนอยู่ในมุมที่แสงดีที่สุด จัดท่าทางให้คนเงอะงะ กดถ่ายเมื่อได้มุมที่ดีที่สุด ยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นรูปในหน้าจอสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ เดินไปหยิบเสื้อผ้าทั้งหมดใส่ถุงกระดาษใบใหญ่ ไม่ลืมหยิบถุงของแถมที่เตรียมไว้มายัดใส่มือคนที่ยืนรอด้วย
“พี่รีบมากเลยค่ะ แล้วพี่จะติดต่อไปนะ”
ธารธาราดันแผ่นหลังคนอายุน้อยกว่าออกไปจากร้าน มองคนยืนทำหน้างงๆ โบกมือให้เร็วๆเป็นเชิงไล่ เดินกลับเข้าไปในร้านเพื่อเก็บของ จัดการปิดร้านด้วยตัวคนเดียว เสร็จแล้วก็เดินยิ้มไปยังร้านอาหารที่นัดกับครอบครัว
10 นาทีต่อมา
@ร้านอาหาร
วายุภักษ์มองใบหน้ายิ้มแย้มของน้องสาว กดเม้มริมฝีปากที่กำลังจะอ้าขึ้นบ่นลง หลังจากมองนาฬิกาปาเต๊ะในมือแล้วพบว่า ธารธารามาสายเพียงแค่ห้านาที ปกติเขาคงบ่นไปแล้ว แม้จะสายเพียงแค่นั้นก็ตาม แต่วันนี้เขาอารมณ์ดี เพราะพรุ่งนี้จะได้ยลโฉมผู้ช่วยเลขาคนใหม่แบบใกล้ๆสักที
“วันนี้สายน้ำของแม่มาเร็วได้ด้วยเหรอ?”
พี่ชายที่อายุห่างกันถึงห้าปีเผยรอยยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่แสดงออกว่าถูกใจเมื่อมีคนอาสาบ่นแทน ธารธารามองแม่บังเกิดเกล้ายิ้มๆ ถ้าแม่รู้ว่าเธอเจออะไรดีๆมา ท่านจะต้องเลิกบ่นเธอแน่
“ก็วันนี้เจอเพชรน้ำงามมา เลยรีบเอามาอวด”
“อุ๊ยตาย! กี่กระรัตเหรอลูก แม่ขอดูหน่อย”
ธารธารารีบเปิดกระเป๋าหรูสีดำออก หยิบโทรศัพท์ออกมาท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของพ่อและแม่ พวกท่านดูตื่นเต้นมากกว่าผู้ชายสองคนที่นั่งทำหน้าเรียบเฉย
“ไหนบอกว่าเจอเพชร หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อ โคตรเบื่อพวกขี้โม้”
อัศนีลูกชายคนเล็กของบ้านไม่พูดเฉย เขาเบ้ปากขึ้นสูง จนได้สายตาเขียวๆจากพี่สาวคนรองส่งมาให้
เพราะไม่ได้ตั้งใจหามาให้น้องชายคนเล็ก ที่เพิ่งจะอายุ 23 ปี ธารธาราจึงไม่สนใจเด็กปากดี ปลดล็อกหน้าจอหารูปให้พ่อกับแม่ดู โดยมีพี่ชายคนโตเอี้ยวตัวไปมองอย่างอยากรู้ ว่าเพชรที่น้องพูดถึง น้ำงามจริงหรือเปล่า
ใบหน้าสวยถูกแต่งแต้มสวยงาม รอยยิ้มนิดๆราวกับคนเพิ่งเคยถูกถ่ายรูป ชุดที่สวมอยู่ต่างจากชุดที่เคยเห็น เจ้าของชื่อวายุภักษ์ยกมุมปากขึ้นยิ้ม จนน้องสาวเลื่อนโทรศัพท์มาให้ดูชัดๆ
“สวยใช่ไหม? เค้าเพิ่งจะเจอน้องมา ตัวจริงน่ารักมาก”
ลากเสียงยาวจนน้องชายคนเล็กเปะปากมองบน คนอะไรโอเวอร์ได้ตลอด
“โม้เปล่าว้า คนสวยบนโลกมีเยอะแยะ คนนี้จะเท่าไหร่เชียว”
ขยับตัวไปมองหน้าจอโทรศัพท์ของพี่สาว ดวงตาโตขึ้น ยกนิ้วโป้งชื่นชมหลังจากเห็นเพชรที่พี่สาวว่า ผู้หญิงทรงนี้ถูกใจพี่สายลมเลยนี่หว่า ทำได้ดีมากพี่สายน้ำ
“สวยจนพูดไม่ออกเลยละสิ ว่าไงพี่สายลม คนนี้โอเคใช่ไหม?”
“ไม่!”
ปฏิเสธแบบไม่ลังเล จนพ่อกับแม่ถอนหายใจ ตั้งแต่คนรักเก่าทิ้งไป ลูกชายก็ไม่คิดจะอยากมีครอบครัว ตอนนี้อายุก็ปาเข้าไปตั้ง 34 ปีแล้ว แก่กว่านี้กลัวจะไม่มีใครเอา ที่สำคัญคือพวกท่านอยากได้หลานมาสืบสกุล ลูกชายบ้านอื่นแต่งงานมีลูกมีหลานไปหมดแล้ว เหลือแต่ลูกชายบ้านท่านนี่แหละ ที่ครองตัวเป็นโสดมานานกว่า 8 ปี
“ทำไมล่ะ? คนเขาอุตส่าห์หาของดีมาให้”
“เลิกคิดเถอะ อาหารมาแล้ว”
แล้วก็ไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องผู้หญิงอีก ธารธาราโกรธพี่ชายมากจนไม่ยอมพูดด้วย อุตส่าห์หาของดีมาให้แท้ๆ ดันไม่สนใจ คอยดูเถอะ ถ้านึกเสียดายขึ้นมาทีหลัง แล้วมาขอร้องให้หาคอนแทคน้องรุ้งให้ เธอจะไม่ช่วยเด็ดขาดเลย
วันต่อมา
รุ่งทิวาตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เพราะตื่นเต้นกับการเปลี่ยนตำแหน่งงานใหม่ ตอนนี้เธอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ชุดที่เลือกใส่เป็นเดรสแขนสั้น ความยาวของชุดยาวถึงหัวเข่า เป็นชุดที่ดูเรียบร้อยมาก เพราะเธอสวมสูทที่มีเพียงตัวเดียวทับลงไปอีกที ไม่มั่นใจ แม้แผนกนั้นจะเป็นแผนกเดียว ที่อนุญาตให้ใส่ชุดแบบไหนก็ได้
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่เธอเจออยู่ตอนนี้ ปัญหาคือหน้าต่างหาก เธอแต่งหน้าไม่เป็น แล้วถ้าไม่แต่งมันก็จืดสนิท จนชุดที่สวมอยู่ดูไม่มีราศีเอาซะเลย
รุ่งทิวาเทเครื่องสำอางที่มีเพียงไม่กี่ชิ้นในกระเป๋าลงบนโต๊ะ หยิบรองพื้นที่ซื้อมาแต่ไม่เคยเปิดใช้เลย บีบใส่ปลายนิ้วชี้ แตะลงไปบนใบหน้าตัวเอง เกลี่ยจนมันทั่วทั้งใบหน้า ไม่ลืมทาลำคอด้วย หยิบดินสอเขียนคิ้วสีเข้มพอๆกับสีผมขึ้นมา วาดไปตามรูปคิ้วโก่งโค้ง เสร็จแล้วก็ตามด้วยอายไลเนอร์ ปัดขนตาด้วยมาสคารา และจบท้ายด้วยการปัดแก้มสีชมพูเข้ม
“อ๊าย! ทำไมไม่สวยเหมือนที่พี่สายน้ำแต่งให้”
เบ้ปากส่งให้คนในกระจก เธอคนเมื่อวานหายไปทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอตอนนี้เหมือนคนกำลังจะไปเล่นละครงิ้ว หน้าขาววอก แก้มชมพูออกแดงจนเหมือนผลแอปเปิ้ลสุก มองยังไงก็ไม่สวย แต่จะล้างหน้าก็ไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีเวลาเหลือ
เอาวะ! มันอาจจะดีกว่าไม่แต่งหน้าไปเลยก็ได้ ปัดไปก่อน เดี๋ยวอ่อนเอง เห็นคนเขาพูดกันแบบนี้