SOMETHING 13
**********************
ฉันจะชักมือกลับแต่โฟร์ไม่ยอมปล่อยมือฉัน ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ฉันกอดเอวเขาอยู่โดยมีเขากุมมือฉันเอาไว้อีกทีหนึ่ง การกระทำแบบนี้มันเหมือนคนที่เป็นแฟนกันยังไงไม่รู้
คือฉันไม่เคยมีโมเม้นท์แบบนี้มาก่อนเลย และมันก็ไม่ชินให้ใครมาทำแบบนี้ด้วย บอกเลยว่าโฟร์เป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันได้ใกล้ชิดมากขนาดนี้มันเลยทำให้ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก
หัวใจจู่ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมาซะอย่างนั้น เต้นแรงมากจนฉันกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินมันเหมือนที่ฉันได้ยิน ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าตัวของโฟร์มันอบอุ่นอย่างนี้นะ อยู่ใกล้แล้วรู้สึกปลอดภัยจนไม่อยากอยู่ห่างจากเขาไปไหนเลย
เฮ้ย! ไม่ได้นะฉันจะคิดแบบนี้ไม่ได้ ถ้าหวั่นไหวให้เขาก็เท่ากับว่าฉันกลืนน้ำลายตัวเองชัดๆ ฉันพูดอย่างมั่นใจไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับโฟร์ เพราะงั้นจะมาใจเต้นแรงกับเขาไม่ได้
และเขามันก็เป็นผู้ชายที่คนอย่างฉันไม่ควรตกหลุมรักมากๆ เลย ถ้าเผลอชอบเขาขึ้นมาฉันอาจจะกลายเป็นขยะในอีกไม่นานก็ได้ที่เขาไม่เอาแล้วเขี่ยทิ้ง
ฉันดึงมือตัวเองออกอย่างแรงเลยทำให้หลุดจากกระเกาะกุมของโฟร์ เขาเองก็ไม่ได้หันหน้ามาถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เอาเป็นว่าเขาก็คงไม่อยากถามเพื่อให้ฉันอายล่ะมั้ง หรือไม่เขาก็พอจะรู้เหตุผลที่ฉันไม่อยากกอดเอาเขาเอาไว้แบบนี้ก็ได้
ตอนนี้โฟร์มาจอดจักรยานไว้ที่ใต้ต้นไม้ก่อนจะเดินเข้าไปในตลาดโต้รุ่งเป็นเพื่อนฉัน คนที่นี่ค่อนข้างเยอะส่วนมากแล้วเป็นนักศึกษาทั้งนั้น
ช่วงนี้เป็นช่วงทำกิจกรรมเลยทำให้ทุกคนนอนดึก ที่จริงฉันก็มีกิจกรรมนะแต่เลือกที่จะไม่เข้า เพราะถ้าเข้าแล้วตีสองมั้งถึงได้กลับเข้าห้อง อีกอย่างหนึ่งคือฉันไม่อยากไปคัดตัวเป็นดาวของคณะด้วย รุ่นพี่คณะฉันลงความเห็นว่าจะจับฉันเป็นดาวคณะ ฉันก็เลยเลือกที่จะหลบหน้าพวกพี่ๆ เขาน่ะ
“คนเยอะกว่าที่คิดแฮะ”
โฟร์เดินเข้ามาพร้อมกับฉันก่อนจะไปนั่งที่ริมสุดเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของใครหลายคน
ฉันแอบสังเกตว่าตอนที่เดินมากับโฟร์ผู้หญิงหลายคนให้ความสนใจเขาเป็นอย่างมาก พวกเธอไม่ได้มองแค่โฟร์คนเดียวนะเธอปรายหางตามามองฉันด้วย และสายตาแบบนั้นไม่ประสงค์ดีซะด้วยสิ
“กินข้าวดึกๆ แบบนี้ไม่กลัวอ้วนหรือไง?”
“ก็มันหิวอ่ะ เอาไว้ค่อยลดหุ่นวันหลังก็ได้” พูดจบฉันก็เดินไปซื้อข้าวขาหมูเจ้าประจำที่ชอบกินทุกวัน
ฉันกำลังจะถือมานั่งกับโฟร์แต่เท้าฉันดันไปสะดุดกับขาของใครคนหนึ่งเข้าทำให้หกล้มหัวคะมำ ข้าวขาหมูฉันก็หกเลอะเทอะเต็มเสื้อผ้าไปหมด นี่ฉันอาบน้ำแล้วนะ
บ้าจริง
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่จงใจขัดขาฉันก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มของมหาลัยที่ฉันเรียนอยู่
“อุ้ย! ขอโทษนะพอดีฉันไม่เห็นเธออ่ะ”
ตอแหล!
ฉันลุกขึ้นมาทั้งที่ยังมีเศษข้าวติดเต็มเสื้อ คนที่อยู่ที่นี่ก็พากันหัวเราะ โดยเฉพาะพวกผู้หญิงดูเหมือนจะสะใจเป็นพิเศษเลยล่ะ
โฟร์วิ่งเข้ามาหาฉันก่อนจะสำรวจร่างกายฉันและพบว่าที่หัวเข่ามีแผลถลอกและมีเลือดไหลออกมา แผลแค่นี้ฉันไม่เจ็บหรอกแต่มันเจ็บใจมากกว่าที่โดนแกล้งแบบนี้ทั้งที่ฉันก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้แค่เดินมาซื้อข้าวกินก็ผิดหรือไง
“เดินยังไงให้ตัวเองล้มได้เนี่ย?”
โฟร์ปัดเศษข้าวที่อยู่ตามตัวฉันออก ฉันจะไม่โกรธเลยนะหากว่าฉันยังไม่ได้จ่ายเงิน แต่นี่ฉันจ่ายเงินไปแล้วแถมยังไม่ได้กิน
รู้มั้ยว่าฉันเสียดายเงิน ฉันหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลงและไม่เผลอทำอะไรวู่วามอย่างที่เคยบอกไปว่าฉันมันเป็นคนที่มีความอดทนต่ำมาก
“ฉันว่าเราซื้อกลับไปกินที่ห้องดีกว่าเธอไปนั่งรอตรงนั้นแล้วกันเดี๋ยวฉันซื้อให้”
“หมาลอบกัด” ฉันพูดขึ้นมาลอยๆ แต่เน้นหนักทุกพยางค์ก่อนจะปรายตาไปมองยัยผู้หญิงที่ทำให้ฉันมีสภาพเป็นแบบนี้ โฟร์หันไปมองตามทำให้ยัยนั่งลุกลี้ลุกลนเหมือนกลัวว่าโฟร์จะเข้าใจเธอผิด ก็ตัวเองทำจริงๆ นี่กล้ายอมรับหน่อยสิ
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ตั้งใจเธอเดินมาไม่ดูเองว่าฉันกำลังเหยียดขาอยู่”
นี่มันคือความผิดของฉันเหรอที่เดินมาสะดุดขาเธอ มันเป็นที่ให้คนเดินไม่ใช่เหรอไม่ใช่ที่เหยียดขา การที่เธอทำแบบนี้มันจงใจแกล้งฉันชัดๆ ถ้าเกิดว่าน้ำซุปร้อนๆ มันราดหัวฉันจะทำยังไง ใครจะมารับผิดชอบในสิ่งที่เธอทำได้
เล่นอะไรไม่ดูตัวเองว่าโตป่านนี้แล้ว ฉันก็พอรู้นะว่าพวกเธออิจฉาเรื่องที่ฉันมากับโฟร์แต่ก็ไม่เห็นจะต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยนี่ ถ้าอยากได้เขาทำไมไม่จีบเขาเองจะมาทำร้ายคนที่อยู่ใกล้เขาทำไม
“มันใช่ที่ที่เธอควรจะต้องมาเหยียดขาป่ะ?” ฉันเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน ในเมื่อฉันไม่ได้ผิด คนที่ผิดมันคือยัยนี่ต่างหาก หากว่าจะต้องมีเรื่องฉันก็จะมีเพราะฉันรู้ว่าตัวเองไม่ผิด ฉันจะต้องทวงความยุติธรรมคืนมา “แล้วนี่จะรับผิดชอบฉันยังไง?”
“ก็ฉันขอโทษเธอไปแล้วไง”
“คำขอโทษของเธอไม่ได้ทำให้เสื้อผ้าฉันสะอาด และไม่ได้ทำให้แผลฉันหาย” ฉันชี้มาที่แผลตรงหัวเข่าตัวเอง ถ้าจะต้องมีคนผิดมันก็ควรจะเป็นเธอ
ปกติแล้วฉันไม่ได้อยากมีเรื่องหรอกนะ ยิ่งมีที่ที่คนเยอะแบบนี้แต่ฉันก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ฉันไม่ได้ถูกสอนมาเพื่อที่จะยอมให้คนอื่นรังแกแบบนี้ ถ้ายังทำเป็นเฉยเชื่อสิว่าเรื่องนี้มันจะต้องเกิดขึ้นมาอีก
“รันอย่ามีเรื่องเหอะ เขาขอโทษแล้วก็แล้วกันไปแล้วกัน” พูดง่ายเนอะ ก็มันไม่ใช่เขานี่เขาจะมารู้สึกอะไรล่ะ
ไอ้ที่ฉันต้องเป็นแบบนี้เขาจะรู้หรือเปล่าว่าสาเหตุมันมาจากเขา ตั้งแต่ที่รู้จักกับเขามาฉันรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองเริ่มวุ่นวายมากขึ้น อยู่ไม่เป็นสุข ไหนจะถูกมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอีก แล้วไหนจะเรื่องของพี่แพตที่มาให้ฉันเป็นแม่สื่อให้ซึ่งฉันไม่อยากจะทำเลยสักนิด
นี่ถ้าเดินไปโดนดักตบใครมารับผิดชอบฉันล่ะ
“ใช่! ฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจทำไมเธอใจร้ายจัง” อยู่ดีๆ ยัยนี่ก็บีบน้ำตาร้องไห้เฉยเลย กลายเป็นว่าฉันเป็นนางมารไปโดยไม่รู้ตัว และคนที่นี่ก็หยิบมือถือมาถ่ายคลิปเอาไว้ด้วยทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็คงเข้าข้างนางสินะร้องไห้หนักขนาดนี้ ส่วนฉันน่ะเหรอกลายเป็นตัวอิจฉาไปโดยปริยาย
ฉันกลับเข้ามาที่ห้องอย่างไม่สบอารมณ์ ใช่สินั่นมันเป็นผู้หญิงของโฟร์เขาก็คงไม่อยากมีเรื่องด้วย ฉันเลือกที่จะไม่พูดกับโฟร์เพราะเสียความรู้สึกยังไงไม่รู้
เขาเป็นเพื่อนฉันก็ต้องเข้าข้างฉันสิแล้วนี่อะไรไปเข้าข้างคนอื่นเฉยเลย ถ้าเขามีตาเขาก็คงจะเห็นว่ายัยนั่นมันจงใจแกล้งขัดขาฉันให้ล้ม นี่ถ้าเราอยู่ด้วยกันสองคนฉันจะจับหัวมันยัดใส่โถส้วมไปเลย
วันหลังฉันจะไม่ชวนเขาไปไหนมาไหนด้วยแล้ว จะทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนในห้องเหมือนกัน ไอ้เรื่องเป็นแม่สื่ออะไรนี่ก็ล้มเลิกเลยดีกว่าพี่แพตจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ
ตอนนี้ฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองมากกว่าคนอื่น พอกันทีกับเรื่องงี่เง่าพวกนี้ เอาเป็นว่าฉันจะไม่เข้าใกล้โฟร์เพื่อให้ผู้หญิงของเขาเข้าใจผิดแล้วกันจะได้สบายใจด้วยกันทั้งคู่
ฉันเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างหงุดหงิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อก่อนฉันก็ไม่เคยโดนรังแกขนาดนี้นะ ไม่ได้มีเรื่องกับใครด้วย และไม่ได้หนักใจเท่านี้มาก่อนเลย แต่พอมีโฟร์เข้ามาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แค่จะเดินไปเรียนเฉยๆ ยังถูกมองไม่ดีเลย
นี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเจาะจงฉันคนเดียวด้วย แฟนเขาไรงี้ทำไมไม่ไปดักตบล่ะ ทำไมต้องมาเป็นฉัน หรือเป็นเพราะว่าฉันพักอยู่ห้องเดียวกับโฟร์เหรอ
งั้นฉันคงต้องขอร้องให้พี่อรุณย้ายห้องให้ฉันแล้วล่ะ ถ้าเรื่องมันไม่จบง่ายๆ ฉันคงต้องบอกอาจารย์เพื่อทำการเปลี่ยนห้องทันที ถึงว่าล่ะทำไมที่ผ่านมาเขาถึงได้อยู่คนเดียวเพราะไม่มีใครกล้าอยู่ห้องกับเขาเพราะคงโดนเหมือนกันฉันตอนนี้สินะ
ฉันออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าโฟร์นั่งยิ้มให้ฉันอยู่ เขาคงจะรอฉันออกมาจากห้องน้ำอยู่สินะ ฉันทำเป็นไม่สนใจเขาก่อนจะเดินไปที่ของตัวเอง ข้าวก็ไม่ได้กินไหนจะยังมาเจอเรื่องเฮงซวยอีก
ฉันคิดว่าตัวเองคงต้องไปทำบุญล้างซวยแล้วล่ะ ไอ้หิวมันก็หิวอยู่นะแต่ความโกรธมันทำให้กินข้าวไม่ลง แค่เห็นหน้าของโฟร์ที่มองแล้วยิ้มให้ฉันแบบนี้ฉันก็กินข้าวไม่ลงแล้ว
ไลน์
ไลน์
ฉันหยิบไอโฟตัวเองขึ้นมาเปิดอ่านข้อความในไลน์อย่างฉุนเฉียว อารมณ์ของฉันตอนนี้ยังไม่ดีขึ้นเลย เพราะว่าเอาผิดจากยัยนั่นไม่ได้แถมยังกลายมาเป็นนางมารร้ายต่อหน้าคนอื่นๆ อีก เป็นเชียร์นั่นเองที่ส่งข้อความมา เขายังไม่นอนอีกเหรอหรือว่ากำลังซ้อมบาสอยู่
ชัยชนะ : เห็นข่าวเธอเมื่อกี้ที่หน้าเพจมหาลัย
ชัยชนะ : เป็นห่วงก็เลยทักมาถาม
ข่าวไวดีเนอะ เพจมหาลัยก็คือเพจที่นักศึกษาทำขึ้นมาเองเพื่อให้ความรู้กันในเพจ และพูดคุยเรื่องกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ในเพจนี้ก็จะมีทุกคณะที่เข้าร่วมและพูดคุยกัน เสมือนรู้จักกันมานาน ฉันไม่ค่อยสนใจเพราะฉันเป็นคนไม่ชอบทำกิจกรรมอยู่แล้วนานๆ ถึงเข้าไปดูที
ลัลลลิลล์ : เจ็บตัวนิดหน่อยน่ะ