“กลับมาแล้วหรอคะคุณหนู” สาวใช้เอ่ยถามร่างบางที่กำลังเดินเข้าบ้านมาด้วยสีหน้าแดงก่ำเมื่อเธอเห็นเช่นนั้นจึงเรีบเข้าไปดูใกล้ๆ ทันทีเพราะตอนนี้ฝนก็กำลังตกหนักหรือว่าคุณหนูของเธอจะโดนฝนจนเป็นไข้กัน
“คุณหนูเป็นไข้รึเปล่าคะ” หน้าแดงมากเลย
“เอ่อ..หนูไม่เป็นไรค่ะ” ร่างบางเอ่ยตอบด้วยความเขินอายเธอจะกล้าบอกได้อย่างไรว่าที่เธอหน้าแดงแบบนี้เป็นเพราะว่าเธอกำลังเขินกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกอย่างมันเร็วมากจนเธอไม่ทันระวังตัวจนน่าอกของเธอไปชนกับอกแข็งๆ ของอีกฝ่ายและพอเห็นจากปฏิกิริยาของร่างสูงแล้วเธอเชื่อได้เลยว่าเขาก็คงอึ้งไม่น้อยที่คนตัวเล็กๆ อย่างเธอจะมีน่าอกที่ใหญ่โตได้
และะนั่นก็คือความลับของเธอที่พยายามปกปิดไม่ให้ใครรับรู้หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องดีที่ผู้หญิงจะมีน่าอกใหญ่แต่สำหรับเธอมันไม่ใช่การจะเดินไปไหนต่อไหนก็ไม่เคยมั่นใจเพราะเจอแต่สายตาแปลกๆ ที่มองมาหาเธอเหมือนมีคนจับจ้องอยู่ตลอดเวลาจนอึดอัดเลยพยายามใส่เสื้อให้ดูตัวใหญ่เพื่อปกปิดส่วนนั้น
“งั้นก็ขึ้นไปอาน้ำและลงมาทานข้าวนะคะนายท่านรออยู่ที่ห้องอาหารแล้วค่ะ” สาวใช้เอ่ยบอกอย่างเอ็นดูเอิงเอยพยักหน้ารับก่อนจะรีบขึ้นไปชำระร่างกายแล้วลงมายังห้องอาหารที่มีชายร่างสูงนั่งอยู่ใบหน้าหล่อส่งยิ้มให้กับลูกสาวสุดที่รักของตัวเองเอิงเอยยิ้มกลับพร้อมเดินมานั่งประจำที่
“วันนี้ไม่ยุ่งหรอคะ” ร่างบางเอ่ยถามเพราะปกติเธอมักจะต้องกินข้าวคนเดียวตลอดส่วนแม่ของเธอก็เสียไปตั้งแต่เธออายุได้4ขวบแต่เธอก็เติบโตมาอย่างดีด้วยความรักจากผู้เป็นพ่อของเธอ
“พูดแบบนี้พ่อรู้สึกผิดเลยนะ” อีกฝ่ายเอ่ยบอกยิ้มๆ เพราะรู้ตัวอยู่เสมอว่าเป็นคนบ้างานมากกว่าใครจนบ้างครั้งก็ละเลยหน้าที่ของความเป็นพ่อ
“ฮ่าๆ หนูล้อเล่นค่ะทานข้าวกันดีกว่า” ร่างบางหัวเราะอย่างมีความสุขที่ได้เห็นหน้าพ่อบนโต๊ะอาหาร
“แล้วลูกดูเรื่องการเรียนต่อไว้บ้างรึยัง” คนเป็นพ่อเอ่ยถาม
“อืมหนูไม่อยากเรียนแล้วค่ะ..หนูอยากทำงานจะได้หาตังมาให้พ่ออยู่บ้านเฉยๆ บ้าง^^” เอิงเอยพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างเพราะพ่อของเธอวางแผนให้เธอเรียนปริญญาโทต่อแต่เธอรู้สึกว่าการเรียนรู้ในระดับนี้ก็เพียงพอสำหรับเธอแล้ว
“จะไหวหรอเงินเดือนลูก3เดือนรวมกันยังไม่เท่าของพ่อเดือนนึงเลยมั้ง” คนเป็นพ่อเอ่ยหยอกล้อแม้มันจะเป็นความจริงก็ตามร่างบางทำหน้าบู้ทันทีก่อนจะตอบกลับ
“ค่าๆ เงินเดือนของหนูมันจะไปสู้ผู้บริหารประเทศได้ยังไงกัน” และใช่พ่อของเธอเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ไม่แปลกที่พ่อของเธอจะขิงเรื่องเงินเดือนเสียงหัวเราะเกิดขขึ้นทันทีทั้งเหล่าสาวใช้และคนอื่นๆ ต่างพากันยิ้มที่สองพ่อลูกหยอกล้อกันซึ่งเป็นโมเม้นที่นานๆ ทีจะเกิดขึ้นแม้ทั้งคู่จะอยู่บ้านหลังเดียวกันก็ตาม
“พี่ครับผมขออีกรอบ” กวินท์เอ่ยบอกพร้อมจับคนตรงหน้าพลิกตัวหันหลังพร้อมกับแกะถุงยางขึ้นมาสวมใส่ใหม่หลังจากที่พึ่งปลดปล่อยมันออกไป
“ห้ะ! นี่รอบที่3แล้วนะหนุ่ม” อีกฝ่ายเอ่ยบอกเกิดมาพึ่งเคยเจอผู้ชายหน้าติ๋มที่ลีลาเด็ดขนาดนี้แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพลังเหลือล้นมีแรงเหลือมาทำในรอบที่4
สวบบ
“อ๊าาพ่อหนุ่มรูฉันระบบหมดแล้ว!!” คนข้างหน้าเอ่ยบอกเสียงเหนื่อยแต่ก็ยอมเด้งสะโพกสู้อีกฝ่ายเนื่องจากมันเป็นงานของเธอ
พั่บๆๆ
“ซี๊ดดดด!!” กวินท์เงยหน้าครางภาพในหัวมีแต่ฉากที่น่าอกนุ่มนิ่มของเด็กคนนั้นเข้ามาชนเขาหลังจากนั้นตัวเองก็ไม่เป็นอันทำอะไรได้อีกเลยน้องชายของเขามันแข็งอยู่ตลอดเวลาจนสุดท้ายก็ต้องขับรถมายังร้านนวดเจ้าประจำเพื่อปลดปล่อยมัน
“มะมะไม่ไหวแล้วอ๊าาา” คนข้างหน้ากระตุกเกร็งเสร็จสุขสมร่างของเธอแนบไปกับพื้นเตียงทันทีแต่ก็โดนร่างสูงคว้าเอวเธอให้ต้อนรับแรงกระแทกจากเขา
“อ๊าาาส์..” กวินท์ซอยถี่ก่อนจะปลดปล่อยออกมาอีกครั้งพร้อมกับถอนตัวตนออกมาดึงถุงยางทิ้งถังขยะและเดินเข้าห้องน้ำไป
“เห้ออกูเป็นอะไรของกูวะ” ร่างสูงเอ่ยบ่นอยู่หน้ากระจกเขาไม่สามารถลบภาพนั้นออกจากหัวสมองได้เลยแถมยังชอบคิดจินตนาการต่อว่าถ้าหากไม่มีชุดนักศึกษาปปิดอยู่ร่างกายของเธอจะสวยงามเพียงใดกัน
“ขอบคุณมากครับพี่ ผมไปก่อนนะ” คนบนเตียงยกมือรับรู้ร่างสูงเดินออกมาจ่ายตังก่อนจะขับรถกลับไปยังที่พัก
มหาลัย
กวินท์แต่งตัวเข้ามาเรียนตามปกติร่างสูงเดินกดมือถือส่งข่าวรายงานประจำวันให้กับหัวหน้าพร้อมกับแต่งเรื่องโกหกไปเนื่องจากที่จริงเมื่อวานเขาต้องคอยตามอาจาร์ยวิโรจน์ทั้งวันแต่ดันเลือกเข้าร้านหมอนวดไปเอาสาวซะงั้น
“สวัสดีค่ะ” เสียงเล็กๆ เอ่ยทักร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจก่อนจะมองหน้าร่างบางและส่งยิ้มเกร็งๆ ไปให้ เอิงเอยถอดกระเป๋าพร้อมกับนั่งลงข้างๆ เขาเนื่องจากว่าต่อไปนี้จะต้องทำรายงานด้วยกันทุกคนเลยต้องนั่งกับคู่ตัวเองและแน่นอนว่าเกิดเสียงโห่แซ่วขึ้นมากมายจนร่างสูงถึงกับรำคาญแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี
“ชื่ออะไรหรอคะ” ร่างบางเอ่ยถามเธอพยายามทำตัวให้ปกติที่สุดแม้เมื่อใดที่มองหน้าอีกฝ่ายแล้วเธอก็จะรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาแต่โชคดีที่เป็นคนเก็บสีหน้าเก่ง
“กวินท์ เธอล่ะ” ร่างสูงเอ่ยถามกลับแม้จะพยายามมองหน้าของอีกฝ่ายเวลาพูดคุยกันแต่สายตาก็ชอบมองต่ำไปยังส่วนนั้นของเธออยู่ดี
“เอิงเอยค่ะ ต้องเรียกว่าพี่รึเปล่าคะ” เอิงเอยเอ่ยกระซิบถามเพราะไม่อยากให้ใครได้ยินแต่ร่างสูงกับตัวแข็งทื่อเพราะเมื่อเธอยิ่งกระขยับเข้ามาน่าอกของเธอก็ยิ่งชนแขนเขาเรื่อยๆ จนต้องกระเด้งตัวออก
“เอ่อ..ไม่ต้องหรอก” กวินท์เอ่ยบอกก่อนจะยิ้มแห้งๆ และพยายามเขยิบตัวออกห่างจากร่างบางเพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง
การเรียนดำเนินไปอย่างเชื่องช้าร่างสูงที่ไม่เข้าใจในหลักสูตรบวกกับเมื่อคืนนอนน้อยดวงตาของเขาก็เริ่มอ่อนล้าและค่อยๆ ปิดลงเขาหวังว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ตัวเองจะทำตัวเสเพลแบบนี้ ทั้งๆ ที่มีภารกิจให้เฝ้าดูคนร้ายแท้ๆ แต่ดันมาหลับเสียได้
“กวินท์คะ…กวินท์หมดคาบเรียนแล้วนะ” เสียงเล็กๆ ของร่างบางเอ่ยขึ้นเบาๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ และแรงเขย่าทำให้เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนจะเบิกตาโตเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั้นอยู่ใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกันและเพราะความตกใจจึงพลักเธอออกไปทันทีจนร่างบางถึงกลับหงายหลังจะล้มแต่เพราะความไวของเขาจึงสามารถจับแขนเธอไว้ได้แต่ก็ไม่ทันเพราะแรงโน้มถ่วงของอีกฝ่ายนั้นมีมากซะจนคนที่พึ่งตื่นแบบเขาก็เซล้มลงไปด้วย
ตุ้บ!
เชี่ย เชี่ย เชี่ย
เสียงอุทานดังขึ้นลั่นห้องมองร่างสองร่างที่ค่อยๆ ล้มทับกันแต่ทว่าถ้าล้มของทั้งคู่นั้นทำเอาคนเกือบครึ่งห้องต้องยกมือถือขึ้นมาถ่าย
“ปะเป็นอะไรรึเปล่า..” ร่างสูงเอ่ยถามร่างบางที่ล้มลงจากแรงพลักของเขาแถมยังโดนเขาทับซ้ำไปด้วยเอิงเอยทำสีหน้าเจ็บปวดก่อนจะค่อยๆ ไล้สายตาลงมาและเบิกตากว้างทันที
“มะมือ..ช่วยเอาออกไปด้วยค่ะ>.< “เอิงเอยเอ่ยบอกก่อนจะปิดหน้าด้วยความอายร่างสูงที่ได้ยินประโยคแปลกๆ ของเธอก็ไล้สายตามองดูตัวเองก่อนจะเบิกตาโตไม่แพ้กันเพราะตอนนี้มือของเขาทั้งสองกำลังบีบน่าอกของอีกฝ่ายจนเสื้อนักศึกษายับตามแรงขย้ำของเขา
“เชี่ยยย!”
ช่วยด้วยค่ะมีโรคจิตอยู่ในมหาลัยค่าเรียกตำรวจมาจับที อ๋อโรคจิตที่ว่าก็คือตำรวจเองนี่แหละ
อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้า