SOMETHING14:คนมันหวง

1505 Words
SOMETHING 14 ******************** ฉันใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมตัวเองไปด้วยและคุยไลน์กับเชียร์ไปด้วย รู้สึกดีใจยังไงไม่รู้ที่มีคนมาถามด้วยความเป็นห่วงแบบนี้ จากที่ไม่เคยมีคนมาใส่ใจแต่ตอนนี้ฉันกลับมีเพื่อนที่คอยถามอย่างเป็นห่วง ฉันยิ้มให้กับข้อความที่เพิ่งถูกส่งเข้ามาโดยลืมไปว่ายังมีอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในห้องนี้กับฉันด้วย ชัยชนะ : อร่อยมั้ยข้าวขาหมู ลัลลลิลล์ : อย่าล้อกันสิ ลัลลลิลล์ : ไม่กล้ากินข้าวขาหมูไปอีกนานเลย ฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานเพื่อที่จะนั่งคุยแชทกับเชียร์ต่อสักพักถึงจะนอน หางตาฉันเหลือบไปเห็นโฟร์นั่งมองมาที่ฉันอยู่ เขากำลังจ้องฉันอยู่จริงๆ นะสายตาของเขามองมาเหมือนไม่พอใจอะไรไม่รู้ ทำให้ฉันต้องหันไปมองเขาเพื่อที่จะถามว่ามีอะไรไม่พอใจในตัวฉันหรือเปล่า หรือเขามีอะไรอยากจะพูดกับฉัน ที่จริงฉันไม่จำเป็นต้องใส่ใจเขาก็ได้นะ เพราะเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตฉัน แต่ที่ต้องถามเป็นเพราะสายตาที่เขามองฉันมันเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่างเหมือนว่าฉันไปทำให้เขาโกรธ ที่จริงควรจะเป็นฉันต่างหากนะที่ต้องโกรธเขาเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันเป็นเพราะเขาคนเดียวที่ทำให้ทึกคนเกลียดฉัน “มีอะไรข้องใจหรือเปล่า?” ฉันถามห้วนๆ เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าฉันไม่เต็มใจที่จะคุยกับเขาเท่าไหร่ ฉันวางไอโฟนในมือลงสายตาของโฟร์ก็จับจ้องไปที่ไอโฟนของฉันทำให้ฉันต้องมองตาม “มองมือถือฉันทำไม?” “ขอยืมหน่อยดิ” อยู่ดีๆ ก็จะยืมเนี่ยนะ ของเขาก็มีจะเอาของฉันไปทำไม โฟร์เดินเข้ามาหาฉันก่อนจะนั่งลงที่ปลายเตียงฉัน เขามองหน้าฉันโดยที่ไม่ได้ละสายตาไปไหน “มือถือฉันหายหาไม่เจอเลยจะให้เธอช่วยโทรเข้าหน่อย” “เอาไปดิ” ฉันยื่นไอโฟนของตัวเองให้โฟร์ โฟร์รับมันไปก่อนจะกดโทรหามือถือของเขาก็ได้ยินว่ามันดังมาจากเตียงนอนของเขา เขาวางสายไปก่อนจะยื่นมันคืนมาให้ฉัน ฉันรับมาอย่างงงๆ และเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ฉันก็เลยไม่สนใจเขาอีก “เธอชอบมันเหรอ?” คราวนี้โฟร์หันมาถามฉันอย่างจริงจัง ใบหน้าของเขาดูจริงจังกับเรื่องนี้มาก และเหมือนว่าเขาอยากรู้คำตอบเดี๋ยวนี้เลย เขาพูดเรื่องอะไรของเขาฉันชอบใคร ฉันแสดงอาการเหมือนแอบชอบใครเหรอ “นายหมายถึงใคร?” “ใครล่ะที่เธอคุยไลน์ด้วย?” แสดงว่าเมื่อกี้เขาคงจะสังเกตตอนที่ฉันยิ้มกับมือถือตัวเอง แล้วอะไรที่ทำให้เขาคิดว่าฉันชอบเชียร์ล่ะ ฉันไม่ได้มีทีท่าแสดงออกแบบนั้นเลย อีกอย่างฉันก็เพิ่งจะได้เป็นเพื่อนกับเขาก็วันนี้เอง มันจะข้ามขั้นเร็วเกินไปหน่อยมั้ย “ถ้าชอบมันบอกฉันได้นะ” “ถ้าฉันชอบเชียร์ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย?” นี่มันตัวฉัน ใจของฉัน ฉันจะชอบใครรักใครมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน และฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องบอกเขาด้วยว่าฉันชอบใคร เราเพิ่งรู้จักกันได้แค่สองวันมาทำเป็นสนิทสนมกันมากเกินไปหรือเปล่า “มันเป็นเรื่องของคนสองคนทำไมต้องให้คนอื่นมายุ่งด้วย” “ตามสบาย” พูดจบเขาก็ตึงตังเดินออกจากห้องไป ไม่บอกก็รู้ว่าคงไปหาผู้หญิงเมื่อคืนนี้ที่เขาไปนอนกับเธอมา ก็ดีแล้วฉันจะได้นอนหลับอย่างสบายใจ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาคิดร้ายกับฉันหรือเปล่า เพราะฉันก็ไม่ได้อยากให้เขาอยู่ห้องกับฉันเท่าไหร่ ยิ่งต่างคนต่างอยู่ได้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลย “วันนี้เธอมาดูฉันซ้อมบาสด้วยอ่ะ โคตรดีใจเลย” ฉันยื่นน้ำให้เชียร์ที่วิ่งหอบมาหาฉันที่ฉันรอเขาซ้อมบาส ที่จริงกะว่าจะไม่มาหรอกแต่วันนี้ฉันมีเรียนเช้าตอนบ่ายก็ว่างเลยไม่รู้จะทำอะไร มาดูเขาเล่นบาสก็ไม่เลวเหมือนกันจะได้สนิทกับเพื่อนๆ ด้วย “ไม่ได้มีแค่ฉันหรอกนะที่มา เพื่อนๆ นายก็มาด้วย” ฉันชี้นิ้วไปที่โต๊ะข้างๆ ที่เพื่อนๆ ของเขาก็มาดูเขาซ้อมบาส ที่จริงเราคุยกันในไลน์กลุ่มเมื่อเช้าว่าจะแวะมาดูเชียร์ซ้อมบาส ส่วนฉันที่อยากมีเพื่อนก็เลยตามมาด้วย เพื่อนๆ ของเชียร์น่ารักกันทุกคนเลยนะไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พวกเขาจะชวนฉันคุยตลอดเพื่อให้ฉันไม่เบื่อ “พวกนั้นมันมาทุกวันอยู่แล้ว แต่วันนี้เซอร์ไพรส์มากที่เจอเธอที่นี่” ฉันส่งยิ้มให้เขาก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิมกับเพื่อนๆ ของเขา การที่ฉันมาดูเขาซ้อมบาสนี่มันเป็นเรื่องที่น่าดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ยักรู้แฮะ “แบบนี้เธอต้องมาดูเชียร์เล่นบาสบ่อยๆ แล้วนะรัน” คำพูดของแก้วทำให้ฉันงง ทำไมต้องเป็นฉันล่ะที่มาดูเชียร์ซ้อมบาส เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย “รู้หรือเปล่าที่เชียร์มันกระปี้กระเปร่าขนาดนี้เพราะเธอมาดูมันเลยนะ” “พูดอะไรของเธอน่ะแก้วฉันไม่เข้าใจ” “ดูไม่ออกหรือไงว่าเชียร์มันคิดยังไงกับเธอ?” ฉันตกใจกับคำพูดของน้อยหน่า คิดอะไรในที่นี้คงเดาได้ไม่ยากว่ามันคืออะไร เชียร์เนี่ยนะคิดเกินเลยกับฉันมากกว่าเพื่อน ฉันว่าไม่ใช่แล้วล่ะมั้ง ฉันไม่เห็นว่าเขามีทีท่าว่าจะชอบฉันเลยสักนิด “เชียร์แอบชอบเธอนะจ๊ะรัน ไม่อย่างนั้นเมื่อวานมันจะเดินไปหาเธอเหรอ” “ก็เขาบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับฉัน” “แล้วเธอก็เชื่อมัน?” แล้วมีเหตุผลอะไรที่ฉันจะไม่เชื่อล่ะ ก็เขาไม่ได้ทำตัวเหมือนจะจีบฉันเลย เขาเดินเข้ามาก็บอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับฉันก็แค่นั้นเอง และการที่เขาไลน์มาหาฉันเมื่อคืนก็เพราะเขาเป็นห่วงฉันในฐานะเพื่อนก็เท่านั้นเอง แล้วมันจะมีอะไรมากกว่านี้ได้ยังไง “เอางี้เธอลองสังเกตมันไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน เธออาจจะอ่อนกับเรื่องพวกนี้ ก็เลยไม่รู้ว่าเชียร์มันคิดยังไงกับเธอ” ฉันส่ายหน้าเพื่อบอกให้เลิกพูดเรื่องพวกนี้ได้แล้ว มาพูดอะไรเรื่องพวกนี้ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงเดี๋ยวเชียร์ก็หาว่าไปนินทาเรื่องของเขาเสียๆ หายๆ อีก “ไม่อยากฟังแล้ว” “ที่ไม่อยากฟังเป็นเพราะกลัวจะหลงชอบเชียร์มันขึ้นมาใช่มั้ยล่ะ?” น้อยหน่าพูดแซว ฉันไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเชียร์เลยนะ อีกอย่างเราก็เพิ่งรู้จักกัน ทำไมถึงมีแต่คนมาจับคู่ให้ฉันกับเชียร์นักนะ เมื่อคืนก็เป็นโฟร์วันนี้ก็เป็นเพื่อนๆ ของเขา ฉันกับเชียร์ดูเหมาะสมกันขนาดนั้นเลยเหรอ “เอาม้ะเดี๋ยวฉันบอกเชียร์ให้” “เลิกเพ้อเจ้อได้แล้วน้อยหน่า” หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินว่าน้อยหน่าจะเอาเรื่องนี้ไปพูดให้เชียร์ฟังทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าเธอเอาไปพูดฉันกับเชียร์จะมองหน้ากันได้ยังไง ฉันลุกขึ้นเพื่อที่จะกลับถ้าขืนอยู่ที่นี่ต่อไปต้องโดนแซวอีกแน่ๆ เลย ไม่ขออยู่ดีกว่า “ฉันกลับแล้วนะฝากบอกเชียร์ด้วยล่ะ” “ทำไมกลับเร็วจังอ่ะ รีบไปไหนเหรอ?” แก้วคว้าข้อมือฉันเอาไว้เพื่อถาม ยังไม่รู้อีกเหรอว่าฉันกลับเร็วเพราะอะไร ถ้าพวกเธอไม่แซวฉันฉันก็คงไม่ต้องรีบกลับแบบนี้หรอก “หรือเป็นเพราะพวกฉันแซวเธอเหรอ” รู้ตัวนี่ “เปล่าหรอก ฉันมีรายงานที่ต้องทำน่ะไปนะ” ฉันไม่รอให้เพื่อนๆ ได้พูดอะไรก็ชิ่งเดินออกมาก่อน พอออกมาได้ก็รู้สึกเป็นอิสระขึ้นมาทันทีเลย เหมือนนักโทษที่ได้รับอิสรภาพไรงี้ กลับห้องไปนอนตากแอร์เล่นแล้วกัน เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึกเหมือนกัน ไปพักผ่อนก่อนจะเริ่มทำงานก็ยังดี ช่วงเย็นๆ ค่อยออกมาหาไรกินที่ข้างล่างหอพัก หรือไม่ก็ซื้อมาม่ามาตุนไว้ในห้อง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD