“กลับบ้านเดี๋ยวให้ตบคืน” เขาบอกเมื่อเห็นฉันนอนนิ่งไม่ต่อปากต่อคำ มือหนาลูบที่แก้มข้างที่เขาตบ ซึ่งตอนนี้มันเกิดรอยมือของเขาขึ้น
“อดทนหน่อยนะ” เป็นประโยคที่ฉันได้ฟังจนเบื่อ ตั้งแต่เราอยู่ด้วยกันมานับได้ก็เกือบปีกว่าแล้ว ประโยคนี้เขาบอกฉันทุกครั้งหลังจากที่เราทะเลาะกันเสร็จ
เขาไม่ชอบให้ฉันพูดว่าเกลียดเขาบ่อยๆ เขาเคยบอกว่าเขารับไม่ได้
‘ไม่ต้องบอกรักก็ได้ แต่อย่าพูดว่าเกลียดบ่อยๆ แค่สายตาที่จิวสื่อมาฮอลล์ก็รับรู้แล้ว’ เขาบอกกับฉันในวันที่เราจดทะเบียนสมรสกัน
วันจดทะเบียนที่คนอื่นมีความสุข แต่ฉันน่ะทุกข์สุดใจ!
“เสี่ยภพต้องการเจรจาครับ” เสียงของคนขับรถที่รับหน้าที่บอดี้การ์ดด้วยพูดขึ้น
“ตกลง” ฮอลล์ตอบตกลงฉันจึงลุกขึ้นนั่ง เขาถอดเสื้อยีนส์มาคลุมร่างของฉันไว้ อาจจะด้วยกระโปรงนักศึกษาที่สั้นหรืออะไรก็ไม่รู้ เสื้อยีนส์ถึงได้มาอยู่บนตัวของฉันแทน
และไม่นานนักรถหรูก็จอด แล้วก็มีรถอีกคันมาจอดเทียบ จากนั้นประตูฝั่งเขาก็ถูกเปิดออก ร่างหนาสง่าผ่าเผยเข้ามานั่งในรถเคียงข้างฮอลล์ กลายเป็นว่าฮอลล์นั่งอยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยฉันและผู้ชายคนใหม่ที่เพิ่งขึ้นรถมา เขาวางกระเป๋าซึ่งน่าจะบรรจุเงินลงที่หน้าตักของฮอลล์
“ล็อตหน้าบอกป๊าด้วยว่าเพิ่มอีก 2 เท่า” เสียงราบเรียบแต่แฝงด้วยความเย็นชาฟังดูน่ากลัว เสมือนกับเวลาที่ฮอลล์สั่งงานกับลูกน้องของเขา
“อืม” ฮอลล์รับคำสั้นๆ
“สวยดีนิ เด็กคนนี้กูขอ” สายตาคมหันมาสบตากับฉันพอดี
“ไม่ได้” ฮอลล์นั่งนิ่งไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไร
“ระดับมึงหาใหม่ได้สบาย ที่ผ่านมากูขอมึงไม่เคยขัด” ผู้ชายคนนั้นพูดกับฮอลล์ แต่สายตาโลมเลียฉัน
“คนนี้จิว” ฮอลล์ยังประหยัดคำพูด และเมื่อประโยคนี้ลั่นออกไปผู้ชายคนนั้นก็ยกยิ้มมุมปาก
ดูไม่น่าไว้ใจสักนิด!
“หึ คนนี้เองเหรอ” เขาคนนั้นยังคงใช้สายตาเดิมมองฉัน
“ลงไปได้ละจะกลับบ้าน อ้อ! เลิกมองจิวแบบนั้นด้วย จิวไม่ชอบให้คนมองแบบนั้น” ฮอลล์บอกผู้ชายคนนั้นแล้วโยนกระเป๋าไปไว้เบาะหน้ารถข้างคนขับ จากนั้นฮอลล์ก็ดันฉันให้นอนหนุนตักเขาดังเดิม
“หึ มึงกำลังจะพลาดฮอลล์ เรื่องนี้กูเคยเตือนมึงแล้ว” เสียงเยือกเย็นดังขึ้นก่อนที่จะมีเสียงเปิดปิดประตูรถ
ฉันไม่รู้ความหมายที่เขาพูด ถึงแม้ฉันจะรู้จักฮอลล์ดีแต่กับผู้ชายคนนี้ฉันเพิ่งเคยเจอ และฉันสัมผัสได้ว่าไม่ควรใกล้ชิดมากไปกว่านี้
“ฮอลล์จะทำยังไงกับจิวดีวะ” ฮอลล์พูดขึ้นเมื่อรถเคลื่อนตัว
“...” ฉันนิ่งเงียบ
“ให้อยู่บ้านก็เป็นห่วง พอมาด้วยก็มาเป็นเป้าสายตาโดนผู้ชายอื่นลวนลาม” มือหนาลูบไล้ที่กลุ่มผมของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาทำหน้ายังไง เพราะฉันเลือกที่จะหลับตา ฉันเบื่อขี้หน้าเขา
“แค่ฮอลล์รักจิว ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้วะ” เขาพล่ามต่อพร้อมกับมือหนาที่จับมือฉันไปสูดดม
“เลิกรักสิ” ฉันชักมือกลับอย่างเร็วไว
“ถ้าทำได้คงทำไปแล้ว” เขาย้อนแย้ง
“ทีเอาคนอื่นยังทำได้ นับประสาอะไรกับรักคนอื่น”
“จิวกำลังหาเรื่อง ถ้าไม่ช่วยก็นอนเงียบๆ” ฉันเงียบลงเมื่อเขาบอกมาแบบนี้
วงจรชีวิตของฉันวนเวียนอยู่ในลูปเดิมๆ ตั้งแต่ที่ฉันตัดสินใจก้าวขาเข้ามาในโลกมืดๆของเขา
“จะนอนห้องรับแขก” ฉันต่อรองเมื่อเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่
“ทำไม” เขาหยุดกลางบ้านแล้วเอ่ยถาม
“อยากนอน”
“ทำไมชอบงี่เง่าวะจิว” เขาต่อว่าพร้อมกับใบหน้าที่กำลังมีอารมณ์โกรธ
“จะตบอีกไหมล่ะ ชอบทำอยู่แล้วไม่ใช่” ฉันท้าทาย
“ก็เพราะจิวเป็นแบบนี้ไง จิวเป็นแบบนี้ฮอลล์ถึงมีคนอื่น”
“จะมีอีกสักกี่คนฉันก็ไม่แคร์ เพราะฉันเกลียดนาย ดีซะอีกที่นายเอาคนอื่น ฉันน่ะโคตรสะอิดสะเอียนร่างกายนายเลยรู้บะ… อึก!” ฉันยังพูดไม่จบประโยคมือหนาก็ยื่นมาบีบที่คอของฉันอย่างแรงจนฉันแทบจะขาดอากาศหายใจ ใบหน้าของเขาแดงก่ำแสดงออกมาชัดเจนว่าเขาโกรธ
“กูใจดีกับมึงเกินไปใช่ไหมจิว กูยอมมึงเกินไปใช่ไหม!” เขาตะคอกเสียงใส่หน้าฉันพร้อมเพิ่มน้ำหนักแรงมือที่บีบลง
การหายใจของฉันเริ่มขาดช่วง! ฉันกำลังจะหลุดพ้น...
ปึก!
“อย่าคิดว่ามึงจะตายไปจากกูได้” มือหนาคลายสะบัดออกจากคอของฉัน
แล้วฉันก็ล้มพับลงที่พื้น
ฉันมองเขาด้วยสายตาที่รังเกียจเดียดฉันท์ ฉันเกลียดเขา เกลียดทุกอย่างที่เขาเคยทำ และเกลียดทุกเรื่องที่เขากำลังทำ
“อยากนอนมากใช่ไหมไอ้ห้องรับแขกเนี่ย!” เขาคว้าร่างฉันแล้วแบกเดินไปทางห้องรับแขก ท่ามกลางสายตาของลูกน้องมากมาย ลูกน้องที่ไม่มีใครกล้าทักท้วงหรือส่งเสียงอะไรทั้งสิ้น
ปัง!
เสียงประตูห้องรับแขกปิดลง มันเหมือนสัญญาณเตือนว่านรกบนดินกำลังคืบคลานเข้ามาหาฉัน
และฉันพร้อมที่จะเผชิญกับมัน...