2
แยกย้ายต่างคนต่างอยู่หนึ่งปี
การเป็นนางเชิญขวัญผ่านมาหนึ่งปีอย่างไม่มีปัญหาแต่อย่างใด หญิงสาวใช้ชีวิตตามปกติทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์จากผู้เป็นป้าในวันหนึ่ง
“คุณวัธน์เขาโทรมาหาป้าบอกว่าจะไปหย่ากับหนูปาน เห็นทำที่อยู่หนูปานหายเลยมาขอใหม่ที่ป้า”
“ขอที่อยู่ปาน เขาจะมานี่จริงๆ เหรอคะคุณป้า”
“ใช่จ้ะ เห็นว่าจะไปหย่าให้ถึงที่เลย แล้วก็จะแวะเที่ยวแถวนั้นไปด้วย ป้าให้ที่อยู่คุณวัธน์ไปแล้วนะเลยโทรมาบอกหนูปานนี่แหละจะได้เตรียมตัวไว้”
“คุณป้าพูดแบบนี้หมายความว่าไงคะ เตรียมตัว แค่หย่าทำไมต้องเตรียมตัวด้วยคะ”
“แหมก็รู้ๆ กันอยู่ว่าคุณวัธน์เขาไม่ค่อยชอบพวกเราเท่าไหร่ จะให้เขามาพูดดีๆ ด้วยเหมือนเมื่อก่อนคงไม่ได้”
“ค่ะ ปานดูแลตัวเองได้ค่ะคุณป้า ว่าแต่พี่หวายเป็นยังไงบ้างคะ ส่งข่าวมาบ้างไหม”
“ท้องได้สองเดือนแล้ว ตอนนี้ไปอยู่กับผัวที่เชียงใหม่ คลอดเมื่อไหร่ป้าว่าจะไปเยี่ยมอยู่” นางนีรนุชพูดไปก็ถอนหายใจไปด้วย เนื่องจากสามีของนวินดาไม่ได้ร่ำรวยอย่างกวีวัธน์ ไม่รู้อนาคตของลูกสาวจะอยู่สุขสบายหรือว่าลำบาก หัวอกของคนเป็นแม่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้
“ก็ดีค่ะ พอเห็นหน้าหลานตัวน้อยๆ ไม่แคล้วคุณป้าจะหายโกรธพี่หวายเร็วๆ”
“เฮ้อ ป้าไม่น่าเลย พลอยทำให้หนูปานเดือดร้อนไปด้วย”
“ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยค่ะคุณป้า หนึ่งปีที่ผ่านมานี้คุณวัธน์เขาก็ไม่ได้มาวุ่นวายอะไรกับปาน ต่างคนต่างอยู่อย่างที่เขาบอกเอาไว้จริงๆ นี่ก็จะมาหย่าตามที่พูดเอาไว้จริงๆ คุณป้าก็ทำใจให้สบายๆ นะคะ ปานจะรีบหย่าให้เขาแบบนุ่มนวลไม่ชวนทะเลาะ จะได้หมดพันธะต่อกันเสียที” หญิงสาวเอ่ยทีเล่นทีจริง
“จ้า งั้นแค่นั้นก่อนนะหนูปาน ป้ากำลังจะไปถวายสังฆทานที่วัด”
“ค่ะคุณป้า สวัสดีค่ะ”
หลังจากวางสายแล้วเชิญขวัญก็แทบจะตีปีกโบยบิน อย่างสุขใจ เพราะสิ่งที่รบกวนใจเธอมาตลอดหนึ่งปีนี้กำลังจะถูกปลดปล่อยอย่างให้เป็นอิสระ รีบนำข่าวดีเรื่องนี้ไปบอกพี่ชายในทันที
“เออ มาหย่าให้จบๆ ก็ดี นี่พี่ยังคิดว่าถ้าครบหนึ่งปีแล้วไม่มาหย่าพี่จะพาไปหย่าถึงกรุงเทพฯ เลย” เชิญภพยิ้มออกก็คราวนี้
“พี่ปาล์มก็พูดไป เรามาเลี้ยงฉลองกันดีไหมพี่ปาล์มในโอกาสที่ เอ่อ”
“เป็นม่ายผัวหย่า”
“ไอ้พี่ปาล์ม!” เชิญขวัญวิ่งทุบตีพี่ชายที่หนีไปรอบๆ บริเวณบ้าน เสียงหัวเราะดังลั่นเรียกความสดใสให้บ้านหลังนี้ไม่เคยขาด
นับจากบิดามารดาได้เสียชีวิตลงเชิญภพก็ดูแลน้องสาวคนนี้ดั่งไข่ในหิน แต่ถึงแม้จะหวงจะห่วงมากแค่ไหนเชิญขวัญก็ยังเป็นเชิญขวัญวันยังค่ำ หญิงสาวผู้มีจิตใจอ่อนโยนแต่ก็เต็มไปด้วยความเข้มแข็งไม่ต่างจากพี่ชาย ปัจจุบันเชิญภพได้ให้หญิงสาวเข้ามาช่วยดูแลกิจการของที่บ้านอย่างเต็มตัว ซึ่งครอบครัวของทั้งคู่ได้วางรากฐานไว้ให้ลูกหลานมาเป็นอย่างดี มีทั้งการให้เช่าที่นาทำกิน การซื้อมาขายไปที่ดินที่ชาวบ้านเอามาขายให้ การสร้างอาคารพาณิชย์ให้เช่าในตัวอำเภอ ทุกอย่างล้วนแต่คอยเก็บเกี่ยวรายได้เท่านั้น
แต่เชิญขวัญก็ไม่ได้อยู่เฉย หญิงสาวใช้พื้นที่หน้าบ้านซึ่งเป็นทางผ่านถนนใหญ่ในการเปิดร้านกาแฟสด เพราะความชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้รักที่จะทำมากกว่าทำเพื่อแสวงหาผลกำไรโดยตรง
สองวันต่อมาแขกที่สองพี่น้องรอคอยก็ได้เดินทางมาถึง แต่สิ่งที่ผิดคาดไปจากเดิมก็คือการมีหญิงสาวอีกคนเดินทางมาด้วย สำหรับเชิญขวัญนั้นไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยหากเขาจะพาคนรักมา แต่สำหรับเชิญภพแล้วนั่นเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มรับไม่ได้เป็นที่สุด เมื่ออดีตแฟนสาวของตน ที่จู่ๆ ก็หายหน้าหายตาไปแบบไม่บอกไม่กล่าว กลายมาเป็นคนรักของกวีวัธน์ในตอนนี้
“นี่สุรมณแฟนผมเอง เรียกสั้นๆ ว่าสุก็ได้” กวีวัธน์แนะนำผู้หญิงแสนสวยด้านข้างให้สองพี่น้องได้รู้จัก
“เอ่อ ค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณสุ นี่พี่ปาล์มพี่ชายปานเอง”
“พี่ชาย?” สุรมณมองหน้าคนพี่สลับกับคนน้องแล้วก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา
“ค่ะ พี่ชายปานเอง” เชิญขวัญเน้นย้ำอีกรอบ
“เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณปาล์ม” สุรมณเหมือนคนน้ำท่วมปาก พูดก็ยากแสดงออกก็ลำบาก
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คุณสุรมณ” เชิญภพมองหญิงสาวแบบคนมีเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด สุรมณเองก็ต้องคอยหลบสายตาเขาอยู่เรื่อย เกรงว่าถ้ากวีวัธน์รู้เรื่องนี้เข้าเรื่องมันอาจจะบานปลายไปกว่านี้
“งั้นไปอำเภอกันเลยไหมคะ” คนอยากหย่าเร็วๆ รีบเสนอ
“จะบ้าเหรอคุณ ผมกับสุมาเหนื่อยๆ ให้พักหายใจหายคอก่อนได้ไหม เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปก็ได้”
“พรุ่งนี้เลยเหรอ งั้นหมายความว่าคุณจะ”
“จะค้างที่นี่คืนหนึ่งดีไหมสุ อากาศที่นี่ดีจัง ผมอยากพักผ่อนสักสองสามวันสุว่าไง” เห็นบ้านไร่ของภรรยาในนามแล้วกวีวัธน์ก็อยากซึมซับบรรยากาศที่นี่อีกสักหน่อย เลยหันไปถามแฟนสาวที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“สุแล้วแต่วัธน์ค่ะ”
“งั้นตกลงตามนี้ คุณปานคุณไปเตรียมห้องให้ผมกับสุด้วยนะ”
“ห้องเดียวเหรอครับ” เชิญภพแทรกขึ้นแบบคนยอมเสียมารยาท
“สองห้องค่ะ” สุรมณมองค้อนเขาอย่างโกรธๆ
“แล้วไป” เชิญภพจึงเปรยออกมาเบาๆ
“คุณปาล์มนี่ยังไงครับ ถ้าผมจะนอนห้องเดียวกับแฟนผมก็ไม่เห็นจะผิดอะไรนี่ครับ” กวีวัธน์หรี่ตามองอีกคนอย่างสงสัย เชิญภพเห็นแล้วก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วให้เหตุผลแก่เขา
“ไม่ผิดหรอกครับหากเป็นผัวเมียกันแล้ว แต่ถ้าเป็นแค่แฟนผมว่าน่าจะแยกห้องดีที่สุดนะครับ”
“สมัยนี้ใครเขาถือกัน”
“แต่ผมถือ”