๘
"การที่เราจะจูบกัน มันจำเป็นต้องใช้ความพร้อมอะไรขนาดนั้นเลยเหรอครับ" รชานนท์เอ่ยถามพร้อมกับการสาวเท้าซ้ำ กระต่ายเบิกตาโพลงด้วยความตกใจในตอนที่แผ่นหลังของเธอชิดเข้ากับผนังเย็นเฉียบ พอดิบพอดีกับสิ่งที่อีกคนวางไว้เป๊ะเลย
"ยุคนี้สมัยนี้ ผมมั่นใจว่าไม่มีใครอยากโดนคลุมถุงชนหรอก ผมรู้จักคุณย่าของผมดี เหมือนที่คิดว่าคุณเองก็คงจะรู้จักคุณย่าของคุณดีเหมือนกัน"
"..."
"เขาไม่เพียงแต่อยากให้เราคบกันแน่ แต่มันอาจจะมีอะไรที่มากกว่านั้นซึ่งผมจำเป็นต้องรู้เหตุผลที่แท้จริงก่อน"
"..."
"สรุปคุณมีแผนอะไรในใจ หรือคุณยอมคบกับผมเพราะเหตุผลอะไรกันแน่"
"หากพี่นนท์มั่นใจว่ารู้จักคุณย่าของพี่นนท์ดี เหมือนที่ต่ายเองก็รู้จักคุณย่าของต่ายดี ความประสงค์ของพวกท่านคือการที่เห็นเราคบกัน เราสนองความต้องการของท่านโดยการค่อยๆ เรียนรู้กันไม่ได้เหรอคะ"
"เหตุผลของคุณมันคงซับซ้อนมากเลยสินะ" รชานนท์ไล่สายตากวาดมองไปตามใบหน้าของคนที่ถูกท่อนแขนแกร่งพันธนาการเอาไว้
รอยแดงที่ผ่านการถูกกระแทกบนหน้าผากมนส่งผลให้ดวงตาคมหรี่มองซ้ำๆ ทั้งที่เขาหลุดแสดงอาการแบบนั้นออกไป แต่ดูเธอไม่ได้หวาดกลัวจนอยากถอนตัวเลย
"ต่ายอยากเปิดโอกาสให้ตัวเองค่ะ คุณย่าอยากให้ต่ายมีแฟน และคนที่เข้าตาคุณย่าที่สุดก็คือพี่นนท์" รชานนท์ชะงักไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ดวงตาที่เด็ดเดี่ยว แต่เขากลับมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เธอพยายามเก็บซ่อนมันเอาไว้
"ผมไม่ใช่คนดีแบบที่คุณคิด"
"เรื่องนั้นสำหรับต่ายคนที่เป็นคนตัดสินคือคุณย่า คุณย่ากมลคุณย่าของต่ายรู้จักคุณย่าวิภาของพี่นนท์ดีที่สุด ต่ายมั่นใจว่าท่านคิดดีแล้วถึงตัดสินใจให้เราคบหากัน" ความดื้อรั้นของกระต่ายส่งผลให้ชายหนุ่มเบื้องหน้าบดกรามเข้าหากันแน่น
ทุกอย่างมันเริ่มยุ่งยากเพราะเธอดื้อด้าน จะให้เขาเป็นฝ่ายเดินไปบอกผู้ใหญ่ว่าจะไม่คบกัน แน่นอนว่าเขาไม่มีวันทำ
"จูบจากผู้ชายที่คุณย่าของคุณเลือกให้อย่างผม คุณคงไม่รังเกียจมัน" มือหนาที่เลื่อนเข้ามาประคองใบหน้างดงามทำหัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ แม้ความหวาดกลัวจะเกาะกินไปทั้งใจ แม้สัมผัสที่แปลกใหม่จากอุ้งมือหนาที่เลื่อนเข้ามาประคองใบหน้าของเธอเอาไว้ไม่ยอมให้ขยับหนี กลิ่นน้ำหอมอย่างดีจากกายของชายหนุ่มตรงหน้า ความแปลกใหม่ทำให้เธออยากต่อต้านแทบตาย แต่ก็ยังสำเหนียกเอาไว้ว่าเธอเลือกแล้ว เลือกที่จะไม่ยอมเจ็บปวดเพราะการถูกทอดทิ้งเพราะใครบางคน
"อื้อออ~" ริมฝีปากร้อนที่ประกบลงมาอย่างรวดเร็วส่งผลให้หลายเรื่องราวในหัวพลุ่งพล่าน
ขณะที่กลีบปากร้อนบดขยี้อยู่กับความนุ่มของริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบลิปกลอสอย่างดี ภาพที่ถูกชายเดียวที่รักเดินเข้ามาบอกเลิกทั้งที่วาดหวังว่าวันนั้นเขาจะนัดเธอเพราะอยากมีเวลาอยู่ด้วยกัน เหตุผลที่เขายกมาแอบอ้าง การถูกนอกใจ การถูกหักหลัง คำพูดที่ว่าเขากำลังจะมีลูกกับผู้หญิงคนอื่นนั้นทำน้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะออกมาโดยที่เธอไม่รู้ตัว
ความอุ่นร้อนของหยดน้ำตาส่งผลให้รชานนท์หรี่ตามองแม้ว่าปากจะยังแนบชิดติดกัน ดวงตากลมโตปิดสนิท ดูออกว่าเป็นการบังคับตัวเองให้หลับตายอมรับสัมผัสที่ไม่ได้เต็มใจ
ที่เธอยอมให้จูบ เธออาจจะเพียงแค่ต้องการยืนยันว่าจะยังเดินหน้าในสิ่งที่ถูกวางเอาไว้ แต่น้ำตาที่ไหลบ่งบอกว่าเหตุผลที่ว่าเธออยากเปิดใจ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง
@บ้านเทพารักษ์
"...อ้าว วันนี้กลับมานอนที่บ้านเหรอนนท์" ธนินเอ่ยถามคนที่พึ่งก้าวขาเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าที่หลุดความวุ่นวายใจออกมาให้เห็น
"นี่พี่ยังทำงานต่องั้นเหรอ?"
"เปล่าหรอก แค่กำลังดูแผนผังรายการสำหรับเริ่มต้นเดือนใหม่ อาจจะมีการโยกย้ายเรื่องเวลาและเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง" ว่าไปพลางลอบมองคนที่เดินหน้ายุ่งเข้ามาทิ้งตัวลงบนโซฟา
"คุณย่าหลับแล้วเหรอครับ"
"อืม เห็นบอกว่าพรุ่งนี้เช้ามีนัดทำบุญกับเพื่อนน่ะ"
"เพื่อน? ว่าแต่ว่าคุณย่ามีเพื่อนไม่เยอะนี่ครับ"
"ก็ประมาณนั้นนะ คนขับรถบอกว่าเพื่อนที่คุณย่าไปเจอทุกครั้งคือคนคนเดียวกันกับคนที่ไปปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัดด้วยกันบ่อยๆ นั่นแหละ"
"เป็นไปได้หรือเปล่าว่าเพื่อนของคุณย่าคนนั้นจะเป็นคุณย่าของยัยเด็กนั่น"
"เด็กนั่น... กระต่ายงั้นเหรอ?"
"นั่นแหละครับ" รชานนท์เบือนหน้าหนีในตอนที่ตอบรับ ยอมรับว่าความรู้สึกในตอนที่ได้ยินชื่อนั้น เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันหลุดเข้ามาในหัวอีกครั้ง
เธอยอมให้เขาจูบง่ายๆ หากเหตุผลจะเป็นเพราะใจแตก บอกตรงๆ ว่าเขาตัดข้อนั้นทิ้งทันที และเขามีความรู้สึกว่าที่เธอยอม มันเป็นความรู้สึกที่เรียกว่าทั้งเต็มใจและฝืนในเวลาเดียวกัน
"นายคิดอะไรอยู่ ที่พูดแบบนั้นต่อหน้ากระต่าย มีแผนอะไรในหัวใช่ไหม"
"พี่ก็รู้ว่าผมยังไม่พร้อมที่จะมีใคร"
"ยังไม่ลืมน้องมัทเหรอ?" ใจจริงธนินไม่อยากเอ่ยชื่อมัทนา ดาราสาวของช่องที่น้องชายของเขาเคยคบหาด้วยเลยสักนิด รู้ดีว่าเรื่องนี้สร้างปมบาดแผลในใจให้น้องชายของเขาไม่น้อย
"มันไม่เกี่ยวหรอกครับว่าผมจะลืมหรือยัง รู้แค่ว่ายิ่งยัยเด็กนั่นมีความคิดที่ไม่ตรงกับผม ต่อต้านผม ผมก็จะยิ่งเอาชนะเธอให้ได้"
"มันจะดีเหรอ"
"ผมจะไม่ยอมเป็นสะพานเพื่อให้ใครเดินเหยียบย่ำเพื่อไปอยู่ในจุดที่ต้องการอีกครั้งอย่างแน่นอน"
"นายคิดว่าน้องอยากเป็นดารางั้นเหรอ ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ อย่าลืมสิว่าคุณย่าของเราสามารถดันเด็กของเขาด้วยตัวเองได้"
"พี่ก็อย่าลืมสิครับว่าคุณย่าของพวกเราไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนมาก่อน และไม่เคยถูกตาผู้หญิงคนไหนง่ายๆ บางครั้งการทำอะไรโดยมีแบบแผน มันก็อาจจะแนบเนียนและดีที่สุดนี่ครับ"
"...พี่เสียใจมากนะที่แฟนเก่าของนายทำให้นายกลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายขนาดนี้"
"รักแท้มันไม่ได้มีอยู่จริง ผมเชื่อแบบนั้น"
"ถ้าอย่างนั้นกับกระต่าย..."
"เรามีข้อตกลงร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายชีวิตของผม ไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับเรื่องที่ผมไม่ต้องการให้ยุ่ง ผมเคยมีชีวิตที่อิสระแบบไหนก็จะยังเป็นแบบนั้น คำว่าแฟนสำหรับผมกับยัยเด็กนั่น คงไม่ต่างจากแฟนกำมะลอ!"
"ตั้งกฎกับเขาแบบนั้น หมายความว่าเรา..."
"ผมไม่มีทางชอบยัยเด็กนั่น จูบของเธอที่วันนี้ผมได้มา ผมรู้สึกเฉยๆ นะบอกเลย"