6 เปียกหมดแล้ว

1414 Words
ด้านโซ่ 'เลิกกันเถอะ' 'ฮะ?' 'รดารู้สึกไม่อยากไปต่อกับโซ่แล้ว เราเลิกกันนะ' เสียงคำพูดที่ออกมาจากเรียวปากสวยของรดายังคงฉายเข้ามาในหัวของโซ่ไม่หยุด คำพูดที่เหมือนเป็นมีดกรีดเข้ามากลางใจของชายหนุ่มกับท่าทีเฉยชาของคนรักที่ตั้งใจเรียกเขามาเพื่อ'บอกเลิกกัน' 'ทำไมล่ะรดา โซ่ทำอะไรผิด' 'โซ่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่รดาเหนื่อยกับความสัมพันธ์ของเรามามากแล้ว รดาอยากไปเจอคนที่เขาพร้อมจะดูแลรดาได้ ไม่ใช่เด็กมหา'ลัยแบบโซ่' หลังจากที่พูดประโยคนั้นออกมา รดาก็เดินออกไปทันทีโดยทิ้งให้โซ่ที่นั่งอยู่ได้แต่รู้สึกปวดหนึบจุกอยู่ที่คอกับความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามา แม้ไม่มีหยดน้ำตา แต่ภายในกลับแหลกสลายไม่มีชิ้นดี... เมื่อได้สติ สองขาแกร่งก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งก่อนจะสาวเท้าเดินออกจากร้านอาหารไปด้วยหัวใจที่ยังคงร้าวราน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผิดพลาดไปตรงไหน เพราะเหตุผลที่ได้ยิน...มันยิ่งทำให้โซ่ไม่เข้าใจ สองเท้าหนาเดินตรงตามทางไปเรื่อย ๆ กระทั่งเม็ดฝนที่เริ่มตกลงมาทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อหยุดเดินค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองยังฟ้าสีหม่นที่กำลังปล่อยเม็ดฝนลงมาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาคมฉายออกมาถึงความว่างเปล่าในชีวิต คำบอกเลิกจากแฟนสาวยังคงฉายเข้ามาไม่หยุด รวมถึงเสียงโทรศัพท์ที่ยังคงสั่นระรัวอยู่ด้านในกระเป๋ากางเกงราคาแพงของเขา ทว่าขณะที่คนตัวสูงกำลังจะเริ่มเปียกปอนไปกับเม็ดฝนที่เริ่มกระหน่ำตกหนักขึ้น... พรึบ อยู่ ๆ ก็มีร่มสีดำถูกเลื่อนเข้ามากันฝนให้กับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ ทำเอาโซ่ชะงักก่อนจะค่อย ๆ หันไปมองยังเจ้าของร่มที่เข้ามาใหม่ โดยทันทีที่หันกลับไปมอง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็ต้องนิ่งไปกับภาพตรงหน้า ซึ่งก็คือภาพของมีนาที่เดินเข้ามาถือร่มกันฝนให้กับเขา ทั้งสองต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันนิ่งอยู่อย่างนั้น ก่อนจะเป็นโซ่ที่ได้สติ "เรามาได้ยังไง..." ริมฝีปากหนาเอ่ยถาม "..." มีนาก็เงียบไม่ตอบ ทำให้โซ่นิ่งพลางค่อย ๆ ยกมือขึ้นไปจับร่มที่มือเล็กถือไว้อยู่ให้เอียงบังไปทางร่างบางเพื่อไม่ให้อีกคนต้องโดนฝน "กลับกันเถอะ เปียกหมดแล้ว" สิ้นเสียงทุ้มเอ่ย ทั้งสองก็พากันเดินตรงไปยังรถของโซ่ที่จอดอยู่ไม่ไกล โดยตลอดทางกลับก็มีแต่เพียงความเงียบงันกับเสียงฝนที่ยังคงกระหน่ำตกอยู่ภายนอกไม่หยุด... @คอนโดโซ่ "เดี๋ยวแวะพักที่คอนโดพี่ก่อนแล้วกันนะ" เสียงพี่โซ่เอ่ยบอกฉันขึ้นหลังจากที่เลี้ยวเข้ามายังภายในตึกคอนโดหรูของพี่เขา โดยฉันเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนนี้ฝนกำลังตกหนักมากจริง ๆ ถ้าจะให้ขับรถกลับไปที่บ้านของฉัน มันก็อาจจะยากลำบากมากเกินไป เพราะแค่ขับมาถึงคอนโดพี่โซ่ ยังแทบจะไม่เห็นทางแล้วด้วยซ้ำ "เราหนาวหรือเปล่า ปรับแอร์ลงได้อีกนะ" พี่โซ่หันมาเอ่ยบอกฉันขณะที่เราสองคนเดินตรงเข้ามาภายในห้องคอนโดของพี่เขา "ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันบอกออกไปพลางลอบมองไปยังพี่โซ่ที่ดูเปียกกว่าฉันมาก จากการที่ตอนหลังพี่เขาดึงร่มมาบังให้ฉันแล้วทำให้ตัวเองเปียกปอนไปหมดกว่าจะเดินถึงรถ โดยร่มที่ฉันเอาไปด้วยนั้นก็คือร่มของพี่ยามข้างตึกที่ฉันไปขอซื้อต่อมาเพื่อเดินตามหาพี่โซ่ ยอมรับว่าตอนที่เห็นพี่โซ่ในตอนนั้น ใจฉันรู้สึกกระตุกอยู่ไม่น้อย ใบหน้าหล่อที่เคยมีรอยยิ้มอบอุ่นใจดีอยู่แปรเปลี่ยนเป็นเจ็บปวด แววตาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า...มันเป็นภาพที่ทำเอาใจฉันรู้สึกเจ็บหน่วงไปด้วยมากจริง ๆ หรือแม้กระทั่งตอนนี้... "..." พี่โซ่ก็เอาแต่เงียบจ้องมองไปยังด้านนอกหน้าต่างกระจกสวยที่มีเม็ดฝนกระหน่ำตกลงมาไม่หยุด รวมถึงเสียงฟ้าด้านนอกที่เริ่มดังสนั่นทั้งที่ภายในห้องค่อนข้างเก็บเสียงเป็นอย่างดี เปรี้ยง! ฉันเผลอสะดุ้งเฮือกไปด้วยความตกใจ นอกจากนิสัยที่ไม่ค่อยพูดกับคนไม่สนิทที่เหมือนแม่ตัวเองแล้ว ก็มีเรื่องไม่ชอบเสียงฟ้าร้องนี่แหละ ที่ฉันได้มาจากแม่เต็ม ๆ ซึ่งพี่โซ่ที่เหมือนรู้สึกได้ถึงท่าทางของฉันก็หันกลับมามอง "เรากลัวเสียงฟ้านี่" ปากหนาเอ่ยก่อนจะเอื้อมมือไปปิดม่านเพื่อไม่ให้ฉันต้องเห็นแสงจากฟ้า พี่เขายังจำได้... "พี่ขอโทษนะ" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยบอกฉัน ทำให้ฉันรีบตอบกลับไปทันที "ไม่เป็นไรค่ะ มีนาสิที่ต้องขอโทษ..." ทั้งที่อยากจะเข้าไปช่วยเหลือพี่เขาแท้ ๆ แต่รู้สึกเหมือนตัวเองกลับมาเป็นภาระให้กับพี่เขาแทนอย่างบอกไม่ถูก "ขอโทษ?" "ทั้งที่อยากเข้าไปช่วยพี่ แต่เหมือนกลับยิ่งทำให้พี่..." "ไม่เป็นไรหรอก พี่รู้ว่าเราเป็นห่วง ขอบคุณนะ" พี่โซ่ยิ้มเอ่ยบอกฉันด้วยท่าทียังคงอบอุ่นใจดีเหมือนเคยแม้ว่าแววตายังไม่ได้เหมือนทุกครั้งก็ตาม มันยังคงมีความเจ็บปวดฉายออกมาจากแววตา... ครืดดด ~ เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งได้สติ แม่ ติ้ด "ค่ะแม่" (อยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับ ฝนตกหนักนะ) "เอ่อ..." "น้าเมษาเหรอ" พี่โซ่หันมาเอ่ยถามฉัน ฉันจึงพยักหน้าตอบกลับพี่เขาไป "ให้พี่คุยให้ไหม" "..." ฉันก็นิ่ง "มา เดี๋ยวพี่คุยให้" ว่าแล้ว พี่โซ่ก็ยื่นมือมาขอโทรศัพท์ไปจากฉัน ซึ่งฉันก็จำต้องยื่นโทรศัพท์ไปตามที่พี่เขาต้องการ "สวัสดีครับน้าเมษา" "ครับ พอดีตอนนี้น้องอยู่ที่คอนโดผมครับ เราแยกกันไปแล้วรอบหนึ่ง แต่บังเอิญเจอกันอีกรอบ ผมเห็นว่าฝนตกเลยพาน้องมาอยู่ที่คอนโดผมก่อนครับ กะว่าถ้าฝนเบาลงจะพาน้องไปส่งที่บ้าน...แต่ตอนนี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะเบาลงเลยครับ ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกน้าเมษาก่อนนะครับ" พี่โซ่บอกทุกอย่างตามตรงกับแม่ของฉันด้วยความฉะฉานเต็มไปด้วยความนอบน้อม "ครับ" "ไม่รบกวนเลยครับ ถ้าน้าเมษาอนุญาต ผมก็จะบอกน้องให้ครับ" "ครับ ไม่เป็นไรเลยครับ" "ครับ สวัสดีครับ" หลังจากที่คุยกับแม่ฉันเสร็จ พี่โซ่ก็กดตัดสายหันมาส่งยิ้มพูดคุยกับฉันต่อ "น้าเมษาบอกว่าให้เรานอนห้องพี่ไปก่อนคืนนี้" "คะ?" "ข้างนอกฝนยังตกหนักอยู่ น้าเมษากับลุงเดรคกลัวเราเกิดอุบัติเหตุเลยให้เรานอนที่ห้องพี่ไปก่อน เราโอเคหรือเปล่า" พี่โซ่มองหน้าถามฉัน ฉันจึงตอบกลับพี่เขาไป "มีนาไม่อะไรอยู่แล้วค่ะ แต่มันจะรบกวนพี่โซ่เกินไป..." "ไม่เป็นไรเลย พี่โอเค..." "...เราจะอาบน้ำเลยก็ได้นะ แล้วเอาชุดพี่ไปใส่ก่อน" "..." ฉันก็นิ่งอย่างทำตัวไม่ถูก "เดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ตู้เสื้อผ้าพี่ได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ" สิ้นเสียงพี่โซ่เอ่ย สุดท้ายฉันก็ต้องลุกขึ้นไปหาหยิบเสื้อผ้าไปตามที่พี่เขาบอก โดยตลอดการอยู่ด้วยกัน แม้ส่วนใหญ่จะมีแต่เพียงความเงียบงัน แต่ฉันกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เพราะมันก็เหมือนเป็นครั้งแรกที่เราได้อยู่ใกล้ชิดกันนานขนาดนี้ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกดีที่ไม่ใช่แนวคิดไม่ดีอะไรกับพี่เขานะ มันก็เหมือนความรู้สึกของคนคนหนึ่งที่ได้อยู่ใกล้คนที่เราชอบนั่นแหละ มันก็แค่นั้นเลย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD