“ผมว่าคุณจิวนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนดีกว่านะครับ” มือขวาที่เป็นทั้งบอดี้การ์ดและพี่เลี้ยงของเสี่ยฮอลล์บอกฉันด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
นี่คงไม่พ้นเอาผู้หญิงมานอนอีกตามเคย
“จิวจะไปนอนคอนโดนะ” ฉันผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า การที่เขามีผู้หญิงคนอื่นมันไม่ได้ทำให้ฉันหึงหวงหรือรู้สึกไม่ดีสักนิด
ดีซะอีกฉันจะได้ไม่ต้องนอนกับเขา!
“เอ่อ... ผมว่าคุณจิวบอกเสี่ยเองเถอะครับ” ลูกน้องคนสนิทมีท่าทีกระอักกระอ่วน และฉันก็ต้องเป็นฝ่ายยอมเพราะไม่อยากเห็นคนโดนซ้อมเพราะตัวเอง
“เดี๋ยวจิวไปรอที่ห้องรับแขก” ฉันบอกบอดี้การ์ดแล้วก็เดินมาที่ห้องรับแขก จากนั้นก็เอนตัวนอนที่โซฟา พักสายตาสักนิดคงจะดี
เมื่อเย็นฉันนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านพร้อมน้องนาว น้องนาวชวนฉันแวะทานนมปั่นและแวะทานข้าวร้านข้างทาง
ฉันไม่รู้หรอกว่าน้องนาวคิดอะไรกับฉันไหม แต่ที่รู้ๆคือฉันไม่ได้คิดอะไรกับน้องมัน ฉันจะสนิทกับใครก็ได้ แต่สุดท้ายฉันก็ต้องกลับมาอยู่กับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เจ้าของชีวิต’
“ฮื้อ…” ฉันปัดป่ายเมื่อบางอย่างมารุ่มร่ามบริเวณใบหน้าของฉัน แต่สุดท้ายฉันก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะกลิ่นตัวของคนที่ฉันคุ้นเคยมันประชิดกับจมูกของฉัน
และเมื่อลืมตาขึ้น ฉันจึงได้รู้ว่าตัวเองนอนหนุนตักของเขาอยู่ และที่สำคัญฉันนอนอยู่บนรถ!
“นมปั่นอร่อยไหม” พอเขาเห็นว่าฉันตื่นคำเหน็บแนมก็เริ่มต้นขึ้น
ไม่แปลกที่เขาจะรู้ เพราะเขาส่งคนตามติดฉันอยู่ห่างๆ
“ก็ดีค่ะ” ฉันบอกพร้อมกับจะผงกหัวออกจากตักของเขา แต่เขากลับกดหัวฉันให้ซบลงที่เดิม
“เหอะ! ทีกูไม่เคยได้ไปไหนด้วยสักครั้ง” แล้วเขาก็เริ่มขึ้นเสียงใส่อารมณ์
“จะไปไหนคะ” ฉันเฉไฉทำเป็นไม่สนใจเรื่องที่เขาพูดแล้วหันมาถามจุดหมายที่เขาจะไป
“ส่งของ”
“แล้วพามาด้วยทำไม!” ฉันลุกพรวดไม่สนแล้วว่าเขาจะกดหัวให้นอนหรือจะอะไร
“เดี๋ยวคิดถึง” เขาพูดแต่สายตาจ้องมอง iPad ที่อยู่ในมือ
“จะกลับ”
“ไม่”
“ฮอลล์!”
“อยู่เฉยๆจิว ฮอลล์ไม่ปล่อยให้จิวได้รับอันตรายหรอก” เขาเงยหน้าจาก iPad แล้วหันมามองหน้าฉัน พร้อมกับมือหนาที่ยื่นมาจับเส้นผมของฉันให้ทัดใบหู
“โคตรเกลียด” ฉันจ้องเขาเขม็ง
“โคตรรัก” เขาจูบปากของฉัน จากนั้นก็ยกยิ้มมุมปากแล้วเขาก็กลับไปสนใจ iPad ต่อ
“บางทีฉันก็อยากจะตายนะ จะได้หายไปจากนายให้รู้แล้วรู้รอด” ฉันหันมองท้องถนนที่รถวิ่งสวนไปมา ใครจะรู้ว่าในรถคันหรูที่ใครต่างอยากนั่งอยากเป็นเจ้าของ จะมีคนอย่างฉันที่อยากออกไปจากตรงนี้
“ล้มเลิกความคิดบ้าๆแบบนั้นซะ ฮอลล์มีแค่จิว รักจิวคนเดียว” เขาบีบแขนฉันอย่างแรง พร้อมกับสายตาคมที่กำลังเกี้ยวโกรธเมื่อฉันพูดถึงความตาย
“คนรักกันเขาไม่เอาผู้หญิงอื่นมานอนที่บ้านมาหยามหน้ากันแบบนี้หรอก อ้อ! ลืมไป ฉันมันก็แค่ผู้หญิงคนนึงของนาย ฉันไม่ได้มีความหมายอะไรอยู่แล้ว ฉันมันก็แค่เด็กเสี่ย ฉันก็เหมือนผู้หญิงทุกคนของนาย!” ฉันต่อว่าด้วยความหงุดหงิด ฉันไม่ได้หึงแต่ก็ไม่อยากนอนทับคราบน้ำกามของใคร ฉันรังเกียจ!
“ทะเบียนสมรสที่ใส่กรอบติดโชว์ผนังบ้านเคยมองบ้างไหม กูจดทะเบียนเป็นผัวมึง มีแต่มึงนั่นแหละเที่ยวบอกใครต่อใครว่าตัวเองยังโสด” เขาเชยคางฉันขึ้นแล้วพูดนิ่งๆพยายามเก็บอารมณ์
ฉันจ้องเขาแล้วสะบัดคางออกจากมือหนา จากนั้นก็...
“เหอะ! มันน่าภูมิใจตรงไหนล่ะ มีเพื่อนชั่วๆเป็นผัว มีผัวขายยาขายอาวุธเถื่อน ฆ่าคนเป็นผักปลา เอาผู้หญิงไปทั่วมั่วไม่เลือก กูเกลียดมึง กูเกลียด มึงได้ยินไหมฮอลล์ว่ากูเกลียด...”
เพี้ยะ!
“จิ๊” เขาจิ๊ปากหลังจากที่ฝ่ามือหนาฟาดลงที่ใบหน้าของฉัน และมันแรงพอที่จะทำให้เลือดกบปากฉันได้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันโดนตบ!
ฉันโดนจนอยากจะชิน แต่ก็ไม่เคยชิน
“ก็รู้ว่าไม่ชอบ ก็ยังชอบหาเรื่องทะเลาะ ลำพังงานที่ป๊าให้ทำก็วุ่นวายพอแล้ว ทำไมมึงไม่ทำตัวดีๆบ้างวะจิว ทั้งที่กูประเคนทุกอย่างให้มึง ทำไมมึงไม่เป็นเมียที่ดีบ้างวะ” เขาใช้มือข้างที่ตบหน้าฉันเกลี่ยเช็ดเลือดที่มันไหลจากมุมปาก แล้วเขาก็ยื่นหน้ามาประกบจูบสอดแทรกลิ้นเปียกชื้นเข้ามากวาดไปทั่วโพรงปากของฉัน
“นอน” เขาละริมฝีปากเมื่อจูบจนพอใจ จากนั้นก็ดันตัวฉันให้นอนเอาหัวไปซบที่ตักเขาดังเดิม
ฉันเหมือนคนโรคจิตเข้าทุกวันเพราะอยู่กับคนแบบเขา
“กูรักมึงมากมึงรู้ดีที่สุด” เขาลูบที่กลุ่มผมของฉันอย่างอ่อนโยน ทั้งที่เขาเพิ่งตบหน้าฉันไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
“กูจะมีชู้” ฉันลั่นวาจาเพราะอึดอัดกับการกระทำเลวๆ
“อย่ารักชู้ก็แล้วกัน เพราะกูไม่อยากเห็นมึงร้องไห้ให้ผู้ชายคนอื่นเวลาที่มันตายคาตีนกู” จากนั้นเขาก็หันไปสนใจ iPad เหมือนเดิม
คำขู่ของเขามักจะเป็นจริงเสมอ เพราะฉันเคยท้าทาย เขารู้ว่าฉันเกลียดเขา แต่เขาก็กักขังฉันไว้
ขังชื่อไว้กับทะเบียนสมรสเพราะกลัวฉันจะไปจดกับชายที่ฉันรัก ขังร่างกายไว้ให้แนบชิดเพราะคิดว่าฉันจะพลีกายให้ชายอื่น ส่วนหัวใจที่ขังไว้ไม่ได้ เขาก็เลือกที่จะจัดการคนที่มาทำให้ฉันรู้สึกดี...