“หลับแล้วเหรอทูนหัวของเสี่ย” เขาแอบย่องลงจากเตียงไปมองหน้าที่หลับพริ้มอย่างน่าเอ็นดูที่สุด
เขาไม่รู้ว่าแอบมองแบบนี้นานเท่าไร รู้แค่ไม่อยากจะรบกวนเวลานอนของเด็กน้อยเลยสักนิด แต่คืนนี้คงต้องขอนอนกอดให้อุ่นสมกับที่รอมาเป็นเดือน แล้วตอนเช้าค่อยลุกไปนอนโซฟาสร้างภาพเอาก็ได้ว่าเป็นสุภาพบุรุษมาก
เขาคือคนแสนดีในสายตาของเธอ
“หนูเป็นของเสี่ยเข้าใจไหม?” เขาอาจจะโง่ที่มาคุยกับคนหลับลึก แต่จะให้คุยปรกติแล้วสบตากันมันทำได้ยากมาก
“เสี่ยจะทำให้หนูวางใจแล้วก็รักเสี่ยให้ได้” เขาอุ้มหนูหลินไปบนเตียงนุ่มๆแทนยังไงซะคืนนี้ก็ไม่มีใครขัดอยู่ดี
เมื่อห่มผ้าให้เรียบร้อยที่นี้ก็ไลน์สั่งลูกน้องให้มาปลุกแต่เช้าตรู่ด้วย ถ้าตั้งนาฬิกาปลุกเองก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวหนูหลินจะตื่นมาพร้อมกันแล้วเธอจะมองเขาในแง่ไม่ดีจนอาจจะตีตัวออกห่างกัน ทำไมรู้สึกหวงมากขึ้นทุกวันนะ ยิ่งหนูหลินฮอตมากในหมู่วัยรุ่นที่มีคนติดตามเยอะก็ยิ่งหวงจนแทบบ้า
Time : ประตูไม่ได้ล็อคมาสะกิดกูนิดเดียวตอน 6 โมงเช้า
Riw : ครับเสี่ย งานด่วนขนาดนี้คงกินต่อไม่ได้แล้ว
Time : มะรืนกูเลี้ยงเต็มที่
Riw : โอเคครับ
ในสายตาลูกน้องอย่างริวที่อยู่กับเสี่ยไทม์มานานมากก็พออ่านจากสีหน้าแววตาเสี่ยได้ว่าคุณหนูหลินสำคัญขนาดไหน แล้วความจริงคนมากประสบการณ์อย่างเสี่ยจะจัดการคุณหนูง่ายๆ เลยก็ได้แต่ไม่ทำ ลำพังแค่นอนกอดยังกลัวเจ้าตัวจะรู้เลย
บางทีนะคนคอยเชียร์มันเหนื่อยใจ
“พี่เอมกูชนะมึงเอาเงินมา” พวกเขาพนันกันว่าคืนนี้คุณหนูจะรอดไหม แล้วตอนนี้ก็ชัดเจนว่ารอดมือเสี่ยอีกแล้ว
“เสี่ยมัวทำเหี้ยอะไรวะ! กูตอแหลให้ขนาดนั้นแล้ว” ลูกน้องอย่างเขาก็เซ็งนะ เสียเงินไปตั้งห้าพันฟรีๆเลย
“กูไปนอนแล้วนะ พรุ่งนี้ต้องปลุกเสี่ยแต่เช้า” ริวรับเงินเสร็จก็เดินมึนๆกับบ้านพักหลังเล็กใกล้ๆบ้านใหญ่
วันนี้กินเหล้าแค่นี้พอแล้ว
พรุ่งนี้เสี่ยเลี้ยงค่อยจัดหนักเต็มที่เลย
หกโมงเช้าวันต่อมาทั้งริวและเอมต่างเปิดประตูเข้ามาให้ห้องเสี่ยอย่างเงียบเชียบ แล้วเห็นภาพที่น่ารักโคตรๆจนอยากจะหยิบกลองมาถ่ายเก็บเอาไว้ให้เจ้านายเลย
“ไอ้ริวอีกนิดเสี่ยจะกินคุณหนูได้แล้วนะ” ก็เจ้านายเล่นกอดรัดขนาดนี้ มองแทบไม่เห็นคุณหนูหลินด้วยซ้ำ
“ปลุกเสี่ยก่อนเถอะ” ริวเดินอ้อมเตียงไปสะกิดเจ้านายที่ยังนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่ แค่เขย่าแขนนิดเดียวก็ลืมตามาพร้อมกับถอนหายใจคล้ายไม่อยากลุกอีกด้วย
“เช้าไวจังวะ!” เขาจำได้ว่าพึ่งหลับตอนตี 2 เองนะ
“เช้าไวหรือเสี่ยยังกอดคุณหนูไม่พอครับ” ริวอดแซวไม่ได้จริงๆนะ แล้วดูเสี่ยยิ้มนิดๆอีกด้วย
“พวกมึงจะไปทำห่าไรก็ไปกูจะนอนแล้ว” เขาหยิบหมอนกับผ้าห่มที่อยู่ในตู้มานอนบนโซฟาแทน ถึงจะเสียดายมากแต่ได้นอนกอดทั้งคืนก็นับว่าคุ้มแล้วสำหรับวันนี้
หลินตื่นมาด้วยความมึนงงและสงสัย เธอมาอยู่บนเตียงได้ยังไง เมื่อคืนยังนอนบนโซฟาอยู่เลย เธอรีบไปอาบน้ำจะแต่งตัวแต่ชุดไม่มีเลย เมื่อวานก็เตรียมมาไม่ได้เผื่อค้างด้วยสิ คงต้องขอเสียมารยาทนิดหนึ่งนะถ้าจะใส่เสื้อโดยที่ยังไม่ได้รอเจ้าของเสื้อ
“แล้วเสี่ยไทม์ไปไหน?” เมื่อคืนเสี่ยไทม์เมาแล้วนอนบนเตียงเธอจำได้เพราะเช็ดตัวให้เสี่ยเองกับมือ
เธอใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่ยาวเกือบถึงหัวเข่าเสร็จแล้วถึงได้เดินตามหาเสี่ยไทม์ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน จนกระทั่งเจอเขานอนที่โซฟาตรงที่เดียวกันกับที่เธอนอนเมื่อคืน
“อ้าวทำไมมานอนตรงนี้ละ”
“เสี่ยไทม์คะ เช้าแล้วนะ” เขย่าตัวเขาเบาๆปลุกให้ตื่นนอน แต่เขากลับคว้าตัวเธอดึงลงไปแล้วหอมแก้มทั้งที่ไม่ลืมตา
“มอร์นิ่งคิสครับ…” เขาแกล้งหลับตาแล้วหอมแก้มหนูหลินแล้วแกล้งหลับต่อจะได้เนียนๆ
“บ้า! หนูไม่กวนแล้ว” เธอจับแก้มตัวเองแน่นด้วยความตกใจมาก แก้มนี้ยังไม่เคยให้ใครมาหอมเลยนะ
ทำไมหน้ามันร้อนผาวขนาดนี้เนี่ย
“อื้ม…หนูหลินตื่นแล้วเหรอ?” เขารีบจับข้อมือเล็กก่อนที่เจ้าตัวจะลุกหนีไป แล้วแกล้งทำเป็นงัวเงียมากเหมือนพึ่งตื่นจริงๆไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ
“หลับสบายไหม? เมื่อคืนเสี่ยตื่นมาเห็นหนูนอนตรงนี้เลยอุ้มไปที่เตียงแทนคงไม่โกรธเสี่ยนะ” เขาบอกไปตามความจริง แต่บอกไม่หมดว่าหลังจากนั้นเขานอนกอดทั้งคืน
“ขอบคุณนะคะเสี่ยใจดีกับหนูจัง”
“เสื้อตัวนี้เสี่ยให้เอาไปเลย เวลาหนูใส่เสื้อของเสี่ยแล้วดูน่ารักดีนะ” พึ่งเห็นว่าหนูหลินใส่เสื้อของเขาแล้วทั้งน่ารักปนเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน ตัวเธอก็หอมอ่อนๆยั่วยวนที่สุด
“ไม่ได้เอาหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูซักรีดแล้วเอามาให้ที่นี่ดีกว่านะคะ” แค่ยืมเสื้อโดยไม่บอกก็รู้สึกผิดมากแล้ว ยิ่งเขาใจดีมากเท่าไร เธอยิ่งต้องเกรงใจเยอะๆมากด้วย
“แล้วแต่นะ ยังไงโทรบอกเสี่ยก่อนนะ เผื่อเสี่ยไม่อยู่บ้าน”
“หนูว่าเสี่ยไทม์ไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะคะ หนูจะไปรอข้างนอกนะ” เธอเก็บของเล็กน้อยใส่กระเป๋าเป้เรียบร้อยแล้ว เลยเดินออกไปรอข้างนอกแทน พอเสี่ยไทม์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จจะได้ไปส่งเธอกลับบ้านสักที แต่ว่าเธอเจอพี่สาวคนเดิมที่เสี่ยไทม์บอกว่าเป็นมาบ้านคอยดูแลความสะอาดให้
“คุณหนูหลินไวไฟจัง มาปุปก็นอนค้างห้องเสี่ยไทม์ปัป”
“พี่มีปัญหาอะไรกับหลินรึเปล่าคะ?” พี่สาวคนนี้ทำท่าทางเหมือนว่ารังเกียจเธอมาก แล้วมันตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่มองฉันเหมือนเกลียดทั้งที่เราพึ่งเจอกันครั้งแรกเองนะ
“โอ๊ย…ใครจะกล้ามีเรื่องกับคนโปรดของเสี่ยไทม์ละคะ!”
“เหรอคะ หลินไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอกค่ะ” เธอมั่นใจแล้วว่าพี่สาวคนนี้ต้องแอบรักเสี่ยจนหึงแน่ หรือไม่ก็อาจจะมีอะไรที่มากกว่าเจ้านายลูกน้อง พอเธอมาที่นี่เลยพาลใส่
“เสี่ยไทม์อยากได้คุณหนูใจแทบขาดอยู่แล้วนะคะ มัวแต่เล่นตัวระวังหมาคาบไปกินนะ พี่เตือนด้วยความหวังดี”
“หลินว่าเสี่ยคงเลือกกินนะคะ เสี่ยไทม์คงไม่ได้มั่วไปทั่ว แต่ก็ขอบคุณในความหวังดีนะคะ แต่เรื่องนี้หนูคิดเองได้ค่ะ”
“อ้าวอีเด็กจองหอง!!”
“ความจริงแล้วหลินเป็นแขกควรให้เกียรติมากกว่านี้นะคะ”
ไทม์เดินตามออกมาก็ได้ยินเกือบทุกคำจนอยากจะไล่คนรับใช้ออกตอนนี้เลย แต่ยังทำไมได้เพราะหนูหลินยังอยู่เดี๋ยวจะมองเขาในแง่ไม่ดีเอาได้ ดังนั้นไปส่งเธอก่อนถึงไล่ออก
“หนูหลินทานข้าวเช้ากับเสี่ยก่อนสิ” ถึงตอนนี้หนูหลินจะโกรธจนยิ้มไม่ออกแต่เขาก็จะชวนอยู่ดี
“เอ่อ…อาหารพร้อมแล้วค่ะเสี่ยไทม์”
“เดี๋ยวก่อน! เธอต้องขอโทษแขกฉันด้วย อย่าคิดว่าฉันไม่ได้ยินเมื่อกี้นะ เธอเสียมารยาทกับคนสำคัญของฉันมากไปแล้ว”
“แต่ว่า…”
เขาจ้องคนรับใช้ไม่วางตาด้วยความโกรธมาก เรื่องไล่ออกมันแน่นอน แต่ดูสายตาที่มองหนูหลินแบบนี้มันทำให้คิดว่าควนจะทำอย่างอื่นด้วยดีไหมจะได้รู้จักที่ต่ำที่สูงซะบ้าง
“ขอโทษค่ะคุณหนูหลิน”
เธอไม่ได้แปลกใจที่พี่แม่บ้านจะมาขอโทษแต่ก็จ้องแบบนี้
“ไม่เป็นไรค่ะ” เรื่องแค่นี้เองให้อภัยได้ เธอเองก็โกรธแต่จะเสียมารยาทกว่านี้คงไม่ดีแน่ ตอนนี้เธออยากจะกลับบ้านมากกว่ามานั่งกินอาหารเช้ากับใครด้วย
“หนูขอตัวกลับนะคะ” เธอเดินออกมาแต่ว่า…
“อย่าทำแบบนี้สิหนูหลิน มานั่งกินข้าวด้วยกันก่อนแล้วเสี่ยจะไปส่งหนูเอง” เขาเดินอ้อมมาดักหน้าหนูหลินไว้ก่อน ลองถ้าไปทั้งที่ยังโกรธแบบนี้คงหลบหน้าเขายาวแน่
“หนูไม่หิวค่ะ”
“ให้เสี่ยไล่เขาออกไหมหนูถึงจะนั่งกินข้าวกับเสี่ยได้” เขารู้ว่าบังคับแบบนี้แหละดีที่สุด หนูหลินเป็นคนใจดียังไงคงไม่ยอมให้ใครมาเดือดร้อนเพราะตัวเองแน่
“ก็ได้ค่ะ”
“เช้านี้มีแกงจืดหมูสับ หมูทอดกระเทียมแล้วก็ไข่ดาวของโปรดใครนะ” เรื่องของหนูหลินเขาจำได้ดีเชียวละ ช่วงปิดเทอมนี้เขาไปหาเธอทุกวันเลย ไหนจะโทรคุยทุกคืนอีกด้วย
เสี่ยรู้เรื่องนี้ได้ไงว่าเธอชอบอะไร
เธอก็แทบไม่ได้กินอะไรกับเสี่ยไทม์เลยนะทำไมถึงรู้ละ
“หนูงงอะไรครับ กินข้าวกันเถอะ” เขาตักข้าวให้หนูหลินเสร็จถึงได้มานั่งกินแล้วก็เปิดโทรทัศน์ดูไปพลางๆ พอดีกับที่มีคนโทรมาหาหนูหลินเลยหูดีแอบฟังต่อด้วย
“ว่าไงป่าน” ป่านคงโทรมาชวนไปเที่ยวแน่
[คืนนี้ปาร์ตี้ฟองสบู่นะมาดูแลเค้าหน่อยสิ ถ้าหลินไม่ไปด้วยแม่ก็ไม่ให้เค้าไปแน่เลย นะๆเพื่อนรัก]
“ก็ได้ แล้วค่อยคุยกันอีกทีนะ”
หนูหลินคุยกับใครวะถึงยิ้มกว้างมากขนาดนี้ หวังว่าคงไม่ใช่คนมาจีบหรอกนะ เขาชักจะหวงขึ้นมาแล้วสิ
“ใคร?”
“ป่านค่ะ เสี่ยไทม์มีอะไรรึเปล่าคะ?” อยู่ดีๆเสี่ยไทม์ก็ทำเสียงดุใส่เฉยเลย เธอก็เลยงงหน่อยๆเพราะยังไม่ได้ทำอะไรเลย
“ไม่มีอะไรหรอก เสี่ยอิ่มแล้วเราไปกันเดี๋ยวคนจะสาดน้ำเยอะแล้วรถจะติด” เขาไม่ค่อยชอบอะไรที่วุ่นวายมากเกินไป อย่างเช่นไปส่งหนูหลินเนี่ยแหละเพราะหมู่บ้านอยู่กลางเมือง คนเล่นน้ำเยอะก็มากจนน่าอารมณ์เสียเลย
เพื่อนสนิทของเธอโทรมาชวนไปเที่ยวไหนรึเปล่าวะ
ชักจะหวงขึ้นมาอีกแล้วสิ