“เอ่อ..ขอโทษนะ” กวินท์เอ่ยบอกกับร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาตอนนี้รูปของพวกเขาทั้งสองต่างแพร่กระจายไปทั่วคณะแถมยังโดนนินทากันอย่างสนุกปากเอิงเอยพยักหน้ารับเบาๆ ไม่มีการพูดโต้กลับเพราะตอนนี้เธอรู้สึกดิ่งเอามากๆ ทั้งๆ ที่พยายามไม่เป็นจุดสนใจของคนอื่นแล้วแต่สุดท้ายเธอก็ยังคงถูกพูดถึงและโดนนินทาอยู่ดีแม้มันจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งในเวลาที่เธอใส่กระโปรงพีทสั้นแทนพีทยาวที่เธอใส่อยุ่ทุกวันจนกลายเป็นกระแสพูดถึงเรื่องขาของเธออยู่พักหนึ่งแต่สำหรับข่าวนี้มันค่อนข้างที่จะรุนแรงอยู่ไม่น้อยเลยกับภาพที่ออกไป
“เห้อน่าจับมาปรับทัศนคติให้หมดจริงๆ” กวินท์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังเขาไม่คิดว่าวัยรุ่นสมัยนี้จะมีนิสัยขี้แกล้งคนอื่นโดยไม่สนใจคนที่โดนแกล้งและยิ่งมีสื่อโซเชี่ยลยิ่งแล้วใหญ่
“หนูชินแล้วค่ะ เพราะปกติทุกคนก็ชอบนินทาหนูกันอยู่แล้ว” เอิงเอยบอกเสียงเบาไม่ว่าเธอจะทำอะไรที่ผิดแปลกจากตัวเองไปเล็กน้อยทุกคนก็พร้อมที่จะหัวเราะและนินทากับการกระทำของเธออยู่เสมอเธอเลยกลายเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวทำตามกิจวัตรประจำวันเดิมๆ แต่งกายเดิมๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อเลี่ยงการเป็นจุดสนใจ
กวินท์ส่ายหน้าเบาๆ อย่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นสมัยนี้เอิงเอยถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น
“จะกลับบ้านหรอ แต่ยังมีเรียนคาบบ่ายอยู่นะ”
“วันนี้หนูคงเรียนไม่ไหวจริงๆ ขอตัวก่อนนะคะ” ร่างบางเอ่ยบอกก่อนจะก้มหัวให้เขาเล็กน้อยและเดินจากไปทามกลางสายตาและเสียงหัวเราะจนร่างบางต้องเดินก้มหน้าแทนกวินท์เลยตัดสินใจที่จะลุกขึ้นและเดินตามเธอไป
“เดี๋ยวเดินไปส่ง” ร่างสูงเอ่ยบอก
“แต่มันจะยิ่งเป็นจุดสนใจนะคะ” เอิงเอยเอ่ยบอกเธอกันมองคนซ้ายขวาไม่ว่าจะทางไหนตอนนี้ก็มีแต่คนที่กำลังมองมา
“ช่างมันเถอะไม่ต้องไปสนใจ” ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะดันหลังร่างบางให้เดินไปข้างหน้าท
ซ่าาา~
“อ๊ะฝนตก!” เอิงเอยรีบวิ่งเข้าไปหลบใต้หลังคาทันทีเพราะเธอไม่อยากให้เสื้อนักศึกษาเปียกจนเห็นรูปร่างของตัวเองแต่ด้วยฝนที่ตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้เจ้าตัวไม่ทันได้ตั้งตัวกว่าจะวิ่งมาถึงใต้หลังคาได้ก็เล่นเอาเสื้อเปียกโชกไปครึ่งตัวแล้ว ร่างสูงที่วิ่งตามมาเขามองท้องฟ้าที่มืดครึ้มทั้งๆ ที่เมื่อเช้ายังสดใสอยู่ก่อนจะมองมายังร่างบางที่กำลังหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กมาเช็ดตามลำตัวพร้อมกับถอดแว่นออกมาเช็ดทำให้เห็นใบหน้าน่ารักของเธอ
“วู้วมึงดูคนนั้นดิ” กวินท์หันไปมองนักศึกษาชายที่อยู่ถัดจากเขาไปสายตาของคนพวกนั้นมองตรงมายังร่างบางที่ยืนอยู่
“เชี่ยมึงดูนมกับหน้า น่าเอาสัส!” คำพูดของนักศึกษากลุ่มนั้นทำเอาเขาต้องหันกลับมาดูร่างบางอีกครั้งและพบว่าเสื้อนักศึกษาของเธอมันค่อนข้างเปียกและทำให้เห็นเสื้อกล้ามกับสีของสายเสื้อในรวมถึงใบหน้าที่ไร้แว่นนั่นอีกกวินท์เลยตัดสินใจที่เข้ามายืนบังสายตาจากพวกนั้น
“ขะเขยิบเข้ามาทำไมคะ?” เอิงเอยเอ่ยถามเธอมองร่างสูงที่มีสีหน้าหงุดหงิดที่กำลังเขยิบเข้าหาเธอจนแขนของทั้งคู่ชนกัน
“นี่หนู..ไปห้องพี่ไหม”
“คะ!? ว่าอะไรนะคะ?” ร่างบางเบิกตาโตก่อนจะถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูส่วนเจ้าของคำพูดก็พึ่งนึกได้ว่าใช้คำล่อแหลมเกินไปก็ได้แต่หัวเราะแก้เขินและพูดขึ้นใหม่
“ไม่ๆ คือจะให้ไปเปลี่ยนเสื้อ..เสื้อเธอมันเปียกมากและมันค่อนข้างที่จะเห็น..” กวินท์ไม่กล้าอธิบายต่อร่างบางใบหน้าแดงก่ำเธอมองไปที่เสื้อของตัวเองและรู้ว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร
“ก็อย่ามองสิคะ!” เอิงเอยบอกเสียงกระแทกเล็กน้อยคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันก่อนจะเอากระเป๋ามาบังน่าอกแทน
“ใครมอง จะบ้าหรอพี่เป็นตำรวจนะหนูไม่ใช่โรคจิต” กวินท์เอ่ยขึ้นอย่างร้อนลนก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“สายตาแบบนั้นมันโรคจิตชัดๆ” ร่างบางบ่นเสียงเบาเธอหันข้างให้อีกฝ่ายพร้อมกับสวมแว่นตาก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาคนที่บ้าน
“ป้าคะบอกลุงคนขับรถให้มารับหนูหน่อยได้ไหม”
“อุ้ยตายแล้วคุณหนู คนขับรถไม่อยู่ค่ะพึ่งออกไปส่งนายท่าน นี่เลิกเรียนแล้วหรอคะป้านึกว่าจะเลิกเย็น”
“เอ่อพอดีอาจาร์ยยกคลาสน่ะค่ะ ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวหนูเรียกแท็กซี่กลับเอง” ร่าบางเอ่ยบอกก่อนจะกดตัดสายไปอย่างเซ็งๆ แม้จะบอกว่าจะเรียกแท็กซี่กลับแต่เพราะทางนั้นไม่รู้น่ะสิว่าเธอกำลังตัวเปียกอยู่แบบนี้ หวังขึ้นรถด้วยสภาพแบบนี้คงโดนมองแน่ๆ
“นี่คุณตำรวจ” ร่างบางตัดสินใจหันกลับไปหาร่างสูงอีกครั้ง
“เป็นตำรวจก็มีหน้าที่ดูแลประชาชนใช่ไหมคะ” คำพูดของร่างบางทำเอาเขามึนงงเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้ารับไป
“ใช่ แล้วยังไง”
“ชะช่วยพาไปเปลี่ยนเสื้อทีค่ะ” เพราะเสียงฝนที่กระทบกับหลังคามันดังมากและอีกฝ่ายก็พูดเบามากจนทำให้เขาไม่ได้ยินร่างสูงเลยตัดสันใจก้มหน้าไปอีกฝ่ายเล็กน้อยจนร่างบางสะดุ้ง
“พูดใหม่ทีไม่ได้ยินเสียงฝนมันดัง” กวินท์เอ่ยบอกอย่างไม่คิดอะไรแต่ผิดกับอีคนที่ตอนนี้เขินไปหมดแล้ว
“ชะช่วยพาไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องทีค่ะได้ยินชัดรึยังคะ>..<
อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ