"กล้าไล่ฉันเหรอ?" วอนแหงนหน้าขึ้นมาเพื่อจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้ม มือหนาเชยคางมนให้หันกลับมาสบตา
"ฉันเกลียดคุณ เกลียด! ไม่เคยเกลียดใครมากเท่าคุณมาก่อนในชีวิต! ถอยออกไปแล้วก็อย่ามายุ่งกับชีวิตของฉันอีก ฉันไม่ฝึกงานแล้ว และฉันก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น!" วอนไม่ได้โต้ตอบอะไร เขาแสดงสีหน้าเมินเฉยต่อคำพูดของเธอผิดจากที่เขาครวญครางตอนร่วมรักกับเธอโดยสิ้นเชิง
"ก็ตามใจเธอ แต่ถ้าคลิปเสียงของฉันหลุดออกไป คลิปเซ็กส์ของเราก็จะหลุดออกไปเหมือนกัน" วอนถอดแก่นกายของตนเองออกและเดินตรงไปหยิบกล้องที่ซ่อนไว้อยู่มุมปลายเตียงขึ้นมา มีอาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าธาตุแท้ของวอนจะเลวร้ายและเห็นแก่ตัวถึงเพียงนี้
"คุณตั้งกล้องถ่ายคลิปฉันอย่างนั้นเหรอ?"
"ฉันทำแบบนี้เสมอ เพื่อป้องกันผู้หญิงที่เห็นแก่เงิน" เขาดึงถุงยางอนามัยออกก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อของตนเองและเดินเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ มีอาร้องห่มร้องไห้อยู่บนเตียงเพราะความเจ็บใจ
หลายนาทีต่อมาวอนเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับกล้องที่เขาถือเข้าไปด้วย ชายหนุ่มเดินไปหยิบกระเป๋าเงินและล้วงธนบัตรออกมาหลายสิบใบ
"ค่าตัวเธอ!" กางเกงและดึงเงินแบงก์พัน เขาโยนมันลงบนเตียง
"ที่แท้คุณมันก็คนเลว!"
"รู้ก็ดีแล้วนี่ แยกทางกันตรงนี้เลยก็แล้วกัน" วอนพูดเช่นนั้นก็เดินออกจากห้องของโรงแรมไปทันที มีอาร่ำไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างเหลืออดเพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ดี
"ฮืออ...ไอ้เลว..."
คฤหาสน์ของวอน
เวลาสองทุ่มตรง
"คุณวอนครับ คุณเอมม่ามารอพบครับ" ชรินทร์คนขับรถของวอนรายงานชายหนุ่มเมื่อเขาก้าวลงจากรถ
"เตรียมเหล้าไปให้ฉันที่ห้องนอนด้วย" ชายหนุ่มสั่งเสียงเรียบและเดินตรงเข้าไปในบ้าน
"วอนขา...เอมม่ามารอคุณตั้งแต่หกโมงเย็น คิดว่าวันนี้คุณจะตรงกลับบ้านมาทานข้าวกับเอ็มม่าเสียอีก" เอมม่าวิ่งเข้าไปสวมกอดชายหนุ่มไว้
"เอามือเธอออกไป!"
"วอน...ทำไมทำเสียงแบบนี้ล่ะคะ ว่าแต่...คุณเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมหรือคะ?"
"ถ้าไม่มีธุระอะไรก็กลับไป วันนี้ฉันทำงานเหนื่อยมากอยากพักผ่อน" เขาพูดเสียงเรียบและดันร่างบางให้ออกห่าง ชายหนุ่มเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองโดยมีเอมม่าวิ่งตามขึ้นไป
"แต่เอมม่ามารอคุณตั้งแต่หกโมงเย็นนะคะ เลิกงานเดินแบบแล้วก็รีบมาหาคุณเลย เอมม่าทั้งหิวทั้งเหนื่อยยังไม่บ่นสักคำ!"
"เมื่อกี้ฉันบอกให้เธอกลับไปไม่ใช่เหรอ จะมายืนพูดอะไรอยู่ตรงนี้ แล้วก็ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องมาหาฉัน ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกิน อย่ามาทำตัวงี่เง่าแถวนี้!" วอนพูดจบก็หมุนตัวเดินกลับขึ้นไปโดยที่ไม่สนใจสีหน้าที่โกรธเคืองของนางแบบสาวเลยแม้แต่น้อย
"อ๊ายย! วอนนะวอน!" หล่อนกระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับมาคว้ากระเป๋าของตนเองบนโซฟาและเดินออกจากบ้านคฤหาสน์ของชายหนุ่มไปทันที
เช้าวันถัดมา
บริษัทในเครือหงส์กรุป
ประธานวอนเดินเข้ามาในบริษัทในเช้าวันใหม่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเช่นทุกวัน เขาเดินผ่านโต๊ะทำงานของมีอาเข้าไปในห้องของตนโดยที่ไม่แม้แต่จะชายตามอง ทว่ารู้ดีว่าวันนี้หญิงสาวไม่มาทำงานอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตนเองก่อนที่จะยกโทรศัพท์ต่อสายไปยังฝ่ายบุคคลของบริษัท
"ช่วยโทรเช็คด้วยว่านักศึกษาฝึกงานที่ชื่อมีอาจจะมาทำงานหรือเปล่า" เขาพูดเท่านั้นก็วางหูโทรศัพท์ลง
"ก๊อก ๆ ๆ"
"ท่านประธานคะ วันนี้มีประชุมตอนสิบโมงเช้าค่ะ" วีณารายงานประธานหนุ่ม
"ยกเลิกไปก่อน" เขาออกคำสั่งเสียงเรียบ
"เอ่อ..."
"มีอะไร?"
"คุณวินกับคุณหญิงจะเข้าร่วมประชุมด้วยค่ะ" เลขาสาวหมายถึงกวินผู้เป็นพี่ชาย และคุณหญิงสุวิชญาซึ่งเป็นมารดาของวอนนั่นเอง
"งั้นก็ช่วยเตรียมประชุมให้ด้วย" ประธานหนุ่มหัวเสียทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของผู้เป็นมารดาและพี่ชาย แม้คุณหญิงสุวิชญาจะเป็นมารดาของตนก็จริง แต่กวินกลับเป็นพี่ชายต่างบิดา และสาเหตุที่วอนเหนื่อยหน่ายก็คือผู้เป็นมารดาเอาแต่สนับสนุนบุตรชายคนโตให้ขึ้นมาบริหาร ทั้งๆ ที่บริษัแห่งนี้เป็นของบิดาของวอนโดยชอบ ซึ่งกวินไม่ได้มีสิทธิ์ในการบริหารเพียงแค่ถือหุ้นบางส่วนเท่านั้น
ห้องประชุม
"แล้วคนอื่นๆ ไปไหนหมดแล้วครับคุณแม่" วอนยกมือไหว้ผู้เป็นมารดา เขาแปลกใจที่เห็นผู้เป็นบิดามารดาและพี่ชายต่างบิดารออยู่ในห้องประชุม
"แม่ยกเลิกประชุมไปแล้วล่ะ"
"คุณแม่พูดว่าอะไรนะครับ?"
"แม่มีธุระสำคัญจะคุยกับแก แม่ก็เลยให้กวินบอกยกเลิกประชุมไปแล้ว"
"คุณแม่กับพี่กวินกำลังแทรกแซงอำนาจของผมนะครับ"
"วอน แกจะพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก พี่กับคุณก็เป็นหุ้นส่วนนะ"
"แต่คนที่เป็นประธานบริหารก็คือผม คนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่างก็คือผม"
"ตั้งแต่ที่พ่อแกให้แกขึ้นเป็นประธานบริหารแกก็ปีกกล้าขาแข็งแทบไม่เห็นหัวแม่เลยนะ"
"ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ แต่บริษัทนี้เป็นบริษัทที่คุณพ่อสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ผมจำเป็นต้องทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อรักษาไว้"
"แล้วพ่อแกเคยมาเหลียวแลมั้ยล่ะ?"
"คุณแม่ไม่มีทางรับรู้หรอกครับว่าคุณพ่อเหลียวแลผมหรือเปล่า เพราะว่าคุณแม่หย่ากับคุณพ่อไปแล้ว"
"เอาล่ะ ถ้ามันเหนื่อยเกินไปก็แบ่งพี่แกบริหารบ้าง"
"คุณแม่กับพี่กวินถือหุ้นในบริษัทนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่ไม่สร้างความเดือดร้อนอะไรอย่างเช่นที่ผ่านมา ก็ถือว่าช่วยผมมากๆ แล้วครับ" คุณหญิงสุวิชญานึกละอายใจขึ้นมาเมื่อบุตรชายพูดถึงเรื่องในอดีตที่ตนเคยใช้ชื่อบริษัทแอบอ้างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
"เรื่องนี้หยุดพูดกันก่อนก็ได้ แต่แม่ว่าจะถามเรื่องผู้หญิงนักศึกษาให้แกอุ้มเข้าโรงแรมเมื่อวาน เป็นใคร?"
"คุณแม่พูดเรื่องอะไรครับ?" นางล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดรูปภาพที่ถูกแอบถ่ายให้บุตรชายดู
"พวกชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านสินะครับถ่ายมาให้ดู"
"แต่นี่มันที่สาธารณะ"
"แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม"
"แม่ก็ไม่ได้คิดจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของแกหรอก แต่การที่แกมีเลขาเป็นเมียคนหนึ่ง มีนางแบบเป็นเมียอีกคนหนึ่ง และยังจะเลี้ยงเด็กนักศึกษาอีกกี่คนก็ไม่รู้ มันเป็นภาพลักษณ์ของบริษัททั้งสิ้น"
"ผมไม่ได้มีใครเป็นเมียสักคนอย่างที่คุณแม่กล่าวหา"
"ถ้าจะบอกว่ากินกันเงียบๆ แล้วทำไมแม่นักศึกษาคนนี้ถึงไปอยู่ที่โรงแรมกับแกล่ะ"
"เรื่องบังเอิญครับ แต่ความจริงคือผมไม่เคยควงผู้หญิงคนไหนออกที่สาธารณะอยู่แล้วไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ครับ"
"ก็ดี แม่บอกแกไว้วันนี้เลยว่าถ้ายังทำตัวเป็นหนุ่มรักสนุกแล้วก็ไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนอยู่แบบนี้ แม่จะทำทุกวิถีทางให้พี่ชายลูกเป็นขึ้นมาบริหารแทน เพราะว่ากวินเขาก็กำลังจะแต่งงานและพร้อมจะทำหน้าที่ตรงนี้มากกว่าลูก" วอนรู้ดีว่าผู้เป็นมารดาไม่เคยเห็นว่าเขาทำงานหนักขนาดไหนถึงได้พูดเช่นนี้ ชายหนุ่มได้แต่นิ่งเงียบด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ เพราะตลอดมามารดารักผู้เป็นพี่ชายมากกว่าตนเสมอ
"หมดธุระแล้วขอตัวนะครับ" วอนเดินออกจากห้องประชุมมาด้วยสีหน้าหงุดหงิด
ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานเขาก็เห็นว่ามีเอามาทำงานตามปกติแล้ว และหญิงสาวยังคงนั่งดูเอกสารในมือด้วยสีหน้าเรียบเฉยโดยที่ไม่สนใจว่าประธานหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ตรงโต๊ะทำงานแล้ว
"ตามฉันเข้ามาในห้องทำงาน" เขาออกคำสั่งและเดินพรวดพราดเข้าไปในห้องทำงานทันที วีณามองตามแผ่นหลังของผู้บริหารหนุ่มก่อนจะหันมามองมีอาด้วยแววตาขุ่นเคือง