EP : 3

1223 Words
“ทำไมเดี๋ยวนี้มึงมาร้านกูบ่อยจังวะ” “สงสัย?” “อืม” “เปล่าไม่มีไรหรอก กูแค่มาหา...เมียมึง” “ไอ้เหี้ย” olo “หึ ๆๆ” ได้ทั้งเหี้ยได้ทั้งควายเลยว่ะแต่ไม่ได้สนใจไม่เจ็บไม่ได้ทำให้กูตาย “ตอบมาดี ๆ อย่ามากวนส้นตีนกูไม่งั้นกูจะติดป้ายห้ามมึงเข้ามา” “มาแดกเหล้า” “แดกเกือบเกือบทุกวัน? ” “แล้วไม่ดีเหรอ กูไม่ได้มาแดกฟรีซะหน่อย” “กูรู้แต่กลางคืนมึงไม่ทำเหี้ยไรเลยเหรอวะนอกจากมานั่งร้านกู” “ถามทำห่าไรวะไอ้ฟลุ๊ค มึงไม่ไปถามลูกค้าข้างล่างบ้างว่าพวกมันไม่ทำเหี้ยไรรึไงถึงมาร้านมึง” “สัส! นั่นลูกค้ากู” “กูก็ลูกค้า” เวลานั่งข้างล่างผมไม่เคยแดกฟรีไอ้ห่าฟลุ๊คเสือกอะไรกับลูกค้าอย่างผมมากมายวะ “กูว่ามึงแปลก ๆ ว่ะไอ้เซนส์” “ไม่เสือกน่า กูไม่ได้มาตีท้ายครัวมึงก็พอแล้ว” “หึ!” ไอ้ฟลุ๊คแค่นเสียงใส่แต่ผมไม่ได้สนใจอะไรมากมาย แค่แวะมาทักทายเดี๋ยวก็ลงไปข้างล่าง “เดี๋ยวกูไปแล้ว” “ไปไหนวะ” “ข้างล่าง กูแค่ขึ้นมาทักทายมึง” “มึงจะหาเหยื่อว่างั้น?” “หึ ๆๆ ไม่เสือก เอาเวลาเฝ้าร้านเฝ้าเมียไปเถอะมึง” ผมเดินออกมาโดยที่ไม่ได้คุยอะไรกับมันต่อ ข้างบนไม่มีอะไรน่าสนใจ ไอ้ฟลุ๊คเป็นผู้ชายส่วนพิงค์ถึงจะสวยมากแต่ก็มีผัวแล้วข้างล่างต่างหากที่น่าสนใจแล้วก็...โคตรน่าสนใจ #SENSE END #PEEMAI TALK “โคตรช้า” “ปีแต่งทั้งตัวไม่ได้ล้างแค่ตีนจ้ะฟิวส์จะได้ใช้เวลาห้าวิสิบวิ” “กวนส้นตีน” “ฮ่า ๆๆ เอาน่า ไปเลยที่รักขับรถไปเลย” ฉันที่นั่งข้างหลังบอกมันที่เป็นคนขับแต่พอพูดจบปฏิกิริยาจากอีกคนที่นั่งเบาะหน้าคนขับก็ทำให้ฉันไม่ค่อยสบายใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร “เพื่อนคนอื่นไปถึงกันยัง” คุยเรื่องอื่นดีกว่าจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดในใจ “ทยอยถึงกันแล้ว” อชิเป็นคนตอบแต่ฟังก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ค่อยดี “อ่อ” “อย่าเมานะมึงกูขี้เกียจหามกลับ” “ไม่เป็นไรน่า ถึงเมาก็นอนบ้านพี่ได้” ใช่ค่ะวันนี้พวกเรากำลังจะไปเที่ยวผับกันและผับที่จะไปก็คือผับของเฮียฟลุ๊คสามีเจ้พิงค์ ญาติผู้พี่ของฉันเอง เพื่อนมันติดใจผับเฮียฟลุ๊คกันเพราะฉันพาไปเมื่อคราวก่อนเลยชวนกันไปอีก “นอนบ้านพี่นั่นแหละดีแล้วจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว” อชิพูดขึ้นซึ่งฉันเองก็ไม่ได้เถียงอะไรไอ้ฟิวส์ก็ชวนคุยเรื่องอื่นต่อจนกระทั่งมาถึงผับของเฮียฟลุ๊ค “...” คุณพระ! ปีใหม่ตกใจเบา ๆ หลังจากเข้ามาได้ไม่ถึง 5 นาทีก็เห็นออร่าความหล่อที่พุ่งกระจายออกมาจากมุมหนึ่งของผับ คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมคะ ฉันไม่เคยเชื่อเลยนะแต่วันนี้ฉันเชื่อแล้วล่ะว่าพรหมลิขิตมีจริง เจอกันอีกแล้วสินะคุณเนื้อคู่ อิอิ แต่! แต่ติดขัดนิดหน่อยตรงที่มีเพื่อนอย่างมาร์กี้นั่งฉอเลาะกับพี่เซนส์เหมือนครั้งนั้นอีกแล้ว ไม่น่าชวนเลยจริง ๆ ไม่ได้สนิทกันเลยนะแต่แค่ชวนตามมารยาทเพราะมาร์กี้นั่งอยู่ตอนที่ตกลงกับเพื่อนพอดียัยนี่ก็ตามมาเที่ยวด้วยถึงสองครั้ง โคตรเซ็งเลย “หวัดดีค่ะพี่เซนส์” “อ้าวปีใหม่ ไงเรามาเที่ยวเหรอ” ทักเบา ๆ พี่เซนส์ก็หันหน้าจากมาร์กี้มาทักทายปีใหม่ด้วยใบหน้าหล่อ ๆ แล้ว แอบเข้าข้างตัวเองได้ไหมนะว่าพี่เขาสนใจฉันเลยเมินยัยมาร์กี้ >///< “ค่ะ พี่เซนส์มาเที่ยวหรือว่ามาหาเฮียฟลุ๊คคะเนี่ย” ฉันชวนคุยไม่เหมือนรอบที่แล้วเพราะอะไรรู้ไหม เพราะไม่อยากให้พี่เซนส์ไปสานสัมพันธ์กับมาร์กี้ไง ไม่งั้นวุ่นวายแน่นอน “พี่มานั่งเล่น” “อ่อ ค่ะ ไงแกไม่ไปนั่งกับเพื่อนรึไงจ้ะ” ฉันแกล้งทำเป็นหันไปแซวมาร์กี้ที่เพื่อนในโต๊ะที่มาถึงก่อนแอบเม้าท์ว่าตั้งแต่มาถึงก็เดินมาหาพี่สุดหล่อคนนี้ทันที แต่เสียใจคงไม่ได้หรอกนะมาร์กี้ ขอโทษทีนะคนนี้ของปีใหม่จ้ะ “เดี๋ยวก็ไป” มาร์กี้ดูไม่พอใจเท่าไหร่นะคะ แต่ฉันไม่สนหรอกนะเพื่อนในเมื่อพี่เซนส์ยังไม่เป็นของใคร มือใครยาวสาวได้สาวเอาแล้วกันเนอะ อิอิ “พี่เซนส์เห็นเจ้พิงค์บ้างไหมคะ” ฉันแค่พยักหน้ารับแล้วหันมาถามพี่เซนส์แบบสนิทสนมดีกว่า~ “พิงค์เหรอพี่ยังไม่เห็นนะ” “...” หล่อ -///- “ปีใหม่” “...” หล่อจัง -///- “ปีใหม่” “...” หล่อมากเลย -///- “ปีใหม่ ปีใหม่!” “ว้าย! คะ! มีอะไรคะพี่เซนส์” “เซนส์ต่างหากที่ต้องถามแกว่าเป็นอะไรทำไมเอาแต่มองหน้าเขา” พี่เซนส์ไม่ใช่คนตอบแต่เป็นมาร์กี้ต่างหากที่ตอบออกมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจชัดเจน “ฮะ? อ๋อ~ ไม่มีไรค่ะพี่เซนส์ ปีกำลังมองไปทางโน้น~ เหมือนเห็นคนรู้จักน่ะค่ะ” ฉันแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ ไม่รู้ว่าจะฟังขึ้นไหม แต่รู้สึกขัดใจที่มาร์กี้เรียกพี่เซนส์ว่าเซนส์เฉย ๆ เป็นบ้าเลย “ครับ แล้วอยากดื่มอะไรไหมพี่สั่งให้” ดื่มอะไรไหมงั้นเหรอ ไม่อยากดื่มหรอกค่ะ อยากกินมากกว่า “ค็อกเทลเบา ๆ ก็ได้ค่ะ พี่เซนส์สั่งให้เลยแล้วกันปีไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่” ไม่ได้แอ๊บใสนะปีใหม่คนนี้ไม่ค่อยรู้จักค็อกเทลจริง ๆ ปกติกระดกแต่เหล้า แหะ ๆ ^_^! “โอเค...แป้งร่ำ” “คะ?” บาร์เทนเดอร์ที่ฉันกล้าพูดได้เต็มปากว่าสวยมากหันมาหาตามเสียงเรียกของพี่เซนส์ “พี่ขอค็อกเทลเบา ๆ ให้น้องพี่หน่อย” “ได้ค่ะ” “...” ทำไมอยู่ ๆ เซนส์ปีใหม่คนนี้มันก็เหมือนจะกำลังทำงานวะ คงไม่ใช่ว่า...ไม่หรอก ไม่ใช่หรอกปีใหม่ พี่เซนส์อาจจะเมาเสียงเลยหวานกว่าปกติหรือไม่ก็เป็นคนประเภทชอบให้เกียรติพนักงานบริการเลยพูดเพราะกว่าปกติแค่นั้นเอง “รอก่อนนะ บาร์เทนเดอร์คนนี้ชงเครื่องดื่มอร่อยมาก” “...ค่ะ” น่าจะเป็นอย่างหลังนะปี พี่เขาไม่น่าจะเมาเลยพูดหวานแต่แค่ชอบให้เกียรติพนักงานบริการมาก ๆ น้ำเสียงที่พูดกับบาร์เทนเดอร์คนสวยคนนั้นกับน้ำเสียงที่ใช้กับแกเลยต่างกัน...มากหน่อย “...” ใจเสียไปแล้วหนึ่ง ใจเสียแล้วก็ยิ่งใจเสียมากกว่าเดิมเมื่อเห็นพี่เซนส์ละสายตาจากฉันแล้วมองไปที่คนในบาร์ที่กำลังชงเครื่องดื่มด้วยความชำนาญอย่างขมักเขม้นแถมยังเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่...ดูดีไปหมด ...มาร์กี้ไม่ใช่คู่แข่งแกหรอกปีใหม่แต่บาร์เทนเดอร์ที่สวยเกินความจำเป็นคนนี้ต่างหากที่เป็นคู่แข่งเส้นทางรักตัวจริงของแก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD