"จะไปไหนเหรอที่รัก" ชายหนุ่มกระซิบพูดใกล้จนหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักรู้สึกขนลุกซู่ แต่พอเธอจะลุกขึ้นก็ถูกมือของเขารัดไว้แน่นเลย
เพื่อนอีกสามคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ได้แต่กรอกตามองกัน ไม่คิดว่าเหยื่อจะมาติดกับมันเองแบบนี้ง่ายเกินไปไหมเนี่ย
"ดื่มสิ" ขุนรามทำลายความเงียบในกลุ่มเพื่อน โดยการยกเหล้ายื่นไปชนแก้วกับเพื่อนอีกสองคน แถมเพื่อนสองคนนั่นก็ยังไม่ลงรอยกันอีก
"คือว่าฉันแค่.."
"แค่อะไร" ริมฝีปากหนายังคงอยู่ใกล้มาก จนออมสินที่นั่งอยู่บนตักแทบอยากหายตัวไปจากตรงนี้
"แค่อยากทำความรู้จักค่ะ ก็คุณหล่อขนาดนี้" ถึงแม้ว่านิสัยเธอจะแก่นแก้วแต่ก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ด้วยความที่อยากจะเอาชนะเพื่อนต้องลงทุนขนาดนี้เลยหรือเรา
"ชงเหล้ามา" ขณะที่สั่งพนักงานชงเหล้ามาให้เธอสายตานั้นยังคงจับจ้องที่ใบหน้าสวยหวาน
"ได้แล้วครับ" เจอาร์มือขวาคนสนิทของมาเฟียที่มีนามว่าเจ้าเวหารับแก้วเครื่องดื่มจากพนักงานแล้วส่งไปให้เจ้านาย..
“ดื่มหน่อยสิ” ชายหนุ่มพูดพลางขยับแก้วเหล้ามาชิดกับริมฝีปากบาง
"ไม่ต้องป้อนหรอกค่ะเดี๋ยวฉันดื่มเองได้"
"เมื่อกี้ยังให้ผมบอกรักอยู่เลย ไม่รักผมแล้วเหรอ"
ออมสินชำเลืองมองไปดูเพื่อน ทีแรกว่าจะขอความช่วยเหลือ แต่พอเห็นเมญ่าถือแก้วเหล้าเดินเข้ามาใกล้เธอเลยเผยอริมฝีปากออก
"อืมม!?" แต่พอริมฝีปากบางเผยอออกแทนที่อีกฝ่ายจะรินเหล้าให้ แต่เขากลับขยับแก้วออกแล้วโน้มริมฝีปากลงมาจูบ
"มันเอาจริงว่ะ" เพื่อนที่ทำทีพูดคุยกันเหมือนว่าไม่สนใจแต่พอเห็นฉากนั้นแล้วก็อดมองมาดูไม่ได้
ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นจนแทบจะเป็นไข่ห่าน
"คุณทำอะไร!" จังหวะที่ลิ้นหนากำลังจะแทรกเข้ามาออมสินรีบขยับใบหน้าออก
ในห้องน้ำของสถานบันเทิงแห่งนั้น..
"ไอ้บ้าเอ้ยฉันขอสาปแช่งแก!" หลังจากที่เสียจูบแรกไปเธอก็ไม่สนใจสิ่งที่พนันกับเพื่อนไว้แล้ว พอเข้ามาถึงในห้องน้ำออมสินก็ใช้มือวิดน้ำจากก๊อกของอ่างล้างหน้าขึ้นมาล้างปากตัวเองออก
"ออมสินเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น" ไอเดียรีบตามออมสินมาที่ห้องน้ำ
"เปล่าหรอก" ภาวนาขออย่าให้เพื่อนเห็นเลยว่าเธอถูกจูบ เพราะถ้าไม่นั่งร่วมโต๊ะด้วยกันจริงๆ อาจจะไม่รู้ว่าตอนที่เขาโน้มใบหน้าเข้ามาเขาได้จูบไหม
ด้านนอกในเวลาเดียวกันนั้น..
"มัวต่อแขนต่อขาให้ลูกอยู่หรือไงถึงได้เพิ่งมาเอาป่านนี้"
"พูดอะไรของมึงเดี๋ยวเมียกูก็มาได้ยินหรอก" นเรศวรหันมองด้านหลังกลัวว่าทรงอัปสรจะเดินตามมาทางนี้ด้วย
"หมดกันชื่อเสียงของแก๊งค์เราที่สะสมมา"
"สวัสดีค่ะ ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ" ได้ยินเสียงนี้มาเฟียทั้งห้านายหันไปมองแทบจะพร้อมกัน
"ใครวะ" นเรศวรหันกลับมาถามขุนราม แต่เขาก็คุ้นหน้าเด็กคนนี้อยู่บ้าง
"กูจะไปรู้เหรอ แต่มาเหมือนคนเมื่อกี้เลย"
"คนเมื่อกี้?" นเรศวรไม่รู้ว่าเพื่อนพูดถึงเรื่องอะไร
"ฉันชื่อเมญ่าค่ะ ขอนั่งตรงนี้ได้ไหมคะ" ถึงแม้ว่าโต๊ะนี้จะมีหนุ่มหล่อถึงห้าคน แต่เมญ่าดูจะให้ความสนใจกับผู้ชายที่เป็นเจ้าของวันเกิดมากกว่า
"เฮ้ยออมสินแกดูนั่น" ไอเดียที่เดินออกมาพร้อมกับออมสินมองไปเห็นว่าเมญ่ากำลังนั่งลงข้างๆ ผู้ชายที่เพื่อนพนันกัน "เอาไงต่อดีวะ ฉันว่าเมญ่าต้องรุกหนักกว่าแกแน่เลย หรือแกจะยอมแพ้ดีวะ"
"แกเคยเห็นฉันยอมแพ้อะไรง่ายๆ งั้นเหรอ"