“พูดว่าอะไร” เขาถามย้ำอีกครั้ง
ปทุมมายังรู้สึกตกใจไม่หาย เธอพูดอะไรไม่ออก แล้วตัดสินใจเดินหนีจากตรงนั้นไป อย่างน้อยก็หนีจากสิ่งมีชีวิตที่เลื้อยผ่านขาของเธอเมื่อครู่ แต่แล้วร่างสูงใหญ่กลับไม่ยอมปล่อยให้เธอจากไปง่าย ๆ เขาเดินตามหลังมาพร้อมมองไล่ดูกำพืดของหญิงสาว
แต่แล้วเหตุใดจึงพบว่าเป็นเพียงหญิงกำพร้าที่โตมากับตาและปู่ หญิงคนนี้ชื่อปทุมมา เพียงชื่อก็สะกิดหัวใจของดร.เธียรเข้าแล้ว เธอจบจากมหาวิทยาลัยไร้ชื่อเสียง เธอตกงานมาก่อนและตอบรับคำชวนของแม่บ้านในหอพักให้มาทำงานด้วยกัน
ข้อมูลพวกนี้ดูไม่น่าสนใจ แต่ดร.เธียรพบว่าสิ่งเหล่านี้ดูไม่จริงราวกับมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นอยู่หลังภาพเหล่านั้น
ปทุมมารู้สึกไม่สบายใจอย่างไรก็บอกไม่ถูก ยังหลงเหลืออาการตกใจที่เหมือนมีตัวอะไรมาเลื้อยผ่านตรงขาของเธออยู่เลย แล้วผู้ชายคนนี้ก็โผล่เข้ามาขวางหน้า และตอนนี้เขายังเดินตามเธอมาอีกด้วย
เมื่อครู่เธอก็แค่พึมพำอะไรเล่น ๆ เรื่อยเปื่อยตามที่ได้ยินขนุนหนังเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง เธอคงได้ยินเรื่องราวของคำสาปพญานาคราชนั่นมาทั้งวันก็เลยติดหูติดปาก พูดอะไรออกไปแบบที่แทบไม่ได้ใช้สมองกลั่นกรองออกมาด้วยซ้ำ ทำไมจะต้องมาคาดคั้นอย่างกับว่าเธอท่องคำสาปทำร้ายใครอยู่อย่างนั้นแหละ
จากที่จะเดินจากไป ดร.เธียรก็จำต้องหยุด แสงสว่างตรงเหนือเนินอกสะดุดสายตาเขาแวบเดียวก่อนจางหาย เธียรมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวนิ่งพร้อมกับใช้ความคิด
หากอีกฝ่ายไม่พูดเรื่องคำสาปขึ้นมา เขาคงจะเลิกสนใจเธอไปแล้ว แต่นี่เขากลับรู้สึกได้ถึงม่านมนต์ที่ปิดบังพรางการมองลึกถึงพื้นเพชีวิตของหญิงสาวคนนี้อยู่
ภาพของหญิงสาวเมื่อครู่ที่สะท้อนออกมาดูจงใจปั้นแต่งจนผิดจากธรรมชาติของมนุษย์ที่เขาเคยกวาดมองอดีตหลายต่อหลายคนที่ผ่านมา จึงทำให้เชื่อในสิ่งที่เห็นได้ยากยิ่งนัก
“คุณเธียร มาเดินงานลอยกระทงด้วยหรือคะ”
ผู้จัดการฝ่ายบริหารไม่ได้ดึงความสนใจจากเขา เธียรยังคงมองตามร่างของปทุมมาไป ก่อนจะถูกคลื่นมนุษย์ปิดบังร่างของเจ้าหล่อนราวกับถูกมนต์จากใครพรางตาเขาอีกครั้งจนมองไม่เห็นหญิงสาวอีกแล้ว แต่นั่นไม่สำคัญ หากเขาต้องการเจอหญิงสาวคนนั้นอีกย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
“พรุ่งนี้เรียกประชุมพนักงานทุกคนที่ห้องประชุมใหญ่ ถ้าไม่พอ ใช้โถงด้านล่างได้เลย เก้าโมงตรงผมจะรอทุกคนที่นั่น”
“ได้ค่ะคุณเธียร”
ได้ยินอีกฝ่ายตอบรับแล้ว ร่างสูงใหญ่จึงเดินจากไป จากใบหน้าที่ยิ้มอยู่ก็เริ่มห่อเหี่ยวลง อดพึมพำเบา ๆ ตามหลังชายร่างสูงบุคลิกสง่างามไปด้วยไม่ได้
“มาถึงก็สั่งงานอย่างเดียวเลยหรือคะเนี่ย”
“คนเมื่อกี้นี้นี่ใครหรือคะพี่แตม ใช่ดร. เธียรไหมคะ คนนี้หรือเปล่าคะที่ว่าเป็นประธานกรรมการบริหารของ NAGARA Bev น่ะค่ะ”
"เป็นดร. เธียรน่ะใช่ค่ะ แต่ดร. เธียรไม่ได้เป็นท่านประธานหรอกนะคะน้องมิว ท่านเป็นที่ปรึกษาของเครือค่ะ”
คนถามอ้าปากค้างเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นที่ปรึกษาของเครือน้ำดื่มอันดับหนึ่งของประเทศอย่าง NAGARA Bev. แล้วพูดราวกับเพ้อออกไปว่า “จะเป็นอะไรก็ช่างเถอะค่ะ เผลอ ๆ ที่ปรึกษาอาจเป็นคนคุมทุกอย่างเลยก็ได้ใครจะรู้ใช่ไหมคะ แล้วตัวจริงก็ยังหล่อมาก ๆ ด้วยนะคะ งือ มิวคิดไม่ผิดเลยที่ใช้เส้นสายของคุณอาให้พาเข้ามาทำงานที่นี่น่ะค่ะ”
“เรื่องหล่อน่ะก็หล่ออยู่หรอกค่ะ แต่น้องมิวรู้ไหมคะว่าเพื่อนของพี่แตมที่อยู่ประจำที่สำนักงานใหญ่บอกมาว่าฮีน่ะดุมาก ๆ เลยนะคะ”
“ดุสิคะดี สเปกมิวเลย ค่อยน่าสนใจหน่อย”
หญิงสาวบอกอย่างหมายมาด มองไปยังเส้นทางที่ชายหนุ่มเดินจากไปแล้วก็สูดลมหายใจเข้าปอดบอกตัวเองว่าพรุ่งนี้ก็จะได้เจอเขาแล้ว
ทันทีที่กลับถึงห้อง ปทุมมาก็ตรงรี่รีบเข้าไปอาบน้ำอีกรอบทันที มองที่เท้าข้างนั้น เธอยังรู้สึกอยู่เลยว่ามีตัวอะไรลื่น ๆ มีเกล็ดพาดผ่านไปกับข้อเท้าและเท้าของเธอ หญิงสาวพ่นลมออกจากปาก นึกระแวงพร้อมลูบมือไปตามลำตัวสะดุดเข้ากับแผลบนผิวของตัวเองก็ออกแรงขัดอยากให้รอยนี้จางลงไว ๆ แต่ก็คงทำได้ยากเพราะรอยนี้ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิด
ปทุมมากลัวสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดแค่ได้เห็นจากในจอโทรศัพท์ ไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเองหญิงสาวก็ขนลุกขนพองแล้ว คืนนี้คงไม่ฝันร้ายถึงเจ้าตัวพวกนั้นหรอกนะ คิดแล้วก็ตรงไปยังที่นอน คลุมโปงปิดตาลงจนสนิท ก่อนหลับเธอยังพบว่าคำสาปท่อนนั้นวนเวียนอยู่ในหัว แล้วยังฝันไปอีกว่ามีแววตาของงูยักษ์กำลังเพ่งมองมาที่เธออีกด้วย วิ่งหนีแทบตายแต่ก็ไปไหนไม่พ้นจากเจ้างูยักษ์นั่น
เธียรละสายตาจากห้องพักห้องหนึ่งที่ตึกตรงหน้า ก่อนกลับไปยังที่พำนักของเขาพร้อมกับความคิดที่ว่าหญิงสาวคนนั้นเอ่ยคำสาปแบบที่ผิดเพี้ยนไปตามกาล มันจึงไม่มีผลสาปส่งใครได้อีก
แต่เหตุใดเธอจึงพูดมัน หากจิตไม่พะวักพะวนถึง
เรื่องนี้เขาต้องหาคำตอบให้ได้