SOMETHING12:เรื่องของโฟร์

1502 Words
SOMETHING 12 ************************ ฉันนั่งมองนาฬิกาที่หัวเตียงที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว ฉันยังไม่ได้ลงไปหาพี่แพตเลย ไม่ใช่ป่านนี้เธอคิดว่าฉันเบี้ยวเธอแล้วเหรอ ทำไมวันนี้โฟร์มาแปลกก็ไม่รู้เหมือนเขาจะรู้ว่าฉันจะไปหาคู่นอนของเขาอย่างนั้นแหละ หรือว่าฉันทำตัวมีพิรุธเกินไปเหรอ ก็ไม่น่าใช่นะเพราะฉันก็ทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง มีแต่เขานี่ล่ะที่เปลี่ยนไป ฉันหยิบไอโฟนขึ้นมาก่อนจะพิมพ์บอกพี่แพตว่าขอเลื่อนนัดพอดีติดธุระนิดหน่อย เธอเหมือนจะไม่พอใจแต่ก็ยอมล่าถอยออกไปก่อนทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมาหน่อย นี่ถ้าโฟร์รู้ว่าฉันแอบเป็นแม่สื่อให้กับเขาและพี่แพตเขาจะต้องไม่ชอบใจมากแน่ๆ เลย เพราะตอนนี้เขาก็มีแฟนอยู่แล้ว แล้วฉันจะล้างบาปให้ตัวเองยังไงดีเนี่ยที่จะทำให้คนรักกันมีปัญหากันแบบนี้ “ไม่ไปแล้วเหรอ?” ยังมายิ้มยียวนกวนประสาทอีก อยากกระโดดถีบหน้าให้หมดหล่อไปเลย ฉันเลือกที่จะไม่สนใจเขาและเดินมานั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือ โฟร์ผิวปากเล่นอย่างสบายอารมณ์ เห็นแล้วก็หงุดหงิดทำไมฉันต้องหงุดหงิดเวลาที่เห็นเขาอารมณ์ดีแบบนี้ด้วยนะ ฉันอ่านหนังสือจนเกือบจะห้าทุ่มก่อนจะบิดขี้เกียจเพื่อไล่ความเมื่อยล้าออกไป จะว่าไปฉันยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยนี่นา ถึงว่าล่ะทำไมหิวมากขนาดนี้ หงุดหงิดจนลืมกินข้าวเลย ฉันหันกลับไปมองโฟร์ที่จู่ๆ เขาก็เงียบไปก่อนจะเห็นว่าเขาหลับไปแล้ว หลับแบบห่มผ้าอีกด้วยทั้งที่ในห้องก็ไม่ได้หนาวอะไรขนาดนั้นออกจะร้อนซะด้วยซ้ำ ข้างล่างหอมีอะไรขายมั้ยนะ จะออกไปตอนนี้คนเดียวก็น่ากลัวเกินไปหน่อย หรือว่าจะชวนโฟร์ไปด้วยดี มีรูมเมทไว้ทำอะไรล่ะนอกจากต้องอยู่เป็นเพื่อนกัน “โฟร์” ฉันเดินไปเรียกโฟร์ แต่ไม่ได้ล้ำเส้นที่ตัวเองแบ่งเขตเอาไว้ เขาเงียบเหมือนไม่ได้ยินเสียงฉัน ทำให้ฉันต้องตะเบ็งเสียงเรียกเขาอีกที “โฟร์ตื่น” “...” ตายไปแล้วเหรอเรียกเสียงดังขนาดนี้ยังไม่ตื่นอีก ฉันตัดสินใจก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตไปถึงตัวโฟร์ก่อนจะสะกิดไหล่เขาเบาๆ เพื่อให้เขาตื่น โฟร์ปัดมือฉันออกก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้ฉัน หูฟังก็ไม่ยอมถอดออกจากหู มือถือก็ทิ้งไว้ข้างตัวนี่ถ้านอนทับหน้าจอคงแตกละเอียดแน่ๆ ฉันถอดหูฟังออกจากหูเขาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบไอโฟนเขาเพื่อมาเก็บให้ จู่ๆ มือถือเขาก็สั่นขึ้นมาดื้อๆ ทำให้ต้องรีบวางมันลงและกลับไปนั่งที่ของตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องทำแบบนี้แต่สัญชาตญาณมันบอกให้ฉันต้องรีบกลับมานั่งที่เดิมแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โฟร์ลุกขึ้นมาอย่างัวเงียก่อนจะหยิบไอโฟนตัวเองขึ้นมาดูว่าใครโทรเข้ามา เมื่อกี้ฉันตกใจมากไปหน่อยเลยไม่ทันได้ดูว่าใครโทรเข้ามาหาเขา ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องของฉันหรอกนะที่ต้องรู้ แต่ฉันจำเป็นต้องเก็บรายละเอียดเอาไว้เพื่อไปรายงายให้พี่แพตฟัง เธอบอกว่าเธอจำเป็นต้องรู้การเคลื่อนไหวของโฟร์ทุกวัน ไม่ว่าเขาทำอะไร ที่ไหน ยังไง ฉันจะต้องรีบไปรายงานเธอเพื่อที่เธอจะได้ตามโฟร์ไปถูก โทษทีนะฉันไม่ใช่นักสืบที่จะไปรู้ความเคลื่อนไหวของเขาหมดทุกอย่างขนาดนั้น โฟร์หันหน้ามามองฉัน ฉันยิ้มกลบเกลื่อนเรื่องเมื่อกี้ก่อนที่เขาจะกดรับสาย “ครับ” พูดเพราะด้วยอ่ะ อยากรู้จังว่าเขาคุยกับใคร นี่ถ้าเขยิบเข้าไปฟังได้ฉันเองก็อยากจะทำอย่างนั้นล่ะนะ แต่ไม่เป็นไรหรอกแค่รู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไรก็น่าจะพอแล้ว ฉันเอียงหูฟังให้ชัดๆ เพราะเสียงของโฟร์เบามาก น่าจะเพิ่งตื่นล่ะมั้งเลยเป็นเสียงงัวเงียแบบนี้ “พรุ่งนี้เหรอครับ...ว่างครับ” “...” “พรุ่งนี้ผมมีเรียนบ่ายสะดวกมารับตอนไหนครับ?” เขาจะออกไปไหนกับใครอ่ะ พูดชื่อของปลายสายมาให้ฉันได้ยินด้วยสิ ทำไมต้องมารับเขาด้วย แล้วไหนจะคำพูดที่ดูสุภาพอีก โฟร์ยิ้มเล็กน้อยเหมือนมีความสุขที่ได้พูดคุยกับคนในสาย อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนเขาอีกคน “ช่วงค่ำนะครับ จะให้ผมรอตรงไหนที่ร้านเดิมที่เราเจอกันมั้ยครับ?” “...” “คิดถึงเหมือนกันครับ สวัสดีครับ” วางสายไปแล้วอ่ะ ร้านเดิมที่ว่านี่มันร้านไหนเนี่ยฉันจะไปรู้ได้ยังไง เอาเถอะอย่างน้อยๆ ก็ได้รู้แล้วว่าเขานัดกับใครก็ไม่รู้เอาไว้แล้ว เวลาค่ำ ข้อมูลแค่นี้คงจะพอช่วยพี่แพตได้นะ “นี่เธอถ้าเอียงคอขนาดนั้นเดินมาถามฉันก็ได้นะว่าคุยกับใคร” ฉันรีบหันกลับไปนั่งที่เดิม เมื่อกี้ฉันทำตัวให้เขาเห็นเหรอว่าฉันกำลังแอบฟังเขาอยู่ น่าอายชะมัดเลย ทำไมฉันจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยนะเรื่องของตัวเองก็ไม่ใช่ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้อยากจะรู้เรื่องของเขาขนาดนั้นด้วย ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าต้องพิสูจน์ตัวเองฉันไม่มีทางมาทำแบบนี้แน่นอน เสียศักดิ์ศรีตัวเองหมด แล้วนี่จะแก้ตัวยังไงให้มันฟังขึ้นเนี่ย โฟร์เดินเข้ามาหาฉันก่อนจะโน้มหน้าลงมาคลอเคลียที่ต้นคอของฉันเหมือนจะแกล้งให้ฉันไปต่อไม่ถูกก่อนที่เขาจะเอ่ยถามคำถามที่ทำให้ฉันสะดุ้งตกใจมากเลยล่ะ เหมือนว่าเขารู้เรื่องที่ฉันเป็นแม่นสื่อให้เขาแล้วอย่างนั้น “ได้ข้อมูลอะไรบ้างล่ะ?” “อะ...อะไร...ข้อมูลอะไร?” ฉันทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดเรื่องอะไรทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาหมายถึงอะไร นี่อย่าบอกนะว่าเขารู้ว่าฉันสืบเรื่องของเขาให้คนอื่นรู้ ไม่จริงน่าเขาไม่มีทางรู้หรอกก็ฉันไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย มีเพียงฉันกับพี่แพตเท่านั้นที่รู้กันแค่สองคน “งั้นก็แล้วไป” โฟร์ผละออกก่อนจะเดินกลับไปที่ของตัวเอง เขาอมยิ้มกรุ้มกริ่มเหมือนคิดอะไรในใจอยู่ น่าแปลกที่รอยยิ้มของเขาทำให้ใจฉันเต้นแรงทั้งที่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขา หรือเป็นเพราะว่าฉันไม่เคยอยู่ใกล้ผู้ชายก็ได้มั้ง เอ๊ะ! เมื่อกี้ฉันว่าจะชวนโฟร์ไปกินข้าวนี่ ลืมไปเลยเห็นมั้ย มัวแต่อยากรู้เรื่องของคนอื่นจนลืมเรื่องของตัวเอง ไอ้ข้าวมันก็หิวอยู่หรอกแต่ก็อยากรู้เรื่องของเขาด้วยไงก็เลยไม่คิดว่าจะลืมชวนเขาไปกินข้าวแบบนี้ “โฟร์” คนตรงหน้าหันหน้ามาก่อนจะเลิกคิ้วให้ “นายกินข้าวยังอ่ะ?” “เรียบร้อยตั้งนานแล้ว” แอบไปกินข้าวไม่ชวนเลยนะ ทีฉันยังชวนเขาเลย “ทำไม จะชวนฉันไปกินข้าวเหรอ?” “อื้อ” ฉันพยักหน้าตอบ โฟร์หัวเราะในลำคอก่อนจะตอบตกลง เขาเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกมาด้วยชุดสบายๆ สไตล์เขา “กินไรอ่ะ?” “หน้าปากซอยทางเข้าหอวันนี้มีตลาดโต้รุ่งอยู่เปิดถึงเที่ยงคืนไปกินตรงนั้นก็ได้” โฟร์พยักหน้าก่อนจะเดินออกมาด้วยกัน เขาเดินไปยืมรถจักรยานกับลุงยามที่เฝ้าหอพักนี้ก่อนจะปั่นมาหาฉันที่รออยู่หน้าประตู วันนี้ก็เป็นอีกวันที่แปลกไปจากทุกวัน เพราะวันนี้โฟร์เลือกที่จะปั่นจักรยานและให้ฉันซ้อนท้ายแบบนี้ ไม่ชินยังไงไม่รู้แฮะ “กอดเอวฉันได้นะไม่หวงหรอก” เมื่อเห็นว่าฉันนั่งลำบากเขาก็หันมาพูดกับฉัน คือจริงๆ มันก็นั่งได้อ่ะนะ แต่เป็นเพราะว่าฉันไม่ค่อยชินกับการที่มานั่งซ้อนท้ายคนอื่นแบบนี้ ปกติจะปั่นคนเดียวมากว่า และให้คนอื่นซ้อนแทน ฉันเอื้อมมือไปกอดเอวเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองตก ก็แค่จับเอาไว้แค่นั้นเองไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝงนะ และฉันก็ไม่คิดด้วยว่าจะมีผู้หญิงคนอื่นมองดูเยอะขนาดนี้ หมับ จู่ๆ โฟร์ก็ใช้มือตัวเองข้างหนึ่งมากุมมือฉันที่กอดเอวเขาเอาไว้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD