หาทางออกของเรื่อง

1263 Words
    นายหัวโตมรเองก็จนปัญญาที่จะโต้เถียง มันก็เป็นจริงอย่างที่พ่อของเขาพูดนั่นแหละ มาถึงขั้นนอนค้างอ้างแรมกันใครจะไปเชื่อ โตมรได้แต่มองหน้าน้องสาวที่เอาแต่ร้องไห้ อย่างคิดหาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ นึกสงสารน้องจับใจ แต่นึกไปนึกมาอีกที มันอาจจะเป็นข้อดีก็ได้ อย่างน้อยพลวัตรก็เป็นคนใช้ได้ ฐานะ หน้าตา ไม่มีส่วนไหนที่น่าจะให้นึกรังเกียจเพื่อนของเขาได้เลย ลองมันลงมือทำถึงขนาดนี้ แสดงว่ามันตั้งใจเอาจริง อีกอย่างถ้าน้องสาวเขามีคนคอยปกป้องดูแล เขาจะได้ไม่ต้องคอยห่วงว่าไอ้แฟนเก่าสารเลวของน้องสาวจะมีโอกาสกลับมาวุ่นวายกับชีวิตน้องสาวเขาอีก     ระหว่างที่พ่อลูกกำลังปลอบโยนกันอยู่เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น     "ผู้ใหญ่ พี่ขอคุยปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับลูกของเราสองคน เชิญที่ห้องรับรองริมน้ำดีกว่าจะได้นั่งจิบน้ำชาและรับอาหารเช้าให้เด็กมันตั้งสำรับกับข้าวรอแล้ว" กำนันมาเรียกผู้ใหญ่เพื่อพูดคุยปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นกัน ผู้ใหญ่และนายหัวโตมรจึงไปนั่งรับอาหารเช้า และปรึกษาพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น กำนันรินน้ำชาส่งให้ผู้ใหญ่ด้วยไม่รู้จะแก้เขินและเริ่มต้นพูดอย่างไรดี     "ผู้ใหญ่ ลองชาอู่หลงนี่หน่อย ผมสั่งตรงมาจากไร่ที่เชียงรายเลย รสชาติดีไม่แพ้ชาฝรั่งเศสเลยนะ"กำนันพูด     "ขอบคุณมากพี่กำนัน"ผู้ใหญ่กล่าวขอบคุณและเริ่มต้นพูดคุยหาทางออกของเรื่องนี้ โดยตกลงว่า ให้ทางพลวัตรรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับยาหยี กำนันเองก็รู้สึกโล่งใจที่ ทางฝ่ายผู้ใหญ่โรจน์เองก็ไม่ได้นึกรังเกียจในตัวลูกชายตน แต่ทางผู้ใหญ่ได้ออกความเห็นว่าให้แต่งงานกันเลยคงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ตนเองก็ห่วงลูกสาว เรื่องที่เกิดขึ้นมาก็ปุบปับ ยาหยีเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัวด้วย อยากให้เวลาลูกสาวปรับตัวและเตรียมใจสักพัก     "ผมว่าเดือนหน้ามั่นหมายกันไว้ก่อน ให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอตามประเพณีเป็นหมั้นหมายกันไว้ก่อน แล้วค่อยหาฤกษ์แต่งตอนเดือนหกขึ้น (วันดีเดือนพฤษภาคม) " ผู้ใหญ่โรจน์กล่าว     "ถ้าผู้ใหญ่เห็นสมควรแบบนั้นพี่ก็ไม่ขัดอะไร จะจัดขันหมากไปขอหมั้นหมายไว้ก่อนผู้ใหญ่จะเรียกค่าสินสอดทองหมั้นสักเท่าไหร่ก็ว่ามาได้เลย" กำนันว่าตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ     "ผมไม่เรียกร้องอะไร เท่าที่ผมมีให้ลูกผมก็เยอะแล้วไอ้หยีใช้ไม่หมดแล้วเอาเป็นว่าให้กำนันจัดมาให้พองามสมฐานะหน้าตากำนันแบบนั้นก็พอ" ผู้ใหญ่โรจน์พูด     "งั้นผมจัดเงินสดไปสัก 10 ล้าน แล้วก็เครื่องเพชรเครื่องทองตามสมควร ให้แม่ปรางเมียผมกับย่าไอ้พลจัดการไปให้เรียบร้อยตามสมควร" กำนันกล่าวเปรยขึ้นสามคนคุยตกลงกันเสร็จเรียบร้อย ก็จิบน้ำชาและรับประทานอาหารเช้า คุยกันเรื่องวัวชนของกำนันสิงห์ที่จะลงบ่อน ลงสนามชนอาทิตย์หน้าอยากสนุกสนานลืมเรื่องลูกสาวลูกชายไปชั่วขณะ     ด้านนายหัวพลวัตรเมื่อเห็นว่าทางสะดวกช่วงที่พ่อและเพื่อนรักกำลังตกลงปรึกษาหารือเรื่องที่เกิดขึ้นเขาได้ไปสั่งให้แม่ครัวทำข้าวต้ม และชงกาแฟดำมาเสิร์ฟให้ยาหยีที่ห้อง     ยาหยีเองระหว่างรอพ่อและพี่ชายไปตกลงพูดคุยหาทางออกของปัญหา ตนเองก็กลับมาที่ห้องเพื่อหากระเป๋าสะพายและกุญแจรถ เข้าใจว่าพลวัตรคงเก็บไว้ในห้องนอนระหว่างรอพ่อก็ได้เข้าไปอาบน้ำเพื่อให้ตัวเองสดชื่นขึ้น เผื่อพอสบายตัวหล่อนจะคิดอะไรออก     "สติมาปัญญาจะเกิด" ยาหยีคิดว่าอย่างนั้นจึงจัดการล็อกประตูห้องและเข้าไปอาบน้ำ ยาหยีใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เดินออกมาจากห้องน้ำ โดยใช้ผ้าขนหนูพันกายออกมาแต่งตัว ด้วยเข้าใจว่าอยู่คนเดียวในห้องและล็อกประตูเรียบร้อยแล้วแต่พอเดินพ้นประตูห้องน้ำออกมาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นนายหัวพลวัตรนั่งยิ้มกริ่มอยู่บนที่นอน     "เฮ้ย!!! คุณพลวัตรคุณเข้ามาได้อย่างไร" ยาหยีตกใจและอับอายด้วยตัวเองกำลังนุ่งกระโจมอกอยู่จึงหันหลังจะวิ่งกลับไปในห้องน้ำแต่ได้ยินเสียงพลวัตรพูดขัดขึ้น     "ไม่ต้องอายพี่หรอก มากกว่านี้พี่ก็เห็นมาหมดแล้ว" พลวัตรพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะอย่างนึกเอ็นดูและสงสารว่าที่เมียเขาอยู่เหมือนกัน พลวัตรพูดพลางก้าวเท้ายาวๆ ของเขาไปคว้าตัวยาหยีมากอดไว้กับอก ด้านยาหยีก็ดิ้นรนขัดขืน ให้พลวัตรปล่อยตนเอง     "อย่านะคุณพลวัตร พ่อกับพี่ชายฉันอยู่ข้างนอกนะฉันจะร้องให้ดังๆ เลย ปล่อย!! "ยาหยีร้องและดิ้นหนีอ้อมอกแกร่งนั้น     “อย่าดิ้นนะหยีพี่ว่ายิ่งหยีดิ้นแบบนี้เหมือนเชิญชวนพี่เลยนะว่าหรือเปล่า เดี๋ยวผ้าผ่อนเกิดหลุดขึ้นมาละก็.....” พลวัตรพูดทำให้ยาหยีหยุดดิ้นโดยอัตโนมัติ     "คุณพลวัตรปล่อยหยี หยีจะร้องจริงๆ นะ. “พ. ...” ยังไม่ทันได้ร้องเรียกให้คนช่วย พลวัตรก็คว้าท้ายทอยของหญิงสาวมาใกล้ๆ แล้วประกบปากจูบหล่อนเนิ่นนานยาหยีแทบหายใจไม่ทันยืนแทบไม่อยู่ เมื่อเห็นดังนั้นพลวัตรเลยหยุดจูบ เปลี่ยนมาหอมแก้มซ้ายแก้มขวาอย่างปลอบใจ     “ชื่นใจผัวจริง ๆ หอมจังแก้มเมีย” พลวัตรแกล้งพูดให้ยาหยีเขิน     "ไอ้!!! " ยาหยีชี้หน้าพลวัตร โกรธจนตัวสั่น     "ฮะๆ อย่านะอย่าด่าพี่เด็ดขาดเพราะถ้าหยีด่า พี่ไม่รับรองนะว่าวันนี้หยีจะได้กลับบ้านไปพร้อมพ่อหยีหรือเปล่า เพราะถ้าทำแบบนั้นพี่คิดว่าพี่จะทำให้หยีท้องวันนี้เลยเราจะได้แต่งงานกันเลย ไม่ต้องรอเวลาให้หยีทำใจด้วยการหมั้นหมายกันก่อนอย่างที่พ่อหยีตกลงกับพ่อพี่ดีหรือเปล่า ท้องแล้วแต่งเลยจะได้จบ" นายหัวพลวัตรพูดดักยาหยี เมื่อได้ยินดังนั้นยาหยีก็หยุดไม่กล้าว่าอะไรนายหัวพลวัตรอีกพรางใช้ความคิดเอาตัวรอดเพราะบางสถานการณ์การพุ่งชนก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี     “เอ่อ พี่พลคะ งั้นหยีขอเวลาแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนได้ไหมคะ พี่พลไปรอหยีข้างนอกก่อนนะคะ” ยาหยีใช้น้ำเย็นเข้าลูบยอมพูดดีกับพลวัตร     "ครับ" นายหัวพลวัตรรับคำยิ้มๆ และปล่อยร่างงามออกจากอ้อมแขน แต่ก็ไม่วายแกล้งมองยาหยีด้วยสายตาหวานเชื่อม     “ว้า...หยีไม่ดื้อแบบนี้พี่ก็อดทำให้หยีท้องนะสิ” นายหัวพลวัตรพูดและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี     "เอาอย่างนี้หยีแต่งตัวนะพี่จะนั่งรอหยีตรงนี้ แต่งตัวเสร็จจะได้กินข้าวต้มพี่สั่งแม่บ้านทำไข่ลวกมาให้หยีด้วย เมื่อคืนใช้พลังงานกันไปเยอะ"พลวัตรพูด     "พี่พล!" ยาหยีพูดเสียงสูงพร้อมกับคว้าเสื้อผ้าที่วางอยู่ เข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาด้านนอกเห็นพลวัตรเอาโทรศัพท์มือถือของตนเองมาถือไว้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD