SOMETHING01:ต้อนรับสู่โลกของโฟร์
SOMETHING 1
******************
“นี่มันกางเกงในของใคร?”
บ้าชิบ! ทำไมถึงมีกางเกงในผู้ชายอยู่ในห้องของฉันได้นะ จำได้ว่าเมื่อคืนฉันไม่ได้พาผู้ชายเข้าห้องนี่ ฉันหันไปถามรูมเมทที่อยู่ห้องด้วยกัน เธอลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงียก่อนจะส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง
อยู่ดีๆ กางเกงในผู้ชายมันจะมาอยู่ในห้องได้ยังไงถ้าไม่มีใครเอามันเข้ามา แถมดูท่าว่าจะใช้แล้วด้วย
ฉันเปิดประตูหน้าห้องชะโงกหน้ามองซ้ายมองขวาอย่างนึกหวาดระแวง หอพักนี้เป็นห้องพักรวมที่จะคละผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกัน และนักศึกษาปีหนึ่งจะต้องพักอยู่ที่นี่
นี่คือกฎของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
กฎบ้ากฎบออะไรกันนี่ไม่กลัวว่าผู้ชายจะเข้ามารังแกผู้หญิงหรือยังไงนะ พอไม่เห็นสิ่งผิดปกติฉันก็กลับเข้าห้องก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ และก็ต้องตกใจเมื่อมีร่างผู้ชายที่นอนแผ่หลาอยู่ในห้องน้ำโดยมีสภาพที่เปลือยท่อนบนเอาไว้ ส่วนท่อนล่างมีเพียงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอว และถ้าให้เดาภายใต้ผ้าเช็ดตัวจะต้องไม่มีอะไรปิดเอาไว้อีก
เดี๋ยวก่อน! ผู้ชายคนนี้เข้ามาได้ยังไง
“เชอรี่” ฉันวิ่งออกมาเขย่าตัวรูมเมทเพื่อให้เธอตื่นขึ้นมาอธิบายให้ฉันฟัง เราสองคนตกลงกันแล้วว่าจะไม่พาผู้ชายเข้าห้อง แต่นี่เธอผิดข้อตกลงของเรา อีกอย่างฉันไม่ชอบให้เธอทำอะไรโดยไม่บอกฉัน
ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันก็อยู่กับเธอไม่ได้แล้วล่ะ ขอบาย
“ผู้ชายในห้องน้ำเป็นใคร เธอเป็นคนพาเขาเข้ามาในห้องใช่มั้ย?”
“ก็เขาไม่มีที่พักฉันก็เลยพาเขามาพักที่นี่ก็เท่านั้นเอง” ตอบมาได้อย่างไม่อายฟ้าอายดิน แค่มาพักฉันไม่ว่าอะไรหรอกนะแต่เล่นมาถอดกางเกงในแบบนี้ฉันรับไม่ได้ ฉันเองก็พอรู้ว่าเมื่อคืนสองคนนี้ทำอะไรกันบ้าง เพราะดูจากสภาพแล้วเละด้วยกันทั้งคู่ ดีนะที่เมื่อคืนฉันไม่ตื่นมาเจอสองคนนี้ทำเรื่องนั้นกัน
“แล้วถอดกางเกงในทำไม?”
เชอรี่เบิกตากว้างก่อนจะลุกพรวดพราดขึ้นมามองหากางเกงเจ้าปัญหาก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันอย่างไร้เดียงสา ไอ้ฉันก็นึกว่าเธอคนนี้จะเป็นคนเรียบร้อย น่ารัก อ่อนหวานซะอีก แต่ที่ไหนได้ แรดเงียบจ้า ถ้ารู้อย่างนี้ฉันไม่เลือกที่จะมาอยู่กับเธอหรอก
“คือเมื่อคืนฉันเมาหนักไปหน่อยเลยจำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง”
โอเค ฉันรู้แล้วว่าไม่ควรพูดเรื่องนี้ต่อ สิ่งที่ฉันต้องทำต่อจากนี้คือการไปหาผู้ดูแลหอพักนี้แล้วจัดการเปลี่ยนห้องทันที ที่นี่มีกฎว่าสามารถเปลี่ยนห้องได้ไม่เกินสามครั้ง และฉันก็เปลี่ยนไปสองครั้งแล้ว เหลือครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ฉันอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ ถ้าเกิดว่าผู้ชายคนนั้นคิดไม่ดีกับฉันขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ
“เดี๋ยวฉันไล่เขาออกไปก็ได้ เธออย่าโกรธฉันเลยนะรัน”
“เธอนอนต่อเถอะ ฉันจะออกไปทำธุระข้างนอกหน่อย” สำหรับฉันมันเลยคำว่าโกรธมาแล้วล่ะ พูดตรงๆ เลยนะว่าเชอรี่ผิดข้อตกลงมานี่นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ฉันพยายามที่จะมองผ่านเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน แต่ครั้งนี้ฉันทนไม่ได้แล้ว
หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จฉันก็รีบออกจากห้องตรงดิ่งไปหาผู้ดูแลหอพักเพื่อขอเปลี่ยนห้อง ฉันก้มอ่านรายชื่อของแต่ละห้องที่ว่าง ปรากฏว่าส่วนมากจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิงก็มีนะแต่ว่าเธอไม่ได้พักคนเดียว ทำไงดีล่ะ
ฉันอยากเปลี่ยนห้องแล้ว ไม่อยากอยู่กับยัยเชอรี่แล้วอ่ะ ไม่มีใครที่ฉันรู้จักเลยสักคน
“รันมาเปลี่ยนห้องอีกแล้วเหรอ?” ฉันหันไปมองข้างหลังก็เห็นว่าพี่อรุณยืนอยู่ น่าแปลกมากเลยนะเวลาที่ฉันเปลี่ยนห้องทีไรพี่เขาก็จะเข้ามาเห็นตลอดเลย ฉันยิ้มแห้งๆ ให้พี่เขา ก็มันช่วยไม่ได้นี่นาฉันเลือกรูมเมทไม่ดีเอง
“ค่ะ พอดีว่ารันไม่ชอบความวุ่นวาย” จริงสิพี่อรุณรู้จักคนที่หอพักนี้เยอะนี่นา เพราะเขาเป็นประธานชมรมดูแลตรวจตราหอพักอยู่ ถ้าให้เขาช่วยเลือกให้มันก็น่าจะดีกว่าตัวเองเลือกเองเพราะฉันไม่รู้จักใครเลยสักคน เพื่อนสนิทก็ไม่มี โดดเดี่ยวและเดียวดายมาก “พี่อรุณพอจะรู้จักใครที่พอจะอยู่ด้วยแล้วสบายใจได้มั้ยคะ”
“จะให้พี่หาให้เหรอ?”
“ค่ะ รันเชื่อสายตาพี่อรุณค่ะ ไม่อยากพลาดเหมือนสองครั้งที่แล้ว”
“เอาแบบไหนล่ะพี่จะได้เลือกได้ถูก”
“เอาแบบไหนก็ได้ค่ะขอแค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ”
“โอเคพี่มีน้องรหัสพักอยู่ที่นี่ โชคดีที่ห้องนั้นว่างด้วยจะอยู่หรือเปล่า”
“อยู่ค่ะ” ฉันตอบรับโดยไม่ทันได้คิดอะไร และไม่รู้ด้วยว่าคนที่จะไปอยู่ด้วยเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และเมื่อฉันเซ็นต์ชื่อตกลงเปลี่ยนห้องเรียบร้อยแล้วพี่อรุณกับพูดขึ้นมาว่า...
“มันเป็นคนที่ชิวๆ กับชีวิตน่ะ เธออยู่ด้วยแล้วสบายใจแน่นอน”
“มัน?” ฉันทวนคำอย่างตกใจ มันที่พี่อรุณกล่าวถึงเป็นผู้ชายเหรอ “ไม่ใช่ผู้หญิงเหรอคะ?”
“มันเป็นผู้ชายน่ะ แต่เธอสบายใจได้เลยนะว่ามันไม่ทำอะไรเธอแน่นอน”
พี่อรุณเอาอะไรมาเป็นหลักประกันว่าน้องรหัสของเขาจะไม่ทำอะไรฉัน หากว่าวันใดวันหนึ่งเขาเกิดอยากทำอะไรขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ บ้า บ้า บ้าไปแล้ว ฉันหนียัยเชอรี่เพราะว่ายัยนั่นพาผู้ชายเข้าห้อง แต่นี่ฉันกลับต้องมาอยู่กับผู้ชายซะเอง แถมต้องอยู่อีกจนกว่าจะจบปีหนึ่งเลยนะ
โหดร้ายเกิดไปแล้ว
“ทำไมพี่ไม่บอกรันล่ะคะว่าเป็นผู้ชาย แล้วอย่างนี้รันจะอยู่ยังไง” ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาเป็นภาษเกาหลีจริงๆ เลย ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ห้องด้วยกันสองคนอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ ไม่น่าเลย ไม่น่าเชื่อพี่อรุณเลย เป็นไงล่ะทีนี้น้ำตาเช็ดหัวเข่าเลย
“เธอบอกพี่เองนะว่าเอาแบบไหนก็ได้”
“แต่ต้องไม่ใช่ผู้ชายค่ะ” ฉันฟุบหน้าลงกับโต๊ะ โลกมันช่างโหดร้ายเกินไปสำหรับฉัน
“แต่มันหล่อนะ” หล่อแล้วยังไง คือจะหาผู้ชายให้ฉันอย่างนั้นเหรอ นี่ฉันมาเรียนนะคะไม่ได้มาหาหลัว พี่อรุณคิดได้ยังไงเนี่ยเอาฉันไปนอนกับผู้ชาย
“พี่อรุณ”
“เอาน่า เธอไปเห็นมันเดี๋ยวเธอก็ชอบเองแหละ พี่รับประกันว่าน้องรหัสพี่คนนี้ไว้ใจได้”
ฉันเงยหน้าขึ้นมาทันทีเริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่พี่อรุณกล้ารับประกันขนาดนี้ แต่ก็ยังคงหวาดๆ อยู่ ไหนๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนห้องได้อีกแล้วฉันก็คงต้องอยู่กับน้องรหัสของเขาไปก่อน แค่ปีเดียวเองไม่นานหรอก ทำใจให้สบายแล้วเตรียมย้ายห้อง
“เธออยู่กับมันแล้วเธอจะชอบมันเอง”
“รันมีทางเลือกด้วยเหรอคะ” ฉันนั่งห่อเหี่ยวใจ วันนี้มันเป็นวันอะไรของฉันกันนะถึงได้มาเจอเรื่องซวยๆ แต่เช้าเลย
เอาฉันไปโยนทิ้งทีเถอะ
“นั่นไงมันมาพอดีเลย”
พี่อรุณเดินไปหาผู้ชายคนหนึ่งก่อนจะกอดคอแล้วลากเขามานั่งกับฉันที่โต๊ะ สายตาฉันจับจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้น คนที่พี่อรุณพูดถึงว่าเป็นน้องรหัสที่แสนดีของเขา เพียงแค่สบตากันก็เหมือนว่ามีประกายไฟแล่นพล่านไปทั่วตัว เขาหล่ออย่างที่พี่อรุณบอกจริงๆ นั่นแหละ
หล่อแบบว่าชีวิตนี้เขาคงไม่รู้จักคำว่าโสด
“นี่ไงโฟร์น้องรหัสที่พี่พูดถึง”
“ไม่ต้องลากผมขนาดนี้ก็ได้มั้งครับ” โฟร์ปัดมือพี่อรุณทิ้งก่อนจะจัดแจงชุดนักศึกษาของตัวเองให้เข้าที่แล้วหันมามองฉันอย่างงุนงงว่าทำไมพี่อรุณถึงพาเขามาทำความรู้จักกับฉัน “นี่ใครอ่ะครับ?”
“อ้อ! นี่รันนี่รูมเมทแก” แค่รันเฉยๆ ก็พอมั้งคะ ไม่ต้องเรียกรันนี่ก็ได้ โฟร์หันมามองฉันก่อนจะไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเสียมารยาท เขากระตุกยิ้มก่อนจะพยักหน้าแล้วยื่นมือมาตรงหน้าฉัน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะรันนี่” ดูท่าไม่น่าไว้วางใจยังไงไม่รู้ แกล้งทำเป็นไม่เห็นตอนนี้จะทันมั้ย
“รันเฉยๆ ก็พอไม่ต้องเติมเหมือนพี่อรุณหรอก” พี่อรุณหัวเราะเมื่อได้ยินโฟร์เรียกชื่อฉันเหมือนที่เขาเรียก ที่จริงคนที่ชอบเรียกฉันว่ารันนี่ก็มีแต่พี่อรุณเนี่ยล่ะ เขาบอกว่าเพราะดี
“ให้ฉันไปย้ายของช่วยมั้ย” ดูขยันขึ้นมาทันทีเลย เหมือนเขาจะว่างมากเลยนะที่จะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษกับฉัน ยิ่งเขาหล่อแบบนี้มันก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อฉันเอามากๆ
ไม่ใช่แค่ไม่ไว้ใจเขาแค่คนเดียวนะ แต่ฉันเริ่มไม่ไว้ใจตัวเองด้วย
“ทำความรู้จักกันไปก่อนนะ พี่ไปทำธุระก่อน” พี่อรุณโบกมือลาก่อนจะเดินหนีไปปล่อยให้ฉันอยู่กับโฟร์แค่สองคน ทำตัวไม่ถูกยังไงไม่รู้แฮะเมื่อต้องอยู่กับผู้ชายหล่อแบบนี้
“ขึ้นห้องกันเลยมั้ย?”
“ขึ้นห้องอะไร?” ฉันถามอย่างตกใจ จู่ๆ ก็มาชวนขึ้นห้องนี่คิดลึกนะ ฉันขยับตัวออกห่างจากโฟร์ไปเล็กน้อย น้องรหัสของพี่อรุณคนนี้ไว้ใจได้แน่เหรอ บางทีเขาอาจจะร้ายลึกก็ได้นะเหมือนยัยเชอรี่ไง
“เราพักอยู่ห้องเดียวกันชวนขึ้นห้องมันผิดตรงไหน” เหมือนโฟร์จะไม่ได้คิดอะไร มีแต่ฉันคนเดียวที่คิดไปไกล ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินตามเขาเพื่อไปดูห้องและจัดแจงแบ่งที่กันให้เรียบร้อยก่อนที่จะเอาของฉันมาไว้ เรื่องย้ายห้องฉันยังไม่ได้บอกยัยเชอรี่เลย เอาไว้ให้นางรู้เองดีกว่าจะได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
เมื่อเข้ามาในห้องฉันก็รู้ได้ทันทีเลยว่านี่มันต้องเป็นห้องของผู้ชายอยู่แน่ๆ เพราะห้องนี้เรียกไม่ได้เลยว่าเป็นห้องนอน มันทั้งรกไม่ว่าจะเสื้อผ้า จานชาม เศษกระดาษเกลื่อนพื้นไปหมด เขาอยู่ไปได้ยังไงอ่ะ
ฉันเงยหน้าไปมองหน้าโฟร์ที่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจกับห้องของตัวเอง ขอย้อนกลับไปตอนเจอกางเกงในผู้ชายในห้องได้มั้ย จะได้ตัดสินใจใหม่อีกทีว่าการที่อยู่ห้องกับเชอรี่และโฟร์อยู่กับใครสบายใจกว่ากัน
“ก็อยู่คนเดียวอ่ะนะเลยไม่ได้ใส่ใจดูแลห้องเท่าไหร่”
ฉันเดินไปดูห้องน้ำก่อนจะตกใจเมื่อเห็นว่ามีสิ่งแปลกปลอมบางอย่างตกอยู่ที่พื้นห้องน้ำ นะ...นี่มันถุงยางฯ ถูกใช้แล้วด้วย ไม่นะ ไม่จริงใช่มั้ย ฉันไม่ได้อยู่กับคนอันตรายใช่หรือเปล่า ไหนพี่อรุณบอกว่าน้องรหัสคนนี้ไว้ใจได้ไง แล้วนี่มันอะไร
สิ่งที่ฉันเห็นไม่ใช่ถุงพลาสติก แต่มันคือถุงยางฯ
ปัง!
ฉันรีบเดินออกมาก่อนจะใช้เท้าถีบประตูห้องน้ำทำให้เกิดเสียงดังขึ้น โฟร์หันมามองฉันอย่างตกใจ เขาเดินเข้ามาหาฉันแต่พอเขาก้าวมาฉันก็ถอยหนีทันที ไม่ควรอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้เอามาก ฉันเดินไปอีกฝั่งของห้องจัดการของของเขาที่อยู่ฝั่งนี้ย้ายไปอีกฝั่ง และแบ่งเตียงที่เขาใช้นอนมาฝั่งฉัน
“เดี๋ยวๆ ทำอะไร?”
“แบ่งที่กันไง”
“ทำไมต้องแบ่ง?” ถามมากจริง นี่เขาไม่รู้เหรอว่าไอ้เตียงที่เขานอนอยู่มันเป็นเตียงเดียวสองเตียงเอาไว้ให้อีกคนนอน ไม่ใช่ให้เขานอนคนเดียว “เราไม่ได้นอนด้วยกันหรอกเหรอ”
“ขอโทษฉันเป็นผู้หญิงไม่นอนร่วมเตียงกับผู้ชาย”
“งั้นเธอก็ซิงอ่ะดิ” ฉันหันขวับไปจ้องตากับอีกฝ่ายทันทีที่เขาพูดแบบนี้ ไอ้พี่อรุณต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไหนบอกว่าไว้ใจได้แล้วไอ้ที่เขาพูดออกมาเมื่อกี้มันคืออะไร พรุ่งนี้ฉันจะไปบุกคณะพี่อรุณแล้วบอกให้เขาใช้สิทธิ์ประธานชมรมดูแลหอพักเปลี่ยนห้องให้ฉัน “ขอโทษๆ พอดีฉันปากไวไปหน่อย”
“ฉันไปล่ะ”
ฉันกำลังจะเดินออกจากห้องไปเพราะรับกับคำพูดของโฟร์ไม่ไหว การที่ฉันอยู่กับผู้ชายก็ถือว่ายากมากแล้วนะแต่ถ้าจะให้ฉันอยู่กับผู้ชายไวไฟอย่างโฟร์บอกเลยว่าฉันอยู่ไม่ไหว ไม่เอาด้วยแล้วผู้ชายแบบนี้ ขอลาขาดอย่าเจอกันอีกเลย
“ไม่จัดของแล้วเหรอ?”
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันไม่เปลี่ยนห้องแล้วฉันจะกลับไปนอนที่ห้องเดิม” แค่คืนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง พรุ่งนี้ก็ขอย้ายกลับห้องเดิม ไม่เอาแล้วเรื่องเปลี่ยนห้อง ทนอยู่กับยัยเชอรี่ไปแค่ปีเดียวก็ได้ ดีกว่าจะต้องมาอยู่กับผู้ชายอย่างโฟร์
“หอพักนี้เข้มงวดนะ เวลาที่มีคนเปลี่ยนห้องคือต้องเปลี่ยนทันที ถ้าฝ่าฝืนกฎจะต้องถูกลงโทษอย่างหนักนะ” เรื่องนี้ฉันรู้แล้วแต่ถ้าเขาไม่พูด ฉันไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ โฟร์อมยิ้มเล็กน้อยทำให้เห็นลักยิ้มข้างแก้มของเขาข้างหนึ่ง “เอางี้เรามาทำข้อตกลงกันมั้ยเพื่อความสบายใจของเธอ”
“...” จะว่าไปมันก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าทำข้อตกลงกันไว้จะได้ไม่ล้ำเส้นของกันและกัน แต่ถ้าเขาเกิดแหกข้อตกลงเหมือนยัยเชอรี่ล่ะ ข้อตกลงก็คงไม่มีความหมาย เชื่อสายตาพี่อรุณหน่อยแล้วกัน “ในฐานะที่ฉันเป็นผู้หญิงฉันขอเป็นคนตั้งข้อตกลงเอง ตกลงมั้ย”
“เอาที่เธอสบายใจเลย”