ตอนที่ : 3 เจ้าสาวจำเป็น 3

1613 Words
“เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวเลยครับ” เจ้าหน้าที่ผายมือเชิญคู่บ่าวสาวให้นั่งลงเพื่อทำการจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากมีเพียงญาติมิตรกวีวัธน์คงบอกยกเลิกไปแล้ว แต่นี่ดันมีท่านรัฐมนตรีที่เป็นสหายกับบิดานั่งเป็นพยานอยู่พร้อมกับนักข่าวอีกกลุ่มหนึ่ง เขาลืมไปได้อย่างไรว่าพิธีการจดทะเบียนสมรสนี้ต้องทำต่อหน้าสื่อกับแขกผู้ใหญ่ตามคำเรียกร้องของฝ่ายเจ้าสาวในตอนแรก รีบดึงมือเจ้าสาวจำเป็นให้ไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่เตรียมไว้ “เชิญเจ้าบ่าวก่อนครับ” “ขอบคุณครับ” กวีวัธน์นั่งลงแล้วหยิบปากกาขึ้นมา หันไปยิ้มหวานแต่ส่งสายตาดุใส่เจ้าสาว ก้มลงตวัดลายเซ็นของตัวเองลงไปบนแผ่นกระดาษตรงหน้า จากนั้นก็เลื่อนไปทางขวามือให้เจ้าสาว “ตาคุณแล้วคุณปาน” ชายหนุ่มเอาปากกายัดใส่มือเจ้าสาวแล้วกระตุ้นให้เซ็นทางสายตา เชิญขวัญนึกอยากลุกขึ้นแล้วเดินหนีไปให้พ้นๆ ทว่าสายตาทุกคู่นั้นกำลังจ้องมองเธออยู่ โดยเฉพาะนางนีรนุชซึ่งแทบจะยกมือกราบกรานเลยก็ว่าได้ หญิงสาวเป่าลมออกปากเบาๆ ตัดสินใจตวัดลายเซ็นของตัวเองลงไปบนนั้น ท่ามกลางความโล่งอกของทุกคน เสร็จสิ้นพิธีแต่งงานคู่บ่าวสาวก็มารวมตัวกันภายในห้องพักของโรงแรม เชิญขวัญกำลังยืนงุนงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ เมื่อครู่นี้ แล้วเจ้าบ่าวของเธอก็มายืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับกวาดตามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “อะไรของคุณ” “ถอดออกมา แหวนแต่งงาน ต่างหู สร้อยเพชร แล้วเอาทะเบียนสมรสนี่ไป อีกหนึ่งปีผมจะไปหย่าให้เข้าใจและรู้เรื่องนะ” เจ้าบ่าวบอกพร้อมยื่นใบทะเบียนสมรสไปตรงหน้า เชิญขวัญมองหน้าเขาเหมือนคนไม่เคยเห็น คนบ้าที่ไหนจะมาทวงเครื่องประดับเจ้าสาวหลังงานแต่งไม่ถึงชั่วโมงแบบนี้ “ฉันไม่ได้อยากจะใส่นักหรอกไอ้ของพวกนี้ อยากได้ก็มาถอดเอาไปเองเลย ถ้าฉันถอดเองเดี๋ยวจะได้กระชากขาดกันพอดี” พูดแล้วก็หยิบทะเบียนสมรสขึ้นมาอ่านดูอีกรอบพร้อมกับการหันหลังให้เขา “ฉันจะเอาไปทำไมทะเบียนสมรสนี่” ระหว่างที่กวีวัธน์ถอดสร้อยคอออก เชิญขวัญก็ถอนหายใจหนักๆ กับชื่อตัวเองที่ปรากฏอยู่บนแผ่นกระดาษในมือ “ก็เอาไว้หย่ายังไงล่ะ ผมไม่เก็บนะของพรรค์นี้ หันมานี่สิต่างหูด้วย” เขาดันหัวไหล่ของเชิญขวัญให้หันมาตรงหน้าแล้วเอื้อมมือออกไปถอดต่างหูให้ทั้งสองข้าง “ของพรรค์นี้อะไรของคุณ ไหนบอกว่าไม่จดๆ ไง ทีนี้มาปัดความรับผิดชอบ ไปหย่ากันเลยไหมตอนนี้เลย” “จะบ้าเหรอ แต่งไม่ทันข้ามคืนไปหย่ากันได้ไง” พูดจบก็คว้ามือของหญิงสาวขึ้นมาแล้วปล้ำถอดแหวนแต่งงานกันอย่างทุลักทุเล “โอ๊ย! เจ็บนะ เบาๆ หน่อยสิคุณ” “ตอนใส่ง่ายทำไมตอนถอดมันยากแบบนี้นะ อ๊ะ ได้แล้ว” “ได้สิ ก็หย่าเงียบๆ ไง ให้เจ้าหน้าที่คนเมื่อกี้มาหย่าให้ก็สิ้นเรื่อง ให้เขาปิดเป็นความลับยังไงล่ะ” “มันไม่มีทางเป็นความลับได้หรอกคุณปาน ยิ่งเราปิดเขาก็ยิ่งอยากเปิด เอาเป็นว่าตามนี้แหละ เขียนที่อยู่คุณให้ผมด้วย เดี๋ยวอีกหนึ่งปีผมจะไปหย่าให้ หย่าเร็วไปไม่ดีกับชื่อเสียงของผม” “เหรอ แล้วฉันล่ะ” “คุณทำไม” “ระหว่างนี้ฉันจะทำยังไงจู่ๆ ก็กลายเป็นนางขึ้นมาอย่างกะทันหัน” “คุณก็อยู่ของคุณไป บอกแฟนไปตามปกติสิว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ระหว่างนี้ห้ามแต่งงานก็เท่านั้น เอาไว้หย่าก่อนค่อยแต่ง” “ฉันไม่มีแฟน” “อ้อ เหมาะเลยโสดแบบนี้ แค่ปีเดียวแป๊บๆ เองคุณ” “ง่ายเนอะ” “ง่ายๆ แบบนี้แหละ เอาที่อยู่มาเร็วๆ” เขาเร่งยิกๆ เหมือนจะมีธุระต้องทำต่ออย่างเร่งด่วน เชิญขวัญเลยต้องเดินไปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบนามบัตรของตนเองให้เขาไป “ที่ทำงานฉันก็ที่บ้านนั่นแหละ” “ไม่ย้ายไปไหนแน่นะ” “ไม่ย้ายหรอก” เชิญขวัญมองคนที่เอานามบัตรใส่ในกระเป๋าแบบไม่มองด้วยซ้ำ ไม่คิดอยากอ่านว่าเธออยู่ที่ไหนบนโลกนี้ ‘นี่ผู้มีพระคุณนะ ช่วยขอบคุณสักนิดมีไหม’ คิดแล้วก็อยากจะตะโกนใส่หน้าเขาดังๆ แต่ผู้เป็นป้าก็เปิดประตูเข้ามาเสียก่อน “หนูปานคุณวัธน์ทำอะไรกันอยู่ในนี้” “คุณวัธน์เขากลัวปานจะหอบเครื่องเพชรเจ้าสาวหนีกลับบ้านค่ะคุณป้า เลยให้รีบถอด” หญิงสูงวัยได้ยินก็หน้าเสียเล็กน้อย เพราะนึกว่าเครื่องประดับทั้งหมดนี้ต้องตกเป็นของตนเองแน่นอน “หวายไม่แต่งผมก็ต้องขอคืนนะครับคุณน้า ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ” กวีวัธน์หอบเครื่องเพชรเต็มมือเลยไม่อาจไหว้นางนีรนุชได้ ชายหนุ่มจึงโค้งศีรษะลงต่ำก่อนเดินจากไป “เอ่อ ค่ะ” นางนีรนุชมองตามหลังไปอย่างเสียดาย “งกชะมัด” “หนูปานเดี๋ยวคุณวัธน์เขาก็ได้ยินหรอก” ผู้เป็นป้าหันมาเอ็ดหลานสาวเบาๆ “ก็จริงนี่คะ คุณป้าปานวานถอดชุดเจ้าสาวช่วยปานหน่อยค่ะ ปานรูดซิปไม่ถึง” “ได้จ้ะ” นางนีรนุชเดินคอตกไปรูดซิปให้หลานสาว ปากก็บ่นเรื่องลูกสาวไม่รักดีไปด้วย ไม่ได้คิดโทษตัวเองเลยสักนิดที่ไปบังคับนวินดาให้แต่งงานกับคนที่เขาไม่ได้รักกัน “ป้ารู้ว่าป้าผิด แต่ป้าหวังดีกับหวาย คุณวัธน์เขาเป็นคนดี ฐานะร่ำรวยขนาดนี้ พร้อมที่สองตระกูลจะดองกันแล้วส่งเสริมให้ธุรกิจที่ทำเจริญก้าวหน้า แต่ทำไมหวายถึงไม่เห็นความหวังดีของป้า หวายนะหวายไม่รักดีเอาเสียเลย” เชิญขวัญฟังแล้วก็อยากจะย้อนกลับให้ แต่เกรงว่าจะกลายเป็นการไปซ้ำเติมท่านอีก เลยได้แต่รับฟังแบบเงียบๆ “ขอบใจหนูปานมากนะลูกที่ช่วยกู้หน้าคุณวัธน์เขา แล้วยังทำให้ป้าไม่ต้องจ่ายค่าจัดงานทั้งหมดนี้อีก” “ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า เอ่อ ที่จริงก็เป็นนะคะ แต่ว่าช่างมันเถอะ ปานไม่คิดมากหรอกค่ะ” เชิญขวัญเปลี่ยนกลับมาสวมชุดเดิมที่ใส่เข้างานมา แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าพร้อมสำหรับการเดินทางกลับที่พัก “จะกลับบ้านเลยเหรอหนูปาน” “ดึกแล้วคงกลับบ้านเลยไม่ไหวค่ะ ปานพักโรงแรมแถวนี้ค่ะคุณป้า พรุ่งนี้ค่อยกลับ” “แล้วไป ขับรถดีๆ นะลูกป้าเป็นห่วง” “สบายมากค่ะคุณป้า ปานกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นป้าแล้วเดินออกจากห้องไป แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มแต่ในใจนั้นกำลังเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ กับกระดาษใบหนึ่งที่ต้องถือติดมือกลับบ้านไปด้วย เชิญขวัญกลับไปโรงแรมที่พักพร้อมกับทะเบียนสมรสเจ้าปัญหา เธอจะกลับไปบอกพี่ชายว่าอย่างไร จะไม่ถูกด่าว่าโง่หรือบ้าที่กล้าจดทะเบียนสมรสกับคนแปลกหน้าแบบนี้ ‘พี่หวายนะพี่หวาย ทำไมต้องทิ้งปัญหาให้ปานด้วย’ คิดแล้วก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วกลิ้งไปมาอยู่นานสองนานกว่าจะตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำได้ มันเกิดแล้วทำไปแล้ว ถือว่าแก้ปัญหาให้ญาติก็แล้วกัน ‘ปีเดียวเองปาน อดทนหน่อยก็แล้วกัน’ เชิญภพแทบลุกขึ้นเต้นหลังจากน้องสาวเล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในงานแต่งให้ฟัง ชายหนุ่มผู้รักและหวงน้องสาวแทบจะฉีกทะเบียนสมรสทิ้งลงไปตรงหน้า “อย่าค่ะพี่ปาล์ม ทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวปานจะไม่มีอะไรไว้หย่ากับเขา” เชิญขวัญรีบคว้าทะเบียนสมรสมาถือไว้ในมือ ยิ่งทำให้คนเป็นพี่ชายโมโหหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม “ทำไมถึงโง่แบบนี้ยัยปาน” “พี่ปาล์มอย่าด่าปานสิคะ คุณป้าแกขอร้องปานก็เลย” “ใจอ่อนไม่เข้าเรื่อง อยู่ดีไม่ว่าดีเอากระดูกมาแขวนคอทำไม แล้วนี่อีกตั้งหนึ่งปีกว่าจะได้หย่า แล้วมันจะมาหย่าให้จริงไหม ถ้าไม่หย่าไม่ต้องเป็นนางเชิญขวัญนามสกุลมันไปตลอดชีวิตหรือยังไง” “โอย พี่ปาล์มอย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปสิคะ เขาบอกจะมาหย่าให้ก็มานั่นแหละ ดูแล้วก็เป็นคนรักษาคำพูดอยู่นะคะ” วินาทีนี้เชิญขวัญคงต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน “เออ ถ้าไม่มาหย่าให้นะ จะตามไปยิงให้ไส้แตกเลย” “โหดแท้พี่ชายใครวะ” “พี่ชายแกนั่นแหละยัยปาน คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่รู้ไหม” “ค่า เอะอะอะไรก็ลงที่น้องนุ่งตลอด” “โอย พี่อยากจะบ้าตาย” “อ้าว แล้วนั่นจะไปไหนพี่ปาล์ม” “ไปกินเหล้าให้เมาตายไปเลย” “เฮ้ย ปานว่าพี่ไม่ปกตินะเนี่ย” “เออ ใกล้บ้าและ” ว่าแล้วคนใกล้บ้าก็เดินดุ่มๆ ไปขึ้นรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็วสูง ส่วนน้องสาวก็ได้แต่มองตามหลังไปด้วยสายตาขุ่นข้องใจ มีบางอย่างในตัวพี่ชายเธอที่มันแสดงออกมาว่าเขา ไม่ปกติอย่างรุนแรง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD