"อุ๊ย" เมญ่ารีบขยับออกเล็กน้อยตอนที่สะโพกของออมสินนั่งลงบนตักเสี่ยหุ้นส่วนที่นี่
"ตอนที่ออมสินไปเข้าห้องน้ำได้ยินคนพูดกันว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเสี่ยหรือคะ" นั่งลงแล้วไม่รู้จะคุยอะไรดีเลยหยิบยกเรื่องนี้มาพูด
"นึกว่าคุณรู้แล้วสะอีก ตอนเข้ามาพนักงานไม่ได้แจ้งเหรอ"
"พนักงานบอกแล้วค่ะแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเสี่ยท่านไหน" หวังว่าเขาคงจะเชื่อนะ แค่อยากหาเรื่องชวนคุยเอง ทำไมต้องถามเหมือนว่าจับผิดเราด้วย
"แน่ใจหรือจ๊ะออมสินว่าเธอไม่รู้"
ออมสินปรายตามองไปดูคนที่นั่งอยู่ข้างๆ จะเล่นแบบนี้เลยหรือ
"เราสองคนรู้จักกันเหรอ" ก็รู้ตัวอยู่หรอกว่าตัวเองหล่อและเป็นที่หมายตาของสาวๆ แต่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนแสดงตัวโจ่งแจ้งขนาดนี้ ผู้ชายแพรวพราวแบบเขามีหรือจะจับทางไม่ได้
"คือ.." ออมสินยังไม่มีแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แค่เข้ามาขัดขวางคู่ต่อสู้เฉยๆ "ใช่ค่ะเราสองคนรู้จักกัน" เอาวะยังไงก็ต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้ได้ก่อน ลืมนัดแนะกับเมญ่าเลยว่าเราสองคนต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน
"เรามาเที่ยวที่นี่บ่อยเหรอ" เขายังคงสนใจพูดคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่บนตัก จนเมญ่าตำหนิตัวเองที่บุกช้าไป
"ก็ไม่ค่อยบ่อยค่ะ"
"วันนี้มันแขวนพระอะไรมาวะมีแต่สาวๆ รุมล้อมแถมรุ่นละอ่อนทั้งนั้นเลย" ขุนรามชวนสิงขรพูดแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจจะคุยด้วย เลยหันมาพูดกับนรสิงห์ "มึงว่ามันแขวนพระอะไรวะ"
"มึงอยากได้หรือไงทำไมไม่เรียกมานั่งด้วยสักคนสองคนล่ะ"
"บ้าหรือไงเรียกมากูก็หัวขาดน่ะสิ"
"กูคิดว่าไม่ใช่แค่ไอ้นเรศแล้วมั้งที่กลัวเมีย"
"หยาบคายมาเที่ยวใครให้พูดถึงเมียกันล่ะ"
"แสดงว่าเคยมาเที่ยวที่นี่แล้ว.." ทั้งคำพูดและแววตาของเขามันชวนให้เธอรู้สึกสยิวยังไงไม่รู้ เพราะใบหน้าของเขาอยู่ใกล้มาก ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจของอีกฝ่ายได้เลย "ก็ต้องมีบ้างค่ะ"
"เสี่ยคะเมญ่าน้อยใจนะคะ" เมญ่ารีบพูดดักทางทั้งสองเพราะเหมือนว่าจะ Spark กันเข้าให้แล้ว
ชายหนุ่มกำลังจะหันไปให้ความสนใจกับผู้หญิงอีกคน แต่ถูกมือเรียวของคนที่นั่งอยู่บนตักเชยคางแล้วให้หันกลับมาหาเธอ
แปลกมากทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ใช้แรงเลยแต่ใบหน้าของเขาก็หันตาม
แต่ออมสินยังไม่ทันได้พูดอะไรก็มองไปเห็นสัญญาณมือจากการ์ตูน เธอรู้ได้ในทันทีเลยว่าจะนั่งอยู่ตรงนี้อีกไม่ได้แล้ว
"เราไปทำความรู้จักกันต่อข้างนอกดีไหมคะ"