ดินเนอร์
วิชญ์เมื่อเขาได้รับรู้ข่าวสารเรื่องราวต่าง ๆ ของแฟนสาวจากอาร์เพื่อนลูกพี่ลูกน้องที่เขาวานให้ไปสืบ และเก็บรวบรวมรูปถ่ายคลิปการกระทำของเธอกับนาวาเอาไว้ เรื่องน้ำผึ้งกับนาวานั้นวิชญ์ก็ได้สั่งให้อาร์สืบต่อไปและเก็บหลักฐานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะเขาต้องไปจัดการเคลียทุกประเด็น และจัดการจับทั้งคู่ให้ได้คาหนังคาเขาให้ดิ้นไม่หลุดคนอย่างวิชญ์ภศุเขามีแผนการเสมอ ก่อนที่จะทำอะไรเขาคิดล่วงหน้าเอาไว้แล้วถ้าเขาตั้งใจจะทำเรื่องอะไรแล้วมันต้องสำเร็จเสมอ
บรรยากาศในห้องถูกตกแต่งไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวซึ่งเป็นดอกไม้ที่ปุยฝ้ายชอบ วิชญ์ได้แอบไปส่องโซเชี่ยลของเธอบ่อย ๆ จึงรู้ว่าเธอมีไลท์สไตล์แบบไหนชอบอะไรมันไม่ยากเลยสำหรับคนอย่างวิชญ์ บนโต๊ะอาหารมีอาหารไวน์และดอกไม้ถูกจัดเอาไว้อย่างดี เขานั่งแทบไม่ติดเดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่งรอคนสวยหน้าจืดกลับมาอย่างใจจดจ่อที่จริงเขาจะไปรับเธอเองแต่โดนห้ามจึงได้แต่นั่งรอ…
ครึ่งชั่วโมงเสียงประตูห้องเปิดร่างบางวันนี้ใส่กระโปรงพีชยาวเพราะถูก วิชญ์บังคับให้ไปเปลี่ยนจากทรงเอสั้นบนเข่าแต่ไม่ถึงกลับน่าเกลียด เขาอ้างว่าต้องนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์มันจะไม่สะดวกที่จริงเขาหลอกเธอเพราะทนไม่ได้ที่คนอื่นจะต้องมองขาเรียว ๆ หุ่นเพรียว ๆ ของเธอนั่นเอง
“นี่สรุปใครเป็นเจ้าของห่องกันแน่” ปุยฝ้ายเปิดประตูมาก็พบกับห้องที่เต็มไปด้วยดอกไม้โรแมนติกแบบในซีรี่ย์เกาหลี เธอหัวเราะในความบรรเจิดไอเดียของวิชญ์ใจจริงเขาอยากพาเธอไปกินที่ร้านอาหารหรู ๆ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาของวิชญ์เลย แต่ติดที่ว่ากลัวคนมาเห็นและกล่าวหาเธอในทางที่ไม่ดีแม้แต่เพื่อนสนิทในแก็งค์ยากูซ่า เขายังไม่เล่าให้ฟังในเรื่องข้อตกลงของเขาและปุยฝ้ายวิชญ์เป็นห่วงภาพลักษณ์ของเธอซึ่งตัวเขาเองไม่แคร์อยู่แล้วว่าใครจะว่าอะไร ยิ่งมีคนไปฟ้องน้ำผึ้งเขายิ่งไม่แคร์ผู้หญิงคนนั้นเขาก็เบื่อที่ต้องมาเล่นละครเป็นคนโง่ให้เธอหลอกเหมือนกัน
หลังจากทั้งคู่ดินเนอร์และจิบไวน์ขาวยี่ห้อโปรดของวิชญ์ปุยฝ้ายเธอคออ่อนจึงไม่กล้าที่จะดื่มเยอะ แต่ด้วยความเกรงใจและบวกกับมีเรื่องของขุนพลเข้ามากวนใจเธอเลยปล่อยเลยตามเลย นั่งจิบไวน์วิชญ์คุยกันอย่างถูกคอวิชญ์ชอบเวลาที่ปุยฝ้ายเมาอยู่แล้วเขาแอบมองเธอบ่อย ๆ ยิ่งเธอตัวขาวอมชมพูเวลาที่เมาเธอจะชอบยิ้มให้เขาบ่อยครั้งวิชญ์ที่คอแข็งไวน์แค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้จึงปรามคนที่คออ่อนที่เริ่มดื่มหนักขึ้น
“นี่ดื่มขนาดนี้ ไม่กลัวโดนลักหลับรึไง” เขาขู่ให้เธอดื่มน้อยลง
“เชอะ! แสดงว่านายทนความสวยฉันไม่ได้ ยอมแพ้สิ” ร่างบางเริ่มมึนแต่ก็มีสติเธอน้อยใจคู่หมั้นยิ่งวิชญ์ดีกับเธอเท่าไหร่เธอยิ่งเสียใจกับขุนพลเท่านั้น
“นี่…ถ้าแฟนเราโทรหาเราวันละครั้ง ๆ ละห้านาทีและก็ยุ่ง ๆ ๆ ทั้งวัน นายว่าเขามีคนอื่นป่ะ” ปุยฝ้ายเริ่มคายสิ่งที่เธอครุ่นคิดและทุกข์ใจระบายกับเขาเพราะไว้วางใจเขามากขึ้น
“จะตอบแบบผู้ชายนะ ไม่ได้ใส่ไฟให้ใครให้ดูแย่ ผู้ชายก็คือผู้ชายมันเป็นเรื่องปกติ” ปุยฝ้ายก็ถอนใจ และก็รับฟังอย่างสงบ เธอเป็นผู้หญิงฉลาดประโยคแค่นี้ไม่ต้องถามเขาเพิ่ม
“แล้ววิชญ์ล่ะ มีแฟนแล้วทำไมถึงกล้าทำลับหลังเธอแบบนี้” ปุยฝ้ายถามเขากลับในเหตุผลที่เขาต้องมาตามเธอต้อย ๆ ทั้งที่เขาและเธอต่างก็มีแฟนกันแล้ว
“บอกปุยไปรอบที่ร้อยแปดล่ะนะว่า วิชญ์ชอบปุยตั้งแต่แรกเจอส่วนน้ำผึ้งวิชญ์ไม่ได้เป็นคนเลือกเขาเป็นฝ่ายมาชอบวิชญ์เอง สำหรับปุยฝ้ายวิชญ์เป็นคนเลือกเองมันต่างกันมากนะ
“มันไม่ยุติธรรมกับผู้หญิงคนนั้นเลย ถ้าเขารู้คงเสียใจมากแน่” ปุยฝ้ายกระดกแก้วไวน์เข้าปากจากตอนแรกเธอแค่จิบ ๆ กลายเป็นเธอฟังเรื่องราวก็ยากซดให้หมดขวดซะงั้น
“วิชญ์ก็รู้ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้” ปุยฝ้ายย้ำคำเดิมที่เคยพูดกับวิชญ์ตั้งแต่แรก
“คนที่มันมีความหวัง โอกาสมีแค่ 0.01 เปอร์เซนต์เขาก็เคยสำเร็จมาก็มี” วิชญ์สายตามุ่งมั่นนัยตาเขาจ้องมองมาที่คนตรงหน้า จนคนที่ถูกจ้องมองแอบเขินและหวั่นไหวแต่เธอเป็นคนเก็บอาการเก่งจึงตีมึนทำหน้าเฉย ๆ แกล้งเมา
“เฮ้ออ! งั้นเราเป็นเพื่อนกันก็ได้นิ” ปุยฝ้ายพยายามรักษาน้ำใจเขาเพราะมองดูแล้วเขาเป็นคนที่พอจะไว้ใจเป็นเพื่อนได้คนหนึ่ง
“ไม่!” วิชญ์เสียงแข็งและเริ่มหงุดหงิด เขาเป็นเพื่อนกับเธอไม่ได้จริง ๆ
“ถ้าเป็นเพื่อนกันขอเป็นคนที่ไม่รู้จักกันดีกว่า คนอะไรหน้าจืดใจก็ยังดำใครมันจะเป็นเพื่อนกับคนที่ชอบได้ว่ะ” วิชญ์บ่นเธอเป็นชุดแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว ใบหน้าหล่อของเขาเริ่มมีสีชมพูนิด
“ปุยให้วิชญ์ได้แค่นี้จริงๆ” ปุยฝ้ายจับมือคนที่เริ่มมีอารมณ์ขุ่นอย่างให้กำลังใจ ไม่ใช่ว่าเธอจะรังเกียจเขาแต่เธอมีเจ้าของแล้วเธอไม่มีสิทธิ์จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ได้ ถึงแม้เขาจะดีกว่าขุนพลเป็นร้อยเท่าแต่เธอก็ไม่สามรถรักเขาได้แม้จะเป็นความรู้สึกดี ๆ ก็ตาม
“ก็นี่ไง วิชญ์กำลังเยียวยาตัวเองอยู่นี่ไง ผ่านมาตั้งสามสี่วันแล้วเวลาของวิชญ์ก็จะหมด” เขาเปิดไวน์ขวดที่สองเทใส่แก้วตัวเองแล้วดื่มแบบน้ำเปล่า ทั้งคู่พยายามปรับความเข้าใจกันต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง จนไวน์ขวดที่สองหมด ปุยฝ้ายเธอเมาจึงขอตัวไปอาบน้ำและวิ่งไปว๊ากที่ชักโครกวิชญ์จะเข้าไปดูเธอ แต่โดนอีกคนห้ามเพราะเธออายและไม่เคยมีใครเห็นเธอในสภาพนี้สักครู่เธอก็อาบน้ำและแต่งตัวเสร็จวิชญ์ก็เข้าไปอาบน้ำทำธรุระส่วนตัวและเปลี่ยนชุดนอน
ปุยฝ้ายที่ตอนนี้เธอเมาจึงนอนหลับไปบนเตียงวิชญ์เห็นว่าอีกคนเมามายหมดสภาพ ก็ส่ายหัวแล้วเอามือมาดึงเสื้อที่เปิดเห็นจนเห็นเอวขาว ๆ ของเธอเขาเอาผ้าห่มให้คนที่เมาสลบไป
“ยัยหน้าจืดเอ้ยย..ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเธอเสร็จตั้งแต่คืนแรกไปนานแล้ว” วิชญ์บ่นและเดินไปปิดไฟแล้วช้อนเอาคนเมามากอดไว้ ปุยฝ้ายก็กอดเขาแล้วหลับไปวิชญ์ที่ตอนนี้เขาจัดการกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้เขาจะทำอย่างไรกับใจตัวเองดีที่ตอนนี้มัน ‘รัก’ คนมีเจ้าของไปแล้ว เขาจุมพิตที่ปากจิ้มลิ้มอมชมพูของเธอเบา ๆ และข่มตาหลับไป