7 มันเจ็บน้อยกว่า

1672 Words
หลังจากที่มีนาเดินเข้าไปภายในห้องน้ำ โซ่ก็หันกลับไปนั่งเปิดม่านจ้องมองไปยังบรรยากาศภายนอกด้วยหัวใจที่ยังคงเต็มไปด้วยแผลสด สายตาคมมองออกไปยังด้านนอก สลับกับก้มลงมองยังรูปหน้าจอในโทรศัพท์ที่ยังคงเป็นรูปคู่ของเขากับอดีตคนรัก นัยน์ตาคมแสดงออกมาถึงความหม่นหมองเจ็บปวดอีกครั้ง ทั้งที่เขาปักใจไว้แล้วกับรดา ต้องการที่จะสร้างทุกอย่างไปกับเธอหลังจากเรียนจบ เขาคิดไกลไปถึงการเตรียมขอหมั้นหญิงสาวรุ่นพี่ทันทีที่เรียนจบ แม้พักหลังทั้งสองจะระหองระแหงกันบ่อยจากท่าทีที่เปลี่ยนไปของรดา แต่โซ่ก็ยังคงพยายามประคับประคองความรักครั้งนี้ให้ได้เดินต่อไปด้วยกัน กระทั่งวันนี้... "..." เจ้าของใบหน้าหล่อแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาอย่างไม่ปกปิด ดวงตาคมเลื่อนกลับไปมองยังภาพด้านนอกหน้าต่างอีกครั้งด้วยแววตาว่างเปล่าไร้ความหมาย โดยที่คนตัวสูงไม่รู้เลยว่า มีสายตาของใครอีกคนที่ยืนแอบมองในทุกท่าทีของเขาอยู่ตลอดด้วยความห่วงใย เช้าวันต่อมา... เสียงมือเล็กของมีนากำลังตั้งใจในการทอดไข่ดาวเพื่อเป็นอาหารเช้าให้กับรุ่นพี่ตัวสูงรวมถึงตัวเอง โดยนอกจากการทอดไข่แล้ว มีนาก็แทบจะทำอะไรไม่เป็นอีกเลย เพราะโดยปกติเวลาที่อยู่บ้าน เมื่อตื่นนอนขึ้นมาแล้ว คนตัวเล็กก็จะอาบน้ำแต่งตัวเดินลงไปทานอาหารเช้าที่บรรดาแม่บ้านคอยจัดเตรียมไว้ให้ ทำให้มีนาไม่เคยที่จะได้ทำอะไรเป็นเลย อย่างการทอดไข่ เธอก็ดูจากพวกคลิปวีดีโอแล้วก็ลองทำง่าย ๆ คนเดียวที่บ้าน ในตอนที่ทำได้ มีนารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากรีบทำให้เดรคกับเมษาลองกินไปด้วยในตอนนั้น การทอดไข่จึงเป็นอาหารที่มีนารู้สึกภาคภูมิใจและมั่นใจที่สุดในการทำอาหารของตัวเอง "ตื่นแล้วเหรอคะ" เจ้าของใบหน้าใสเอ่ยถามคนตัวสูงที่เดินงัวเงียเข้ามาภายในครัว ขณะที่เธอกำลังจัดจานอาหารอยู่ โซ่ก็พยักหน้าก้มลงมองยังจานอาหารตรงหน้า "เราจะตื่นมาทำทำไม ทำไมไม่ปลุกพี่" เสียงทุ้มถาม "มีนาไม่อยากรบกวนพี่โซ่ค่ะ เห็นว่าพี่กำลังนอนหลับอยู่" เรียวปากเล็กตอบกลับพลางส่งสายตาใสไปยังรุ่นพี่หนุ่ม โซ่ที่เห็นแบบนั้นจึงเถียงไม่ออก โดยเมื่อคืนเขาให้มีนานอนภายในห้องนอนของเขา ส่วนเขาก็นอนอยู่ด้านนอกที่โซฟารับแขก "จริง ๆ เลยนะ เราเนี่ย" ชายหนุ่มพึมพำด้วยความเริ่มชินไปกับนิสัยขี้เกรงใจของรุ่นน้องตัวเล็ก "กินเลยไหมคะ กำลังร้อน ๆ เลยนะ" มีนาเอ่ยถามคนตรงหน้า "เดี๋ยวพี่ขอไปล้างหน้าก่อนแล้วกัน" โซ่ยิ้มตอบก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ขณะที่มีนาก็นั่งยิ้มมองตามแผ่นหลังกว้างของอีกคนไปด้วยความรู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้กับคนที่แอบชอบ โดยใช้เวลาไม่นาน สองเท้าหนักก็เดินกลับมา "อ้าว ทำไมเรายังไม่กินอีกล่ะ" "มีนารอพี่โซ่อยู่ค่ะ" "เฮ้อ จะรอพี่ทำไมกัน เรานี่นะ" ริมฝีปากหนาบ่นอุบเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงกินข้าวไข่ดาวฝีมือลูกสาวเพื่อนสนิทแม่ "ทอดเก่งนี่ สามารถทำให้ไข่ขาวกรอบได้โดยที่ไข่แดงไม่สุก" โซ่เอ่ยชมเชยขึ้นทำให้มีนายิ้มตาหยีไปด้วยความดีใจที่ได้ยิน "พี่โซ่ก็ชอบกินแบบนี้เหรอคะ" "อืม เวลากินไข่ดาว มันก็ต้องไข่แดงไม่สุกแล้วก็กรอบ ๆ แบบนี้สิ" "จริงค่ะ" มีนาเอ่ยพร้อมกับหัวเราะออกมา ซึ่งท่าทีพวกนั้นทำเอาโซ่อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามคนเป็นน้องด้วยความรู้สึกเอ็นดู และท่าทางพวกนี้ของมีนา ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถได้เห็นกันบ่อย ๆ เธอมักจะมีท่าทางพวกนี้กับคนที่สนิทกันเท่านั้น ถ้าเป็นเวลาปกติ มีนาจะเป็นคนเรียบร้อยแต่เข้าถึงยาก มีนิสัยของเมษาอยู่ในตัวไม่น้อย งั่ม ๆ~ เสียงมีนายังคงนั่งกินข้าวไข่ดาวฝีมือตัวเองไปด้วยความเอร็ดอร่อยลืมตัว กระทั่งผ่านไปได้เกือบนาที คนตัวเล็กก็ชะงักรู้สึกได้ถึงสายตาคมของใครบางคนที่กำลังนั่งมองมายังตัวเอง "เอ่อ..." "เราดูกินข้าวอร่อยดีนะ" โซ่ยิ้มบอกขณะที่นั่งมองหน้ารุ่นน้องตัวเล็กที่เมื่อกี้ดูตั้งใจกินข้าวในจานเป็นอย่างมาก มีนาที่ถูกทักก็ชะงักไม่ยอมกินต่อ "อ้าว ทำไมไม่กินต่อล่ะ" "..." หญิงสาวก็นิ่ง ทำเอาคนตัวสูงแสดงสีหน้าสงสัยออกมา "โทษที เพราะพี่ทักใช่ไหม" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอาจจะเสียมารยาททักอีกคนไป "ปละ...เปล่าค่ะ ไม่ใช่" มีนารีบยกมือขึ้นปฏิเสธ ที่เธอมีอาการแบบนี้ก็เพราะสายตาจับจ้องจากเขาต่างหาก "งั้นก็กินต่อสิ" "เอ่อ..." "หรือว่าเขินที่พี่มอง?" "คะ...คะ? เอ่อ ไม่ใช่นะคะ...ไม่ใช่ซะหน่อย" มีนาเบ้ปากบอกในประโยคหลัง ทำเอาโซ่หัวเราะยิ้มออกมากับท่าทีพวกนั้น "โอเค พี่ไม่มองแล้ว กินต่อเถอะ" ว่าแล้ว ทั้งสองก็นั่งกินข้าวกันต่อ โดยที่โซ่ก็นั่งยิ้มลอบมองไปยังมีนาด้วยแววตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู ซึ่งตลอดการนั่งกินข้าวเช้าด้วยกันนั้น ภายในใจของมีนาก็ยิ่งทำงานหนักไปกับทั้งสายตาและท่าทีของทั้งสองที่ดูเหมือนว่าจะสนิทกันมากขึ้นกว่าตอนแรกอยู่หลายเท่าตัว...คนตัวเล็กเองไม่เคยที่จะได้ใกล้ชิดกับรุ่นพี่ตัวสูงได้นานขนาดนี้มาก่อน นี่เป็นเหมือนครั้งแรกเลยที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเพียงสองคน ผ่านไปสักพัก หลังจากที่กินข้าวทำอะไรกันเสร็จ โซ่ก็ได้เดินลงมาช่วยมีนาและที่บ้านทำการย้ายของเพื่อเข้าพักยังคอนโดใหม่ที่เดรคกับเมษาจัดการซื้อเป็นชื่อของมีนาแล้วเป็นที่เรียบร้อย "รบกวนโซ่อีกแล้ว ขอโทษด้วยนะ" เสียงเมษาเอ่ยบอกลูกชายเพื่อนสนิทที่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เธอรบกวนชายหนุ่มไปแล้วหลายอย่าง "ไม่เป็นไรเลยครับน้าเมษา สามารถเรียกผมได้ตลอดเลยนะครับ" โซ่ยิ้มบอกหญิงวัยกลางคนด้วยน้ำเสียงอบอุ่นสุภาพ เดรคที่ได้ยินแบบนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปตบบ่าขอบคุณหลานชาย "ขอบคุณนะโซ่ ลุงฝากน้องด้วยนะ" "ครับลุงเดรค" เจ้าของใบหน้าหล่อรับคำ ก่อนที่เดรคและเมษาจะหันไปพูดคุยกับลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเอง เป็นเดรคที่มีท่าทีเหมือนใจจะขาดกับการที่จะต้องปล่อยให้มีนาออกมาลองใช้ชีวิตเองคนเดียว ส่วนเมษาก็มองหน้าลูกสาวตัวเองด้วยความเชื่อมั่นว่าการออกมาใช้ชีวิตในครั้งนี้จะทำให้มีนาเติบโตและเรียนรู้ทำอะไรด้วยตัวเองได้ "มีอะไรก็โทรหาแม่ได้ตลอดเวลาเลยนะ" เมษาเอ่ยบอกคนเป็นลูก "ค่ะ" มีนาพยักหน้ารับรู้ "หรือถ้าอยากกลับบ้าน อยู่ไม่ได้แล้ว หนูโทรบอกพ่อได้เสมอเลยนะ ไม่ต้องกลัวอะไรนะลูก พ่อจะมารับหนูเอง" เดรคเอ่ย ทำให้มีนาหันไปส่งยิ้มหวานให้พ่อตัวเอง "ได้เลยค่ะ" "ลูกสาวพ่อ" แล้วเดรคก็เดินเข้าไปดึงร่างน้อยของลูกสาวเข้ามาสวมกอดด้วยความใจหายไม่อยากให้ลูกห่างออกจากอก "พอได้แล้ว เดี๋ยวลูกต้องอาบน้ำ มีไปเรียนต่อ" เสียงเมษาหันไปเอ่ยบอกสามีตัวสูง เดรคที่ได้ยินก็จำต้องผละออกจากคนเป็นลูก ก่อนจะยอมเดินไปกับคนรักโดยไม่วายที่จะหันไปเอ่ยร่ำลากับโซ่ที่ยืนอยู่ ซึ่งหลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองเดินออกไป มีนาก็หันไปมองหน้าโซ่ที่ยังคงยืนอยู่หน้าห้อง "เรามีเรียนด้วยเหรอวันนี้" ริมฝีปากหนาถาม "ค่ะ" "แล้วไปยังไง" "เอ่อ...น่าจะรถแท็กซี่นะคะ" "มีเรียนกี่โมง" "บ่ายโมงค่ะ" "งั้นไปพร้อมพี่ไหม พี่มีเรียนช่วงเย็น" "คะ? พี่โซ่มีเรียนตั้งช่วงเย็น งั้นเดี๋ยวมีนา..." "ไปพร้อมกันได้ สุดท้ายพี่ก็ต้องไปอยู่ที่ห้องพักเพื่อดูเอกสารก่อนอยู่ดี" "จริงเหรอคะ" "อืม พี่ไม่ใช่เรานะ" "คะ?" "ที่ยอมโกหกเพื่อให้อีกคนสบายใจ ทั้งที่ความจริงไม่ได้นัดใคร แต่ออกไปเดินคนเดียวเพื่อให้พี่สบายใจ" "..." มีนาก็นิ่ง "อย่าทำแบบนั้นอีกนะ ถึงเราจะอยากให้พี่สบายใจ แต่พี่กลับรู้สึกไม่ดีเลย..." พูดจบ โซ่ก็สาวเท้าเดินออกไปโดยมีสายตาของมีนาที่มองตามแผ่นหลังกว้างของรุ่นพี่หนุ่มไปด้วยแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งเข้าใจในประโยคคำพูด และรู้สึกคิดไม่ตกกับสิ่งที่ทำ ทั้งที่เธอเองไม่อยากให้เขาลำบากใจ แต่การกระทำของเธอกลับทำให้อีกคนรู้สึกไม่ดีไปซะงั้น... "มีนาเองก็ไม่อยากทำแบบนั้นหรอกนะคะ แต่ว่า...ถ้าสุดท้ายพี่ต้องเลือกจริง ๆ ตัวเลือกแรกที่พี่ต้องเลือก...มันก็ไม่ใช่มีนาอยู่ดี ดังนั้นที่มีนาเลือกที่จะถอยออกมาเอง ก็เพราะว่า...มันเจ็บน้อยกว่าค่ะ" สิ้นเสียงหวานพึมพำระบายความรู้สึกออกมา สองเท้าเล็กก็หมุนเดินกลับเข้าไปภายในห้องคอนโดของตัวเองทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD