บทที่ 1 ตอนที่ 3

1565 Words
ภาพการเสพสมเยี่ยงสัตว์ไร้สามัญสำนึกพร่ามัว หล่อนอ่อนแรงจนสงกรานต์ไม่ต้องใช้แรงกดเอาไว้อย่างในตอนแรกแล้ว ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น "คุณ...ตกใจมากเลยสินะ..." ใบหน้าคมเข้มตะแคงมอง "..." หล่อนไม่ตอบแต่พิงร่างใช้แผงอกของเขาเป็นที่พำนักอย่างสิ้นหวัง "ทีนี้ก็รูแล้วใช่ไหมว่ามันจะต้องเป็นยังไง....หืม หึ หึ" เรียวลิ้นอุ่นปาดเลียไปตามเนื้อแก้มผ่องอีกครั้งหล่อนเบี่ยงหนีด้วยความรู้สึกขยะแขยงเต็มที แต่เพราะเรี่ยวแรงถูกบั่นทอนเพราะหัวใจมันแตกสิ้นสลายหล่อนจึงขัดขืนเขาไม่ได้แม้แต่น้อย "ฆ่าฉันซะ...อย่าให้ฉันต้องมีชีวิตอดสูแบบนั้นเลย" น้ำเสียงนั้นไม่มีวี่แววความขุ่นโกรธอย่างก่อนหน้า กลับกลายเป็นเสียงแว่วจากความเจ็บปวดชอกช้ำเต็มประดา หล่อนพร้อมที่จะให้เขาปลิดลมหายใจเสียดีกว่า... "ผมไม่ได้มีหน้าที่ฆ่าใคร" "ที่คุณทำอยู่นี่ก็กำลังฆ่าฉันทั้งเป็น" "ด้วยความสุขน่ะเหรอ" ชายหนุ่มยังคงไม่รู้สึกรู้สา "ความโสโครกวิปลาสต่างหาก...คนปกติที่ไหนเขาเป็นแบบนี้!" "เอาล่ะ..." "อื้อ!!" เขาลากหล่อนให้กลับไปยังเตียงนอน หญิงสาวขืนแข็งแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงเขาได้ ชายหนุ่มปล่อยลงให้ยืนบนพื้นอย่างเต็มตัวแล้วจัดการรูดซิบชุดเจ้าสาวจากทางด้านหลังจนตลอดความยาวในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อชุดแสนสวยราคาแพงลิบหลุดลงไปกองอยู่กับพื้นหล่อนก็รู้สึกตัวและรีบเอามือปิดสัดส่วนพัลวัน "อย่าทำฉันเลย...ได้โปรดเถอะ คุณกับฉันไม่เคยมีเรื่องผิดใจกันอย่าทำร้ายกันขนาดนี้เลย" เสียงเบาสั่นพร่าเว้าวอนอีกครั้งในขณะที่ยืนแข็งทื่อยกมือขึ้นกอดตัวเองแน่น ทั้งเนื้อทั้งตัวยามนี้มีเพียงแพนดี้สีหวานลายลูกไม้...แม้แต่บราก็ไม่มีติดกายเนื่องจากชุดที่ใส่ออกแบบมาให้อวดทรวดทรงอยู่แล้ว และหล่อนเพิ่งสังเกตว่า...เครื่องประดับเพชรทุกชิ้นหายไป "คุณอยากได้อะไร...เอาไปเลย หรืออยากได้เงินเพิ่มฉันก็จะจ่ายให้สักสิบเท่าก็ยังได้แต่ปล่อยฉันไปเถอะ" หล่อนเริ่มต่อรองเมื่อคิดว่าเงินตราอาจช่วยให้หล่อนรอดพ้นจากเภทภัยในครานี้ได้ แค่ชุด...กับเครื่องเพชรถ้าหากเขาเอาไปขาย อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้ราคาหลักสิบล้านขึ้นไปแล้ว... "ตอนนี้น่ะเหรอ...ผมอยากให้คุณอาบน้ำ" "ว้าย!" ไม่ทันขาดคำพูดเขาหล่อนก็ถูกร่างใหญ่ยกขึ้นพาดบ่าทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงและนำพาหล่อนไปยังอีกฝั่งของห้อง รัตติกาลห้อยโตงเตงทั้งถีบทั้งเตะและทุบตี กระนั้นร่างใหญ่ก็ไม่ได้สะทกสะท้าน เมื่อเข้ามาด้านในชายหนุ่มก็จัดการผสมน้ำอุ่นในอ่าง แล้วก็วางหล่อนลงตรงฝักบัวอันใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก ห้องน้ำดูโอ่โถง...แต่ก็ยังรักษาสไตล์การตกแต่งด้วยโทนสีดำเอาไว้ แม้กระทั่งโคมไฟระย้าประดับคริสตัลด้านบนก็เช่นกัน ซ่า!!! "อื้อ!" สายน้ำไหลซู่ลงมาประพรมทั้งหล่อนและเขาที่ยังมีเสื้อผ้าสวมอยู่ครบชุด รัตติกาลกอดตัวเองเอาไว้แม้จะไม่สามารถปิดสัดส่วนได้ทั้งร่างกาย แต่หล่อนก็พอได้ใช้มือกอดหน้าอกไม่ให้อวดแก่สายตาของเขาจนเกินไป สงกรานต์แนบชิดเข้าหาด้านหลังของหล่อนจนหญิงสาวเกร็งตัว...เขาคิดจะทำอะไรกันแน่... "ไม่ต้องกลัวหรอกแม่นกน้อย...ตอนนี้ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรคุณแล้ว แค่อยากให้คุณผ่อนคลาย เพื่อที่จะได้ค่อยๆ เปิดใจรับทุกอย่างได้ง่ายขึ้น” "..." รัตติกาลรู้สึกราวกับตัวเองเป็นแค่หุ่น หล่อนไม่มีสิทธิ์แม้จะกระดิกตัวหากเขาไม่ต้องการ ความรู้สึกอบอุ่นค่อยๆ แผ่ซ่านเข้ามาจากทางด้านหลังโอบล้อมหล่อนเอาไว้ทาบกับมือเล็กของหล่อน "อย่ากลัวผมรัตติกาล...ผมคือคนที่คุณพึ่งพาได้ที่สุดในตอนนี้ อย่าคิดหนี...เพราะถ้าคุณห่างจากผมแม้แต่ก้าวเดียวคุณจะถูกลากให้ลงนรกขุมที่ลึกที่สุด" ชายหนุ่มร่างใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มเนิบ หัวใจของรัตติกาลเต้นไม่เป็นจังหวะ สัมผัสใกล้ชิดครั้งแล้วครั้งเล่ากับเขาไม่ใช่เรื่องปกติเพราะต่างก็ไม่เคยเป็นแม้แต่คนรู้จักกัน เขาเป็นคนแปลกหน้า...ที่เพิ่งจะพบเจอกันเพียงไม่ถึงชั่วโมง แต่กลับรู้สึกอุ่นซ่านอย่างประหลาด หรือหล่อนกำลังคล้อยตามคำพูดของเขาที่ว่า หล่อนไม่อาจไว้ใจใครในอาณาเขตแห่งนี้ได้มากเท่าเขาอีกแล้วจริงๆ เพราะแม้แต่คนรัก...ที่ดูใจกันมาจนตัดสินใจแต่งงานอยู่กินมอบชีวิตให้ ก็ยังหักหลังหล่อนอย่างน่าเจ็บปวดที่สุด "แบบนั้นแหละ...ไว้ใจผมนะเพิร์ล" สงกรานต์กระซบบอกริมกกหูของหล่อน กลิ่นไอความสาวและน้ำหอมราคาแพงที่ยังติดกายหล่อนอยู่ฟุ้งเข้าจมูกท่ามกลางสายน้ำไหล เขาแทบสะกดใจให้เย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งไม่ไหวอีกต่อไป แต่ก็ไม่อาจข่มเหงผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่กำลังเคว้งคว้างดุจนกน้อยที่ถูกพายุซัดกระหน่ำจนตกลงพื้นบาดเจ็บสาหัส จิตใจอันบอบบางกำลังช้ำชอกโหยหาความปลอดภัย รัตติกาลไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่แวดล้อมอยู่รอบๆ ตัวเขา หล่อนยังไร้ซึ่งสันดานดิบโดยเนื้อแท้ของมนุษย์เพศ "สบายขึ้นไหม...อาบน้ำเสร็จเดี๋ยวค่อยไปนอนพัก" "คุณคิดว่าฉันจะนอนหลับลงเหรอ..." อย่าว่าแต่นอนหลับเลย ความทุกข์ ความเสียใจยามนี้มันทำให้หล่อนแทบไม่อยากหายใจอยู่บนโลกนี้เลยด้วยซ้ำ "ถ้างั้นผมจะทำให้คุณสบายตัวขึ้น" เขากล่าวพร้อมกับปล่อยมืออกจากหล่อนแล้วถอดเสื้อเชิ้ตสีดำของตัวเองโยนทิ้ง รัตติกาลหันกลับไปมองเพราะรู้สึกได้ถึงความว่างเปล่าเมื่อเขาไม่ได้กอดอยู่แล้ว เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ชายหนุ่มถอดเสื้อเสร็จและเขาก็จับหล่อนให้กลับไปอยู่ในท่าเดิมอีกครั้ง "ไหนคุณบอกจะไม่ทำอะไรไงล่ะ...อย่าทำฉันเลยนะ ฉันกลัวจริงๆ" "ไม่...ผมไม่ผิดสัญญา แค่อยากให้คุณคลายความเครียดและรู้สึกสบายขึ้น" เขาตอบกลับ แล้วเริ่มขยับมือนวดไปตามท่อนแขนเล็ก ดึงหล่อนที่ยืนเกร็งตัวแข็งทื่อให้พิงกับแผงอกล่ำสัน สายน้ำอุ่นไหลพร่ารดรินลงมาเบาๆ แต่หล่อนกลับรู้สึกกระหายจนต้องกลืนน้ำลายลงคอเฮือก "ไว้ใจผมนะเพิร์ล..." น้ำเสียงนั้นพร่าอยู่ตรงซอกคอขาว พร้อมๆ กับก้มลงเม้มดูดเบาๆ ที่ตรงนั้นแล้วจูบซับ รัตติกาลรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดอยู่ หล่อนวาบหวิวจนหายใจเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติและไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าแสดงออกถึงการคล้อยตามอย่างว่าง่าย "อื้อ!!" แต่สติก็ถูกดึงกลับมาอีกครั้งเมื่ออกอวบหยุ่นถูกกำกอบผ่านมือหล่อน... "ชู่..." เขาหยุด...แต่ยังจับมือเล็กของหล่อนเอาไว้ เมื่อหญิงสาวผ่อนคลายความเครียดลงชายหนุ่มก็เริ่มลงแรงบงการให้หล่อนบีบเคล้นของหล่อนเองช้าๆ แผ่วเบา...และอ่อนโยน นิ้วมือสอดประสานกันจากหลังมือของหล่อน...ก้านนิ้วของเขาได้สัมผัสกับผิวเนื้อหยุ่นในขณะที่อุ้งมือเล็กกำลังครอบครองเต้าอวบของตัวเองแล้วฟ่อนเฟ้นเป็นจังหวะไม่เร่งร้อน "อืม...คุณสวยมากรู้ไหมเพิร์ล ลองใช้นิ้วแตะตรงตรงยอดดูนะ จะรู้สึกดีกว่านี้อีก" ผู้ช่ำชองชักจูงแต่ไม่ได้รอให้หล่อนตอบกลับ เขาดันนิ้วชี้น้อยๆ ให้กดลงตรงปลายถันสีชมพูเข้มที่เกร็งแข็งเป็นไต "อา...แบบนั้นแหละเพิร์ล" หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงจับกดลงพื้นแล้วกระแทกเข้าร่างของหล่อนให้หายกระสันไปแล้ว แต่สำหรับรัตติกาลมันมีอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นทำให้เขาอยากที่จะค่อยๆ ลิ้มลองความหวานจากหล่อนทีละน้อย ยอดถันสีสดของหล่อนดูแข็งขันชูช่อมากขึ้น เขาฉวยโอกาสให้นิ้วของตัวเองสะกิดบ้างและเน้นวนจนร่างของหล่อนแอ่นหยัดเชื้อเชิญอย่างลืมตัว "เพิร์ล...คุณน่ากินจังเลยรู้ตัวหรือเปล่า ถ้าผมใช้ปาก...ดูดเลียตรงนั้นคุณจะว่ายังไง หืม...ให้ผมทำให้ไหม อา..." "ยะ...อย่า..." หล่อนก็ยังหวั่นใจ ไม่ไว้ใจอยู่ดี "โอเค...ไม่เป็นไร" เขาไม่คิดบังคับ แต่คราวนี้เริ่มใช้สองมือเคล้นความอวบหยุ่นนั้นไปพร้อมๆ กัน เริ่มจากสัมผัสที่บางเบาเช่นเคยแล้วค่อยๆ ลงแรงเมื่อหญิงสาวเคยชินกับมันแล้ว รัตติกาลตอบไม่ได้ว่าทำไมหล่อนต้องคล้อยตามเขา...เพราะเชื่อใจ หรือเพราะเผลอไผล หรือมันคือความกลัวทำให้หล่อนปรับสภาพตัวเองในการเอาตัวรอด แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่ามันดีเหลือเกิน...ทุกสัมผัสนั้นมันกระตุ้นให้หล่อนอยากรู้อย่างเห็นในเรื่องบัดสีอย่างกล้าหาญโดยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต และ...กับใครก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD