๗
@เพนต์เฮาส์หรูใจกลางเมือง
ความเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบลงมาบนใบหน้างดงามในตอนที่กระต่ายก้าวขาเข้าไปในห้องพักหรู เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมีระดับและมีราคา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานะของผู้อาศัยอยู่ในระดับไหน
เขาเคยมีแฟนเป็นถึงดาราระดับนางเองบนหน้าจอทีวีที่เธอเองก็เคยเห็น และเธอก็รับรู้จากคุณย่าของเธอว่าคุณย่าณัฐวิภาซึ่งเป็นคุณย่าของเขาถือหุ้นที่ช่องโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เขาไม่มีอะไรด้อยเลยสักอย่าง คงไม่แปลกที่พอเธอเข้ามาในที่ของเขาจะรู้สึกถึงความเป็นอยู่ในระดับที่ดีมาก
"นั่งก่อนสิ อยากได้กาแฟสักแก้วหรือเปล่า" การกระทำของอีกฝ่าย ซึ่งกระต่ายไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความเมาหรือเปล่าที่ทำให้เขามองเธอด้วยสายตาแบบนั้น ซ้ำยังมีพฤติการณ์ที่แปลกไปจากเดิม
"ไม่เป็นไรค่ะ ต่ายแค่ขึ้นมาส่งพี่นนท์เท่านั้น" ว่าไปพลางหยัดกายลุกจากที่นั่ง ขาสวยก้าวถอยห่างในตอนที่รชานนท์ขยับตัวเข้ามาหาเธอ
"กลัวผมเหรอ?"
"ต่ายคิดว่าพี่นนท์คงดื่มมากเกินไป หากอยากทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ พรุ่งนี้เรานัดทานข้าวกันได้ค่ะ"
"ทานข้าว?" รชานนท์ทวนคำนั้นออกมาพลางหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
"สุดท้ายเราก็ต้องลงเอยกันแบบนี้อยู่แล้ว หากคุณไม่ยอมบอกเหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้ว่าคุณตกลงคบกับผมทำไม ผมจะคิดว่าคุณมีแผนนะ"
"พี่นนท์คิดว่าต่ายมีแผนอะไรเหรอคะ"
"อยากเป็นดารา?"
"ไม่จำเป็นค่ะ ต่ายชอบกินขนม มีความฝันที่จะเปิดร้านเบเกอรี่หลายๆ สาขา มีรายได้ มีอาหารของร้านตัวเองให้ได้ชิม สามารถปรับเปลี่ยนรสชาติได้ตามใจชอบ หากเลือกได้ต่ายจะทำตามความฝันของตัวเองมากกว่าการทำอย่างอื่น"
"มันก็ยังมีเหตุผลอีกหนึ่งข้อ"
"..."
"และเหตุผลนั้น มันอาจจะเป็นเพราะว่าคุณแอบชอบผมอยู่" ดวงตากลมโตกระพริบถี่ สาเหตุเพราะคาดไม่ถึงว่าอีกคนจะเอ่ยถ้อยคำแบบนั้นออกมา
ความมั่นใจระดับนั้น บางทีคนอย่างเขา อาจจะได้รับความรู้สึกแบบนี้มาจนนับไม่ถ้วน
หน้าตา การศึกษา สถานะทางสังคม ไม่มีอะไรด้อยเลย สาวๆ หลายคนคงชอบเขาอยู่
แต่หากเธอจะพูดออกไปว่าเธอไม่ได้รู้สึกหรือคิดแบบนั้น มันก็อาจจะเป็นการหักหน้าเขาจนเกินไป
"วันนี้พี่นนท์เมามาก..."
"จูบกันไหมครับ"
"วะ ว่าไงนะคะ" กระต่ายเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ มือเรียวกระชับสายกระเป๋าสะพายข้างเอาไว้แน่น
หลายเรื่องแล้วที่เธอคาดไม่ถึง และเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงและไม่คาดคิดจริงๆ
"บททดสอบที่จะทำให้ผมรู้ว่าคำพูดของผมมันจริงแท้แค่ไหนก็คือการจูบ"
"กำลังใช้วิธีนี้ให้ต่ายถอนตัวเหรอคะ"
"คนที่รักษาคำพูดเป็นที่หนึ่ง หากไม่อยากถอนตัวและยังรักษาคำพูดแบบที่เคยบอกมาตั้งแต่ต้น หวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธในสิ่งที่ผมเสนอออกไปนะครับ" รชานนท์แสยะยิ้มร้ายกาจ ยิ่งเห็นความกังวลหลุดออกมาบนใบหน้าของอีกฝ่าย เขาก็ยิ่งมองเห็นชัยชนะที่รออยู่
"ว่าไงครับ แค่จูบกัน มันไม่ใช่ปัญหาของคนที่จะคบกันไม่ใช่เหรอ?"
"..."
"หรือคุณหวง?"
"..."
"ถ้าคุณหวงจูบของคุณ เพราะอยากเก็บมันไว้ให้กับคนอื่นที่คุณรักหรือชอบอยู่ คุณบอกผมได้นะ จากนั้นเราค่อยมาคุยกันเรื่องเหตุผลว่าเพราะอะไรคุณถึงไม่ยอมปฏิเสธผู้ใหญ่ แต่ถ้าที่ผมพูดมันไม่ใช่ ผมว่าเหตุผลที่คุณไม่ยอมปฏิเสธ มันก็คงจะเป็นเพราะคุณชอบผมหรือไม่คุณก็ไม่ได้อยากเปิดร้านขายขนม แต่อาจจะอยากเป็นดาราที่มีชื่อเสียงมากกว่าแค่ไม่กล้าพูดตรงๆ ผมพูดถูกไหม"
"ดาราคนนั้นที่พี่นนท์เคยคบเธอทำแบบนั้นกับพี่นนท์เหรอคะ" คำถามแบบตรงไปตรงมาส่งผลให้รชานนท์ชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ
ใบหน้าคมคายเมินหนี หลานสาวของเพื่อนสนิทคุณย่า หากไม่นึกได้ว่าคุณย่ามีเพื่อนเพียงไม่กี่คน และคนที่คุณย่าเลือกคบจะเป็นเพียงเพื่อนแท้เท่านั้นเธอคงถูกเขาตอบกลับด้วยถ้อยคำแรงๆ ออกไปแล้ว
"ต่ายไม่รู้หรอกนะคะว่าที่ผ่านมาพี่นนท์เคยเจอผู้หญิงแบบไหนมาบ้าง แต่ว่า..."
"ถ้าคุณอยากรู้ว่าผมเคยเจอผู้หญิงประเภทไหนมาบ้าง ผมก็จะบอกคุณให้รู้ว่าผู้หญิงที่ผมเคยเจอมา ไม่ว่าฉากเริ่มต้นจะโรยด้วยกลีบบุหลาบจนสวยงามแค่ไหน สุดท้ายก็เห็นแก่ตัว เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการก็พร้อมจะทิ้งทุกอย่างที่ไร้ค่า มองแค่ผลประโยชน์ที่มีมากกว่าเพียงอย่างเดียว" กระต่ายจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น ทั้งที่จริงแล้วเธอไม่ได้พร้อมที่จะเข้าใจใครทั้งนั้นเพราะเธอก็พึ่งเจอเรื่องแย่ๆ มา แต่ลึกๆ แล้วกระต่ายบอกตัวเองเสมอ
หากอยากให้คนอื่นเข้าใจเธอ เธอเองก็ควรหัดเข้าใจคนอื่นก่อนเช่นกัน
"ผู้หญิงคนนั้นเธออาจจะมีเหตุผลที่ทิ้งพี่นนท์"
"ผมไม่สนใจแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีเหตุผลอะไร สุดท้ายมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของเรา" ขายาวภายใต้กางเกงยีนส์แบรนด์ดังก้าวมาที่เบื้องหน้า กระต่ายถอยห่างทันที
"พะ พี่นนท์เมามากแล้ว ต่ายว่าพรุ่งนี้เราค่อยคุยกันดีกว่านะคะ"
"กลัวผมเหรอ"
"คะ คนทุกคนไม่ได้เหมือนกันหรอกนะคะ ต่ายสัญญาว่าต่ายจะไม่ทำเหมือนผู้หญิงคนนั้น" หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ยิ่งคนที่ย่างสามขุมเข้ามาหาก้าวขาเข้ามาเร็วเท่าไหร่ อาการตกใจมันก็ยิ่งถาโถมเข้ามา
'...ย่าไม่ได้อยากให้ต่ายคบกับหลานชายของเพื่อนย่าเพราะว่าอกหักหรอกนะ ความสัมพันธ์ระหว่างต่ายกับหมอปกรณ์มันจบลงเร็วเกินไป มันกระทันหัน ย่ารู้ว่าหลานย่าไม่ได้ตั้งตัว ยิ่งหมอปกรณ์เห็นแก่ตัวด้วยการพยายามปรับความเข้าใจกับหลานโดยการให้หลานเข้าใจเขา ย่าว่ามันอันตรายกับต่ายมากเกินไป...'
'...ย่าจะไม่ยอมให้หนูเป็นมือที่สาม ใจอ่อนให้กับความรู้สึกดีๆ ที่หมอปกรณ์เคยทำให้เด็ดขาด รชานนท์หลานชายเพื่อนย่านิสัยดีมาก อ่อนโยน เป็นสุภาพบุรุษ บางครั้งการเปิดใจให้ใครสักคนเพื่อลืมเรื่องราวของอีกคน มันอาจจะใช้ได้จริงก็ได้นะ...'
'...ย่าเห็นว่ามีหลายคู่ที่เริ่มต้นด้วยการคบหากับคนที่ไม่รู้จัก สุดท้ายรักกันมากถมเถไป!'
"วะ วันหลังได้ไหมคะ วันนี้ต่ายไม่พร้อมจริงๆ"