แค่บังเอิญฤาพรหมลิขิต (75%)

3702 Words
ตกดึกคืนนั้น…  เงาดำทะมึนที่ยืนจังก้าอยู่ตรงประตู ทำให้เจ้าของห้องนอนโทนสีฟ้าสดใสเบิกตาโพลง มือเรียวทั้งสองข้างเย็นเฉียบ หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ การมองเห็นไม่ชัดเจน เพราะถอดแว่นตาหนาเตอะออกก่อนนอน ทำให้เธอตระหนกตกใจจนแทบช็อก เมื่อมีบุคคลไม่พึงประสงค์บุกรุกเข้ามาในยามวิกาลเช่นนี้ ทั้งที่ปกติค่อนข้างควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม “กรี๊ด!!!” อารดาหวีดร้องลั่น เมื่ออีกฝ่ายขยับเท้าเข้าหาหนึ่งก้าว สองก้าว และสามก้าว ทว่าจู่ๆ เจ้าของร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างกลับหยุดกึก นั่นก็เพราะว่าดวงตาคมกริบปะทะเข้ากับชุดนอนของเธอ  ‘โอ้…พระเจ้า ผู้หญิงคนนี้ใส่ชุดคอสเพลย์นอน!’ แม้ชุด ‘คอสเพลย์เซเลอร์มูน’ ที่เธอสวมอยู่จะหลวมโพรก แถมชายกระโปรงที่ควรจะสั้นจู๋ตามแบบต้นตำรับในการ์ตูนญี่ปุ่นยังยาวไปถึงครึ่งแข้ง แต่มันก็สามารถดึงดูดใจจนเขาไม่อาจถอนสายตาได้   ในวินาทีนั้นความกลัวมีมากเสียจนอารดาสามารถมองข้ามความอับอาย ที่มีคนมาล่วงรู้หนึ่งในสาม ‘ท็อปซีเคร็ต’ เธอพยายามเตือนสติตัวเองว่า หากมัวแต่หวาดผวาจนลนลานเหมือนคนขี้ขลาดตาขาวอยู่แบบนี้ เธอต้องตกเป็นเหยื่อของอีกฝ่ายแน่ๆ ทันทีที่คิดได้ดังนั้นสาวเจ้าก็พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ครั้นกู้สติที่หลุดลอยกลับมาได้สำเร็จ หญิงสาวก็รีบเหวี่ยงขาเรียวลงจากเตียง แล้วมองหาแว่นตา ซึ่งจำได้ว่าทิ้งไว้บนโต๊ะวางโคมไฟ แต่เพราะสายตาที่สั้นมากประกอบกับแสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้มือเรียวกวาดข้าวของร่วงกระจัดกระจายไปหมด แม้แต่โคมไฟก็ยังหล่นลงมากระแทกกับพื้นและแตกไปต่อหน้าต่อตา วินาทีถัดมาเจ้าของร่างอ้อนแอ้นก็ตัดสินใจสาวเท้าไปเอาปืนที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะอ่านหนังสือตรงมุมห้อง โดยอาศัยความเคยชินนำพา   “ถ้าไม่อยากสมองกระจุย ก็ไสหัวออกไปจากบ้านฉันซะ!” ทนายความสาวขับไล่เสียงลอดไรฟัน พร้อมเล็งปลายเจ้ามัจจุราชสีดำขนาดพอดีมือไปยังชายปริศนาอย่างแน่วแน่  “ปืนไม่มีลูกยิงถูกก็ไม่ตาย” พ่อคนโอหังยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ เขาสันนิษฐานไปตามสัญชาตญาณระคนวัดใจ หากแต่มันกลับถูกเผงจนน่าโมโห  “ฮึ่ย…” แม่สาวแสบทิ้งปืนลงบนพื้นอย่างคับข้องใจเหลือแสน   “หึ…หึ…” เสียงหัวเราะที่หลุดออกมาจากปากเจ้าของร่างทรงพลัง ทำให้อารดาถึงกับขนลุกเกรียวกราวไปทั้งสรรพางค์กาย แต่ยังดีที่เธอสามารถครองสติเอาไว้ได้   “คุณเป็นใคร เข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง” เจ้าบ้านเค้นเสียงขุ่นคลั่กซักไซ้ ครั้นจะขยับไปกดสวิตซ์ไฟที่ข้างผนังอีกฝ่ายก็เดินย่างสามขุมมาดักทางเอาไว้ ฉะนั้นเธอจึงต้องถอยหลังออกมาตั้งหลัก แล้วพยายามหรี่ตามองหน้าเขา โดยอาศัยแสงจันทราในคืนเดือนหงายที่สาดส่องเข้ามาจากภายนอกเป็นตัวช่วย   ‘เอ๊ะ…ทำไมเราถึงรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้จังนะ’ หลังจากที่หญิงสาวเอียงคอครุ่นคิดอยู่สักพักก็นึกเอะใจ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก   “ตะลึงในความหล่อบาดใจของผม จนตาค้างเลยเหรอเบบี๋” แทนที่จะตอบให้เธอหายข้องใจชายหนุ่มกลับลอยหน้ายวนยั่วอย่างนึกสนุก ขณะยกลำแขนกำยำขึ้นกอดอกด้วยท่วงท่าแสนสบาย ผิดกับคนตัวเล็กที่กำลังหวาดหวั่นและจิตตกสุดขีด แต่กระนั้นเธอก็ยังพยายามกลั้นใจไม่แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาให้อีกฝ่ายได้เหิมเกริม   “ฉันถามว่าคุณเป็นใคร!” หญิงสาวยังคงย้ำวลีเดิมแต่น้ำเสียงแข็งกระด้างเป็นเท่าตัว ขณะดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายไม่กะพริบ เพราะถ้าหากเขาคิดจะเล่นทีเผลอเธอจะได้หาทางป้องกันตัวได้ทันท่วงที   “ฮ่าๆๆๆ” อารดากำลังตกอยู่ในภาวะตึงเครียดจนเส้นเลือดในสมองแทบแตก แต่พ่อเจ้าประคุณกลับระเบิดเสียงหัวเราะกัมปนาทออกมาเขย่าขวัญสั่นประสาทเสียอย่างนั้น   “ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ถ้าหัวเราะจนพอใจแล้ว ก็บอกมาสักทีว่าคุณเป็นใคร” แม่สาวตัวเล็กแต่ใจใหญ่ตวาดแว้ดเข้าให้ ที่ไม่ลงความเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นโจร เพราะเธอมีลางสังหรณ์ว่าจะเคยเจอผู้ชายคนนี้มาก่อน   “ผมก็เป็นคนที่จะพาคุณไปขึ้นสวรรค์ไงละยาหยี” เสียงกลั้วหัวเราะทว่าแฝงไปด้วยความโอหังโพล่งขึ้นทันควัน  “ฉันยังไม่ตายจะขึ้นสรรค์ได้ยังไง” หลังจากเอียงคอทำท่าคิดเพียงนิด หญิงสาวก็สวนกลับอย่างฉะฉาน ความไร้เดียงสาของเธอทำให้คนฟังอมยิ้มอย่างนึกขบขันระคนเอ็นดู   “ถึงยังไม่ตาย ผมก็พาคุณ ‘ขึ้นสวรรค์’ ได้” ชายหนุ่มผู้มากับความมืดมิดของราตรีกาลกล่าวอย่างครื้นเครง พร้อมมองดวงหน้าผุดผ่องด้วยสายตาไหวระริก   “อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ!” เสียงหวานตวาดแว้ด แล้วกำหมัดตัวสั่นเทิ้ม เมื่อเริ่มเข้าใจแล้วว่าคำว่า ‘ขึ้นสวรรค์’ ของเขามันมีความหมายเช่นไร   “ถ้าผม ‘เล่นลิ้น’ กับคุณจริงๆ คุณคงไม่มีโอกาสมายืนลอยหน้าอยู่แบบนี้หรอกทูนหัว” พ่อตัวโตยียวนพลางสืบเท้าเข้าหาร่างแน่งน้อยอย่างคุกคาม   “ปากเสีย!” อารดาตะเบ็งเสียงขุ่นคลั่กก่นด่าอย่างเดือดจัด ถอยหลังกรูด แล้วหันรีหันขวางเพื่อจะหาเครื่องทุ่นแรงมาประทุษร้ายอีกฝ่ายให้สาแก่ใจ แต่เมื่อไม่มีอะไรใกล้มือเธอก็ออกอาการฮึดฮัด   “ว้าว…ไม่น่าเชื่อว่า นอกจากจะใส่จีสตริงสีแดงโดนใจแล้ว คุณยังสวมชุดคอสเพลย์แบบน่ารักๆ นอนด้วยแฮะ” ทั้งที่เห็นชุดนอนสุดประหลาดของเธอในคราแรกแล้ว แต่เขาก็ยังไม่วายอุทานเสียงดังอย่างล้อเลียน ซึ่งคำว่า ‘จีสตริงสีแดง’ ที่อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยออกมาก็ทำให้อารดาถึงกับหูผึ่ง และมั่นใจว่าเขาจะต้องเป็นคนเดียวกับผู้ชายที่ปล้น ‘จูบแรก’ ของเธอไปแน่ๆ เพราะผู้ชายคนนั้นเป็นคนเดียวที่ล่วงรู้ในท็อปซีเคร็ตของเธอ  “คุณไม่มีสิทธิ์มาวิพากวิจารณ์ถึงความชอบส่วนตัวของฉัน” เธอเชิดหน้าตอบโต้เสียงแข็ง  “โอเค…อย่ามัวมาเสียเวลาต่อปากต่อคำกันอยู่เลย เราไปขึ้นสวรรค์กันเถอะเบบี๋ ผมอยากลอง ‘ของแปลก’ อย่างคุณเต็มทนแล้ว” ขาดคำพ่อหนุ่มจอมโอหังก็กระชากเสื้อผ้าออกจากกาย วินาทีถัดมาเรือนร่างเปลือยเปล่าสมบูรณ์แบบก็ปรากฏแก่สายตา อารดาแทบช็อก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็น ‘สรีระ’ และ ‘สัดส่วน’ ของผู้ชายอย่างเต็มๆ ตาชนิดตั้งแต่หัวจรดเท้า “ตะลึงในความ ‘อลังการ’ ของผมจนพูดไม่ออกเลยเหรอยาหยี” เขาเย้าอย่างยิ้มๆ “มามะ…เรามาสนุกกันเถอะ”  “ถ้าอยากตายก่อนวัยอันควรก็เข้ามา” แม่สาวใจกล้าเชิดหน้าท้าอย่างก๋ากั่นไม่หวั่นเกรง ถึงแม้เป็นหญิงเธอก็จะไม่ยอมเสียท่าให้คนยโสง่ายๆ แน่   “สาวเชยอย่างคุณจะทำอะไรผมได้” เขาปรามาสพลางเลิกคิ้วท้าทาย   “ถึงฉันจะเชย แต่ฉันก็สู้ยิบตา เพราะอย่างมากก็แค่ตาย” หญิงสาวเชิดหน้าประกาศกร้าว และพยายามบังคับสายตาให้อยู่ในระดับสูงกว่าอกกว้างของอีกฝ่ายตลอดเวลา เพราะกลัวว่าจะเผลอไปมองอะไรๆ ของพ่อคนไม่ได้โตแต่ตัวเข้าเป็นหนที่สอง ประเดี๋ยวจะเป็นตากุ้งยิงเสียเปล่าๆ  “อืม…พยศและใจเด็ดแบบนี้สิ มันถึงจะเร้าใจ” เจ้าของร่างทรงพลังหัวเราะลงคออย่างนึกสนุก   “นี่แน่ะ!” ทันใดนั้นอารดาก็อาศัยทีเผลอซัดหมัดเข้าที่หน้าท้องแบนราบอย่างแรง เรียกเสียงร้องอุ้บให้กระเด็นออกมาจากปากหยัก   “จุกแต่พอทน” เขายักคิ้วอย่างหน้าตาเฉย จนคนที่คิดว่าจะโค่นพ่อร่างยักษ์ได้ถึงกับอ้าปากค้าง หากแต่วินาทีถัดมาแม่สาวเชยที่มีพิษสงรอบด้านก็กระตุกยิ้มมาดร้าย   “งั้นก็เอาแบบลุกไม่ขึ้นเลยแล้วกัน” ขาดคำเธอก็เตะตัดขาแกร่งจนอีกฝ่ายล้มไม่เป็นท่า หากแต่พอแม่สาวใจเด็ดเตรียมจะหนีกลับถูกมือใหญ่ยึดข้อเท้าเอาไว้ ก่อนที่เขาจะออกแรงกระชาก  “ว้าย!” เสียงหวานหลุดอุทานออกมาจากปากจิ้มลิ้ม พร้อมกันนั้นร่างบอบบางก็เสียหลักล้มลงไปเกยอยู่บนกายทรงพลังที่ปราศจากเครื่องนุ่งห่มปกคลุม “โอ๊ะโอ๋…ชอบเป็นฝ่าย ‘รุก’ ซะด้วยแฮะ” เขาแสร้งล้อเลียนเสียงดัง ทันใดนั้นนัยน์ตาสีนิลของคนตัวเล็กพลันเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมานอกเบ้า เมื่อความ ‘คึกคัก’ อันน่าประหวั่นพรั่นพรึงกำลังทักทายสะโพกมนอย่างแข็งขัน   “อี๋…คนลามก น่าเกลียดที่สุด” อารดาทำท่าขยะแขยง ก่อนจะตัวเกร็งหน้าแดงซ่าน เมื่อพ่อเจ้าประคุณจงใจแอ่นกายบดเบียดเสียดสีกับร่างหอมกรุ่น ครั้นเธอตั้งท่าจะลุกหนีเขาก็จับตรึงเอวคอดกิ่วเอาไว้ แล้วยกใบหน้าหล่อลากไส้ขึ้นมากระซิบเย้าเสียงแตกพร่าชิดใบหูน้อย   “ชอบก็บอกมาเถอะน่าเบบี๋ ไซต์บิ๊กบึ้มชวนสยิวกิ้วขนาดนี้ไม่ได้หาง่ายๆ นะจะบอกให้ เพราะนี่ไม่ใช่แค่เห็นสวรรค์รำไร แต่เป็นการขึ้นสวรรค์แบบฟินเวอร์” “ไอ้หื่นจิต วิตถาร แกน่ะสิชอบ!” ทนายความสาวเข่นเขี้ยวตอบโต้อย่างฉุนจัด เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกขานอีกฝ่ายจาก ‘คุณ’ เป็น ‘แก’ อย่างเสร็จสรรพ เพราะเธอไม่จำเป็นต้องให้เกียรติผู้ชายกักขฬะและหยาบคายอย่างเขา  “แหม…พูดแทงใจดำเข้าหน่อย เยินยอกันยกใหญ่เลยวุ้ย” เสียงกลั้วหัวเราะยวนยั่ว ชายหนุ่มเห็นความกราดเกรี้ยวของเธอเป็นเรื่องน่าอภิรมย์ ก่อนจะตวัดแขนรวบร่างอ้อนแอ้นเอาไว้ได้ทันท่วงที เมื่อแม่ตัวดีคิดจะใช้ทีเผลอในการชิ่งหนี “จะไปไหนจ๊ะ เรายังไม่ได้ ‘รุก’ และ ‘รับ’ กันแบบมันหยดติ๋งๆ เลยนะเด็กน้อย”   “ฮึ่ม…ไอ้บ้า เป็น ‘หมา’ หรือไงฮะ ถึงได้กัดไม่ปล่อยแบบนี้ นี่แน่ะ!” ยังไม่ทันจะขาดคำสาวแสบก็กางมือออกกว้างๆ แล้วผลักใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้แค่คืบเต็มแรง ก่อนจะสับสันมือลงที่แขนแกร่งยังผลให้เขาคลายพันธนาการที่ร้อยรัดเอวคอดกิ่ว พร้อมคำรามกระหึ่ม จากนั้นเธอก็ดันกายลุกขึ้น แล้วเร่งซอยเท้ายิกๆ ไปยังประตูห้องนอน เห็นดังนั้นพ่อคนโอหังก็รีบเด้งตัวขึ้น ก่อนจะกระโจนเข้าประชิดร่างเพรียวระหงอย่างฉับไว   “แม่ตัวแสบ วันนี้เธอไม่รอดแน่!” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเข้ม ครั้นสาวเจ้าเอื้อมมือจะไปจับลูกบิดประตูเขาก็ไวกว่าคว้ามันไว้ได้ก่อน “จะไปไหนฮึ”   “ก็ไปให้พ้นๆ หน้าไอ้ผู้ชายเฮงซวยอย่างแกไงละ” คนตัวเล็กเค้นเสียงแข็งกระด้างสวนกลับทันควัน “มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั้งทูนหัว” น้ำเสียงห้าวทุ้มว่าอย่างเย้ยๆ   “ถ้าขวางฉันได้ก็ลองดู” ชั่วพริบตาเธอก็หันขวับกลับมาเผชิญหน้ากับเขา แล้วกระทืบเท้าใหญ่เต็มเหนี่ยว จากนั้นก็อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวเสยหมัดน้อยๆ ทว่าพิษสงมหาศาลใส่ปลายคางได้รูป ตบท้ายด้วยการสับศอกเข้าที่ชายโครงแกร่ง จนร่างผึ่งผายถึงกับทรุดกายลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นด้วยความจุกและเจ็บ   “เฮอะ…นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็อ่อนหัด” สาวแสบแค่นยิ้มหยันอย่างลำพองใจ วาจาสบประมาทที่หลุดออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มทำให้คนโดนลบเหลี่ยมถึงกับกัดฟันกรอด นัยน์ตาสีเฮเซลวาวโรจน์ขึ้นทันควัน รู้สึกเจ็บใจเหลือคณาที่ต้องมาพลาดท่าให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ เยี่ยงนี้  “ชอบแบบซาดิสต์ก็ไม่บอก ป๋าจะได้จัดให้” เขาเค้นเสียงลอดไรฟันคำรามห้าวต่ำ พร้อมแสยะยิ้มเหี้ยม จากนั้นก็เคลื่อนกายอย่างคล่องแคล่วว่องไวมารวบร่างอ้อนแอ้นเอาไว้ ก่อนที่เธอจะไปถึงประตูเป็นหนที่สอง  “ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า!” หญิงสาวดีดดิ้นและขัดขืนอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่สุดท้ายก็ไม่อาจสู้แรงพ่อตัวโตไหว จำต้องยืนหอบแฮ่กๆ อยู่ในอ้อมกอดแกร่ง พร้อมมองใบหน้ากวนๆ ด้วยประกายตาดุวับ   “อันที่จริงแล้วผมก็ชอบชุดคอสเพลย์แบบน่ารักมุ้งมิ้งของคุณนะทูนหัว แต่ถ้าไม่มีจะดีกว่า…” ทันใดนั้นพ่อคนโอหังก็ฉีกกระชากชุดนอนของเธอ  แคว่ก! “กรี๊ด!!!” เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองขาดวิ่นหลุดติดมือกระด้าง แม่สาวเชยก็หวีดร้องลั่น ทำหน้าแตกตื่นตกใจ รีบขืนกายออกจากวงแขนแข็งแรง แล้วลนลานยกมือน้อยขึ้นปิดหน้าอกสล้างพัลวัน ส่วนขาทั้งสองข้างก็หนีบเข้าหากันเพื่อซ่อนเร้นส่วนสงวน   “โอ้…พระเจ้า น่าหม่ำเป็นบ้า!” หลังจากกวาดสายตาหื่นกระหายมองตั้งแต่หัวจรดเท้าเจ้าของเรือนร่างสวยสะพรั่ง ที่มีเพียงชุดชั้นในสีแดงสุดเซ็กซี่ห่อหุ้ม ชายหนุ่มก็อุทานออกมาด้วยความพึงพอใจ สัดส่วนของแม่เจ้าประคุณอะร้าอร่ามเย้ายวนกำหนัดยิ่งนัก และที่สำคัญสองเต้าเขย่าโลกก็หาได้บี้แบนอย่างที่เขาเคยแอบปรามาสไม่   “อย่ามองนะไอ้บ้า บอกว่าอย่ามองไงเล่า!” เธอร้องห้ามปรามเสียงหลง ดวงหน้าพริ้มเพราแดงแจ๋   “รู้ไหมทูนหัว…ว่าสีแดงมันทำให้ผม ‘คึกคัก’ โดยเฉพาะเมื่อแม่สาวเชยอย่างคุณใส่บราเซียร์และจีสตริงสีแดง เห็นแล้วผมแทบคลั่งเสียให้ได้” เขาเค้นเสียงหอบหนักๆ ออกมาจากริมฝีปากแห้งผาก กายทรงพลังร้อนรุ่มเหมือนมีไฟสุมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพียงแค่ได้ยลโฉมอันแท้จริงซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายใต้ชุดนอนสุดประหลาดแต่เร้าใจพิลึก   “ถ้าฉันรู้ว่าคุณชอบมัน ฉันจะไม่ใส่”  “งั้นก็ถือว่าโชคเข้าข้างผม” พ่อหนุ่มมาดทะเล้นไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนจะยียวนแต้มยิ้ม ขณะเยื้องย่างกรายเข้าหาร่างสะโอดสะองด้วยมาดทระนงองอาจ “ไอ้มนุษย์หื่น ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ไอ้โรคจิต!” ทนายความสาวด่าทอขณะถอยหลังไม่เป็นขบวน ในตอนนี้อารดาจำต้องกลั้นใจข่มความกระดากอายอันเนื่องมาจากการไร้อาภรณ์ห่มกาย เพราะหากมัวแต่ทำท่ากระมิดกระเมี้ยนเธอต้องไม่รอดพ้นจากเงื้อมมือของอีกฝ่ายเป็นแน่   “นอกจากผมจะเป็นไอ้ต่างๆ นานาที่คุณว่าแล้ว ผมยังเป็น ‘ไอ้ลามกหื่นกาม’ ตัวยงด้วยนะทูนหัว” พ่อหนุ่มมาดกวนแอ่นอกประกาศอย่างหน้าตาเฉย กลิ่นกายแห่งบุรุษเพศเจือด้วยกลิ่นบุหรี่จางๆ ที่ลอยมาปะทะจมูกรั้นทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวจับจิต หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมานอกอก ทว่าเธอก็ยังแสดงความอวดดีออกมาด้วยการเชิดหน้าคอแข็ง   “ทุเรศ!” คนตัวเล็กแผดเสียงประณามดังกึกก้อง เพื่อกลบเกลื่อนความขลาดที่ซุกซ่อนอยู่ในส่วนลึก “มามะ…ยาหยี มาให้ผมจับกินตับซะดีๆ” หลังจากแหงนหน้าระเบิดเสียงหัวเราะรับคำด่าทอของแม่สาวฝีปากจัดจ้าน เขาก็ไล่ต้อนจนร่างสวยเซ็กซี่ไปติดแหง็กอยู่ที่ผนัง จากนั้นก็ใช้ลำแขนกำยำทั้งสองข้างตีกรอบให้ยัยตัวร้ายไร้ซึ่งหนทางหนี ทำให้เธอกระทืบเท้าแรงๆ ด้วยความคับข้องใจ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะสว่างวาบ เมื่อไอเดียเด็ดๆ ผุดขึ้นมาในสมองแบบปัจจุบันทันด่วน และเธอก็จะไม่ปล่อยให้มันเป็นแค่ความคิด ทันใดนั้นสาวแสบผู้ยังไม่สิ้นฤทธิ์ก็กระโดดขึ้นเอาศีรษะน้อยโขกเข้าที่ปลายคางบึกบึนสุดแรงเกิด ส่งผลให้พ่อเจ้าประคุณอุทานลั่น และเผลอลดมือลงจากข้างฝามากุมคางตัวเอง ซึ่งนั่นก็เป็นการเปิดโอกาสให้เธอหนี แต่อารดาไปได้ไม่กี่ก้าวอีกฝ่ายก็ตามมายึดข้อมือกลมกลึงเอาไว้ ทำให้หญิงสาวต้องจำใจหันกลับมาประจันหน้ากับคนโอหังอย่างอาจหาญ ไม่นานความชุลมุนลูกย่อมๆ ก็บังเกิด เขาวิ่งไล่ต้อนจนเธอหอบแฮ่กๆ ครั้นทนไม่ไหวแม่สาวใจกล้าก็ปักหลักสู้ยิบตา เรียกได้ว่างัดศิลปะการป้องกันตัวแทบทุกแขนงออกมาใช้ ไม่ว่าจะหมัด ศอก เข่า ลูกถีบ แต่เขาก็ดักทางและรับมือได้เสียหมด สุดท้ายเธอก็ตกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งอย่างน่าโมโห หนำซ้ำยังต้องมาถูกพ่อคนโอหังโยนโครมลงบนเตียงแบบไม่ปรานีปราศรัย วินาทีถัดมาเจ้าของร่างทรงพลังก็เคลื่อนกายขึ้นมาทาบทับ   “ถอยไปนะ ลงไปจากตัวฉัน!” คนตกเป็นรองตะคอกไล่ พลางยกมือผลักดันแผ่นอกกว้างซึ่งอยู่ห่างแค่คืบ ลมหายใจผ่าวร้อนที่รินรดผิวแก้มนวลทำให้เธอขนลุกซู่ และหายใจไม่ทั่วท้อง   “ฤทธิ์เยอะนัก ก็ต้องเจอแบบนี้” ขาดคำเดเรคก็ก้มลงดูดกลีบปากอิ่มอย่างเร่าร้อนรุนแรง ทำเอาคนถูกปล้นจูบแบบไม่ทันตั้งตัวถึงกับเบิกตาโพลง ก่อนที่จอมฉกฉวยจะสอดแทรกเรียวลิ้นสากเข้าไปดื่มด่ำกับความหวานล้ำในกระพุ้งแก้มนุ่ม ลีลาจูบกระชากวิญญาณทำให้คนอ่อนประสบการณ์มิอาจต้านทานไหว กระแสธารปรารถนาที่ไม่รู้ว่าหลั่งใหลมาจากไหนกำลังเผาผลาญไปทั้งเรือนกาย จนเธอเผลอหลุดเสียงครางน่าละอายออกมา อีกทั้งสติก็เริ่มหลุดลอยจนไม่รู้ว่าเขากระชากชุดชั้นในออกจากร่างตั้งแต่เมื่อใด   “ซ่อนรูปดีแท้” เสียงห้าวกระด้างคำรามลอดไรฟัน เมื่อมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นอย่างร้อนรนด้วยความหิวกระหายจัด ก่อนจะมาหยุดลงตรงทรวงอกนุ่มหยุ่นราวสปริงชั้นดี แล้วเคล้นคลึงอย่างเมามัน จนสาวแสบหลุดเสียงครางหวิวไหวออกมา ทั้งที่ควรจะขยะแขยงสัมผัสจากคนกักขฬะที่กำลังจะปล้นสวาทเธออย่างอุกอาจ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกวาบหวามและร้อนรุ่มไปทั้งสรรพางค์กาย จนต้องเผลอตอบสนองการโอ้โลมของอีกฝ่ายด้วยท่าทางเงอะๆ งะๆ ทว่าสามารถเรียกเสียงครางพร่าต่ำให้กระเด็นออกมาจากปากหยัก ความไร้เดียงสาของเธอกำลังฉีกทึ้งการควบคุมของชายผู้เปี่ยมด้วยความเป็นบุรุษเพศจนขาดกระจุย   ปากร้อนร้ายผวาเข้าครอบครองยอดปทุมถันสีหวาน แล้วดูดดึง ดื่มกิน และงาบงับอย่างตะกละตะกลาม ขณะที่ฝ่ามือใหญ่ฟอนเฟ้นไปทั่วร่างเย้ายวน จากนั้นพ่อหนุ่มนักรักก็เคลื่อนริมฝีปากร้อนระอุเลาะเล็มลงไปตามเรือนร่างหอมกรุ่นอย่างเชื่องช้าบาดอารมณ์ จนคนที่ไม่สามารถช่วยอะไรตัวเองได้ต้องหลับตาปี๋ กลั้นใจ และเม้มปากแน่นเพื่อไม่ให้หลุดเสียงครางน่าอายออกมา แต่แล้วเธอก็ต้องหายใจขาดเป็นห้วงๆ เมื่ออีกฝ่ายพรมจูบหน้าท้องแบนราบไร้ไขมันส่วนเกิน บ้างก็ตวัดลิ้นหยอกเอินหลุมสะดือน้อยน่ารัก นาบขบขย้ำปลีน่องขาวผ่อง ก่อนที่ดวงตาคมกริบประหนึ่งใบมีดโกนจะมาหยุดจ้องดอกไม้งามด้วยอาการหอบหายใจสะท้าน แล้วซบใบหน้าหล่อระเบิดลงไปหาความงดงามอันน่าลิ้มลองและหอมกรุ่น ส่งผลให้คนที่กำลังจะจมลงไปในห้วงภวังค์หวามถึงกับสะดุ้งเฮือก   “อย่านะ อย่า ได้โปรด!” อารดาละล่ำละลักประท้วงเสียงสั่นระริก พร้อมดิ้นรนขัดขืนเท่าที่กำลังจะอำนวย หากแต่กลับถูกมือใหญ่จับตรึงสะโพกมนเอาไว้อย่างแน่นหนา เมื่อไร้หนทางต่อต้าน เธอก็เปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อน ด้วยการวิงวอนพร้อมส่ายใบหน้าแดงก่ำจนผมกระจาย หากแต่เขากลับทำเป็นหูทวนลม แล้วใช้เรียวปากร้ายกาจปรนเปรอความอ่อนนุ่มทว่าน่าค้นหาแห่งอิสตรีด้วยสัมผัสซาบซ่านสะท้านทรวง ก่อนที่พ่อเจ้าประคุณจะใช้ลิ้นผสานกับนิ้วเข้าจู่โจมเลียนแบบการร่วมรักอันทรมานแต่แสนวาบหวาม ล่อลวงให้เธอติดบ่วงเสน่หาจนต้องละพยศ และลืมตัวลืมอาย   อารดาหยัดกายขึ้นรับความหฤหรรษ์ ขณะเผยอปากเจ่อครวญคร่ำด้วยความเสียดเสียวสุดใจขาดดิ้น ใบหน้าแฉล้มบิดเบ้ เล็บสั้นๆ ทั้งสิบดึงทึ้งผ้าปูที่นอนเพื่อให้มันช่วยบรรเทาความร้อนรุ่มที่กำลังแล่นปราดมากระจุกตัวอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของกายสาว แต่แล้วเธอก็ต้องครางฮืออย่างแสนเสียดาย เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็หยุดชะงักการกระทำอันเร้าใจลงกลางคัน ทั้งที่เธอกำลังจะขึ้นไปเยือนดินแดนสวรรค์อยู่รอมร่อ จากนั้นเจ้าของร่างทรงพลังก็เลื่อนกายขึ้นมาตะโบมจูบกลีบปากสีระเรื่ออย่างดูดดื่มเนิ่นนาน กระทั่งตักตวงความหวานฉ่ำจากโพรงปากอิ่มอุ่นอย่างเร่าร้อนเต็มอารมณ์หวามจนหนำใจ เขาถึงได้ยอมผละห่างด้วยท่าทางอ้อยอิ่ง   “มอบพรหมจรรย์ให้ผมเถอะนะทูนหัว ผมสัญญาว่าจะพาคุณไปพบกับความหฤหรรษ์ ที่ทั้งสนุกสุดเหวี่ยงและเสียววาบยิ่งกว่านั่งรถไฟเหาะตีลังกาเสียอีก” เสียงหอบพร่ากระซิบชิดหูแม่คนไม่ประสาเป็นเชิงตะล่อม ก่อนจะขบเม้มติ่งหูน้อยเบาๆ อย่างปลุกเร้าอารมณ์พิศวาส จนเธอซ่านสยิวไปทุกรูขุมขน หากแต่สำนึกส่วนดีก็เตือนสติว่าเธอจะต้องไม่เสียสาวให้ผู้ชายกักขฬะและหื่นกามคนนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD