ปรีญาณินพูดคุยกับเพื่อนๆ นานนับชั่วโมง ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ แม้ว่าจะเพิ่งมีความสุขจากการได้เจอกับเพื่อนๆ แต่พอได้อยู่กับตัวเองเพียงลำพัง ก็นึกถึงเรื่องผู้หญิงคนล่าสุดของสามีขึ้นมาอีก เธอพยายามจะสลัดเรื่องนี้ออกจากหัว เพราะคิดว่าที่เข้าไปตักเตือนอีกฝ่ายในวันนี้น่าจะทำให้ขวัญรุ้งเกรงกลัวอยู่บ้าง
"อีขวัญ แกมาทำอะไรที่นี่" เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน แล้วพบว่าคนที่เธอเพิ่งจะเข้าไปสั่งสอนเมื่อตอนเย็น กำลังนั่งอยู่ในบ้านของเธอ
นอกจากขวัญรุ้งแล้ว ภูริวัฒน์สามีของเธอ และลูกน้องของเขาอีก 2-3 คนก็อยู่ที่นี่ด้วย ปรีญาณินปรี่เข้าไปที่โถงใหญ่อย่างทันที
"นี่น่ะเหรอ? คำพูดของผู้ดี" ภูริวัฒน์เอ่ยขึ้นเมื่อภรรยาเดินมาถึง
"ฉันก็พูดแบบนี้กับผู้หญิงของคุณทุกคน ไม่เคยเห็นจะมีปัญหาสักที"
"ณิน คุณอย่าใช้แต่อารมณ์แบบนี้ได้ไหม รุ้งเค้าก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวมาจากต่างจังหวัดมาใช้ชีวิตคนเดียวแบบนี้ก็น่าสงสารมากแล้ว" ปรีญาณินเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างสนใจ สามีของเธอนั้นเจอผู้หญิงมาก็หลายรูปแบบ จะมาเสียท่าให้กับผู้หญิงอายุน้อย มีภูมิหลังเหมือนนางเอกในละครแบบนี้น่ะเหรอ
"จะมาจากไหนฉันไม่สน ถ้ามายุ่งกับผัวฉันก็ต้องเจอแบบนี้ทุกคน"
"ฝึกงานเสร็จ เดี๋ยวรุ้งก็กลับแล้วค่ะ" หญิงสาวที่ถูกกล่าวถึงแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่น ร่างบอบบางของเธอสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว
"ดีเนอะ มานอนแบแลกใบผ่านฝึกงาน พอได้งานก็คงจะทำแบบนี้เหมือนกันล่ะสิ เด็กสมัยนี้ใจกล้าดีจัง" ปรีญาณินหันไปต่อว่าเจ้าของเสียงสั่นเมื่อครู่นี้ทันที
"ผมสะอิดสะเอียนกับคำพูดของคุณจริงๆ เลยนะณิน แต่ละคำที่พูดออกมามีแต่สกปรกๆ" ภูริวัฒน์พูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ ก่อนนี้ปรีญาณินภรรยาของเขา ไม่ใช่คนที่พูดจาหยาบคายเช่นนี้ แต่ปีหลังๆ มาเธอเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่า ทั้งหมดมันก็เกิดมาจากตัวเขาเอง
"ฉันก็สะอิดสะเอียนกับพฤติกรรมลากผู้หญิงมากินไม่เลือกของคุณเหมือนกัน สกปรกโสโครกเสียยิ่งกว่าคำพูดของฉันอีก" ปรีญาณินหันไปเถียงอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนนี้เธอพยายามใจเย็นและอดทนกับพฤติกรรมความเจ้าชู้ของสามีมาตลอด แต่กับผู้หญิงที่ชื่อขวัญรุ้งคนนี้ ดูจะพิเศษมากกว่าคนอื่น
"แกก็เหมือนกัน ฉันพาคนของฉันไปเตือนดีดี ถึงกับต้องโร่มาฟ้องผัวฉันถึงที่บ้านแบบนี้เลยเหรอ"
"ผมเป็นคนไปรับรุ้งมาที่นี่เอง" ไม่ทันที่ปรีญาณินจะได้พูดอะไรอีก ภูริวัฒน์ก็แทรกขึ้นเสียก่อน
หลังจากเกิดเรื่องขวัญรุ้งก็รีบโทรไปร้องห่มร้องไห้กับภูริวัฒน์ว่าจะยุติการฝึกงาน ทั้งที่เหลือเวลาอีกแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น และเมื่อเขาถามหาสาเหตุจึงได้รู้ว่าภรรยาของเขาตามไปทำร้ายขวัญรุ้งที่ห้องพัก แม้ว่าความจริงจะไม่ได้รุนแรงเท่าที่ขวัญรุ้งเล่า แต่ภูริวัฒน์ก็เชื่ออย่างสนิทใจ เพราะปรีญาณินเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
"รุ้งบอกคุณภูแล้วว่า รุ้งไม่อยากมา รุ้งกลัวคุณณิน" เมื่อเห็นสายตาดุดันของปรีญาณินที่มองมาอย่างเอาเรื่อง ขวัญรุ้งรีบหลับหลังผู้ชายที่จะปกป้องเธอได้ พลางทำท่าทีหวาดกลัว
"กลัวเหรอ กลัวยังมาหน้าด้านนั่งอยู่กลางบ้านฉันแบบนี้ ไม่กลัวจะไม่ไปนอนแบอยู่บนเตียงเลยเหรอ!!?"
"ณิน!!!" เมื่อร่างระหงของคนที่กำลังโมโหปรี่เข้าหาขวัญรุ้งที่แสดงท่าทางว่ากลัวจนตัวสั่น ภูริวัฒน์ก็รีบเอาตัวเองมากันเอาไว้ ไม่ให้ภรรยาถึงตัวของเด็กสาวนักศึกษาฝึกงานได้ นั่นก็ยิ่งทำให้ปรีญาณินโมโหมากขึ้นไปอีก
"นับจากนี้ขวัญรุ้งจะมาอยู่ที่นี่ และจะได้ทำงานที่บริษัทต่อ ในแผนกจัดซื้อ"
"ภู!!! คุณไม่อายคนในบริษัทบ้างหรือไง คนเขาลือกันกระฉ่อนแล้วว่าคุณแอบกินกับมัน ยังจะเอามันมาทำงานอีก"
"ก็ช่างหัวคนพูดมันสิ ใครรับไม่ได้จะไล่ออกมันให้หมด" ยิ่งได้ฟังแบบนี้ ปรีญาณินก็ยิ่งเข้าใจว่าสิ่งที่เธอคิดมันไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้พิเศษสำหรับภูริวัฒน์มากกว่าคนอื่นๆ
"มันมีอะไรดีเหรอภู ทำไมคุณถึงได้หลงมันนัก ทำไมถึงไม่ยอมเลิกกับมันแบบคนอื่น" คำถามที่ไม่อยากถาม ถูกพูดออกไปเพราะปรีญาณินไม่รู้ว่าเธอจะทำหนทางไหนแล้ว กับคนอื่นถ้ามีปัญหาแบบนี้สามีของเธอจะตัดปัญหาโดยการเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นไปเสีย แม้ว่าจะหาคนใหม่มาทดแทน แต่มันก็ไม่ได้เจ็บเท่าไม่ยอมเลิกแล้วปกป้องจนออกนอกหน้าแบบนี้
"คุณรู้ตัวมั้ย ว่าไอ้ที่คุณเป็นอยู่ มันทั้งน่าเบื่อ แล้วก็น่ารำคาญมากแล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมมีคนอื่นได้ยังไง กลับบ้านมาแทนที่จะสบายใจขึ้น ต้องมาเจอเมียแบบนี้ ไม่เป็นบ้าก็ดีแค่ไหนแล้ว"
" คุณอย่ามาโยนความผิดให้ฉันแบบนี้นะภูที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ คุณเองไม่ใช่เหรอที่มีคนอื่น คุณเจ้าชู้ตั้งแต่แรกจะมาโทษว่าเพิ่งเป็นเพราะฉันลองคิดดูใหม่นะว่ามันใช่หรือเปล่า"
"แยกย้ายกันไป แล้วผมขอเตือนนะณิน ต่างคนต่างอยู่ขวัญรุ้งมีส่วนของเขาที่ผมจัดไว้ให้อยู่มันจะไม่รบกวนคุณ ไม่วุ่นวายกับพื้นที่ของคุณ คุณเองก็อย่าไปวุ่นวายกับพื้นที่ของขวัญลุงเขาเหมือนกัน"
"แต่นี่มันบ้านของฉัน"
"บ้านของเราณิน บ้านของเราสองคน"
"แต่คุณก็ไม่มีสิทธิเอาผู้หญิงมาอยู่ที่นี่"
"ผมให้มาอยู่ชั่วคราว ระหว่างที่กำลังหาบ้านให้รุ้ง" ได้ยินประโยคนี้มันไม่ได้ช่วยให้ปรีญาณินรู้สึกดีขึ้นเลย
"คุณหมายถึงคุณจะซื้อบ้านให้มันน่ะเหรอ"
"ใช่ ก็คุณไม่ยอมให้เขาอยู่ที่นี่ ก็ต้องแยกออกไปไม่ใช่หรือไง"
"ถ้าอย่างนั้น ระหว่างที่มันอยู่ที่นี่ ฉันจะกลับไปอยู่กับคุณแม่"
"อยากไปก็ตามใจ แต่อย่าให้มีปัญหาก็แล้วกัน" ปรีญาณินได้แต่คิดว่าปัญหามันมีมาตั้งแต่ตอนที่เขา เอาผู้หญิงเข้ามาอยู่ในบ้านแล้วไม่ใช่หรืออย่างไรกัน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดมันออกไป เธอเพียงแค่เดินกลับออกมาที่รถ แล้วขับออกมาอย่างไร้จุดหมาย ถ้าจะกลับบ้านตอนนี้คงไม่ดีเท่าไร ไม่อยากจะร้องไห้ให้คนที่บ้านเห็น ไม่อยากจะต้องตอบคำถามที่ปิดบังมาตลอดชีวิตหลังแต่งงาน