“ทำไมตานี่ถึงมีบ้านใหญ่โตแบบนี้นะ แล้ววันนี้ฉันจะค้นหมดทุกห้องไหมเนี่ย”
แม้จะท้อแท้แต่หล่อนก็ถอยไม่ได้ เอวาต้องการหล่อน ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะร้องไห้คิดถึงหล่อนมากแค่ไหนแล้ว นมไม่รู้จะได้กินหรือเปล่าด้วย พอคิดถึงตรงนี้ น้ำตาก็ซึมออกมาคลอหน่วยตา ห่วงใยเด็กน้อยสุดดวงใจ
“น้าจะไม่ยอมแพ้ น้าจะสู้...”
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าไปในปอดเฮือกใหญ่ หันซ้ายแลขวาอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปทางปีกขวาของคฤหาสน์ใหญ่ เดินมาเรื่อยๆ ก็ต้องหน้าซีดเผือดเมื่อเสียงฝีเท้าใครบางคนกำลังใกล้เข้ามา หญิงสาวตัวสั่นและคิดหาทางออก
“ทำยังไงดี ทำยังไงดี...”
ร้องถามตัวเองและหันซ้ายแลขวามองไม่เห็นทางรอด จึงตัดสินใจเปิดประตูห้องที่อยู่ตรงหน้าเข้าไปทันทีก่อนที่ใครคนนั้นจะเดินผ่านมา
“โล่งอก...”
เนื้อนวลยกมือขึ้นทาบอก กำลังจะเปิดประตูออกไป แต่สายตาเจ้ากรรมดันมองไปเห็นรูปที่แขวนอยู่บนผนังเสียก่อน
อย่าบอกนะว่าห้องนี้เป็นของ...?!
“คุณคิริล...”
หญิงสาวอุทานแผ่วเบาในลำคอ ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะบังเอิญขนาดนี้ หล่อนหลบคนที่กำลังจะเดินผ่านเข้ามาในห้องของตาบ้าคิริล โอ้พระเจ้าทำไมมันถึงได้ประจวบเหมาะแบบนี้นะ เนื้อนวลเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่มันก็แค่วูบเดียวเท่านั้นเพราะต่อมาหล่อนก็ถูกความเจ็บแค้นครอบงำได้เช่นเดิม สาวน้อยกัดฟันแน่น ดวงตากลมโตสอดส่ายไปรอบๆ ห้อง แต่ก็ไม่พบคนที่ต้องการ กำลังจะเดินออกไปแต่หูแว่วได้ยินเสียงน้ำเสียก่อน
เนื้อนวลชะงัก และหันกลับไปจ้องมองบานประตูของห้องที่มั่นใจว่าคือห้องน้ำด้วยดวงตาวาวโรจน์ ยังไงซะคิริลก็ต้องชดใช้ให้หล่อน คิดได้เช่นนั้นโทสะก็เข้าครอบงำเต็มเปี่ยม สติไม่หลงเหลืออีกแล้วยามที่เดินมาหยุดหน้าประตูห้องน้ำ เสียงสายน้ำยังคงไหลริน ใช่... ตาบ้านั่นอยู่ในนี้แน่นอน
และไม่รู้ว่าเพราะโทสะหรืออารมณ์อะไรกันแน่ที่ทำให้เนื้อนวลเลือกที่จะกระชากประตูห้องน้ำนั้นให้เปิดออก และเดินเข้าไปภายใน กระจกฝ้าไม่ได้ช่วยพรางตาหล่อนได้เลย ร่างกายสูงใหญ่อยู่ในนั้น และวินาทีต่อมาเขาก็ก้าวออกมา
“ว๊าย... คนบ้า...”
หญิงสาวร้องอุทานตกใจและหน้าแดงก่ำเพราะทั้งเนื้อทั้งตัวของคิริลเปลือยเปล่าและยังคงพราวไปด้วยหยาดน้ำ ซึ่งหล่อนก็มั่นใจว่าเขาเองก็ตกใจไม่แพ้หล่อนเลยสักนิด แต่ถึงแม้จะตกใจแค่ไหน แต่พ่อเจ้าประคุณก็ยังยืนล่อนจ้อนต่อหน้าหล่อนโดยไม่รู้สึกอับอายได้อย่างตบมือให้
“เธอมาได้ยังไง”
น้ำเสียงของเขาราบเรียบเย็นชา แต่คนฟังอย่างหล่อนรู้ดีว่าเขากำลังมีโทสะมากมายแค่ไหน
“คือฉัน...”
หล่อนอึกอัก และจ้องมองเรือนกายกำยำของเขาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น มองจ้องไปทุกๆ ส่วนราวกับมันคือสิ่งมหัศจรรย์
“คือฉัน...”
เนื้อนวลก็ยังอึกอักพูดไม่ออกเช่นเดิม สายตาก็ยังอยู่ที่เขาเหมือนเดิมเช่นกัน
คิริลกระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสายตาที่จับจ้องมองมาของแม่ผู้หญิงแพศยาตรงหน้าจะทำให้เขารู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาแบบนี้ ความเป็นชายของเขาค่อยๆ แข็งชันขึ้น จนสุดท้ายก็เต็มที่ใหญ่โต
“โอ้...”
คนที่จ้องมองแบบไม่ละสายตาอุทานราวกับพึ่งเคยเห็น เสียงของหล่อนมีอิทธิพลต่อเขาอย่างรุนแรง คิริลบอกตัวเองว่าแม่นี่คือของสกปรกและเขาก็ห้ามแตะต้องเด็ดขาด แต่ดูเหมือนว่าร่างกายจะไม่ยอมฟัง มันต้องการ...
บ้าชะมัด!
มือหนาเอื้อมไปกระชากผ้าขนหนูสีขาวมาพันรอบสะโพกเพรียวของตัวเอง ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เสียงกลืนน้ำลายของเนื้อนวลดังขึ้น
“ร่าน”
คำด่าทอร้ายกาจและความเปลือยเปล่าที่หายไปของเขาทำให้เนื้อนวลได้สติ หล่อนอับอาย หน้าร้อนผ่าว แก้มแดงก่ำ ยิ่งเงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขาก็ยิ่งแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี
“ฉัน... ฉันไม่คิดว่าคุณจะโป๊...”
หญิงสาวแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
“เวลาเธออยู่ในห้องน้ำคงไม่โป๊สินะ”
เขาประชดประชันและเดินผ่านหล่อนออกมาจากห้องน้ำ มาหยุดตรงกลางห้องนอน
เนื้อนวลรีบเดินตามออกมาด้วยแข้งขาที่สั่นเทา ตอนนี้รู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าตัวเองทำพลาดไปแล้ว ไม่น่าเลย ไม่น่าเข้าไปในห้องน้ำเลย น่าจะรอให้เขาออกมาก่อน ดูสิ... ตอนนี้ภาพไอ้หนอนยักษ์ของเขายังติดตาไม่หายเลย บ้า บ้า บ้าที่สุด
“ตอบคำถามฉันมาว่าเธอมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง”
เขาไม่รอให้หล่อนตั้งหลักได้เลยสักนิดยามซัดวาจาเดือดดาลเข้าใส่
หญิงสาวกัดปากแน่น พยายามแข็งใจโต้ตอบออกไป
“ฉันไม่จำเป็นต้องสาธยายให้คุณฟัง รู้เอาไว้เพียงแค่ว่าฉันต้องการให้คุณคืนเอวาให้กับฉัน”
คิริลแค่นยิ้มหยัน มองสตรีตรงหน้าอย่างชิงชัง
“แม่ร่านร้อนแบบเธอ ไม่มีทางดูแลลูกได้ ฉันไม่ต้องการให้เด็กยึดแม่แพศยาแบบเธอเป็นแบบอย่าง ดังนั้นเธอไม่มีสิทธิ์ในตัวของเอวาอีกแล้ว ไสหัวไปซะ”
คนฟังกำมือแน่น มองเขาอย่างขุ่นเคือง
“ฉันจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่ฉันต้องการเอวาคืน”
“ฝันไปเถอะ ต่อไปนี้เธอจะไม่มีวันได้พบกับเอวาอีก กลับไปอยู่ในวังวนเดิมๆ ของเธอเสียเถอะ ไม่ต้องแสร้งทำเป็นห่วงใยลูกสาวอีกแล้ว เพราะฉัน...”