เช้าวันต่อมา
เช้าวันนี้เป็นวันที่ วิชญ์ไม่มีเรียนเขาจึงยังไม่ลุกจากเตียงอันที่จริงเขาตื่นตั้งนานแล้ว แต่มีมือเล็ก ๆ กับขาเรียวของคนที่นอนข้าง ๆ มากอดเขาไว้จนลุกไปไหนไม่ได้วิชญ์ยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา
“ยัยหน้าจืดนอนขี้เซาลืมตื่นแน่ ๆ” วิชญ์เอามือมาเขี่ยปอยผมนิ่มที่มันบังหน้าสวยปุยฝ้ายนอนได้น่าเอ็นดูมาก ถ้าเธอตื่นมาและรู้ตัวว่าเธอเป็นฝ่ายมากอดเขาก่อนจะเป็นยังไงคงต้องมีคนวีนแตกแน่ ๆ งานนี้ ด้วยความน่าเอ็นดูวิชญ์จึงอดไม่ได้ที่จะแอบหอมแก้มใสของคนที่หลับใหลอยู่เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าผู้ชายอย่างเขาคนที่หยิ่งและเพอร์เฟกต์ทุกอย่างกลับต้องมายอมสยบให้กับผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเธอจะมีเจ้าของไปแล้วแต่เขาก็ยังห้ามใจตัวเองให้หลงเธอไม่ได้ราวกับว่าเธอมีเวทย์มนต์สะกดให้เขานั้นหลง
เมื่อเห็นว่าร่างบางเริ่มขยับวิชญ์ก็แกล้งหลับตาต่อทันที เธองัวเงียและกอดวิชญ์แน่นคิดว่าเป็นหมอนข้างใบโปรดแต่พอลืมตาขึ้นมาเท่านั้นก็พบว่า เธอกำลังนอนกอดเขาอยู่และเขาก็กอดเธอด้วยเหมือนคู่รักที่นอนกอดกัน
“อร้ายย!” ปุยฝ้ายร้องลั่นจนวิชญ์ลืมตาขึ้นมา
“ใจเย็น ๆ ยังไม่ได้กันร้องทำไมกวนคนจะนอน” ปุยฝ้ายเลิ่กลักเอามือมาสำรวจร่างกายตัวเองเสื้อผ้าชั้นในยังเธออยู่ครบ จึงถอนหายใจเฮือกใหญ่และโล่งใจที่เขาไม่ได้แอบล่วงเกินเธอ
“ฟูวว...โล่งอก”
“นี่ยัยหน้าจืด เข้าใจอะไรผิดป่ะเธอนั่นแหละที่เป็นคนมาลวนลามเค้าก่อน” วิชญ์ยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะเขาแอบดีใจที่เธอเป็นฝ่ายเข้ามานอนกอดเขาเองทั้งคืน
“ไม่นับ ย่ะ!” ปุยฝ้ายมองค้อนเขาอย่างน่าเอ็นดู วิชญ์จึงเอามือหนาดึงเอวคอดของเธอมากอดเอาไว้ตอนที่เธอเผลอ
“ว๊าย!” ปุยฝ้ายสะดุ้งร้องเสียงหลงที่จู่ ๆ เขาก็กอดเธอแบบนี้
“จะทำอะไร ปล่อยปุยนะ” ร่างบางดิ้นคลุกแต่ไม่สามรถหลุดจากวงแขนแกร่งของคนตัวโตกว่าได้นาทีนี้วิชญ์ทนไม่ไหวจึงก้มหน้าไปหอมแก้มยัยหน้าจืดของเขาอย่างละมุน ปุยฝ้ายที่ตอนนี้หัวใจเต้นแรงแทบจะสติแตกเขาเอาเปรียบเธออีกแล้ว
“วิชญ์ แค่กอดเองไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลย มากกว่านี้เราก็เคยจูบกันมากี่ครั้งลืมแล้วงี้” เขาขยี้เรื่องราวในวันนั้นที่เขาจูบเธอถึงสองครั้ง ทำเอาเธอถึงกับสะอึก
“ก็ได้ถ้านายทำมากกว่านี้ นายแพ้” ปุยฝ้ายเมื่อได้สติจึงได้ทวงข้อตกลงทำให้ คนตัวโตหยุดและปล่อยเธอจากอ้อมแขนวิชญ์ยิ้มกรุ้มกริ่มและนอนต่อแบบไม่แยแส
“ตายแล้ว สายแล้ว...” เธอรีบลุกไปทำโจ๊กและไม่ลืมทำเผื่อคนที่นอนสบายใจบนเตียงหลังจากนั้นก็รีบแต่งตัวและอาบน้ำเพื่อไปเรียน วิชญ์จึงลุกขึ้นมาแปรงฟันและตักโจ๊กฝีมือคนสวยหน้าจืดสองชามแล้วเทน้ำส้ม อีกสองแก้วรอคนตื่นสายมากินพร้อมกัน ทั้งคู่กินอาหารเช้าด้วยกันเป็นภาพเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันก็ไม่ผิด วิชญ์มีความสุขมากที่ได้มีโอกาสใช้เวลากับยัยหน้าจืดของเขา ดู ๆ ไปแล้วปุยฝ้ายเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักเอามากกับคนอื่นเธอดูเป็นคนใจดีแต่กับวิชญ์เธอเป็นคนดุ ๆ และดื้อมากนี่เขาคลั่งรักเธอมากเลยก็ว่าได้
“รีบไปรีบกลับนะ ตั้งใจเรียนล่ะ” วิชญ์เก็บชามและแก้วน้ำให้เธอและเดินมาเอามือมาลูบหัวทุยเบา ๆ อย่างเอ็นดู ปุยฝ้ายไม่พูดอะไรเธอยังมึนงงและอึ้งกับคนอารมณ์แปรปวนอย่างเขาที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเดาทางไม่ถูก เธอยิ้มอย่างสดใสให้วิชญ์ก็เอามือมาขยี้แก้มป่องที่เห็นลักยิ้มหวานที่แก้มใสนั้นนาทีนี้ต้องบอกเลยว่าวิชญ์หลงใหลรอยยิ้มของยัยหน้าจืดหัวปักหัวปำ เขาคิดว่าจะละลายก้อนน้ำแข็งในใจของยัยหน้าจืดเจ้าหญิงน้ำแข็ง ไป ๆ มา ๆ ตัวเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนจุดไฟเผาตัวเองไปแล้ว
@ห้องสมุด
“แหม๋ม ๆ ๆ วันนี้อีปุยมีผู้มาส่งว่ะ….ไงจ๊ะยังไงเล่ามา” เต้ยแซวปุยฝ้ายเพราะวิชญ์ไม่ยอมให้มาเรียนกับกิ๊ก เธอเองก็ปฏิเสธแต่ก็สายมากแล้วจึงยอมให้เขาขับบิ๊กไบค์มาส่งที่คณะ สาว ๆ ที่เห็นรถก็จำได้ว่าเขาคือใครแม้ว่าจะใส่หมวกกันน็อกก็ตามรัศมีออร่าของวิชญ์นั้นทุกคนจำได้ว่าเป็นเค้า ทางด้านปุยฝ้ายก็ใส่แมทเพื่อปิดบังใบหน้าแม้จะช่วยไม่ได้มาก
“อะไร....ก็กูสายไงวันนี้กูตื่นสายวิชญ์เขาไม่มีเรียนจึงมาส่ง” ปุยฝ้ายตอบปัด ๆ เพื่อแก้เขิน
“ระวังมึงจะตกหลุมรัก พ่อหนุ่มโยธาคนดังเข้าให้นะ คู่แข่งมึง candidate เป็นร้อยไหนจะเมียเค้าอีก” เต้ยเตือนสติเพื่อนสาวด้วยความห่วงใยถึงแม้ทั้งคู่จะดูเหมาะสมกันก็ตาม แต่มันไม่ยุติธรรมสำหรับแฟนของคนทั้งคู่ทั้งวิชญ์และปุยฝ้ายต่างมีเจ้าของมันจึงไม่สมควรที่จะคบกันอยู่แล้ว
“อีกแค่แปดวัน มึงคิดมากไปป่ะ” ปุยฝ้ายยังยืนยันและมั่นใจว่าไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับวิชญ์
ขุนพล : ปุยครับ ขุนต้องไปจีนสามสัปดาห์ ไปดูงานกับพ่อแม่และเพื่อนธุรกิจของพ่อ
ปุยฝ้าย : ค่ะ
ขุนพล : ขอโทษนะ ไว้ขุนจะซื้อของมาฝากช่วงนี้ขุนยุ่งมากจริง ๆ คิดถึงนะครับคนดี
ปุยฝ้าย : เป้นกำลังใจให้สู้ ๆ นะคะ
หลังจากแชทคุยกับขุนพลเสร็จปุยฝ้ายเธอก็ออกอาการนอยด์สีหน้าไม่ดีนัก ปากบอกว่าไม่เป็นไรแต่ในใจก็รู้สึกจนกิ๊กสังเกตเห็นเธอรู้ว่าช่วงนี้ขุนพลไม่มีเวลาและไม่เคยมาหาปุยฝ้ายสักครั้ง และปุยฝ้ายจะชอบมาปรับทุกข์กับเธอบ่อย ๆ
“เอาน่า ๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น” กิ๊กลูบหลังปลอบใจปุยฝ้ายอย่างเอ็นดู เธอรับรู้ถึงปัญหาและความห่างไกลของคนทั้งคู่มาโดยตลอด
ทางด้านวิชญ์เขาได้ไปเก็บสำภาระเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวนิดหน่อยที่คอนโด และได้แวะซื้ออาหารสำหรับมื้อเย็นเพื่อรอคนสวยหน้าจืดของเขา วิชญ์รู้ว่าเธอไม่กินเผ็ดจึงเลือกแต่อาหารรสชาติกลาง ๆ ค่อนไปทางจืดเขาใส่ใจทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ วันนี้ก็เป็นคืนที่สามเขาเหลือเวลาที่จะใกล้ชิดเธอแบบนี้อีกไม่นานแล้ว วิชญ์จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาใจปุยฝ้ายให้มากที่สุด เขานั้นอยากให้มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษกับคนพิเศษอย่างปุยฝ้ายถึงแม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้น้อยที่เธอและเขาจะได้คบกัน อย่างน้อยขอแค่ครั้งนี้ที่เขาจะได้ดูแลเธอถึงมันจะเป็นเวลาสั้น ๆ ก็ตามมันดีเสียกว่าที่เขาจะไม่ได้ลองทำอะไรเลยและจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง