“จันทร์แรมเจ็ดค่ำนี้ต้องให้ยัยหนูกลับมาลงผนึกอาคมพรางตาอีกครั้ง”
เสียงคุยสองคนดังที่ชานบ้านไม้ที่ล้อมด้วยท้องไร่ท้องนาตามวิถีชาวชนบท
ตาทองอยู่ ปู่ทองดี คือชายแก่สองคนที่มีภูมิหลังที่นี่ เมียของทั้งสองตายในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งสองใช้ชีวิตเรียบ ๆ ไม่ให้ดูโดดเด่นนัก ปล่อยให้ชีวิตไหลไปตามกาลอย่างที่มนุษย์ควรเป็น แต่ภายใต้คือร่างไร้อายุขัยของเทพสองตนที่ทำหน้าที่ปกปักรักษาดวงจิตที่สำคัญมาก ๆ ดวงจิตหนึ่ง
“มันก็ตั้งนานมาแล้ว ข้าไม่เห็นจะมีใครตามเจอตัวยายหนูเจอเลย” ตาทองอยู่แย้งอย่างเกียจคร้าน
“ก็อย่าได้ชะล่าใจไป หากทางนั้นพบเจอตัวเล่า”
“ไม่เจอหรอกน่า กี่ภพมาแล้ว ไม่เห็นจะตามเจอเลย นี่เจ้าไม่มั่นใจในอาคมของพวกเราหรอกหรืออย่างไร เผลอ ๆ ไอ้พวกเกล็ดทั้งตัวอาจจะเลิกตามหายายหนูของเราแล้วก็เป็นได้”
อีกฝ่ายได้ยินก็ส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย "ท่านเทวาสั่งไว้อย่างไร จำไม่ได้หรือไอ้อยู่"
เมื่ออีกฝ่ายกล่าวถึงท่านเทพก็ย่นคออย่างเกรงกลัวไม่กล้ามีปากมีเสียงเถียงอะไรออกมาอีก คนขู่จึงรีบสั่งสำทับไปว่า “เจ้าต้องโทรบอกยายหนูว่าให้กลับมาบ้าน”
คนถูกสั่งงานมองไปยังโทรศัพท์อย่างขุ่นเคืองใจ
“ถ้ากลับไปยังเขตของเรา ไอ้กระบอกสี่เหลี่ยมนี่ก็ไร้ค่าสิ้นดี” พูดจบก็หยิบของที่ว่านั่นแล้วก็ปาลงพื้นอย่างหงุดหงิดกับการใช้งานของมัน มนตราต่าง ๆ ที่ตนมีไร้ค่าเมื่อต้องใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ จะได้ใช้อีกทีก็เฉพาะวันที่จันทร์ข้างแรมเจ็ดค่ำเพียงเท่านั้น
“หละหลวมแบบนี้ ท่านเทพรู้เรื่องเข้าเราคงไม่ได้เลื่อนขั้นแน่”
“นี่เจ้ายังหวังเลื่อนขั้นอีกหรือ”
แล้วเสียงคุยเสียงทะเลาะกันก็ดังบ้างหยุดบ้างสลับไปมาในบ้านหลังเล็ก ๆ หลังนั้น เป็นนานกว่าจะเงียบเสียงลงได้ ไม่นานก็ทะเลาะกันขึ้นมาใหม่อีกครั้งก่อนเงียบเสียงลงไป
ปทุมมาตื่นเช้าทุกวันเป็นกิจวัตรเพื่อมาทำอาหาร ก่อนรับสายจากตาทองอยู่ที่เลือกโทรหาเธอในช่วงที่กำลังจะออกจากห้องเพื่อไปทำงานพอดี ท่านสอบถามสารทุกข์สุกดิบครู่ใหญ่ก่อนถามในตอนท้ายว่ามีเวลากลับบ้านบ้างหรือไม่
ปกติแล้วท่านมักตามให้กลับบ้านทุกสองสัปดาห์ หากไม่ได้ทำงานแทนใคร ปทุมมาก็จะกลับบ้านเสมอ หากเป็นช่วงกลางเดือนหน้านี้ก็เป็นจังหวะดีเลยเพราะช่วงนั้นมีวันหยุดยาวติดกันหลายวัน จึงตอบรับพวกท่านไปว่าเธอจะกลับบ้านราว ๆ นั้น
คุยกับท่านอีกครู่ค่อยวางสายแล้วเดินออกจากตึกของหอพักตรงไปทำงาน ถึงแล้วล้วงเอาเงินที่ขายขวดเปล่าได้เตรียมให้หัวหน้างานที่เธอรับหน้าที่เอาไปขายให้แบบนี้เสมอ แล้วสายตาถึงได้มองเห็นพนักงานต่างพากันลงมาที่โถงด้านล่างเดินผ่านไปยังด้านหลัง ก่อนที่เสียงของขนุนหนังจะบอกขึ้นที่ด้านข้างของเธอนี่เอง
“เห็นว่าเจ้าของบริษัทหรือใครเนี่ยแหละเรียกประชุมทุกคนเลย”
เธอกับพี่ ป้า น้า แม่บ้านคนอื่นเป็นพนักงานจากบริษัททำความสะอาดของที่อื่นที่มาลงทำความสะอาดก่อนจะเวียนหมุนไปทำที่ใหม่ไปเรื่อยตามสัญญาว่าจ้างงาน เพราะไม่ได้เป็นพนักงานประจำของที่นี่จึงไม่ต้องเดินตามกันไปอย่างพนักงานที่กำลังทยอยเดินไปยังห้องโถง
“ดีเหมือนกันเนอะ คนออกไปกันจนหมด เราก็จะได้ทำงานสะดวก ๆ หน่อย”
ขนุนหนังทำเสียงเกียจคร้าน เธอเลยหันไปเตรียมเครื่องมือทำความสะอาดที่รถเข็นของตนเอง อึดใจต่อมาก็แว่วเสียงหวานเรียกหาใครสักคน
“เธอ” ก่อนบอกตามมาอีกทีว่า “เธอนั่นแหละจ้ะ มานี่หน่อยสิ”
ปทุมมาละสายตาจากรถเข็นมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง เห็นว่ามีตนเองเพียงคนเดียวตรงนี้ ส่วนขนุนหนังหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้จึงเข้าใจว่าคงเป็นตนอย่างแน่นอนที่อีกฝ่ายยืนจ้องหน้าเรียกอยู่ตรงมุมของอาคาร แล้วถึงได้ตอบรับพร้อมเดินเข้าไปตามเสียงเรียกของหญิงคนนั้น
“ช่วยยกลังพวกนี้เข้าห้องทำงานของฉันทีนะ” อีกฝ่ายบอกแล้วบุ้ยปากไปยังห้องทำงานที่มีป้ายบอกว่าตนนั้นอยู่ในตำแหน่งไหน ก่อนสั่งต่อ “แล้วเก็บกวาดห้องให้ด้วย ฉันเพิ่งเข้ามารับหน้าที่รองผู้จัดการฝ่ายบุคคลของที่นี่น่ะ”
ปทุมมาทำเพียงยิ้มรับอย่างเดียว ทางนั้นก็สั่งต่ออย่างวางอำนาจ “ฝากทีนะ เดี๋ยวจะลงไปประชุมข้างล่างหน่อย เห็นว่าเรียกพนักงานลงไปจนหมดตึกเลย คงจะแนะนำฉันให้ทุกคนรู้จักแหละมั้ง อ้อ แล้วอย่ารื้อค้นของในกล่องฉันนะ ฉันถ่ายรูปไว้หมดแล้ว ถ้าอยู่ผิดตำแหน่ง ฉันเอาเรื่องเธอแน่”
ปทุมมารับคำด้วยท่าทีเอาการเอางานให้คนสั่งสบายใจ เมื่ออีกฝ่ายคล้อยหลังก็ถอนลมหายใจออกช้า ๆ ให้กับงานแบบนี้ แล้วรีบจัดแจงทำงานตรงหน้าให้เรียบร้อย โดยพยายามไม่แตะข้าวของของคนสั่งให้มากจนของเขยื้อน ก่อนจะกลับไปทำงานของตนเองต่อหลังจากนั้น
“บัวจ๊ะ” หัวหน้าของเธอเรียกแล้วก็รีบกล่าวชมในทันที “คุณเขาชมบัวใหญ่เลยว่าทำงานดี เรียบร้อยมาก เลยอยากจะขอให้บัวไปอยู่ประจำที่ห้องคุณเขาน่ะจ้ะ”
ปทุมมายิ้มอย่างงุนงงนิด ๆ ก่อนถามออกไปว่า “คุณคนไหนหรือคะ”
ส้มป่อย หัวหน้าแม่บ้านบอกแล้วก็บุ้ยปากไปยังหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่ใช้งานเธอเมื่อวานนี้
ปทุมมามองตามสายตาของส้มป่อยไปแล้วก็ได้คำตอบในทันทีว่าเป็นใคร เธอยิ้มไม่เต็มที่เท่าไรนักเพราะไม่เคยประจำที่ห้องทำงานของใครคนใดคนหนึ่งมาก่อน
ปกติเธอและพี่น้องแม่บ้านร่วมบริษัทเดียวกันจะทำงานรับผิดชอบทั้งชั้น และเธอก็ชอบงานแบบนั้นมากกว่าจะต้องไปประจำที่ห้องของใคร
“ไปได้เลยนะ คุณเขาให้เริ่มวันนี้เลย” ส้มป่อยรวบรัดกับเธอเสียอย่างนั้น