"พี่เต้เหนื่อยไหมคะ..." หญิงสาวหันไปยิ้มให้กับเจ้าบ่าวในชุดทักสิโด้เนื้อผ้าตัดเย็บอย่างประณีต เขาก็หันมายิ้มอบอุ่นให้เธอเช่นกันในขณะที่ขับรถอยู่นั้น
"พี่ไม่เหนื่อยเหรอ ตื่นเต้นมากกว่า มันเหมือนความฝัน..." ปีย์ชาร์กลั้วหัวเราะในลำคอ คลี่ยิ้มเต็มใบหน้า
"นั่นสิคะ...นี่เราจะได้เป็นสามีภรรยากันแล้วจริงๆ เหรอคะเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย"
"ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ พี่ดีใจที่สุด" มือข้างหนึ่งละจากพวงมาลัยมากอบกุมมือเล็กนุ่มนิ่มของเจ้าสาวคนสวยเอาไว้ รอยยิ้มเหยียดยินดีเหลือบมองคนรักเป็นระยะไม่วางตา
ทำเอาสาวเจ้ารู้สึกขัดเขินไม่ใช่น้อยยามต้องอยู่ด้วยกันตามลำพังเช่นนี้หลังจากผ่านพิธีแต่งงานมาหมาดๆ มันเป็นอะไรที่ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเอาเสียเลย
รัตติกาลมองออกไปนอกตัวรถด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม...ในขณะที่มือใหญ่ยังคงจับมือของเธอและลูบไล้เบาๆ อย่างอ่อนโยน ร่างเล็กเอนพิงหลังกับเบาะด้วยรู้สึกเหนื่อยล้ากับงานแต่งที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ แต่ทุกอย่างก็เต็มตื้นไปด้วยความอิ่มเอมในหัวใจ
เจ้าสาวในชุดขาวบริสุทธิ์หลับตาพริ้มหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ รถเปิดประทุนทำลมเย็นๆ พัดผ่านกระทบยังความสบายตัวและผ่อนคลายได้ไม่น้อย
หญิงสาวรู้สึกปลอดโปร่ง โล่ง...และแล้วทุกอย่างก็เงียบงัน หล่อนจมอยู่ในความสงบอันเวิ้งว้างในขณะที่รถยังคงขับเคลื่อนไปบนท้องถนน โดยมีเจ้าบ่าวเป็นสารถีกิตติมศักดิ์ มุ่งสู่การเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตคู่ อนาคตที่กำลังจะต้องมีกันและกัน...
"..." หญิงสาวรู้ได้ถึงการหายใจเข้าออกเป็นจังหวะของตัวเอง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อได้ลืมตาตื่นแล้วพบว่าได้นอนอยู่บนเตียงกว้าง สีดำ...
เธอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน แล้วที่นี่ที่ไหนกัน...สมองประมวลความคิดอย่างหนักในขณะที่ศีรษะพลิกหันซ้ายหันขวาแล้วสายตากวาดมองไปรอบๆ ห้องด้วยความงุนงง รู้สึกยังอ่อนเพลียอยู่มาก
ร่างเล็กขยับลุกท่ามกลางแสงไฟสลัวในห้องโทนสีดำทึบ เริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ
"อะไรกัน...นี่..." หัวใจแทบจะหยุดเต้นในวินาทีนั้น เมื่อเริ่มขยับตัวแล้วรับรู้ว่าตนเองกำลังถูกพันธนาการขึงพืดอยู่บนเตียง!
"ช่วยด้วย!! ช่วยด้วย! พี่เต้คะเกิดอะไรขึ้น พี่เต้อยู่ไหน!" หล่อนร้องเรียกโวยวายเมื่อสติกลับมาครบถ้วนแล้วดิ้นสุดกำลังแต่ทว่ากลับไม่อาจรอดไปจากโซ่ตรวนที่ล่ามเอาไว้ทั้งมือและเท้าทั้งสองข้าง ขึงหล่อน...ทั้งชุดเจ้าสาว
"ตื่นแล้วเหรอ...คุณผู้หญิง"
รัตติกาลหันขวับมองไปตามเสียงทุ้มลึก...แต่มองไม่เห็นเนื่องจากห้องนี้มืดสลัวแถมเฟอร์นิเจอร์เกือบทุกอย่างก็เป็นสีดำด้วยเช่นกัน เว้นแต่หล่อนเท่านั้น...ที่สวมชุดขาวอยู่กลางเตียงนอนที่ยังไม่รู้เลยว่าเป็นที่ไหน และมันเกิดอะไรขึ้น
"คุณเป็นใคร ช่วยฉันด้วย...พี่เต้ล่ะ ใครก็ได้บอกฉันทีว่านี่มันอะไรกัน"
"ขอต้อนรับสู่อาณาจักรของ Dark Devil หวังว่าคุณจะชอบที่นี่นะ" พรึ่บ! ร่างนั้นเยื้องกรายออกมาจนพอจะจับเค้าโครงได้ เขาเดินช้ามาหยุดตรงข้างๆ เตียง ในมือถือแก้วไวน์และยกขึ้นดื่มอย่างใจเย็น
เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ...กางเกงสแล็คสีดำองค์ประกอบทุกอย่างดำมืดหมดจนชวนให้อึดอัด ที่รู้ๆ เขาไม่ได้มีจุดประสงค์ดีกับหล่อนแน่นอน นั่นทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นโครมจนแทบหลุดออกมานอกทรวง
"คุณเป็นคนจับตัวฉันมาเหรอ"
"ไม่ ไม่...เปล่าเลย ไม่มีใครจับตัวใครทั้งนั้น ก็แค่การเรียนรู้จะเป็นเจ้าสาวที่ดีของสมาชิก..." เขากล่าวแล้วโน้มตัวลงวางแขนคร่อมตัวหล่อนเอาไว้ทันที
"..." รัตติกาลกลั้นหายใจ ดวงตาเบิกโพลงชาวาบไปทั้งร่าง ผู้ชายคนนี้เพียงแค่ใช้สายตามอง...เขาก็สามารถสะกดหล่อนให้นิ่งงันได้ราวกับถูกสาป อาจเป็นเพราะสถานที่ สถานการณ์และบรรยากาศด้วยกระมังที่ทุกอย่างเสริมให้ชายแปลกหน้ามีอิทธิพลต่อความรู้สึกขนาดนี้
"สวย..."
"คุณพูดบ้าอะไร ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ!!!" หล่อนหายใจหอบ ความขลาดกลัวเกาะกินอณูเนื้อหัวใจ
"เห็นจะไม่ได้...ถ้าไม่เสร็จงาน" แววตาคมกล้าของเขาฉายแววเจ้าเล่ห์จนหล่อนชาปลาบไปทั้งตัว เขาละมือข้างนึงที่ถือแก้วไวน์เอาไว้แล้วยกขึ้นสูง หล่อนกลอกตามองตาม แก้วใบนั้นค่อยๆ ตะแคงข้างจนน้ำเมาสีแดงถ่ายเทไปตามแรงโน้มถ่วง
"ว้าย!! อื้อ!" หล่อนกรีดร้องทันทีเมื่อมันถูกเทราดไปตามลำตัว ไวน์สีเข้มเปื้อนซับไปกับชุดเจ้าสาวสีขาวและผิวเนื้อเปลือยช่วงเนินอกที่เปิดเว้าอวดสัดส่วน แต่ชายหนุ่มลึกลับกลับแสยะยิ้มด้วยความพอใจ
"ไร้เดียงสาแบบนี้นี่เองเจ้าบ่าวถึงได้รังเกียจ...คุณนี่เป็นเจ้าสาวที่น่าสงสารจริงๆ" เพล้ง! พูดจบเขาก็ขว้างแก้วไวน์ไปอีกด้านของเตียงจนแตกกระจาย รัตติกาลหลับตาปี๋และลืมตาขึ้นอีกทีเมื่อมีความรู้สึกถึงการถูกคุกคาม
"ทำอะไร...อย่าทำบ้าๆ นะ พี่เต้! พี่เต้ช่วยเพิร์ลด้วย!!" ร่างใหญ่โน้มตัวลงเข้าหาหล่อนอีกครั้ง...แนบไปหน้าไปตรงเนินอกข่าวผ่องที่ชุดเจ้าสาวดันทรวดทรงจนฐานเต้าขึ้นรูปชัดเจน
"อื้อ!! อย่า!" สัมผัสแรกที่หล่อนรู้สึกคือความอุ่นซ่านจากเรียวลิ้นของเขาที่ปาดเลียไปตามรอยของน้ำเมาสีแดงซึ่งเย็นจัดกว่าทำให้รู้สึกถึงการแทรกแซงของอุณหภูมิบนผิวเนินเนื้อได้อย่างชัดเจน
"อย่า..." หล่อนเกร็งตัวพลิกหนีกำมือแน่น แต่พันธนาการกลับเหนี่ยวรั้งเอาไว้จนไม่อาจหนีพ้นจากกรงกรรมนี้
ชายหนุ่มยังคงไล้เลียไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น เชื่องช้า...เซาะลิ้นเข้าไปตามขอบชุดเจ้าสาวที่นาบไปกับผิวเปลือย กลืนกินน้ำเมาซึ่งเปรอะเปื้อนไปโดยทั่ว ไม่ได้สนใจท่าทีขัดขืนของหล่อนเลยแม้แต่น้อย ริมฝีปาก...ดูดเม้มเบาๆ ลาดไล้ด้วยความช่ำชองชำนาญ
หญิงสาวกัดฟันสะอื้นน้ำตาไหล...หล่อนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่แทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่รอด
ในคืนวิวาห์ที่ควรจะมีแต่ความสุขกลับต้องเป็นทุกข์สาหัสอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน
หล่อนกำลังถูกชายแปลกหน้าข่มเหง....
"พี่เต้...ช่วยเพิร์ลด้วย..." เสียงแผ่วร่ำสะอื้นหาเจ้าบ่าวอันเป็นที่รักของหล่อน ยามนี้...เขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรและรู้หรือไม่ว่าหล่อนกำลังจะตกเป็นของคนอื่นในคืนเข้าหอนี้
"หึ หึ...เจ้าบ่าวของคุณกำลังสนุกลืมโลกอยู่เชียว ไม่มีเวลาสนใจเจ้าสาวที่ไร้ประสบการณ์เหมือนคุณหรอก มาเถอะ...ผมจะสอนวิธีการเป็นเมียที่ดีให้เอง"
"พูดเรื่องบ้าอะไร! ฮือ..." ร่างเล็กแอ่นหยัดขึ้นอัตโนมัติเมื่อเรียวลิ้นร้ายซอกซอนลึกเข้าไปแตะตรงยอดถัน หล่อนกลั้นหายใจ หลับตาและเกร็งตัวจนเจ็บชาไปหมด
"ความรู้สึกไวดีนี่...อย่ากลัวไปเลยเพิร์ล นี่คือการปลดปล่อย แล้วคุณจะติดใจ"
"ไม่!" หล่อนยังหวีดร้องทั้งที่เสียงแหบแผ่วกว่าเดิมมากแล้ว มือของเขาเริ่มเคลื่อนเข้ามาลูบนวดไปตามทรวงอกของหล่อน และร่นขอบชุดลงเรื่อยๆ จนปทุมถันงดงามอวดดีดตัวออกจากปราการผืนผ้า
ดวงตาคมโตลุกวาวพร้อมๆ ไปกับใช้มือสากอีกข้างควานเคล้นไปทั่ว ร่างเล็กดิ้นพลิกไปมาอย่างไร้ซึ่งหนทางรอด
"เลว...หน้าตัวเมีย ทำคนไม่มีทางสู้ ปล่อยฉันนะ!" มันได้ผล...ร่างใหญ่เบื้องบนหยุดชะงักซบใบหน้านิ่งงันอยู่บนอกอวบเปล่าเปลือยของหล่อนที่กำลังกระเพื่อมสั่นตามแรงลมหายใจของความหวาดกลัว
"หึ หึ หึ...ก็ได้ เพราะถูกล่ามอยู่สินะถึงได้พูดว่าหน้าตัวเมีย ไม่มีทางสู้..." เขาผละใบหน้าขึ้นมามองหล่อน เจ้าสาวแสนสวยที่บัดนี้น้ำตานองหน้า แต่ด้วยการเมคอัพและฝีมือของช่างระดับแนวหน้าของประเทศจึงทำให้เครื่องหน้าของหล่อนยังคงผ่องอำไพไม่ได้เลอะ เปรอะ...อย่างที่ควรจะเป็น
รัตติกาลเป็นคนสวย...กิริยาขัดขืนดิ้นรน ปฏิเสธอย่างไม่มีจริตนั้นกลับเชื้อเชิญความต้องการให้สิงสู่ตัวเขามากขึ้น สงกรานต์...นึกครึ้มใจอยากเล่นสนุกกับหล่อนนอกเหนือไปกว่าสิ่งที่ควรจะทำ
เขาลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ ไปหยิบกุญแจบนหัวเตียงมาไขโซ่ที่ล่ามมือและเท้าเอาไว้ทีละข้าง หญิงสาวมองอย่างใจจดใจจ่อ...และเมื่อเป็นอิสระหล่อนก็ไม่รีรอที่จะเอาตัวรอด
พรึ่บ!! ร่างเล็กพลิกตัวลงจากเตียงนอน ดึงชุดเจ้าสาวขึ้นปิดหน้าอกไว้อย่างเดิมในขณะที่วิ่งไปตรงประตู ความมืดสลัวทำให้หล่อนมองทุกอย่างไม่ชัดเจนนัก แต่ก็ไม่สนใจอะไรไปมากกว่าการหาทางออกไปจากที่นี่
"ว้าย!!!" แต่พอมือแตะประตู...ร่างของหล่อนก็ถูกรวบยกขึ้นเหนือพื้นอยู่ในอ้อมแขนของเขาเสียก่อน
"ไม่ง่ายแบบนั้นหรอกทูนหัว...ถ้าจะตามหาเจ้าบ่าวของคุณละก็ไม่ต้องไปที่ไหนหรอก เดี๋ยวผมจะให้คุณพบเขา แล้วคุณจะได้รู้ว่า...การเต็มใจให้ผมสอนวิธีเป็นเมียที่ดีมันคือสิ่งที่คุณควรยอมรับ..."
ขายหนุ่มรั้งแผ่นหลังเล็กแคบแนบกับแผงอกตัวเองในขณะที่มือหนึ่งรั้งสะเอวคอดกิ่วของหล่อนยึดเอาไว้ และอีกมือก็จับล็อคคอใช้นิ้วเสยจับปลายคางบังคับให้หันเข้าหาใบหน้าของเขา
"อื้อ!!" รัตติกาลออกแรงขืนหลบหลีกเมื่อความอุ่นซ่านจากเรียวลิ้นลาดปาดเลียไปตามโครงหน้าของหล่อนอย่างเชื่องช้า แล้วก็หยุด...เขาพาหล่อนเดินไปยืนตรงผ้าม่านดำมืดตรงกำแพงด้านหนึ่ง ราวกับน้ำหนักของหล่อนไม่ได้ส่งผลอะไรต่อกำลังวังชาแห่งบุรุษเพศเลยแม้แต่น้อย
พรึ่บ!!! ครืด! ผ้าม่านดำถูกเปิดออกกลายเป็นกระจกทึบที่สามารถมองเห็นอีกฝั่งซึ่งมีแสงสว่างส่องจ้าเข้ามาจนหล่อนต้องหลับตาเพราะความไม่เคยชิน ก่อนจะถูกเขาลากให้เข้าไปประชิดมากขึ้น...
"ดูสิ...ว่าที่ผัวของคุณกำลังสนุกสุดเหวี่ยงเลยเชียว เขากำลังให้ผมฝึกคุณให้เป็นแบบนั้น" ชายหนุ่มกล่าว รัติตกาลค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพราะสะกิดใจในวาจาที่เขาได้เอื้อนเอ่ย หล่อนยังคงหายใจหอบหนัก หัวใจเต้นแรง...
"พี่...เต้..." แล้วสิ่งที่น่าเสียใจกว่าการถูกพาตัวมาอยู่กับชายแปลกหน้าในคืนแต่งงานโดยไร้เงาของเจ้าบ่าว ก็คือการได้เห็นว่าคนรักของเธอซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานมาหมาดๆ กำลังนัวเนียเปลือยร่างอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนนับสิบ!!
ทุกคนเปลือยหมด...ทั้งหญิงและชาย บ้างก็กอดจูบกันอย่างดูดดื่มบ้างก็กำลังเสพรักกันอย่างถึงพริกถึงขิงโดยไม่ได้ใส่ใจว่ามันเป็นเรื่องวิปริตผิดศีลธรรม
"อะไรกัน...มันคือะไร ฮือๆ" หล่อนปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น ร่างกายอ่อนล้าสิ้นแรงเจ็บชาไปหมด
หล่อนเห็น...ปีย์ชาร์กำลังกระแทกกระทั้นตัวเองเข้าหาผู้หญิงคนหนึ่งจากทางด้านหลัง ในขณะที่มีผู้ชายอีกคนนอนรองรับร่างผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้านล่างในลักษณะของการเสพสมแบบสองรุมหนึ่ง!และคนอื่นๆ ที่กำลังทำกิจกรรมอันน่าขยะแขยงนั้นอยู่เต็มเตียง
ชวนให้รู้สึกราวกับโลกทั้งใบกำลังล่มสลาย...
"ออกมาจากทุ่งลาเวนเดอร์ได้แล้วคุณหนู...นี่แหละคือโลกแห่งความจริงในชีวิตของคุณ"
"ไม่จริง..." ดวงตากลมโตถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดีเบิกโพลงด้วยความไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นและกำลังรับรู้ ร่างเล็กร้าวรานไปหมดทั้งสรรพางค์ใจ
"มันคือเรื่องจริงที่รัก...ว่าที่ผัวของเธอเขามีรสนิยมแบบนี้และเบื่อพวกผู้หญิงไม่เป็นงาน ผมก็เลยอาสาสอนงานให้คุณยังไงล่ะ" เสียงทุ้มพร่ากระซิบอยู่ข้างกกหู แต่เหมือนโสตประสาทของรัตติกาลจะดับดิ้นไปแล้ว หล่อนนิ่งชะงักงัน ช็อกในสิ่งที่เกิดขึ้น