ตอนที่ 12
วันนี้ชญานนท์มาหาบิดาของเขาถึงที่พัก เขาตั้งใจจะมาขอบคุณเรื่องที่บิดาช่วยเหลือเขาในวันนั้น แต่คำพูดของบิดาก็ต้องทำให้ชญานนท์คิดแล้วคิดอีก เพราะไม่อยากทิ้งลูก ๆ ของจิราภรไว้ตามลำพัง
“ถ้าลูกต้องการความช่วยเหลือหรือว่าเงินจากพ่อ พ่อไม่เคยมีปัญหาอะไร เพียงแค่ขอให้ลูกมาอยู่กับพ่อแค่นั้น” ชญานนท์ไม่อยากทิ้งลูกสาวของจิราภร เขาจึงตัดสินใจที่จะยังไม่ใช้เงินของบิดา และอีกอย่างถ้าเขาเอาเงินนั้นมาใช้ ทุกคนในบ้านรวมถึงแม่เลี้ยงก็จะต้องสงสัยว่าเขาได้เงินมาอย่างไร
สองเดือนต่อมา
ใกล้เปิดเทอมใหม่ ชญานนท์ที่ต้องเข้าเรียนมหาลัยจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากบิดาของเขาอีกเป็นครั้งที่สอง เขาไม่อยากรบกวนแม่เลี้ยง รายนั้นแค่เธอเลี้ยงลูก ๆ ของเธอทั้งสามคนก็หนักพออยู่แล้ว
“ผมจะหาเงินมาคืนให้พ่อหลังจากที่ผมเรียนจบแล้วครับ” ชญานนท์รีบบอกกับบิดา
“ไม่ต้องหรอกลูก เบสแค่มาทำงานให้พ่อเมื่อลูกเรียนจบแล้วก็พอ และระหว่างนี้พ่อขอให้เบสทำบางสิ่งบางอย่างให้พ่อบ้าง..ลูกพอจะทำได้มั้ย”
“อะไรเหรอครับ” ชญานนท์เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“พ่ออยากให้ลูกไปเรียนศิลปะป้องกันตัว” ชญานนท์ยิ้มออกแล้วก็รีบพูดกับบิดาทันที
“อ๋อ ก็ได้นะครับ ปกติผมก็เล่นกีฬาอยู่แล้ว” ชญานนท์ไม่ปฏิเสธ เพราะสิ่งที่บิดาขอร้องเขาก็ชอบมันอยู่แล้ว และเหมือนตัวเขาเองก็มีพรสวรรค์ทางด้านนี้
“พ่อไม่ได้บอกให้ลูกไปฝึกข้างนอก เลิกเรียนตอนเย็นและวันหยุดเสาร์อาทิตย์ให้ลูกเข้ามาหาพ่อ ลูกจะต้องมีผู้ช่วยฝึก ถ้าเบสพร้อมเมื่อไหร่ก็มาหาพ่ออีกครั้งนะ” ชญานนท์ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาต้องฝึกก็คือ ยิงปืน การต่อสู้ทุกประเภท และหลังจากนั้นมิสเตอร์คิมตั้งใจว่าจะส่งลูกชายตัวเองไปคุมบ่อนที่ราเดอฟรองค์
"เออ!.. แต่คุณพ่อครับ บางครั้งผมอาจจะต้องกลับไปดูน้อง ๆ ที่บ้านบ้าง" ชญานนท์รีบบอกความกังวลในใจทันที
"ถ้าลูกห่วงน้อง ๆ ที่บ้านละก็ ไม่ต้องกังวลไปนะ เรื่องอาหารพ่อจะให้ลูกน้องจัดการเอาไปส่งให้พวกน้อง ๆ ของลูกเอง ส่วนเรื่องเวรยามการเฝ้าระวัง พ่อจะส่งลูกน้องไปเฝ้าบ้านของลูกตลอด 24 ชั่วโมงเลย"
"ขอบคุณครับพ่อ"
"ทีนี้เบสก็เลิกกังวลและตั้งใจฝึกได้แล้วนะลูก"
"ครับพ่อ"
มีอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มิสเตอร์คิมพาชญานนท์บินไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับธุรกิจของตนเองที่ต่างประเทศ หลังจากนั้นจึงชวนลูกชายไปทานข้าวด้วยกัน ในระหว่างนั้นมิสเตอร์คิมก็รีบบอกกับชญานนท์ ถึงเรื่องที่ลูกชายเริ่มสงสัยเกี่ยวกับกาสิโนของเขา
“เบส ไม่ต้องกลัวหรอกลูก กาสิโนที่นี่พ่อทำอย่างถูกกฎหมาย”
“แล้วผมต้องมาดูแลที่นี่อีกเมื่อไหร่ครับ”
“แล้วลูกจะเรียนจบภายในสามปีครึ่งตามที่บอกกับพ่อไว้หรือเปล่าล่ะ”
“แน่นอนครับ”
“งั้นก็เหลือแค่เทอมนี้เทอมเดียวสินะ”
“ครับ”
ชญานนท์ได้ชวนบิดาของเขากลับไปตามหาคุณยายด้วยกันเมื่อกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว ซึ่งพอไปถึงก็ทราบว่าท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว มีหลานคุณยายคนหนึ่งได้เก็บของสำคัญของแม่ชญานนท์เอาไว้ เพราะคุณยายได้สั่งเสียเอาไว้ก่อนตาย
หญิงคนที่เป็นหลานของคุณยายยื่นกล่องสำคัญใบนั้นให้กับชญานนท์และพ่อของเขา ชญานนท์จึงรีบเปิดขึ้นดูแล้วก็พบว่าในนั้นมีแหวนแต่งงานอยู่หนึ่งวงพร้อมกับรูปถ่ายครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกและเมื่อพลิกดูด้านหลังของรูปใบนั้นก็พบว่ามีข้อความที่ถูกเขียนเอาไว้ ชญานนท์จำได้ว่าเป็นลายมือของคุณแม่
ถึงพี่คิมสุดที่รัก ภากับลูกขอไปตามทางของตัวเองนะคะ เพราะว่าภาไม่อยากเห็นลูกโตมาแล้วกลายเป็นมาเฟียเหมือนอย่างพ่อของเขา ภารักพี่คิม แต่เราคงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไม่ได้ ภาขอให้เราจบกันเพียงเท่านี้ อย่าคิดจะออกตามหาภากับลูกอีกเป็นอันขาด
“พ่อขอโทษเบส ที่ไม่ได้บอกความจริงกับลูกตั้งแต่แรก” มิสเตอร์คิมที่เห็นลูกชายล่วงรู้ความจริงจึงรีบเอ่ยขอโทษ
“คุณพ่ออย่าพูดแบบนั้นสิครับ ถึงยังไงคุณพ่อก็เป็นพ่อของผม” หลัง ๆ มานี้ชญานนท์ก็พอจะรู้มาบ้างแล้วว่าการจะคุมบ่อนจะต้องเป็นมาเฟีย เขาจึงไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก
ทั้งสองพ่อลูกออกมาจากบ้านของคุณยายได้ไม่นานมิสเตอร์ก็ถูกสุ่มยิงจากคู่อริ พลซุ่มยิงเล็งวิถีกระสุนและล็อกเป้าเสร็จ ร่างชายสูงวัยล้มลงกับพื้น ไม่มีแม้แต่เสียงปืนดังเลยสักนิดมีแค่เสียงลมที่เคลื่อนผ่านหน้าของเด็กหนุ่มไป ชญานนท์มองไม่เห็นใครอยู่บริเวณนั้นจึงรีบวิ่งไปตามลูกน้องของบิดาที่รออยู่ที่รถ พอมาถึงพ่อของเขาก็พูดสั่งเสียทันที
ทั้งสองพ่อลูกออกมาจากบ้านของคุณยายได้ไม่นานมิสเตอร์ก็ถูกสุ่มยิงจากคู่อร
“เบส ช่วยทำ..เฮื่ก เฮือกกก!! ให้ พ่อ เป็นครั้งสุดท้าย”
“คุณพ่อ! คุณพ่อ!”
“เบส เฮื่ก เฮือกกก!! สะสัญญา กับ เฮื่ก เฮือกกก!! พ่อ”
“ครับพ่อ ผมสัญญาครับ”
“นายท่าน ๆ นายท่านครับ คุณหนูครับรีบพานายท่านส่งโรงพยาบาลก่อนเถอะครับ” มิสเตอร์คิมถูกพาตัวเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ ชญานนท์เสียใจมาก ที่พ่อต้องมาด่วนจากไป และสัญญาว่าใครที่ทำให้พ่อของเขาต้องตายมันต้องชดใช้
“คุณพ่อต้องการอะไร! แกบอกฉันมาสิ!” ชญานนท์เอ่ยกับลูกน้องคนสนิทของบิดา
“คุณพ่อต้องการให้คุณหนูดูแลกิจการของท่านทั้งหมดต่อจากนี้ครับ แต่คุณพ่อยังไม่กล้าบอกคุณหนูเรื่องนี้ ท่านเคยบอกกับผมว่า ต้องรอให้คุณหนูเรียนให้จบเสียก่อน ส่วนเรื่องทรัพย์สินของท่าน คุณพ่อได้เขียนพินัยกรรมยกให้คุณหนูหมดแล้วครับ”
“พวกแกทุกคนเลิกเรียกฉันว่าคุณหนูได้แล้ว” ชญานนท์รีบบอกกับลูกน้องคนสนิทด้วยแววตาที่มุ่งมั่น
“ได้ครับ งั้น..ตั้งแต่นี้ต่อไปพวกผมจะเรียกคุณหนูว่า นายท่าน
“ดีมาก" นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาหลังจากที่ชญานนท์เรียบจบ เขาก็เริ่มเข้ามาเรียนรู้งานต่าง ๆ ของบิดาและ ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองไทย หรือเมืองนอก เขาสานต่องานของบิดานับตั้งแต่นั้นเรื่อยมา และมีลูกน้องคนสนิทของบิดาคอยให้คำปรึกษา ก่อนหน้าที่จะมีวันนี้ ชญานนท์ไม่มีวันล่วงรู้มาก่อนว่าบิดาต้องการให้เขาเป็นมาเฟียจนกระทั่งวันที่บิดาของเขาได้เสียไป และชญานนท์ต้องรับหน้าที่ต่อจากพ่อซึ่งมันก็ทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้