ในที่สุดก็มาถึงวันที 13 เมษายน วันสงกรานต์วันแรกของทุกปี เสี่ยไทม์ขับรถมารับเธอถึงบ้านเพราะไม่อยากให้เปียกก่อน แต่ว่าเขาเช้าเกินไปคนยังไม่ค่อยเล่นกันเลย พอลงจากรถก็มองไปรอบๆเพราะบ้านเสี่ยไทม์ใหญ่มากและร่มรื่นด้วย
“อุ้ย! น้องหมาน่ารักจังเลย” หมาตัวใหญ่ขนปุยวิ่งมาหาทันที ดูก็รู้ว่าต้องเป็นหมาใจดีมากแน่นอนเลย
“เจ้าตัวนี้ชื่อนิกกี้ลูกชายเสี่ยเอง” ขนาดนิกกี้ยังชอบหนูหลินเลย มีเหรอเขาจะรอดได้
“คุณหนูหลินทานข้าวมายังคะ?” เธองงอยู่ดีๆก็มีพี่สาวคนหนึ่งเดินมาถาม แต่สายตากลับจ้องมองราวกับว่าเธอเป็นไส้เดือนกิ้งกืออย่างนั้นแหละ
“ยังค่ะ แต่ไม่เป็นอะไรค่ะหนูมาแค่ไม่นาน” พึ่งเจอกันครั้งแรกทำไมถึงมองแรงแบบนี้ ทั้งสายตาท่าทางบ่งบอกว่ารังเกียจเธอมากทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
“มีอะไรรึเปล่า?” เขาเดินตามมาทีหลังเลยไม่รู้ว่าคุยอะไร
“เปล่าค่ะเสี่ยไทม์ ฉันแค่เตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้ว”
“กินข้าวก่อนนะหนูจะได้มีแรงเล่นน้ำกัน” เขาเดินจับมือหนูหลินพาไปในตัวบ้านเพื่อทานอาหารเช้าด้วยกัน
“คนเมื่อกี้ใครเหรอคะ?” เธอสงสัยว่านั้นอาจจะเป็นแฟนเสี่ยไทม์รึเปล่า แล้วอาจจะมาหึงที่เธอสนิทกับเสี่ยไทม์แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เธอเข้าใจและวางระยะให้ห่างเอง
“คนรับใช้เสี่ยเอง มีอะไรรึเปล่าหรือว่าใครมาทำอะไรให้ไม่พอใจ?” เขาชักจะสงสัยแล้วสิว่าเกิดอะไรขึ้น ท่าทีอึดอัดแบบนี้ของเธอบอกได้หลายอย่างเลยละ
“เปล่าค่ะ หนูแค่ไม่ชินที่มาบ้านคนอื่น”
หลังจากกินอาหารเช้าอิ่นเธอไปยืนสาดน้ำที่หน้าบ้านเสี่ยไทม์ แต่ก็น้อยมากที่จะมีคนขับรถมาผ่านมาทีหนึ่งจนต้องสาดกันเองกับลูกน้องเสี่ยไทม์ แล้วไล่ปะแป้งด้วยเลย
นี่น่าจะเป็นวันสงกรานต์ที่เงียบที่สุดของเธอแล้ว
เมื่อไรจะมีรถผ่านมาอีกนะ
“ฮ่าๆพี่ริวหน้าขาวจัง!” เธอเอาแป้งไปปะหน้าพี่ริวแล้วก็วิ่งไปหลบที่หลังพี่เอมต่อเพราะไม่งั้นจะโดยเอาคืน
“ฮ่าๆเปียกหมดแล้วคุณหนู”
“…!” งื้อ…หลบไม่ทันเลยเปียกทั้งตัวอ่า เธอเบะปากใส่พี่เอมที่หลบน้ำทำให้เปียกเธอตัวเปียกนาดนี้
“โอ๋ๆอย่างอนพี่นะคุณหนูหลิน พี่ก็เปียกเหมือนกัน” ก็น่ารักแบบนี้ไงเจ้านายเลยหลงชนิดที่โงหัวไม่ขึ้นแบบนี้
เธอแค่แกล้งงอนเฉยๆเท่านั้นแหละไม่ได้โกรธจริงซะหน่อย พอพี่เอมเผลอเธอกระโดดปะแป้งใส่จนเต็มหน้าแล้ววิ่งหนีจะได้ไม่โดยเอาคืน แต่ว่าพื้นมันลื่น!
"กรี๊ด..."
“คุณหนูหลิน!”
“ขอบคุณค่ะ! เกือบได้ล้มจ้ำบ๊ะแล้วไง” พี่เอมจับไว้พอดีเลยไม่งั้นเธอได้ก้นหักเพราะล้มแรงเกินไปแน่ แต่ยังไม่ทันได้เล่นต่อก็มีเสียงตะคอกดังมาจากด้านหลัง
“จะกอดกันอีกนานไหมไอ้เอม!!”
“ขอโทษครับเสี่ย!” เอมรีบปล่อยมือทันที ได้แต่คิดได้แต่ภาวนาให้เสี่ยไทม์ใจเย็นไม่มากระทืบเขาที่หลังก็พอ
“เมื่อกี้หนูลื่นพี่เอมเลยช่วยค่ะ” เสี่ยไทม์คงเป็นห่วงมั้ง
“เหรอครับ แต่ว่าผู้ชายกอดขนาดนี้เสี่ยว่ามันไม่ดีนะ!”
“แต่ว่า…”
“อย่าเถียงผู้ใหญ่สิหนูหลิน!” เขาหวงทำไมไม่รู้ตัวสักทีวะ
เสี่ยไทม์น่ากลัวจังเลย เธอพึ่งรู้นะเนี่ยว่าเสี่ยไทม์เป็นเจ้าระเบียบเหมือนกัน แล้วดูเหมือนจะโกรธที่เธอเล่นน้ำจนไม่ระวังตัวเกือบล้มด้วย เธอควรจะทำตัวต่อไปยังไงดีละเนี่ย
“นี่จะเย็นแล้วหนูไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่านะ” เขาหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาคลุมตัวหนูหลินที่เปียกไปหมด แล้วปรายตามองอย่างคาดโทษไอ้เอมด้วย
มึงโดนแน่กล้าแตะต้องเด็กกู!
“นี่ห้องเสี่ยเอง ห้องน้ำอยู่ตรงนั้น ที่ไดร์ผมก็อยู่ในนั้นแหละ” กระเป๋าเสื้อผ้าที่หนูหลินเตรียมมาวันนี้ไว้เปลี่ยนก่อนกลับบ้านเพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องเปียก แต่สงสัยคงได้ค้างที่นี่แล้วแหละ
“เสี่ยไทม์โกรธเหรอคะ?” เสี่ยไทม์หน้าบึ้งตึงมากเลย
“ก็หนูเป็นของเสี่ยจะไม่ให้โกรธได้ไง!?”
“ของเสี่ย?” เธอว่าคำนี้มันดูแปลกๆนะ
“เสี่ยหมายถึง…เสี่ยพาหนูมาที่นี่ เสี่ยต้องเป็นคนดูแลหนูเอง” เขาคงโมโหจนหลุดปากออกไป แต่มันหึงจนแทบบ้าทำไมถึงยังดูไม่ออกนะเด็กโง่
“งั้นหนูจะไม่ดื้อเสี่ยไทม์จะได้ไม่โกรธอีก”
“ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวเราจะปาร์ตี้กันต่อ” ให้ตายเถอะเขินโว้ย! นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยแค่เผลอสบตาเองนะ แล้วหนูหลินก็ยิ้มหวานเหมือนต้องการจะละลายความโมโหให้หายไป
ไม่ไหวแล้ว! หนูหลินจะทำเขาหัวใจวายตายอีกแล้ว
อยากมีเมียเด็กจริงๆนะ
ปาร์ตี้เล็กๆวันนี้จัดขึ้นเพื่อเอาใจเด็กน้อยแสนน่ารักโดยเฉพาะ แน่นอนว่ามีแต่ลูกน้องที่ไว้ใจพอจะให้อยู่ใกล้เด็กของเขาได้ แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นเลยไม่กล้าไว้ใจใครเลย
เขากลัวว่าหนูหลินจะชอบคนอื่นมากกว่า
ผลัวะ!
“เสี่ยครับมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆนะ!” เอมรีบอธิบายแล้วมองหน้าริวก่อนจะมองหน้าเสี่ยไทม์ต่อ ครั้งนี้ลูกน้องอย่างเขามันไม่มีทางเลือกจริงๆ ลองถ้าผมปล่อยคุณหนูหลินล้มสิได้โดนเสี่ยไทม์เล่นงานที่พลาดให้เจ็บตัว พอช่วยคุณหนูไม่ให้ล้มแต่มันโดนตัวมากเกินไปก็เจอกับอาการหึงโหดของเสี่ยอีก
เวรกรรมของลูกน้องอย่างเขาจริงๆ
“ผมยืนยันนะครับเสี่ยว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” ริวมองลูกพี่ตัวเองที่ปากแตกแล้วก็หวั่นใจ นี่แค่หมัดเดียวเบาๆเองนะ
พี่เอมจะฟันหักไหมวะนั่น!
“ไม่รู้แหละ! ถ้าหนูหลินคิดอะไรกับพวกมึงขึ้นมาเตรียมขุดหลุมฝังตัวเองได้เลย” เขามองไอ้ลูกน้องเวรสองคนที่มันทำหน้าละห้อย แล้วยังทำแววตาเหมือนน้อยใจ
ถุ้ย! แม่งน่าถีบมากกว่าสงสารอีก
คล้อยหลังเจ้านายเดินออกไป ลูกน้องคนสนิทต่างถอนหายใจกับอาการหึงแบบไม่รับรู้เหตุผลขนาดนี้ แล้วถ้ามีใครมาจีบคุณหนูหลินพวกเขาไม่ต้องตามกระทืบเรียงตัวเลยรึไง
เสี่ยแม่งอาการหนักทั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย!
“กูว่าเสี่ยไทม์อาการโคม่าแล้ววะ” ริวบอกลูกพี่ตัวเองด้วยความกังวลอย่างหนักมาก
“ถ้าคุณหนูหลินยังไม่รู้ตัวอีก มึงซ้อมตีนได้เลยเสี่ยไทม์ไล่กระทืบคนที่มาจีบแน่นอน กูรู้เลย” เอมพูดจากประสบการณ์รับใช้เสี่ยมา 10 ปีเต็มมันทำให้รู้ว่าเจ้านายเป็นคนนิสัยยังไง
“เฮ้อ…สาธุเถอะ ขอให้คุณหนูรีบตกลงเป็นเมียเสี่ยเร็วๆ”
ปาร์ตี้เล็กๆจัดขึ้นง่ายๆภายในสวนแบบนี้มันดีต่อใจมากเลย ลมก็พัดผ่านมาให้รู้สึกเย็นสบายเล็กน้อยในช่วงกลางฤดูร้อยแบบนี้ แล้วเด็กน้อยน่ารักก็ดูเหมือนจะชอบอีกด้วยนะ
“สนุกไหม?” เขาไม่ได้ใส่เสื้อเพราะตั้งใจว่าจะมาอ่อยเด็กให้ใจแตกซะหน่อย แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจผิดไปนะ
“เอาเสื้อกันหนาวหนูไปใส่ไหมคะ?”
ผิดคาดมากเกินไปแล้ว! ตอนแรกเขาจิตนาการไว้ว่าหนูหลินจะต้องเขินอายที่เห็นรูปร่างดีงาม กล้ามเนื้อเด่นชัดและซิกแพคแน่นๆที่หน้าท้อง แต่นี่เขินไม่เลย! เธอกลับมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วงพร้อมส่งเสื้อแขนยาวมาให้ใส่อีก
หรือเขาควรไปใส่เสื้อผ้าดีวะเนี่ย!
“เสี่ยร้อนน่ะ หนูใส่ไปเถอะ” เขามานั่งโต๊ะฟังเพลงกับเด็ก
“ดื่มเป็นไหม?” เขารู้แต่แกล้งถาม
“เดี๋ยวหนูเมา รอบนี้ไม่มีเพื่อนดูแลด้วย”
“เสี่ยดูแลเองได้”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ที่นี่ร่มรื่นจังทั้งที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองเลย” บ้านเธออยู่ในตัวเมืองเลยวุ่นวายตลอดเวลา แต่บ้านเสี่ยไทม์ต้องขับรถผ่านทางเปลี่ยวเข้ามากว่าจะถึง แต่ข้างทางจะว่าเป็นป่าก็ไม่ใช่เพราะเสี่ยไทม์บอกว่าเจ้าของตั้งใจปลูกแบบนี้อยู่แล้ว
“อ้าวพี่เอมหน้าไปโดนอะไรมาคะ?” หน้าพี่เอมช้ำมากเลย
“มันลื่นล้มหน้ากระแทกพื้นเลยเป็นอย่างนี้แหละ หนูเป็นห่วงมันเหรอ?” ไม่แน่คืนนี้มันอาจโดนกระทืบจริงๆก็ได้ ไอ้ลูกน้องระยำแม่งแย่งความสนใจหนูหลินไปจากเขาอีกแล้ว
“ก็เป็นห่วงค่ะ ดูสิหน้าช้ำปากช้ำจะกินอะไรได้ยังไง”
เอมแทบสำลักน้ำลายให้ตายเพราะคำพูดไร้เดียงสาแบบนี้จะนำความซวยมาหาตัวเขา ดูหน้าเสี่ยดิกัดฟันจนกรามขึ้นแล้ว วอนคุณหนูตัวน้อยอย่าเป็นห่วงเขาเลย พิษรักแรงหึงของเสี่ยน่ะจะทำเขาปากแตกมากกว่านี้นะ
“พี่ไม่เป็นอะไรหรอกครับ คุณหนูหลินดูเสี่ยสิเหมือนจะเมาแล้วพี่ฝากดูเจ้านายหน่อยนะ” นาทีนี้ลูกน้องอย่างเขาต้องหาทางเอาตัวรอดก่อน
“ได้ค่ะ งั้นพาเสี่ยไทม์ไปนอนพักดีกว่าไหมคะ?” มองมาอีกทีสภาพเสี่ยไทม์ก็คล้ายคนเมาแล้วนะ เธอคงพยุงเสี่ยไทม์ไม่ไหวหรอกตัวใหญ่ขนาดนี้ แต่พี่เอมกับพี่ริวทำได้สบายๆ
“ครับคุณหนูหลิน”
เขาว่าแล้วพวกมันต้องหาทางเอาตัวรอดจากส้นตีนจนได้ ยิ่งไอ้เอมด้วยแล้วสันดานหลอกเด็กมันไม่เป็นรองใครเลย เขาเลยตามน้ำแกล้งเมาไปเพื่อหนูหลินจะได้ดูแลทั้งคืน
คืนนี้จะนอนกอดเด็กน้อยแล้ว
“เสี่ยไทม์ตัวใหญ่มากเลย” เธออดจะบ่นไม่ได้จริงๆเพราะต้องเช็ดหน้าเช็ดตัวให้ พอขยับตัวก็ยากเพราะหนักมาก
“หนาว…” เขาแกล้งทำแล้วดึงหนูหลินลงมากอด
“ว๊าย!! เสี่ยไทม์ทำไมเป็นแบบนี้เนี่ย!” เธอต้องค่อยๆแกะมือที่เหนี่ยวยังกับหนวดปลาหมึกออกด้วยความตกใจ
เขาพยายามทำตัวให้เนียนที่สุดแล้วเลยต้องยอมให้หนูหลินแกะมือออก แต่ไหนๆก็มีโอกาสแล้วขอซบหน้าลงที่ซอกคอเล็กพร้อมสูดกลิ่นตัวหอมๆก่อนที่เจ้าตัวจะลุกออกไปก่อนดีกว่า
“เห็นหนูเป็นหมอนข้างใช่ไหมละ” เมาหนักมากจริงๆ
เขาอยากจะตะโกนบอกดังๆให้ฟังชัดๆเหลือเกินว่าเห็นเป็นว่าที่เมียต่างหากเล่าเด็กโง่ หมอนข้างอะไรสำคัญหรอก
“แล้วหนูจะนอนไหนดีละ” เธอมองหาจนเจอโซฟาที่อยู่มุมห้องหน้าทีวีเพราะมันใหญ่พอที่จะนอนสบายได้เลย
เธอลุกไปเดินหาหมอนกับผ้าห่มในห้องเสี่ยไทม์แต่ก็ไม่เจอ จะออกไปถามข้างนอกก็คิดว่าไม่ดีกว่าเพราะตอนนี้จากปาร์ตี้น่ารักในตอนเย็นกลายเป็นวงเหล้าเรียบร้อยแล้ว
“นอนแบบนี้ก็ได้” เธอมีแค่หมอนกับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่แต่ก็น่าจะนอนสบายอยู่นะ โซฟานี้ก็นุ่มมากไม่ต่างจากเตียงเท่าไร
การกระทำทั้งหมดของหนูหลินโคตรขัดใจเขาที่สุดเลย แต่จะให้ลุกไปก็ไม่ได้เพราะแกล้งเมาอยู่เดี๋ยวแผนจะแตกหมดแล้วเธอจะไม่ไว้ใจกัน เพราะกว่าจะพามาด้วยขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ล่อลวงเลย เขาคงต้องรอให้หนูหลินหลับก่อนถึงอุ้มมานอนด้วยกันน่าจะง่ายกว่าเยอะ
หนูหลินหลับเก่งและหลับลึกตายไป
เรื่องนี้เขารู้ดี!