bc

จอมโอหังเผด็จรัก (ซีรีส์ชุดจอมใจ ลำดับที่ 2)

book_age18+
779
FOLLOW
2.5K
READ
twisted
sweet
like
intro-logo
Blurb

เดเรค เบอร์ยาน็อฟสกี้ เจ้าพ่อค้ายาชูกำลังและยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศรายใหญ่ของโลก ต้องโมโหจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง เมื่ออยู่ๆ ตนก็ตกเป็นจำเลยสังคมในคดีที่ชายสูงวัยกินยาของทางบริษัทแล้วดันไปตายคาอกสาววัยเอ๊าะ แต่นั่นก็ไม่เท่ากับการที่เขาจะต้องโดนฟ้องร้องและขึ้นโรงขึ้นศาล แถมยัยทนายความสาวสุดเชย แต่ฝีปากจัดจ้านของฝ่ายตรงข้ามยังเป็นถึงคู่หมั้นที่เขาไม่ปรารถนา และในเมื่อแม่ตัวดี ‘สะเออะ’ มาหาเรื่องให้เขาปวดกะบาลดีนัก เขาก็จะจับสาวเจ้ามากักขังไว้ใต้อาณัติ แล้วลงโทษในความอวดดีด้วย ‘บทรัก’ ร้อนฉ่าองศาเดือด และ ‘ขยับสับสอด’ ชนิดไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน!

อารดา วิสเลอร์ ทนายความสาวน้องใหม่ไฟแรง สาวเชยผู้มีบุคลิกขัดแย้งในตัวเองขั้นรุนแรง แทบ

ช็อกเมื่อได้รู้ว่าคู่หมั้นของตนคือคนที่เธอ ‘แอบรัก’ มาตั้งแต่วัยเยาว์ ทว่าถึงแม้จะมีใจให้เขาหน้าที่ย่อมมาก่อนความรู้สึกส่วนตัว และถ้าเขาทำผิดจริงๆ เธอก็จะทำทุกวิถีทางให้เขาแพ้คดีความและไปรับโทษทัณฑ์ให้จงได้ ถึงแม้จะต้อง ‘เฉือนหัวใจ’ ตัวเองก็ตาม!

“อีกแล้วเหรอ…มิสเตอร์เบอร์ยาน็อฟสกี้ คุณซัดไอ้ยาเฮงซวยนั่นเข้าไปอีกแล้วเหรอฮะ!” อารดาตะเบ็งเสียงตะคอกลั่น ก่อนจะหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อเจ้าประคุณจะบ้าดีเดือดได้ขนาดนี้ นี่เป็นหนที่สามในรอบอาทิตย์ที่เขาตั้งตัวเป็นหนูทดลอง แล้วก็ต้องวิ่งซกมาบุกสำนักงานทนายความของเธอ แถมแต่ละครั้งก็ไม่ได้มาแบบสุภาพชนเขาทำกัน แต่มาด้วยความโหดและหื่นเต็มพิกัด และครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน

“อือฮึ…อีกแล้วจ้ะยาหยี ในเมื่อแสนรู้ดีขนาดนี้ก็มาเถอะ มามะ…เมียจ๋ามาให้ผัว ‘ฟาด’ ให้หาย ‘อยาก’ ซะดีๆ” เจ้าของร่างร้อนรุ่มประหนึ่งมีไฟสุมพยักหน้าหล่อระเบิดระเบ้อยอมรับ พลางกระชากร่างอรชรเข้าปะทะแผงอกกว้าง แล้วก้มลงบดขยี้กลีบปากสีระเรื่อด้วยความหื่นหิวราวพายุบุแคม จนเธอแทบหายใจหายคอไม่ทัน จวบจนกระทั่งเขาสัมผัสได้ว่าสาวน้อยจะขาดใจแล้วจริงๆ ถึงได้ยอมถอดถอนเรียวลิ้นร้ายกาจออกมาอย่างอ้อยอิ่ง

“โสเภณีตามข้างถนนมันไม่มีให้คุณฟาดแล้วหรือไง ถึงต้องคอยมาตามระรานฉันอยู่ได้” หลังจากสูดอากาศเข้าไปหล่อเลี้ยงจนฉ่ำปอด หญิงสาวตะเบ็งเสียงอย่างระอากับไอ้นิสัยหื่นไม่มีใครเกินของเขา

“ฟาดใครก็ไม่สำคัญ แต่ฟาดเมียนี่สิมันอย่าบอกใคร” แทนที่จะกราดเกรี้ยวในวาจาแดกดัน แต่เขากลับยิ้มร่ารับคำด่าราวกับมันเป็นพรอันเลอค่า หนำซ้ำยังมีหน้ามาทำสำบัดสำนวนกวนอารมณ์อย่างน่าหมั่นไส้ พลอยให้หญิงสาวต้องถลึงตาใส่จนแทบถลนหล่นออกมานอกเบ้า

“เชิญคุณมันไปคนเดียวเถอะย่ะ ฉันไม่เอาด้วยหรอก ไอ้คนเฮงซวย!” หญิงสาวผลักแผ่นอกกำยำแรงๆ แล้วตั้งใจจะยกเท้าขึ้นถีบร่างใหญ่ให้กระเด็น แต่เขาไวกว่าคว้าหมับเข้าที่ท่อนขาเรียวสวยซึ่งง้างขึ้น ยักคิ้วยั่วอารมณ์ แล้วจับมันมาพาดเอวสอบก่อนจะลูบไล้กระตุ้นเร้า

“คุณไม่เอา แต่ผมจะเอา แล้วก็จะเอาเดี๋ยวนี้ด้วย” ขาดคำคนเอาแต่ใจหญิงสาวก็ต้องร้องวี้ดออกมา เมื่อเท้าทั้งสองข้างไม่แตะพื้น เพราะพ่อตัวโตอุ้มมาวางลงบนโซฟา

“ได้โปรดเถอะ อย่าทำแบบนี้กับฉันเลย” หญิงสาวส่งเสียงสะท้านวิงวอน พลางส่ายหน้าปฏิเสธจนผมยาวสลวยกระจายล้อมกรอบใบหน้าแดงระเรื่อ

“ทนายความที่เคารพ ในห้วงเวลาพิศวาสบาดจิตเช่นนี้ คุณไม่มีสิทธิ์มาอุทธรณ์ฎีกา มีแต่ร้องอืออาได้อย่างเดียว” เขาปฏิเสธอย่างมาดมั่น ท้ายประโยคไม่วายพ่นวาจาสุดห่ามออกมา

chap-preview
Free preview
ปล้นจูบ (30%)
เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา   เวลาเที่ยงคืน… ‘ดาด้าลูกรัก ถือเสียว่านั่นเป็นประสงค์ของพระเจ้าก็แล้วกัน’ เพราะคำพูดกึ่งสอนสั่งของบิดาผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นยังคงดังก้องอยู่ในมโนสำนึกตลอดเวลา ทำให้อารดาพยายามคิดบวกกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หากแต่เธอให้คำจำกัดความว่า ‘คราวซวย’ ที่มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ไม่เว้นแม้กระทั่งในเวลาดึกดื่นเที่ยงคืนเช่นนี้   อารดากลับจากงานเลี้ยงรุ่น ที่เพื่อนสมัยเรียนรวมตัวกันจัดขึ้น ณ โรงแรมหรูใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง เกือบจะได้กลับไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สร่างเมาอยู่แล้ว แต่รถคู่ใจดันมางอแงก่อนจะถึงปากซอยทางเข้าบ้านแค่สองร้อยเมตร หลังจากโทร.ไปเรียกช่างซ่อมเจ้าประจำ ซึ่งเปิดให้บริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงมาลากรถไปเข้าอู่ เธอก็เดินตุปัดตุเป๋กลับบ้านในสภาพเมานิดๆ   “โอ๊ย…ม่ายน่าลองกินเหล้าเลยเรา ปวดหัวชะมัด ให้ตายสิ!” เสียงยานคางเล็กน้อยบ่นอุบกับตัวเอง ขณะยกมือขึ้นคลึงขมับอิ่ม เพื่อให้มันช่วยบรรเทาอาการมึนหัวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในกระแสเลือด   “อุ๊ย!” เดินเซเข้าซอยมาได้ไม่นานคนเมาก็หลุดอุทานออกมา เพราะสะดุดขาตัวเองจนเกือบล้มหัวคะมำ ก่อนจะย่อตัวลงถอดรองเท้าส้นสูงคู่สวยออกอย่างทุลักทุเล จากนั้นก็เดินเท้าเปล่าพร้อมถือรองเท้าเอียงกะเท่เร่ซ้ายทีขวาที บ้างก็ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเกินเหตุ  “โอ้เหล้าจ๋า…หันมายิ้มหน่อยซิ ยิ้มซิ ยิ้มซิ ที่รักยิ้มนานๆ อย่าด่วนใจดำทำรำคาญ ฉันจะแต่งงานกับเธอใต้แสงจันทร์” นี่เป็นบทเพลงที่คุณยายซึ่งอยู่เมืองไทยชอบเปิดประชดเวลาที่คุณตากินเหล้าเมาหัวราน้ำ และเธอก็ยังจำได้ขึ้นใจตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็ก ถึงแม้ปัจจุบันอารดาจะไม่ได้ไปเยือนประเทศไทย เพราะญาติผู้ใหญ่ที่อยู่ทางโน้นได้สิ้นบุญไปหมดแล้ว แต่เธอก็ยังติดนิสัยฟังเพลงไทยมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้   “เอิ๊ก…คิดได้ยังไงเนี่ยยัยดาด้า จะแต่งงานกับเหล้า แค่ลองแก้วเดียวก็เมาแอ๋หัวทิ่มหัวตำแล้ว ฮ่าๆๆ” แม่สาวที่เพิ่งริดื่มเหล้าเป็นครั้งแรกในชีวิตหัวเราะอยู่คนเดียวราวกับคนบ้า สักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น  ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด  “ฮัลโหล…” หญิงสาวกรอกเสียงหวานติดจะอ้อแอ้ลงไปในสายทันควัน ครั้นไม่มีการตอบโต้จากผู้ที่โทร.มาอารดาก็ขมวดคิ้วมุ่น   “บ้าหรือเปล่าเนี่ย โทร.มาแล้วก็ไม่พูด” เจ้าของร่างอรชรบ่นอุบ พลางทำหน้ายุ่งเหยิง   “นี่คุณ จะพูดไหมคะ ถ้าไม่พูด ฉันจะวางสายแล้วนะ” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากเรียวปากสีชมพูระเรื่อชักจะเริ่มกระด้าง ก่อนจะฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ จึงค่อยๆ เบนสายตาสีนิลมามองสิ่งที่เพิ่งลดลงจากใบหูน้อย  “เฮ้ย…นี่มันรองเท้านี่นา บ้าไปแล้วยัยดาด้า” ขณะที่สาวเจ้ากำลังบ่นให้ตัวเองอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมก็กรีดร้องรบกวนโสตประสาทอีกครา เธอจึงรวบรองเท้าไปถือไว้ด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าสะพายใบเก๋อย่างทุกลักทุเล   “อารดาพูดค่ะ” หญิงสาวพยายามครองสติ แล้วกดรับสายทันที   “ดาด้า เธอถึงบ้านแล้วหรือยัง” เสียงแห่งความเป็นห่วงเป็นใยที่ดังแว่วมาตามสายทำให้อารดารู้ได้ทันที ว่าผู้ที่โทร.มาคือโคลอี้ เพื่อนสาวคนสนิทของเธอนั่นเอง   “เราเดินเข้าซอยมาแล้ว อีกแป๊บเดียวก็ถึง” อารดาตอบพลางก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางไม่มั่นคงนัก   “เราบอกว่าจะไปส่งเธอก็ไม่ยอม เห็นไหมล่ะดึกขนาดนี้ก็ยังไม่ถึงบ้านอีก” ผู้ที่โทร.มาเริ่มบ่นยืดยาว  “เราไม่เป็นไรหรอกน่า เธอไม่ต้องเป็นห่วง”   “โอเค กลับถึงบ้านแล้วโทร.หาเราด้วยนะ” ก่อนจะวางสายโคลอี้ยังไม่วายกำชับเสียงเข้ม ทำให้อารดาย่นจมูกใส่โทรศัพท์ เพราะขบขันแกมหมั่นไส้ที่อีกฝ่ายชอบทำตัวเป็นแม่แก่   “จ้า” เจ้าของร่างเพรียวระหงรับคำอย่างยิ้มๆ แล้วหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเช่นเดิม ไม่นานเสียงดังสนั่นก็แว่วขึ้นที่เบื้องหลังในระยะไม่ไกลมากนัก ปังๆๆๆ…  “ใครมาจุดพลุในเวลาดึกดื่นเที่ยงคืนแบบนี้เนี่ย ถ้าเป็นลูกเป็นหลานแม่จะฟาดให้ก้นลายเลยเชียว” หญิงสาวขยับกลีบปากอวบอิ่มบ่นเป็นหมีกินผึ้ง พลางขมวดคิ้วมุ่น   เขากำลังไล่ยิงกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน แต่แม่คุณดันเข้าใจผิดคิดว่ามีคนจุดพลุเล่น วินาทีถัดมาเสียงเพลงไทยอันแสนคุ้นหูก็ดังขึ้น พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ “เออชะรอยจะเป็นเนื้อคู่ ควรอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ…” แม่เจ้าประคุณร้องเพลงคลอเบาๆ พร้อมออกสเต็ปแดนซ์เซซ้ายเซขวา ทั้งที่ปกติเป็นคนค่อนข้างขี้อาย แต่เวลาสติไม่ครบถ้วนเช่นนี้อารดากลับบ้าสุดเหวี่ยง โดยไม่ได้นึกเอะใจเลยว่านั่นคือเสียงสายเรียกเข้าจากอีกหนึ่งซิมการ์ดที่บรรจุอยู่ภายในมือถือของตน   “เอ๊ะ…เมื่อกี้เสียงโทรศัพท์เรานี่นา ตายแล้วยัยดาด้า สวยแต่สติไม่เต็มเต็งได้อีกนะยะหล่อน” กว่าเธอจะนึกขึ้นได้เสียงเพลงก็เงียบไปเสียแล้ว อึดใจต่อมาอารดาก็หยุดกึกและย่นหว่างคิ้วโก่งเข้าหากัน   “เออ…ว่าแต่เมื่อกี้เราโทร.ไปหาใครนะ อุ๊ย…ไม่ใช่สิ ใครโทร.มาหาเราต่างหากละ แต่ก็ช่างประไร อยากคุยกับคนสวยก็ต้องขยันกดโทรศัพท์สิมันถึงจะถูก เพราะคนจะสวยช่วยไม่ได้” ท้ายประโยคคนที่มั่นใจว่าวันนี้ตัวเอง ‘สวย’ ยักไหล่เบาๆ พร้อมยิ้มร่า ทว่าสักพักก็ทำหน้ายุ่ง แล้วบ่นงึมงำ  “อืม…มึนหัวชะมัด” สาวเจ้าสะบัดศีรษะแรงๆ ก่อนที่สมองน้อยๆ ทว่าฉลาดเป็นกรดจะฉุกคิดขึ้นได้ “เออ…มีน้ำขวดเล็กๆ ที่โคลอี้ยัดใส่กระเป๋าให้เรานี่นา”   ขาดคำอารดาก็โน้มตัววางรองเท้าคู่สวยลงบนพื้นถนน แล้วล้วงขวดน้ำเปล่าออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะดื่มและล้างหน้ามันเสียตรงนั้น ความเย็นของน้ำทำให้เธอตาสว่างและหายมึนหัวไปได้มากเลยทีเดียว จากนั้นเจ้าของร่างแน่งน้อยก็ก้มลงเก็บรองเท้ามาถือไว้ในมืออีกครา  อึดใจต่อมาหูก็แว่วได้ยินเสียงฝีเท้าถี่ๆ มุ่งตรงมาทางนี้ ทันใดนั้นผู้ที่เพิ่งถอดเสื้อแจ็คเก็ตยัดลงถังขยะก็วิ่งมาชนเธอเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ร่างบอบบางเสียหลักพุ่งไปด้านหน้า “ว้าย!” แม่สาวน้อยอุทานเสียงหลง ด้วยเกรงว่าตนจะล้มลงไปจูบกับพื้นถนน หากแต่เดชะบุญที่เจ้าของร่างทรงพลังคว้าข้อมือกลมกลึงและกระชากให้เธอหมุนตัวกลับมาได้ทันท่วงที ก่อนที่เขาจะวาดเรียวแขนแกร่งมาเกี่ยวเอวอ้อนแอ้น ชั่วพริบตาร่างอรชรก็ปลิวไปปะทะแผงอกกำยำที่อุดมด้วยกล้ามเนื้อหนั่นแน่นเต็มแรง ตุ้บ!!!  ‘อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด…หน้าฉันซบอกล่ำๆ ของผู้ชาย!’ อารดาอุทานในอกด้วยความตะลึงพรึงเพริด หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักอย่างมิอาจห้ามได้ เจอสถานการณ์แบบนี้บวกกับฤทธิ์ของน้ำเปลี่ยนนิสัยซึ่งยังคั่งค้างอยู่ในกระแสเลือด ก็ทำให้แม่สาวเรียบร้อยที่รักนวลสงวนตัวเป็นชีวิตจิตใจออกแนวรั่วได้เหมือนกัน ครั้นจะผลักไสร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างให้ถอยห่างเธอก็ดันมือไม้อ่อน เพราะช็อกไปชั่วขณะ อันเนื่องจากว่าไม่เคยต้องมือชายมาก่อนในชีวิต  “ตามหาให้เจอ อย่าให้มันหนีไปได้!” เสียงตะโกนโหวกเหวกจากทางถนนใหญ่ที่ลอยตามลมมากระทบโสตประสาท ทำให้ชายหนุ่มสบถลั่น  “ระยำเอ๊ย!” ทันใดนั้นเดเรคก็ดันไหล่บอบบางออกจากร่างผึ่งผาย ทว่าไม่ได้ทำแม้แต่ปรายตามองหน้าสาวเจ้า เพราะกำลังพะวักพะวงกับกลุ่มคนที่หมายปลิดชีวิตของเขา หากพวกมันไม่ทำตัวเป็นหมาหมู่ สาบานได้เลยว่าเดเรคจะไม่ยอมหนีเหมือนคนขี้ขลาดอย่างนี้แน่ แต่ช่างเถอะ! แก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย “ไม่อยากทำอย่างนี้เลย บ้าชะมัด!” เสียงห้าวห้วนติดจะดุดันคำรามลั่นด้วยความคับข้องใจ จากนั้นปลายนิ้วกระด้างก็เชยคางมนขึ้น วินาทีแรกที่ได้มองหน้าอีกฝ่าย อารดาถึงกับตะลึงตาค้างในความหล่อบาดใจ ประหนึ่งเทพบุตรที่หล่นตุ้บมาจากสรวงสวรรค์ พลันรองเท้าในมือก็ร่วงผล็อยไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นถนน โอ้พระเจ้า! ให้ตายสิ! เธอแพ้คนหล่อ   “ไอ้เดเรค อย่าให้เจอตัวนะมึง พ่อจะยำให้เละเลย!” น้ำคำอาฆาตมาดร้ายที่ได้ยินจากระยะไม่ไกล ทำให้เจ้าพ่อหนุ่มตัดสินใจได้ในบัดดลว่าตนควรจะเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนี้ได้อย่างไร   “ถือว่าช่วยผมก็แล้วกันนะ”   เสี้ยววินาทีถัดมาใบหน้าหล่อลากไส้ก็ลอยเด่นอยู่ใกล้แค่คืบ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจผ่าวระอุที่รินรดซึ่งกันและกัน เขาไม่ได้สนใจจะมองหน้าเธอ เพราะดวงตาคมกล้าคู่นั้นเบนไปยังหน้าปากซอยอย่างระแวดระวัง แต่อารดานี่สิจ้องอีกฝ่ายไม่กะพริบ ก่อนที่เสียงหวานจะหลุดอุทานเบาๆ เมื่อมือใหญ่เคลื่อนมาจับตรึงท้ายทอยสลวยไว้มั่น  “อ๊ะ…อุ๊บ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ทว่ายังไม่ทันจะจับต้นชนปลายได้ก็ถูกอีกฝ่ายก้มลงมาปิดปากด้วยจุมพิตดุดันเสียแล้ว คราแรกเธอนั้นนิ่งงันคล้ายถูกสาป หากแต่ลมหายใจฟืดฟาดประหนึ่งกระหายจัดเจือด้วยกลิ่นบุหรี่จางๆ ก็ทำให้ร่างบางทะลึ่งพรวด และสร่างเมาได้อย่างชะงัด!   ‘หล่อแต่เลว ฉันไม่สน!’ ความคิดของอารดาเปลี่ยนไปทันควัน ครั้นพ่อตัวโตตวัดเรียวแขนกำยำข้างที่ว่างรัดรอบเอวอ้อนแอ้นอีกครา แม่สาวอ่อนเดียงสาก็ดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง  “อื้อ…” เสียงอู้อี้ครางประท้วงกลั้วลำคอระหง คนถูกปล้นจูบดิ้นรนต่อต้านสุดฤทธิ์ พลางระดมกำปั้นน้อยๆ ซัดเข้าที่ไหล่กว้างไม่ยั้ง หากแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยี่หระ แถมพ่อเจ้าประคุณยังสอดแทรกเรียวลิ้นร้ายกาจเข้าไปฉกฉวยความหวานล้ำจากกระพุ้งแก้มอิ่มอุ่นอย่างโอหัง การกระทำอันแสนอุกอาจทำให้อารดาหายเมาเป็นปลิดทิ้ง สติสัมปชัญญะกลับมาเกือบจะครบถ้วนร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม เพราะที่จริงแล้วเธอนั้นไม่ได้เมามากมายอะไร เพียงแค่ร่างกายไม่ชินกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ อีกทั้งน้ำเปล่าก็ช่วยได้มากเลยทีเดียว  ‘จูบไม่ประสา แถมยังเงอะๆ งะๆ แบบนี้ แม่สาวเวอร์จิ้นชัดๆ’ นั่นคือความคิดแวบแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองของพ่อหนุ่มจอมฉกฉวยมือฉมัง ผู้ผ่านสมรภูมิรักมาอย่างโชกโชน

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

กระชากกาวน์

read
7.9K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
8.0K
bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
15.1K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
26.0K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
7.0K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
6.1K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook