ตอนที่ 7

2390 Words
กลับมาถึงโรงแรมก็บ่ายกว่าๆแล้ว จากทีแรกว่าจะไปเดินเล่นแถวนี้กับเพื่อนก็ต้องเปลี่ยนใจนอนเพราะง่วงนอน เอาจริงๆถ้านับการนอนเป็นความสามารถพิเศษได้ เธอก็มีความสามารถนี้สูงมาก เธอเคยเห็นเพื่อนบางคนนอนกลางวันได้แต่กลางคืนจะไม่นอน แต่กับเธอต่อให้นอนทั้งวันก็ยังสามารถนอนดึกต่อได้อีก เธอเป็นคนนอนเหมือนซ้อมตายอะ “ตอนเย็นอย่าลืมปาร์ตี้นะ” เสี่ยไทม์บอกเธอก่อนจะเดินไปห้องพักตัวเองที่อยู่ใกล้กัน “เริ่มทุ่มครึ่งใช่ไหมคะ?” เธอรีบถามก่อนเพราะกะว่าจะไปแค่แป๊บเดียว แล้วรีบกลับมานอนอ่านนิยายต่อ “ทุ่มหนึ่ง เอางี้เดี๋ยวเสี่ยมาตามแล้วไปพร้อมกันดีกว่า” เขาเห็นหน้าง่วงๆก็ชักอยากจะกล่อมให้นอนด้วยสิ ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาอธิบายต่อความต้องการมากมายแบบนี้ แล้วมันเกิดขึ้นกับหนูหลินคนเดียวทั้งที่พยายามจะข่มใจเอาไว้ อยากได้เธอเป็นเมียต้องหลอกล่อวิธีไหนดีวะ “เสี่ยครับตอนนี้คุณนิวมารอที่บ้าน” “กูไม่ได้สั่งทำไมถึงมา เสร่อไม่ดูเวลาอีกแล้ว ไล่กลับไป” เป็นแค่นางบำเรอแต่เสือกทำตัวเป็นเจ้าของจนน่าเบื่อ คนที่อยากได้จริงก็ดันแตะต้องอะไรไม่ได้มาก โน้น…เธอเดินเข้าห้องหนีไปอีกแล้ว “ครับเสี่ย” เขาก็ไม่ใช่คนดีอันนี้ก็ยอมรับ แล้วก็เลี้ยงเด็กไว้บำเรอปรนเปรอหลายคน แต่ตอนนี้เริ่มทยอยทิ้งไปทีละคนแล้วละ เขาจริงจังกับหนูหลินมากจนแปลกใจตัวเองเลย “แล้วแม่บ้านคนใหม่มึงตรวจสอบดีๆ” เขาพึ่งจะไล่แม่บ้านคนเก่าออกเพราะว่าชอบยุ่งกับเรื่องส่วนตัวมากเกินไป “ครับเสี่ย ผมจะพยายามไม่ให้เป็นแบบคนเดิม” เวลาล่วงเลยไปถึงห้าโมงเย็น เธอตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเล็กน้อยให้ดูดีขึ้น เธอกะว่าจะหาอะไรรองท้องสักหน่อยก่อนค่อยไปปาร์ตี้ แต่ว่าเสี่ยไทม์ดันแวะมาหาอีกแล้ว “จะไปไหนเหรอ?” “ไปเดินเล่นแถวนี้ค่ะ” “เดี๋ยวได้หลงทางพอดีหรอก แถวนี้หนูไม่รู้จัก” “แต่ว่าหนูไปใกล้ๆแค่นี้เองนะคะ” “แถวนี้เสี่ยรู้จักดี เสี่ยไปด้วยจะดีกว่า” ก็เขาเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ ถ้าไม่รู้จักพื้นที่รอบๆก็น่าแปลกเกินไป “ก็ได้ค่ะเสี่ยไทม์” เขาเดินไปพร้อมกับหนูหลินลงลิฟท์แบบไม่แคร์ใครแม้แต่สายตาพนักงานที่แอบมอง พวกสอดรู้สอดเห็นต้องให้ไอ้เอมมันไปตักเตือนให้เรียบร้อยจะได้ไม่ไปพูดให้หนูหลินเสียหาย “เดินเล่นริมฟุตบาทสองคนแบบนี้ก็ดีเนอะ” “อืม…เสี่ยไทม์ไม่มีแฟนเหรอคะ?” มันอาจจะเสียมารยาทที่ถามเรื่องส่วนตัวขนาดนี้ แต่ก็กลัวว่าถ้าเสี่ยไทม์มีคนของตัวเองอยู่แล้วมันจะดูไม่ดีที่อยู่กับเธอบ่อยๆ “เสี่ยโสดมาก ไม่มีใครเอาเสี่ยหรอก” เขาไม่มีแฟน มีแต่เด็กที่เลี้ยงไว้สนองตัณหาแค่นั้นเอง เรื่องนี้ไม่นับว่าโกหก “ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ เสี่ยไทม์ทั้งหล่อทั้งใจดีขนาดนี้สาวๆไม่น่าปล่อยให้รอดมาได้” ถึงเสี่ยไทม์จะไม่มีใคร แต่ก็ต้องมีสนใจบ้างเล็กน้อยแหละ เธอได้ยินเพื่อนผู้ชายแอบนิททาเขาตั้งแต่ตอนที่เล่นเกมสบตากันที่โรงเรียน “ถ้าเป็นหนูหลินเสี่ยคงยอมมีพันธะผูกมัด” เขาอยากแล้วเนี่ย เด็กบ้าอะไรขนาดทำหน้าเอ๋อยังน่ารักขนาดนี้ “บ้า! หนูว่าเราไปปาร์ตี้กันเถอะดึกแล้ว” “เอาสิ เสี่ยก็รู้สึกคอแห้งนิดๆแล้วเหมือนกัน” เขาเดินกลับมาเข้างานพร้อมกับหนูหลินที่สดใสและเรียกหลายแววตาให้แอบมองมากเกินไป เธอทำให้เด็กผู้ชายหลายคนมองแรงมาที่เขาเหมือนเกลียด บางคนจ้องหนักมากเขาก็จ้องกลับจนมันหันหน้าหนีเพราะสู้สายตาไม่ได้ ไอ้เด็กพวกปัญญาอ่อนน่ากระทืบ! “เดี๋ยวกูก็ตบหัวหลุดเลยไอ้เด็กเวร!” “ไอ้สัตว์! นั้นเด็กนักเรียนกูมึงใจเย็นๆ” ฟอร์มพอจะมองเหตุการณ์อยู่ เพื่อนคงอารมณ์เสียเพราะนักเรียนชายหลายคนพากันจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อมันได้เลย “ถ้ามันจีบเด็กกูมึงจองโรงพยาบาลได้เลย” เขามองหนูหลินเงียบๆ ไม่อยากให้คลาดสายตาเลยกลัวจะมีหมามาแย่งไป “แล้วนี่มึงให้เด็กแดกเหล้าด้วยเหรอ?” “พ่อกูได้ฆ่าทิ้งดิ! นักเรียนคงแอบเอามากินกันเองมากกว่า ก็อย่างว่าแหละเข้าวัยรุ่นแล้วจะห้ามก็ยาก” ฟอร์มถอนหายใจเล็กน้อยแล้วดื่มเหล้ากับเพื่อนต่อไป “เมื่อก่อนเราก็แบบนี้ปะวะ?” ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกเพราะตอนเขาเรียนก็ไม่ต่างกันเลย เรื่องนี้ไอ้ฟอร์มมันรู้ดี ในขณะที่หลินนั่งฟังเพลงเบาๆมองเพื่อนที่เต้นอย่างสนุกสนาน แต่ก็แอบเห็นว่ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอร์มาปะปนด้วย เธอก็ไม่เคยดื่มด้วยสิพอลองไปนิดเดียวถึงกับมึนเลย “หลินไหวไหม เราจะพาไปส่งที่ห้องได้นะ” เธอมองหน้าไม่ชัดแต่คิดว่าไม่ไปจะปลอดภัยกว่า “เค้าไหวน่า นายกับเพื่อนสนุกต่อเถอะ” เธอก็นั่งดื่มไวน์ที่เพื่อนแอบส่งมาให้อีกแก้วจนหมดก็รู้สึกเลยว่าโลกมันหมุนติ้วๆ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ได้ไงทั้งที่ดื่มนิดเดียวเอง เพลงที่ฟังก็สนุกขึ้นมากจนเธอโยกตัวตามนิดๆตามจังหวะ “แกจะเมาไม่ได้นะ” “อะไรป่านเค้าปรกติ เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เธอกำลังสนุกเลย แต่รู้สึกแปลกๆเลยต้องเดินออกมา เขาก็รีบตามออกไปเลยสิครับ มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าหนูหลินเมาทั้งที่ดื่มไวน์ไปไม่กี่แก้วเอง สงสัยจะคออ่อนมากเกินไป “ดีขึ้นไหม?” เขารีบประคองไว้ก่อนเธอจะล้ม “ทำไมโลกมันหมุนแบบนี้?” โลกมันหมุนเองได้ไงเธองง “เสี่ยพาไปห้องพักนะ หนูเมาแล้ว” เราเดินมาถึงจุดที่ไม่ค่อยมีคนเยอะมาก เขาก็อุ้มเธอทันทีเพราะน่าจะเร็วกว่าแล้วเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องพัก เขาวางเธอบนเตียงแล้วเอาผ้าชุปน้ำบิดหมาดๆมาเช็ดหน้าให้สดชื่นขึ้น แต่ว่าแก้มกับปากแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์น่าจูบจนห้ามตัวเองไม่ไหวเลย “อื้ม…” หวานมากแถมอุ่นมากด้วย เจ้าของริมปากบางนี้ก็ไร้เดียงสาจนโต้ตอบไม่ถูกซึ่งน่ารักดี “อย่ากวนหนูจะนอน…” เสียงพูดขัดใจที่มีคนมากวนทำให้เขาคิดว่าไม่ควรจูบที่ปากแต่เป็นตรงอื่นแทนจะดีกว่า ชุดหนูหลินเป็นกระโปรงธรรมดาเลยถอดออกงานมากสำหรับคนที่ชำนาญด้านนี้ แต่ต้องหักห้ามใจด้วยความยากเย็นอีกแล้ว เธอเป็นเหมือนบททดสอบให้คนเลวทรามอย่างเขาว่าจะทนต่อสิ่งยั่วเย้าไหวรึเปล่า คอเสื้อที่กว้างทำให้เห็นเนินหน้าอกขาวผ่อง กระโปรงก็รนขึ้นมาเผยเรียวขาเนียนน่าลูบไล้ น่าจับมาวางพาดบ่าเสียจริง แต่เมื่อมองดูดีๆกลับเห็นรอยแดงที่เริ่มชัดขึ้นเหมือนคนแพ้แอลกอฮอร์ยังไงยังงั้นเลย เธอก็เกาที่ต้นขาเหมือนยั่วแต่ความจริงแล้วไม่ใช่เพราะน่าจะคันมากจริงๆ เด็กน่ารักแสนไร้เดียงสาแพ้เครื่องดื่มมึนเมาแต่ไม่รู้ตัว คืนนี้ขอนอนเฝ้าละกัน เช้านี้ไม่สดใสเลยเพราะตื่นมารู้สึกมึนหัวแปลกๆ คงเพราะเมื่อคืนดื่มไวน์แล้วก็อย่างอื่นที่เพื่อนส่งให้ลองมั้ง เธอไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้แล้วต่อไปคงไม่กล้าดื่มอีกแล้วแหละ “รอยอะไรเนี่ย” มีรอยแดงจากที่ลำคอ หน้าอก หน้าท้อง ต้นขา และลำแขน นี่มีคงเป็นอาการแพ้มั้งถ้าจำไม่ผิด เธอเองก็ไม่เคยดื่มมาก่อนเลยไม่รู้ว่าตัวเองแพ้จนกระทั่งตอนนี้ กลับไปดื่มนมแบบเดิมน่ะดีที่สุดแล้ว หลังกลับจากทำบุญก็จะเหงาหน่อยๆเพราะเพื่อนกลับบ้านกันหมด มีแค่เธอที่ไปหาย่าบ้างแล้วก็นอนหมกอยู่บ้านคนเดียว แต่ก็ยังดีที่มีเสี่ยไทม์แวะมาหาบ่อยๆแถมโทรคุยทุกวันด้วย “สงกรานต์นี้ไปเล่นที่ไหนเหรอ?” ป่านแวะมาหาเพื่อนเพราะวันนี้มาชวนไปดูหนังด้วยกัน “ไม่รู้สิ อากาศมันร้อนอะ เค้าอยากนอนเล่นอยู่บ้านมากกว่า” ถึงจะสาดน้ำกันตลอดแต่ก็ร้อนมากแถมผิวไหม้ด้วย “เค้ารู้นะว่าเสี่ยไทม์ชวนหลินเที่ยวไม่ไปเหรอ น่าสงสารเสี่ยไทม์นะอุตส่าห์มาหาเกือบทุกวันยังจะโดนปฏิเสธอีก” ในสายตาเพื่อนรักอย่างเธอทำไมจะดูไม่ออกว่าเสี่ยไทม์เนี่ยแอบรักหลิน แต่ก็หนักใจตรงเพื่อนเธอนี่แหละที่ไม่คิดถึงข้อนี้สักที ปรี๊ดๆ “นั่นไงละ! พูดถึงแล้วมาเลย เดี๋ยวเค้าไปเปิดประตูให้เอง หลินก็ไปล้างหน้าได้แล้วเดี๋ยวเสี่ยไทม์เห็นหน้าเขียวๆแบบนี้จะตกใจ” เพื่อนเธอมาร์คหน้าไว้อยู่ “น้ำกับขนมอยู่ในตู้เย็นนะ เค้าฝากด้วย” เธอก็ต้องไปล้างหน้าในห้องก่อน ไม่งั้นเสี่ยไทม์จะตกใจจริงๆมาก เขามาแถวนี้พอดีเลยแวะมาหาหนูหลินสักหน่อย ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ถึงได้มาเปิดประตูช้าจัง เธอไม่นึกถึงใจคนรอเลยว่าคิดถึงจนแทบตายอยู่แล้ว นี่ถ้าช้าอีกนิดจะขาดใจแล้วนะ “สวัสดีค่ะเสี่ยไทม์ มาหาหลินเหรอคะ?” เด็กคนนี้เพื่อนสนิทหนูหลินเขาจำได้ดีเลย “ครับ แล้วเจ้าตัวไปไหนละ?” เขาหยิบขนมออกมาเล็กน้อยเพื่อนหนูหลินเลยมาช่วยถือ “เข้าไปในบ้านก่อนดีกว่าค่ะ ตรงนี้แดดมันร้อนมากเกินไป เดี๋ยวหนูจะดำกว่านี้” เขาอดจะขำไม่ได้จริงๆ ป่านไม่ใช่คนผิวดำคล้ำอะไรเลยออกจะขาวเหลืองด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นหนูหลินนั้นคือขาวอมชมพูซึ่งเขามารู้ทีหลังว่าได้มาจากพ่อเพราะเห็นจากรูปถ่ายในบ้าน ถ้ามีลูกกับเธอต้องน่ารักมากๆแน่เลย เหี้ยละ! คิดไปไกลจังวะ “เสี่ยไทม์เอาอะไรมาเยอะแยะเชียว?” เธอลงมาพอดีถึงกับตกใจเพราะของที่ถือมานั้นไม่ใช่น้อยๆเลย แล้วเธอก็อยู่คนเดียวจะกินยังไงใหหมดละ ขนมอันเก่าที่เขาให้ยังกินไม่หมดเลย “ก็เอามาฝากหนูไง เสี่ยเห็นว่าปิดเทอมอยู่คนเดียว รถก็ขับไม่แข็งจะออกไปก็เรียกวินตลอด เสี่ยเลยซื้อมาให้ดีกว่า” เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่ามากกว่านี้ก็ได้แค่หนูหลินต้องการ “ใช่ค่ะ เสี่ยไทม์คิดเหมือนหนูเลย นี่นอกจากเสี่ยไทม์แล้วคงไม่มีใครหามาให้กินขนาดนี้หรอก” ป่านช่วยชงเพิ่ม เธอมองค้อนเพื่อนนิดๆที่มาพูดอะไรแบบนี้ “อ๋อ ถ้างั้นเสี่ยคงต้องแวะมาบ่อยๆแล้วสินะ” รู้สึกดีเป็นบ้าที่เพื่อนหนูหลินยังเชียร์ขนาดนี้ “เอ่อ…เค้าไปก่อนนะแม่โทรตามแล้ว” “ไหนว่าว่างทั้งวันไงเค้าจะงอนแล้วนะ” อะไรของป่านเนี่ย อยู่ดีๆก็จะไปแบบปุปปัปเมื่อกี้ยังชวนกันไปดูหนังเลย เธอก็อุตส่าห์เตรียมตัวแล้วนะเนี่ย “อ๋อ! ที่ร้านมีลูกค้าเยอะเค้าไปก่อนนะ” เธออดจะมองค้อนเพื่อนไม่ได้ที่ชิ่งหนีกันแบบนี้ไม่ได้เลยจริงๆ แล้วเธอก็แต่งตัวเก้อเลย ไหนจะเรื่องวันสงกรานต์ที่ยังคุยกันไม่จบอีกด้วยว่าจะไปที่ไหนดีหรืออยู่บ้านเฉยๆ “หนูจะไปไหนเหรอ?” เพื่อนหนูหลินเปิดโอกาสให้ “ก็จะไปดูหนังกับป่านค่ะ แต่ดูสิชิ่งกลับก่อนแล้ว” “เอางี้สิไปดูหนังที่บ้านเสี่ยก็ได้นะ แล้วหนูจะชอบ” เขาต้องลุ้นว่าลูกแกะตัวน้อยน่ารักจะกล้าเดินเข้าถ้ำเสือเองรึเปล่าโดยที่ไม่ต้องต้อนแบบนี้ ที่ผ่านมาเธอไม่เปิดโอกาสเลย “หนูดูที่นี่ได้ค่ะ ว่าแต่เสี่ยไทม์มาทำอะไรแถวนี้ทุกวันเลยคะ?” ก็เห็นเสี่ยไทม์แวะมาหาทุกวันจนงงเลย “ธุระน่ะ ถ้าสำคัญถ้าวันไหนไม่มาเสี่ยนอนไม่หลับเลย” ถ้าวันไหนไม่เห็นหนูหลินนอนไม่หลับจริงๆ แต่ถึงหลับก็ชอบฝันถึง ใครจะว่าเขาอาการหนักก็เชื่อนะ “แล้วสงกรานต์นี้ไปเล่นน้ำบ้านเสี่ยนะรับรองปลอดภัยแน่” “ก็ได้ค่ะ แต่เสี่ยไทม์ต้องมาเล่นด้วยนะ” “ครับ มากินขนมดีกว่าเสี่ยว่าหนูน่าจะชอบ” เขาจำได้ว่าหนูหลินชอบกินวุ้นกระทิมาก มันก็ไม่ยากถ้าจะหาเจ้าอร่อยๆมาให้เธอยิ้มแล้วได้รับรอยยิ้มหวานตอบแทน เธอไม่ยอมรับรู้สักทีทั้งที่คนอื่นดูออกหมดแล้ว บางทีเขาก็คิดว่าเธอกำลังพยายามเพื่อจะไม่รับรู้ถึงความรู้สึกที่สื่อไป แต่ก็ใจดีเกินกว่าจะถามหรือปฏิเสธตรงๆจนกลายเป็นการให้ความหวังกับเขา เขาหลงรักจนหาทางออกไม่เจอแล้ว แต่เธอไม่ยอมรับรู้สักที “ดูสิว่าวันนี้เสี่ยซื้ออะไรมาฝาก” “วุ้นกระทิ! ขอบคุณมากนะคะ เสี่ยไทม์ใจดีที่สุดเลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD