ทำความดีไม่เคยหวังผลตอบแทน

1325 Words
บทที่ 6 ทำความดีไม่เคยหวังผลตอบแทน มือใหญ่เอื้อมไปลูบศีรษะของสาวน้อยเบา ๆ ส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับเธอ “ตาบอกแล้วไงว่าไม่ต้องกังวลเรื่องของพ่อ ตาจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง” “ไม่ได้หรอกค่ะคุณตา เราไม่ได้เป็นอะไรกัน หนูจะเห็นแก่ตัวได้อย่างไรคะ” “ทำไมจะไม่ได้เป็น หนูเป็นหลานของคุณสุนทรี คนที่เคยดีกับตาทุกอย่าง ดังนั้นตามีโอกาสได้ตอบแทนน้ำใจของท่านก็ตอนนี้แหละ” “แม่บอกว่ายายทำความดีไม่เคยหวังผลตอบแทนหรอกค่ะคุณตา แม่หนูก็สอนหนูแบบนี้เหมือนกัน” “ถ้าอย่างนั้นคิดซะว่าหนูเป็นหลานของตาก็แล้วกันนะ หลานยายสุนทรีคือหลานตาฮาโตริ ดีไหม.. หือ” เห็นเธอลังเลเขาจึงย้ำถามในลำคอ “ค่ะ แต่คุณตาคะ” “หือ” “หนูซาบซึ้งในน้ำใจของคุณตามาก ๆ และกราบขอบพระคุณที่เมตตาหนู แต่หนูคงรับน้ำใจของคุณตาฝ่ายเดียวไม่ได้ เอาเป็นว่าหนูจะพยายามหาเงินมาใช้ให้คุณตานะคะ หนูจะค่อย ๆ ผ่อนใช้ให้คุณตาเท่าที่หนูจ่ายไหวนะคะ” “หนูเรียนหนังสืออยู่ไม่ใช่เหรอ” เขารู้ว่าเธอทำงานพาร์ตไทม์ที่โรงแรมในเครือมามิยะ แต่ก็แกล้งถามไปอย่างนั้นเอง “เรียนค่ะ แต่หนูก็ทำงานด้วย เดี๋ยวหนูจะลองหางานทำเพิ่มอีกสักอย่าง” “อย่าทำแบบนั้นเลยนะหนู ร่างกายจะย่ำแย่เอา ถ้าป่วยขึ้นมาอีกคนใครจะดูแลพ่อล่ะ เอาเป็นว่าตารับข้อเสนอของหนูก็แล้วกัน แต่ห้ามทำงานเพิ่มอีกนะ ถ้าตารู้ ตาจะไม่เอาเงินจากหนูแม้แต่บาทเดียว จะให้หนูรู้สึกเกรงใจตาแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลย” “งานที่หนูทำอยู่ไม่ได้มีทุกวันหรอกนะคะคุณตา หนูหางานอื่นมาทำเสริมได้อยู่แล้ว” เธออธิบายให้ท่านได้เข้าใจ “ก็ไม่แน่หรอกนะ เร็ว ๆ นี้เขาอาจจะให้หนูไปทำทุกวันก็ได้ รอดูไปก่อนดีกว่านะ” “ค่ะ ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น เพราะพี่ที่ทำงานก็บอกหนูเหมือนกันว่าช่วงปีใหม่นี้หนูอาจจะต้องไปทำงานทุกวัน เพราะที่โรงแรมมีจัดเลี้ยงเต็มทุกห้องติดต่อกันเป็นอาทิตย์เลยค่ะ” “โชคดีรับปีใหม่สินะ” “ค่ะ” ปีใหม่ 2558 ผ่านพ้นไปแล้วเกือบสองอาทิตย์ แต่บิดาของสุภัครพีก็ยังไม่มีวี่แววจะได้ออกจากโรงพยาบาลง่าย ๆ เพราะจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าท่านเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่สี่ ตับแข็ง พิษสุราเรื้อรัง แต่ละโรคล้วนมีสาเหตุมาจากการดื่มสุราอย่างหนักของท่านนั่นเอง “คุณหมอคะ พ่อหนูจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหนคะ” วันหนึ่งหลังเลิกเรียน สุภัครพีแวะไปเยี่ยมบิดาก่อนจะไปทำงานต่อ และได้เจอกับคุณหมอเจ้าของไข้พอดี “ตอนนี้ยังตอบไม่ได้นะครับ เพราะคนไข้ไม่มีการตอบสนองไปในทางที่ดีเลย สภาพร่างกายโดยรวมของคนไข้แย่มากนะครับ” นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาล กล่าวกับลูกสาวเจ้าของไข้ห้องวีไอพี “พ่อหนูจะอยู่กับหนูได้อีกนานใช่ไหมคะคุณหมอ” “เรื่องนี้...” “ไม่เป็นไรค่ะ หนูรับได้ คุณหมอบอกความจริงหนูมาเถอะนะคะ หนูจะได้ทำใจถูก” “เต็มที่ไม่น่าจะเกินหนึ่งปี แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป อาจจะอยู่ได้ไม่นาน” หญิงสาวกลั้นน้ำตา ยกมือไหว้นายแพทย์สูงวัย “หนูฝากดูแลพ่อหนูด้วยนะคะ หนูไม่ได้อยู่กับพ่อตลอดเวลา แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นรบกวนโทรบอกหนูทันทีเลยนะคะ” เธอกล่าวเสียงสะอื้นทั้งที่ไม่มีน้ำตา “ไม่ต้องห่วงครับ คุณฮาโตริสั่งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว คุณหนูสบายใจได้” นายแพทย์ใหญ่กล่าวอย่างใจดี มงคลเดินเข้าไปในห้องอาหารที่กำลังเตรียมงานอย่างขะมักเขม้น มองหาสุภัครพีที่มาทำงานพาร์ตไทม์อยู่ที่นี่ได้สองปีกว่าแล้ว “สวัสดีครับพี่มงคล มาหาเจ้าครีมเหรอครับ” ผู้จัดการฝ่ายห้องจัดเลี้ยงนามว่าประวิทย์เดินเข้าไปทักทายผู้จัดการใหญ่ “อือ วันนี้เขามาทำงานหรือเปล่า” “มาสิครับ แต่ยังมาไม่ถึง” “แล้วคุยเรื่องนั้นกับเขาหรือยัง” “ยังเลยครับ ว่าจะเรียกคุยวันนี้แหละ เพราะงานเริ่มซาแล้ว” “ยังไงก็จัดการให้เรียบร้อยภายในวันนี้เลยนะ พี่จะได้รายงานเจ้านาย ท่านถามมาน่ะ” “ได้ครับ ถ้าน้องเขาเซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้ว ผมจะรีบส่งเรื่องไปนะครับพี่ แต่พี่ครับ” “ว่าไง” “เจ้าครีมกับเจ้านายเราเกี่ยวข้องกันยังไงครับ” มงคลตบบ่ารุ่นน้อง “อย่าถามเรื่องที่เกินความรู้ความสามารถผมแบบนี้เลยนะประวิทย์” “แต่ผมได้ยินเด็ก ๆ เขาคุยกัน บอกว่าเจ้าครีมเคยให้เจ้านายขี่หลัง มันน่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่าครับ” “ผมก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกันนะ” เขาก็รู้มาเท่านี้เหมือนกัน แต่ก็ยังนึกสงสัยว่าเรื่องนั้นคือเหตุผลที่แท้จริงหรือเปล่า เพราะเรื่องมันเกิดมาเป็นเดือนแล้ว มหาวิทยาลัย “น้องครีมคะ” เสียงเรียกหวานหูของชายหนุ่มคนหนึ่ง ทำให้สุภัครพีหันไปมองทางด้านหลัง แล้วหยุดเดินรอเขา “สวัสดีค่ะพี่กาแฟ เพิ่งมาเหรอคะ” “ค่ะ น้องครีมก็เพิ่งมาเหมือนกันเหรอคะ” “มาได้สักพักแล้วค่ะ แต่รอถ่ายเอกสารอยู่” เธอชูแฟ้มที่ใส่งานถ่ายเอกสารให้เขาดู “คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง ออกจากโรงพยาบาลหรือยัง” “ยังเลยค่ะพี่กาแฟ ตอนที่ยังไม่รู้ก็ยังกินเหล้า ใช้ชีวิตได้ตามปกติทุกอย่าง แต่พอรู้ว่าป่วยเท่านั้น อาการก็ทรุดจนน่าใจหายเลยค่ะ” “อาจจะเป็นเพราะท่านล้มด้วยกระมัง” “ใช่ค่ะ พ่อล้มหน้าฟาดพื้นด้วย ตอนล้มใหม่ๆ หน้าเขียวบวมไปซีกหนึ่งเลยค่ะ” พรหมเทพมองหญิงสาวที่พยายามฝืนทำเข้มแข็ง เขารู้ว่าชีวิตของเธอลำบากเพียงใด และเขาก็อยากจะให้ความช่วยเหลือ ถ้าเพียงแค่เธอเอ่ยปากออกมา แต่รอแล้วรอเล่าเธอก็ไม่เคยปริปากพูดถึง “น้องครีมคะ” “ขา” “ถ้าต้องการความช่วยเหลือก็บอกพี่นะ พี่อยากเป็นคนแรกที่น้องครีมนึกถึงในยามที่ลำบาก” ในเมื่อเธอไม่พูดเขาพูดเองก็ได้ “ขอบคุณพี่กาแฟมากนะคะ แค่นี้ครีมก็ซาบซึ้งมากแล้วค่ะ แต่ครีมยังไหวค่ะ” “ยังไม่ทันได้ช่วยอะไรก็ซาบซึ้งแล้วเหรอ” “แค่มีน้ำใจให้ครีมก็ซาบซึ้งแล้วค่ะ” “ซาบซึ้งอะไรกันจ๊ะ” เสียงทักกระแนะกระแหนจากทางด้านหลังทำให้หนุ่มสาวรุ่นพี่รุ่นน้องต่างหันไปมอง “นิ่ม!” “ทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะกาแฟ” หญิงสาวที่เข้ามาใหม่ถามชายหนุ่มรุ่นเดียวกัน เหลือบมองไปทางหญิงสาวรุ่นน้องด้วยสายตาไม่เป็นมิตร “ได้ยินแต่คำร่ำลือว่ากาแฟมาติดพันรุ่นน้องปีหนึ่ง แต่เพิ่งมีโอกาสได้เห็นตัวจริงก็วันนี้เอง รอดสายตานิ่มไปเกือบปีได้ยังไงกันนะ” “ครีมคิดว่าพี่สาวกำลังเข้าใจผิดนะคะ” สุภัครพีตอบยิ้ม ๆ เพื่อจะทำให้อีกฝ่ายสบายใจ แต่เธอคงคิดผิด เธอรีบหุบยิ้ม เม้มปากแน่นแล้วหันไปมองชายหนุ่มตัวต้นเหตุ ส่งสายตาบอกให้เขาช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดกับหญิงสาวผู้มาใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นคนรักของเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD