อดคิดขึ้นมาไม่ได้ ถ้าเป็นเสือหมอกแล้วล่ะก็ หล่อนคงจะยอมให้ทำทั้งวันทั้งคืน แต่พอเป็นผู้ชายอื่นที่หล่อนไม่ได้มีจิตคิดพิศวาสด้วย ก็นึกอยากจะลุกจากที่ตรงนี้ไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่ทำตามใจคิดไม่ได้เพราะร้านกาแฟแห่งนี้ปลอดภัยที่สุดแล้ว อย่างน้อยก็มีคนเยอะและเป็นสถานที่นัดพบกับลูกน้องของเสือหมอก ถ้าเกิดลุกไปที่อื่นแล้วเกิดมีเรื่องอะไรขึ้นมา หล่อนจะไม่มีคนช่วย ไม่มีพยานรู้เห็น อีกทั้งลูกน้องของเสือหมอกคงไม่รู้ด้วยว่าหล่อนเป็นตายร้ายดีอย่างไร นั่งอยู่ตรงนี้แหละดีแล้ว
“แล้วนี่…น้องมาซื้ออะไรเหรอจ๊ะ”
คนตรงหน้ายังคงเกี้ยวพาราสีไม่เลิก นิ่มนวลคิดเอาในใจว่าจะไม่ตอบโต้ ยิ่งพูดคุยด้วย เรื่องยิ่งยาว แต่พอไม่ตอบอะไรกลับไป อีกฝ่ายก็เหลือบมองข้าวของในตะกร้า
“วันนี้คงจะแกงเห็ดสินะ ดีเลย พี่ชอบกินแกงเห็ดพอดี”
ฉันจะแกงให้พี่หมอกกิน! ไม่ใช่ให้แกกิน!
ดวงตาคู่สวยตวัดมองด้วยนึกรังเกียจ หากแต่ปากไม่ได้พูดอะไรออกไป จากนั้นก็พยายามชะเง้อชะเง้อมองหาว่าเมื่อไรลูกน้องของเสือหมอกจะมารับเสียที
พวกนั้นก็นานเสียเหลือเกิน ไม่รู้หายหัวไปไหนกันหมด เมียหัวหน้าถูกแทะโลมจนสึกหรอไปหมดแล้ว!
คิดในใจขึ้นมาอีกที กระวนกระวายไปหมด ท่าทางของหญิงสาวแสดงออกให้เห็นชัดเจนว่าไม่อยากจำนรรจา จนอีกฝ่ายชักจะมีอารมณ์โมโหขึ้นมาน้อยๆ
“น้องนี่…หยิ่งจังเลยนะ พี่มาคุยด้วยดีๆ ก็ไม่ยอมคุยต่อ หรือว่า…อยากจะข้ามขั้นมาเป็นเมียพี่เลยจ๊ะ ไม่ต้องให้พี่ตามจีบอีก?”
ได้ยินอย่างนั้นก็ขนลุกขึ้นมามากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว นิ่มนวลไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี คุยก็ไม่ดี ไม่คุยก็ไม่ดี หล่อนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว!
และการที่ไม่ยอมตอบโต้อะไรสักอย่าง ไม่แม้แต่จะสบตา ก็เหมือนเป็นการเปิดทางให้ผู้ชายตรงหน้ากระทำการล่วงเกินหล่อนมากขึ้นไปอีก
มือสากหยาบกร้านเอื้อมมาจับบนหลังมือหล่อนที่วางอยู่บนโต๊ะ นิ่มนวลสะดุ้งสุดตัว ชักมือกลับมาทันที
“ทำอะไรของแกเนี่ย!”
โวยวายขึ้นมาอีกด้วย เสียงดังเสียจนคนทั้งร้านหันมามองเป็นตาเดียวกัน
“โธ่ จะสะดีดสะดิ้งไปทำไม แค่จับมือนิดๆ หน่อยๆ ทำเป็นหวงตัวไปได้”
“มันไม่ได้นิดหน่อยสำหรับฉัน ฉันขยะแขยง”
อุตส่าห์จะไม่พูดอะไรแล้วเชียว แต่มันอดไม่ได้ รังเกียจเหลือเกินผู้ชายที่รังแกผู้หญิงอย่างนี้ ไม่อยากมีเรื่องแต่ก็จำเป็นต้องลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง โดยไม่ทันคิดเลยว่าคำดูแคลนเมื่อครู่นี้บันดาลโทสะให้กับคนฟังเป็นอย่างมาก
“อ้าว อีนี่ ทำมาเป็นขยะแขยง ได้กูเป็นผัวเมื่อไร จะดูซิว่ามันจะขยะแขยงได้อีกสักกี่น้ำ!”
ความนักเลงโตทำให้ไม่เกรงใจใคร แม้ว่าภายในร้านจะมีผู้ชายอยู่กันหลายคน แต่ก็เป็นชายวัยกลางคนค่อนไปทางชราทั้งสิ้น ไม่มีใครกล้าที่จะไปใช้พละกำลังต่อกรกับชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่านักหรอก
“ลองทำอะไรฉันดูสิ แกได้มีปัญหาแน่”
นิ่มนวลก็ไม่ยอมแพ้ ในเมื่อเครื่องจุดติดแล้ว ก็ไม่สามารถยั้งได้อยู่อีกต่อไป ผุดลุกขึ้นยืน ชี้หน้าข่มขู่อีกฝ่าย
“ทำไม จะมีปัญหาอะไร ถามหน่อยเถอะ ในตลาดนี่ถ้ามีใครกล้ากับกู ก็ให้พวกแม่งมาได้เลย ไม่มีใครทำอะไรกูได้หรอก”
ได้สิ! พวกพี่หมอก ทำได้อยู่แล้ว!
นิ่มนวลได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมา เรื่องตัวตนที่แท้จริงของเสือหมอกเป็นความลับที่สำคัญ ไม่สามารถเปิดเผยได้
“ไหน มึงลองพูดมาซิว่าใครจะกล้าทำอะไรกู”
พอเห็นหญิงสาวไม่พูด ได้ทีก็คาดคั้นเป็นการใหญ่ นิ่มนวลได้แต่มองจ้องใบหน้าคร้ามครันนั้น แล้วตัดสินใจที่จะเดินหนีออกมาจากร้านด้วยไม่ต้องการให้เกิดเรื่องบานปลาย
“มึงจะไปไหน!”
แต่พอก้าวมาได้ไม่กี่ก้าว ข้อมือของหล่อนก็ถูกฉุดเอาไว้ หล่อนถึงกับต้องกรีดร้องออกมา
“ปล่อยฉันนะ!”
“กูไม่ปล่อย กูอยากจะรู้ว่าถ้ากูไม่ปล่อย มึงจะทำอะไรกูได้”
ได้ใจเป็นอย่างยิ่ง ยื้อยุดฉุดกระชากกับหญิงสาวท่ามกลางสายตาคนทั้งตลาดโดยไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น แต่ก็ทำได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะทันทีที่มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ฝ่ามือที่เกาะกุมข้อมือเล็กอยู่ก็ต้องรีบปล่อยออกในทันที
“กูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะทำอะไรได้”
หันไปเห็นว่าเป็นเสียงของฟ้าฮ่าม สีหน้าของนักเลงโตก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่นิ่มนวลดูจะลิงโลดกว่าใครเพื่อน
“พี่!”
เรียกพี่อย่างนั้น คนฟังพลันเข้าใจผิดในทันที
“อีนี่…เอ้ย! น้องนี่เป็นแม่หญิงของอ้ายกา?”
ฟ้าฮ่ามไม่ตอบ ได้แต่มองหน้าคนตรงหน้านิ่ง แต่เท่านี้ คำตอบก็ชัดเจนในตัวของมันอยู่แล้ว
“สุมาเต๊อะอ้าย ผมบ่ฮู้ว่าเป็นแม่หญิงของอ้าย บ่งั้นบ่ยุ่งหรอก”
“มึงลองมายุ่งดูอีกที มึงเตรียมตัวย้ายที่อยู่ได้เลย ตลาดนี้ไม่ใช่ของมึง”
ฟ้าฮ่ามว่าสั้นๆ แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มรุ่นน้องผงกหัวประหลกๆ
“ครับ สุมาเต๊อะ”
จากนั้นก็รีบพาตัวเองออกจากร้านกาแฟไปโดยเร็ว ตามไปด้วยพวกลูกกระจ๊อกที่มีสีหน้าเจื่อนไม่แพ้กัน
“เกือบจะไม่รอดซะแล้ว…”
พอคล้อยหลังนักเลงพวกนั้นไป นิ่มนวลพลันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พูดออกมาด้วยความโล่งใจ ท่าทางของหล่อนดูเคร่งเครียด แต่ในสายตาของฟ้าฮ่ามกลับดูน่าขบขันอย่างไรไม่รู้
“แล้วมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะแม่คุณ คนอื่นๆ ไปไหนกันหมด?”
เขารู้ว่าหญิงสาวลงมาที่นี่ได้อย่างไร เพียงแค่ไม่รู้ว่าเวลาที่ลงมา หล่อนมาทำอะไรบ้าง
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันพี่ เอาฉันมาปล่อยไว้ที่ร้านกาแฟ นัดแนะกันให้มาเจอที่นี่หลังเสร็จธุระแล้วก็หายหัวไป”
“เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลยเหรอ”
“ก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้งแหละ แต่ปกติไม่ได้มีเรื่องมีราวอะไรนะ เพียงแต่ว่าพักหลังๆ ไอ้พวกบ้านั่นมันมาตามก่อกวนฉันน่ะ”
ได้ทีฟ้องเสียเลย ฟ้าฮ่ามอดเป็นห่วงขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้
“พี่มาออกตัวให้อย่างนี้ พวกมันคงจะเลิกยุ่งกับน้องไปอีกนาน พอดีพวกมันรู้น่ะว่าพี่เป็นลูกของใคร”
นิ่มนวลพยักหน้า เพราะจะเดาได้อยู่
“น้องจะเดินเที่ยวตลาดต่ออีกหรือเปล่า”
คราวนี้ส่ายหน้า
“วันนี้คงจะฤกษ์ไม่ดีแล้วมั้ง ไม่ไปดีกว่า มาเจอไอ้พวกนี้แล้วฉันเสียอารมณ์ ไม่มีอารมณ์ไปเดินแล้วจ้ะ”
“แล้วอีกนานไหมกว่าที่พวกพี่ชายจะมารับ?”
ถามถึงลูกน้องของเสือหมอก หญิงสาวใส่หน้าอีกครั้ง
“ไม่รู้เลย คงอีกสักพักใหญ่ๆ ฉันได้แค่นั่งรอเท่านั้นละ”
พอพูดมาอย่างนี้ ฟ้าฮ่ามก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นการใหญ่ จนเขาต้องออกปาก
“วันนี้ฤกษ์ไม่ดีแล้วอย่างที่น้องว่านั่นละ เอาอย่างนี้ดีไหม วันนี้กลับไปกับพี่ก่อน แล้วค่อยให้พวกพี่ชายตามไป”
“แต่ฉัน…”
“พี่กลัวว่าถ้าปล่อยให้น้องอยู่คนเดียว เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมันจะย้อนกลับมาอีก”
กำลังจะปฏิเสธอยู่แล้วเชียว แต่พอฟ้าฮ่ามว่ามาอย่างนี้ นิ่มนวลก็เห็นดีด้วย
“เอาอย่างนั้นก็ได้จ้ะพี่ ฉันก็แอบกังวลอยู่เหมือนกัน พี่มาก็ดี ฉันจะได้กลับไปหาพี่หมอกเลย”
ฟ้าฮ่ามคลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ แต่พี่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าพี่จะต้องแวะไปเอาผักที่อีกดอยนึงก่อน อาจจะถึงหมู่บ้านช้าหน่อย”
“ไม่มีปัญหาจ้ะ พี่ไปทำธุระของพี่เถอะ ฉันปลอดภัยก็พอแล้ว”
นิ่มนวลคิดว่าไม่เป็นไร แค่กลับช้าหน่อย กลับไม่มีใครรู้ว่าหล่อนหายไปไหน แต่ปลายทางคือกลับไปที่หมู่บ้านเหมือนกัน ก็มีค่าเท่ากัน ที่สำคัญคือหล่อนจะได้กลับไปทำแกงเห็ดให้กับเสือหมอกได้กินเร็วๆ
นั่นละ…คือสิ่งที่หล่อนต้องการทั้งหมดแล้ว