3

1098 Words
“แค่มีหน้าตาหล่อ ๆ” ว่าแล้วก็คว่ำมือลากปลายนิ้วไปกับใบหน้าที่หล่อเหลาตามยุคสมัยนิยม “เท่านี้พวกมนุษย์ก็ให้ความสนใจผมแล้ว มองผมราวกับเป็นพวกเทพเทวะอย่างนั้นแหละ ดี๊ดี” ภัทรบีบเสียงบอกอย่างร่าเริงกว่าเดิมเสียอีก เธียรมองน้องชายของเขานิ่งก่อนออกปากเตือน “อย่าได้หลงระเริงไปกับมายาเหล่านั้นจะได้หรือไม่” “ไม่ให้หลงได้ยังไงละครับ ก็มันดีจริง ๆ นี่นา ชีวิตของเราก็เท่านี้เอง หมดภพนี้ก็ Move on ไปภพใหม่ อย่าบอกนะครับว่าพี่ยังคิดถึงหญิงชั่วคนนั้นอยู่อีก เลิกคิดเถอะน่า มันผ่านมาตั้งนานแล้วนะ เลิกตามหาเถอะ เชื่อผมนะครับ” ภัทรกำลังพูดให้เขาลืมเรื่องในอดีต น้องชายของเขาสรรหาหญิงสาวคนใหม่มาให้เขาเสมอ จะว่าไปคนในครอบครัวต่างก็พากันทำแบบนั้น แต่ศาสตราจารย์เธียรไม่ได้ต้องการการทดแทน เธียรมองจ้องไปยังเบื้องหน้า ภาพเมื่อคราวนั้นฉายกลับเข้ามาในหัวของเขาร่ำไป ครั้งที่เขาพบนางครั้งแรกนั่นเขายังคงจำมันได้ไม่มีทางลืมเลือน หมู่มวลดอกไม้ที่สวนตรงทางขึ้นของสวรรค์เป็นสถานที่ที่พญาเฑียรฆชาติไม่เคยคิดว่าต้องมาเสียเวลาแวะ เขามีเรื่องใหญ่ต้องทำ แต่ร่างเล็กตรงนั้นก็ทำให้พญานาคราชต้องหยุดมอง “น่าพิศขนาดนั้นเชียวหรือ” นาคราชคนพี่เอ่ยถามน้องชายอย่างสนใจ “ใครหรืออะไรกันที่ทำให้พญาเฑียรฆชาติแห่งเมืองบาดาลหยุดมองได้ถึงเพียงนี้” พญาเฑียรฆชาติมองทางนั้นนิ่งแล้วตอบ “นั่นอย่างไร” ร่างนั้นหันมาสบตากับเขาหลังกล่าวจบ แล้วก็ไม่ได้มีท่วงท่าสะทกสะท้านเขินอายอย่างหญิงอื่นที่เขาเคยพบเจอ แววตาที่มองตอบพญาเฑียรฆชาติดูดื้อรั้น และนั่นก็เท่ากับเป็นการดึงดูดหัวใจของพญานาคราชหนุ่มราวถูกมัดด้วยเชือกที่ลงมนต์ไว้อย่างหนาแน่นเสียอีก ก่อนถูกพี่ชายพยักหน้าให้เข้าสู่โถงของห้องชั้นฟ้าด้วยกันในเวลาต่อมา ข่าวว่านาคราชตระกูลสูงวงศ์หนึ่งไม่พอใจที่เหล่าสาวกพระพุทธองค์ดำเนินผ่านทางของตนนั้นทำให้มีเรื่องบาดหมางและจำต้องให้ทางพวกตนช่วยเจรจากับนาคราชตระกูลนั้นให้ ว่าเหตุใดจึงไร้ซึ่งความเคารพต่อเหล่าสาวกของพระพุทธองค์เยี่ยงนี้คือเรื่องที่หยิบยกขึ้นมาหารือ พญาเฑียรฆชาติลอบมองสบตากับพี่ชายเมื่อเห็นว่าไม่ใช่เรื่องหนักหนาอย่างที่คิด หลังจากทางพญานาคราชรับปากช่วยเจรจาให้แล้ว เหล่าเทวาทั้งหลายต่างดูไม่พอใจนักเมื่อพญาเฑียรฆชาตินำความเรื่องหนึ่งขึ้นกล่าว เขาเอ่ยในโถงว่าอยากขอให้ทางเหล่าทวยเทพให้เกียรติเหล่านาคทุกชนชั้นด้วย เมื่อจำต้องผ่านทางไปทางใดก็ขออย่าได้หมิ่น อย่าได้เหยียดหยามว่าเป็นเพียงสัตว์ชั้นต่ำกว่าตน หากทุกชนชั้นไม่ดูถูกกันคงไม่เกิดปัญหาทำนองนี้ขึ้น เพียงกล่าวจบเสียงคุยไม่พอใจก็เซ็งแซ่ทั้งโถง เหล่าเทพต่างไม่พอใจที่ถูกพญาเฑียรฆชาติกล่าวตักเตือน เหล่าทวยเทพน้อยใหญ่กลับไม่ยอมรับความผิดของพวกตน เมื่อถูกนำความจริงขึ้นกล่าวทูลก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจ สร้างความรังเกียจเดียดฉันท์ที่มีต่อเหล่าพญานาคมากยิ่งขึ้น “ชาวเราเหล่าเทวาไม่กระทำต่ำเยี่ยงนั้นหรอกท่านพญานาคราช” ท่านเทวาทิพากรณ์บอกด้วยเสียงเรียบนุ่มทว่าแววตาที่มองทางเหล่านาคราชกลับหยันเหยียดอยู่ไม่น้อย เฑียรฆชาติมองทางนั้นแล้วก็เอ่ยแก้ไปว่า “เราชาวนาคก็ไม่เคยคิดลบหลู่ชนชั้นใดเช่นกันหากไม่ถูกกระทำก่อน” “ท่านกล่าวหาพวกเราว่าเป็นตัวต้นเหตุก่อเรื่องอย่างนั้นหรือ” เสียงที่สามเอ่ยถามอย่างต้องการหาเรื่อง “หยุดเพียงเท่านั้นก่อนได้หรือไม่” เสียงห้ามรีบกล่าวท้วงเมื่อเห็นว่าผู้เป็นใหญ่ของสองฝ่ายไม่ลงรอย ซ้ำอาจเกิดรอยบาดหมางมากยิ่งขึ้น “เราขอให้อยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่มีชั้นใดต่ำกว่าชั้นใดทั้งนั้น ขอให้เข้าใจเยี่ยงนี้ก็คงพอใช่ไหมเหล่าเทพทั้งหลาย” พระองค์ผู้เป็นประธานในโถงใหญ่กล่าวเตือนเหล่าทวยเทพเรื่องการเคารพชนชั้นอื่นบ้างตามคำกล่าวทูลของพญานาคราช เท่านั้นแล้วก็หารือเรื่องอื่นต่อก่อนแยกย้ายกันออกมาจากโถงชั้นฟ้า ขณะเดินออกจากโถงที่ใช้หารือ สายตาของพญานาคราชก็สะดุดเข้ากับหญิงผู้นั้นอีกครั้งที่เรียกสายตาของเขามาแล้วครั้งหนึ่ง นางเดินตรงไปยังท่านเทวาทิพากรณ์ราวกับรอคอยอยู่ “ท่านพ่อเจ้าคะ” “มีอะไรนักเล่าลูกรัก” แม้คำพูดจะฟังคล้ายรำคาญ แต่ท่าทีของคนเป็นพ่อรวมไปถึงน้ำเสียงที่ใช้นั้นเอ็นดูหญิงผู้เป็นบุตรสาวไม่น้อย “ห้ามไม่ให้ลูกออกไปที่สวนด้วยเหตุอันใดกัน” “เพราะเจ้าดื้อ” พญานาคราชแทบละสายตาจากหญิงสาวแทบไม่ได้ แม้พี่ชายจะเข้ามาดึงให้รู้สึกตัวแต่กระนั้นเขายังมองจ้องนางตาไม่กะพริบเลยแม้แต่นิด “สนใจผู้นี้หรอกหรือ” “ลูกสาวท่านเทพอย่างนั้นหรือ” พญาเฑียรฆชาติถามพี่ชายด้วยน้ำเสียงครุ่นคิดเล็กน้อย “เท่าที่พี่เห็น ก็น่าจะเป็นบุตรสาวคนเล็กของทิพากรณ์ คู่ปรับของเจ้าอย่างไรน้องรัก” ทันทีที่ได้คำตอบแววตาของพญาเฑียรฆชาติก็ไหววูบไปเสี้ยวเวลาหนึ่ง พี่ชายเห็นอย่างนั้นก็ถามกระเซ้าคิดไปว่าน้องชายของตนคงหมดความสนใจแล้วเป็นแน่ “ยังน่าสนใจอีกหรือไม่” แต่แล้วกลับได้คำตอบกลับมาเป็นสายตาแน่วแน่ นาคราชคนพี่เห็นอย่างนั้นก็ไม่ใคร่สบายใจขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะน้องชายของตนนี้มีจิตใจมุ่งมั่น ไม่เคยข้องเกี่ยวกับสตรีจากทุกตระกูลไม่ว่าต่ำศักดิ์กว่า สูงกว่าหรือเสมอกันมาก่อน แต่แววตาที่ตนมองเห็นนั้นตอบรับตนว่าอยากได้สตรีนางนี้มาไว้ในครอบครอง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่านางคือธิดาของท่านเทพเทวะที่มีข้อพิพาทกันหลายต่อหลายเรื่องอย่างนั้นหรือ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD